Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
+ + + เปิดใจนักแสดงนำภาพยนตร์ DEAD MAN DOWN .. แค้นได้ตายไม่เป็น Colin Farrell โคลิน ฟาร์เรล + + +



อ่านเรื่องย่อ :: เรื่องราวการสร้าง :: ตัวละคร
ภาพยนตร์ :: DEAD MAN DOWN ... แค้นได้ตายไม่เป็น::

.. มีให้อ่านกันทั้งหมด 6 บล็อก ..

คลิ๊กได้เลยค่ะ ..
























+++ เปิดใจนักแสดงนำ DEAD MAN DOWN + + +


...Colin Farrell ..โคลิน ฟาร์เรล









ภาพยนตร์ "DEAD MAN DOWN" โคลิน ฟาร์เรล รับบทเป็น Victor (วิคเตอร์)

“บทหนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมสนใจ DEAD MAN DOWN ครับ” โคลิน ฟาร์เรลเล่า “ก่อนที่ผมจะรู้ด้วยซ้ำว่านีลส์จะเป็น ผู้กำกับ ซึ่งเป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับหนังเรื่องนี้ ผมได้อ่านบทหนังเรื่องนี้และชอบมัน ผมชอบตัวละคร ชอบองค์ประกอบต่างๆ ของมัน ถึงเรื่องของสถานที่ที่ตัวละครของผมอาศัยอยู่ และที่ที่เบียทริซ ตัวละครของนูมิอาศัยอยู่ ความใกล้ชิดที่พวกเขามีต่อกันและกันและแง่มุมของการแอบติดตามเรื่องราวของกันและกันในช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ มันมีองค์ประกอบแบบหนังฮิทช์ค็อกที่ผมชื่นชอบครับ”




















“DEAD MAN DOWN มีฉากหลังเป็นโลกอาชญากรในนิวยอร์ก แต่เรื่องราวความรักในนั้นทั้งแข็งแกร่งและให้ความรู้สึกว่ายิ่งใหญ่ครับ” ฟาร์เรลอธิบาย “ซีเควนซ์แอ็กชันในเรื่อง ซึ่งมีหลายซีเควนซ์ ค่อนข้างจะซับซ้อนและพวกมันก็ทั้งสนุกและน่าติดตาม แต่เรื่องราวความรักระหว่างวิคเตอร์ ตัวละครของผม และเบียทริซ ตัวละครของนูมิ สำหรับผมแล้ว คือแกนหลักของเรื่อง มันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่มีบาดแผลในใจ จนดูเหมือนจะเกินเยียวยา แต่ด้วยการมาเกี่ยวข้องกันและกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็หยิบยื่นโอกาสในการฟื้นตัวให้กับกันและกัน และนั่นคือสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดเกี่ยวกับเรื่องราวนี้สำหรับผม”





















“และหลังจากอ่านบทเสร็จ ผมก็ได้ยินว่านีลส์ อาร์เดน ออพเลฟจะกำกับ” ฟาร์เรลกล่าวอย่างตื่นเต้น “ผมได้ดู The Girl with the Dragon Tattoo มาแล้ว และผมก็ได้ดูหนังอีกเรื่องของเขาที่มีชื่อว่า We Shall Overcome ซึ่งก็งดงาม แต่ถ้าดูในเรื่องของแนวแล้ว มันตรงข้ามกับ The Girl with the Dragon Tattoo โดยสิ้นเชิงเลย ผมก็เลยคิดว่านีลส์สามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากจะทำและผมก็ตื่นเต้นจริงๆ กับโอกาสในการได้ร่วมงานกับเขา”
“เมื่อเร็วๆ นี้ ผมตระหนักได้ว่าผมได้รับบทคนน่าสงสารหกหรือเจ็ดครั้งในหนังและได้รับบทแก๊งสเตอร์มาสองสามครั้ง”





















ฟาร์เรลเล่า “ผมคิดว่าโลกของหนังเป็นสิ่งที่ดึงดูดผมในตอนเลือกเล่นหนังเพราะความเสี่ยงมักสูงเสมอ แต่ในหนังประเภทไหนก็ตาม อารมณ์ของเรื่องจะเป็นสิ่งที่พาคุณไปตลอดทั้งเรื่อง และเป็นสิ่งที่ผู้ชมจะถูกดึงดูดเข้าหา คุณจะต้องถูกดึงดูดเข้าหาตัวละครและเอาตัวเองเข้าไปอยู่กับสิ่งที่พวกเขาต้องพบเจอทั้งทางจิตใจและอารมณ์ด้วยครับ”





















“แต่ผมก็ไม่อยากจะเอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับหนังอีกเรื่องที่มีปืนและพวกคนเหี้ยม มีการแหกกฎหมายและมีซีเควนซ์แอ็คชั่น” ฟาร์เรลสารภาพ “แล้วผมก็ได้อ่านบท DEAD MAN DOWN ซึ่งผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เฉพาะเจาะจงมากๆ ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไปเกี่ยวข้องกับหนังแก๊งสเตอร์ หรือหนังแอ็คชั่น เพราะสำหรับผมแล้ว แก่นของเรื่องอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างวิคเตอร์และเบียทริซ สิ่งอื่นๆ เป็นเหมือนโอกาสในการฟื้นฟูสภาพจิตใจตัวเองด้วยกันและกัน และเปิดโอกาสให้พวกเขาไปให้พ้นจากบางสิ่งและถูกดึงให้หันเหไปจากบางสิ่งน่ะครับ”





















“เรื่องราวของ DEAD MAN DOWN ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการนำเสนอที่พิเศษสุด และลุคของโลกใบนี้ที่พิเศษสุด” ฟาร์เรลอธิบาย “และเราก็ได้เห็นมันผ่านปริซึมของคนสองคนที่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันทำให้ทั้งคู่มองหาบทสรุปของบางแง่มุมในชีวิตพวกเขา ที่ทำให้พวกเขาต่างฝ่ายต่างก็ต้องเจอกับอดีตที่เจ็บปวดมากๆ พวกเขาต่างก็มีดีเอ็นเอของความเจ็บปวด แต่จากที่มาที่แตกต่างกัน และพวกเขาก็พบบางสิ่งที่พวกเขาไม่ได้มองหาในตัวของกันและกัน ซึ่งนั่นคือโอกาสให้หัวใจได้เยียวยาตัวเอง และเพื่อลบล้างเรื่องในอดีตออกไปในแบบที่แตกต่างจากความตั้งใจดั้งเดิมของพวกเขาน่ะครับ”




















“ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ทั้งวิคเตอร์และเบียทริซ” ฟาร์เรลกล่าวต่อ “เดิมทีตั้งใจที่จะลบล้างอดีตทิ้งไปด้วยการแก้แค้น และระหว่างการเล่าเรื่องราวนี้ ความปรารถนาที่จะแก้แค้นถูกดับลงเพราะการยอมรับในความรัก แม้ว่าทั้งคู่จะไม่มีใครมองหาความรัก ความปรารถนาดี หรือความอ่อนโยนเลย พวกเขาต่างก็เป็นเหยื่อของโลกที่พวกเขาเชื่อว่าได้พรากเอาโอกาสที่พวกเขาจะสัมผัสกับความเป็นเพื่อนพ้อง ความใกล้ชิดสนิทสนม ความแน่นแฟ้น หรือความรัก แต่ผลที่ตามมาของเรื่องราวคือการที่พวกเขาได้เจอสิ่งเหล่านั้นกับกันและกันครับ”





















“วิคเตอร์เป็นผู้อพพยชาวฮังกาเรียน ที่เรียนมาเพื่อเป็นวิศวกร เขามานิวยอร์กเมื่อประมาณเจ็ดปีก่อนที่หนังจะเริ่มต้น” ฟาร์เรลบอก “เขามาอเมริกาเหมือนกับหลายคนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่แสวงหาชีวิตที่ดีกว่าเดิม และโอกาสที่ดีกว่าเดิม เขาเป็นสามี เป็นพ่อ และเหตุการณ์ที่รุนแรงอย่างเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นหนึ่งปีก่อนหน้าที่เรื่องราวของเราจะเริ่มต้นขึ้นก็ทำให้ภรรยาและลูกสาวเขาถูกพรากไปจากเขา เขาเลยเป็นคนที่ทุกอย่างที่มั่นคง ดีงามและบริสุทธิ์ในชีวิตเขาถูกพรากไปจากเขา และผมก็ไม่รู้ว่าเขาเชื่อมากน้อยแค่ไหนว่าเขาจะฟื้นตัวหรือรู้สึกสงบได้อีกในชีวิต ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำได้รึเปล่าถ้าคุณเจอโศกนากฎกรรมแบบนั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเขาครับ ปัญหาของเขาอยู่ที่การปรับสเกลความยุติธรรมให้เที่ยงตรงมากขึ้นด้วยการไม่ปล่อยให้คนที่ทำลายชีวิตเขาด้วยการฆ่าภรรยาและลูกสาวเขาเดินลอยนวลโดยปราศจากการลงโทษน่นะครับ”





















“วิคเตอร์เป็นคนที่ต้องสร้างโอกาสให้เกิดขึ้น เขาบงการความสัมพันธ์ สร้างระบบภายในที่ทำให้เขาสามารถแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งหนึ่งได้” ฟาร์เรลอธิบาย “พวกเขาไม่เหมือนกับโคซา นอสทรา พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวที่แน่นแฟ้น จนแทรกตัวเข้าไปไม่ได้ แต่เขามีความรู้สูง และเฉลียวฉลาดอย่างเหลือเชื่อในเรื่องของรายละเอียดและโครงสร้าง และด้วยความที่เขาเป็นวิศวกร เพราะเขามีความเข้าใจสถาปัตยกรรมของวัสดุที่แข็งและเย็นบางอย่าง เขาก็เลยเข้าใจดีถึงสถาปัตยกรรมของความสัมพันธ์และระบบปฏิบัติการของคนแต่ละจำพวกด้วย”





















“ดังนั้น ก่อนหน้าที่เรื่องราวของเราจะเริ่มต้นขึ้น” ฟาร์เรลกล่าวต่อ “เขาก็วางแผนที่เขาจะแฝงตัวเข้าไปในแก๊งนี้ เมื่อเขาได้โอกาสผ่านทางดาร์ซี ที่รับบทโดยโดมินิค คูเปอร์ ดาร์ซีเป็นหลายสิ่งหลายอย่างในบท แต่วิคเตอร์อาจจะคิดว่าเขาเป็นคนเปราะบาง เขาก็เลยเล่นดาร์ซีหน่อยๆ เขาอาจจะวางแผนเล่นละครบางอย่างเพื่อให้เขากับดาร์ซีได้เจอกัน ในแบบที่เขาจะสามารถช่วยดาร์ซีทำอะไรได้ และอาจจะทำให้เกิดมิตรภาพที่เบาบางมากๆ ตามมา และทีละน้อยๆ ตลอดระยะเวลาประมาณหกเดือน ดาร์ซีก็ได้แนะนำให้วิคเตอร์ได้รู้จักกับ อัลฟองซ์ หัวหน้าแก๊ง ที่รับบทโดยเทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด”





















“แล้วก็เกิดบางสิ่งขึ้นในอพาร์ทเมนต์ของวิคเตอร์ สิ่งที่เขาไม่อยากให้ใครเห็น” ฟาร์เรลบอก “และผลจากเรื่องนั้นก็ทำให้เบียทริซทิ้งข้อความไว้ในกล่องจดหมายของวิคเตอร์ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของเธอ เขาโทรหาเธอและพวกเขาก็ไปดินเนอร์ด้วยกัน เขาโทรหาเธอ เธอรับโทรศัพท์ พวกเขาคุยกันทางโทรศัพท์ ตะโกนคุยกันบนระเบียง ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นหลักปฏิบัติที่งดงามในตอนที่ผมได้อ่านบท และมีอะไรบางอย่างที่โรแมนติกมากๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าจะเห็นได้ชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยความตึงเครียด และความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงขึ้น เมื่อพิจารณาถึงโลกที่รุนแรงของหนังเรื่องนี้ ดังนั้น พวกเขาก็ออกไปดินเนอร์กัน ซึ่งมันก็เป็นเดทแรกที่ไม่ประสบความสำเร็จนักน่ะครับ”





















“วิคเตอร์ใช้ชีวิตแบบว่างเปล่ามากๆ” ฟาร์เรลบอก “เขาใช้ชีวิตโดยจงใจละเลยสิ่งที่จะก่อให้เกิดความสุข เขาไม่ไปดูหนัง ไม่ฟังเพลง และเมื่อในที่สุดเขาได้ไปอพาร์ทเมนต์ของเบียทริซ ที่ซึ่งเธอใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของเธอ ที่รับบทโดยอิซาเบล ฮัพเพิร์ทเป็นครั้งแรก มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่นอย่างเหลือเชื่อ มันเหมือนกับการก้าวพ้นจากที่หนาวเย็นเล็กๆ มาสู่ห้องที่อบอุ่น ที่มีกลิ่นขนมปังและอาหารอุ่นๆ บนเตาอบโชยมายั่วจมูกตลอด มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกนัก มันเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้มีเวลาหรือที่ทางให้ในชีวิต แต่ขณะที่สัมผัสเหล่านั้นส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเราและขณะที่เรามองโลกรอบตัวเรา ทั้งสายตา เสียง กลิ่น สัมผัส มันก็ช่วยเปิดกว้างแง่มุมต่างๆ ของตัวเขา ที่เขาไม่อยากจะเปิดเผย ที่เขาไม่อยากจะเปิดใจออกมา แม้แต่กลิ่นของอาหารอบใหม่ๆ ก็ตาม แล้วมันก็มีความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาว ที่เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีปรากฏอีกแล้วในชีวิตของเขาด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ถูกพรากไปจากเขา แม่และลูกสาว ดังนั้น ในหลายๆ แง่มุมแล้ว สถานที่นี้เป็นสถานที่อันตรายสำหรับเขา เพราะเขาไม่มีเวลาจะทำตัวอ่อนโยนหรือเปิดใจ ที่จะถูกทำให้เปราะบาง เขามีภารกิจเดียวในชีวิตและทุกสิ่งที่ทำให้เขาไขว้เขวจากภารกิจนั้นคือภัยคุกคาม และนั่นก็คือเบียทริซในตอนแรกครับ แต่ในที่สุด เธอก็คุ้มค่ากับการไขว้เขวนั้น”



















สำหรับการร่วมงานกับนูมิ ราเพซ ฟาร์เรลมีแต่คำชมเชยสำหรับเธอ “นูมิน่าทึ่งครับ” ฟาร์เรลกล่าวชื่นชม “เธอฉลาด ช่างคิดและกล้าอย่างเหลือเชื่อ เธอมีการถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างเหลือเชื่อ เธอท้าทายคุณในแบบที่น่ารักที่สุดในฐานะนักแสดงและเธอก็รู้จักตัวละครของเธอดี เธอออกแบบเบียทริซของเธออย่างดีและเฉพาะเจาะจง ทั้งงดงามและพิล้วไหวจนเธอรู้จักเบียทริซอย่างทะลุปรุโปร่ง และทุกครั้งที่ผมได้เข้าฉากกับนูมิ มันก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างที่สุด และถึงแม้ว่าผมจะพูดไปยืดยาวเกี่ยวกับการที่วิคเตอร์และเบียทริซเป็นแก่นของเรื่องและบอกว่าผมชื่นชอบการได้แสดงฉากระหว่างพวกเขามากแค่ไหน ในระดับหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องของนูมิและการตีความตัวละครตัวนี้ของเธอ รวมถึงการยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอและแสดงฉากที่เราแสดงมันเป็นอย่างไร มันเป็นความสุขที่สุด เธอเยี่ยมมาก เยี่ยมจริงๆ ครับ”





















“เรามีเวลาซ้อมที่เจ๋งมากๆ ก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้น” ฟาร์เรลเล่า “เรามีเวลาเพียงแค่สามวัน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เราได้มาจะเหมือนกับเราซ้อมกันเป็นสัปดาห์ๆ เลย เรานั่งกันในห้องโรงแรมในลอสแองเจลิสสามวัน มีโจเอล วีแมน (มือเขียนบท), นีลส์, นูมิ แล้วก็ผม เรานั่งคุยกันถึงบทเรื่องนี้ ทีละหน้าๆ แล้วบทเรื่องนี้ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนว่าต้องมีการปรับปรุงอะไรเลย แต่พอเรานั่งคุยกัน นีลส์ก็มีความเห็นของเขา นูมิมีความเห็นของเธอและผมก็มีความเห็นของผม ส่วนโจเอลก็นั่งฟังเฉยๆ เพราะความเห็นทั้งหมดของเขาอยู่ในบทอยู่แล้ว เขาก็เลยนั่งฟัง และพิจารณาไอเดียของเรา ผมคิดว่าเราทำให้บทดีขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ดีขึ้นเยอะ แต่เป็นส่วนตัวมากขึ้น มันไม่มีอะไรในนั้นที่เราไม่อยากทำ แต่มันเป็นแค่การเปลี่ยนมุมมองในบางช่วงเวลาและเพิ่มความสำคัญให้กับบางสิ่งครับ”





















“เราสนุกกับช่วงเวลาซ้อมกันจริงๆ” ฟาร์เรลบอก “นีลส์เยี่ยมมาก ผมสื่อสารกับเขาแบบทางลัดตั้งแต่ช่วงแรกๆ และเขาก็ตื่นตัวอยู่เสมอ เขาทำงานไม่ลดละและไม่ประนีประนอมเลย ในฐานะนักแสดง สิ่งที่คุณอยากจะมีกับผู้กำกับของคุณคือความรู้สึกไว้วางใจ และผมก็ไว้วางใจนีลส์ว่าเขาจะไม่ขยับเขยื้อนไปจากฉากนั้นๆ เว้นแต่เขาจะยินดีกับมันแล้ว แล้วคุณก็ต้องถามตัวเองว่า ความยินดีของเขาคืออะไร มันเหมือนกับความยินดีของผมรึเปล่า แต่เขาเป็นคนฉลาดจริงๆ และเขาก็เป็นผู้กำกับที่วิเศษสุด เขาเป็นคนที่ดื้อรั้น เหมือนสุนัขที่กัดกระดูกไม่ปล่อย เขาฝังเขี้ยวลงไปในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กับมันมาประมาณปีหนึ่งแล้ว เขาเป็นคนที่ละเอียดมากด้วยครับ”





















“นีลส์น่าทึ่งในทุกเรื่องเลยครับ” ฟาร์เรลกล่าวเน้น “ใน DEAD MAN DOWN เขาเลือกที่จะทำงานกับผู้กำกับภาพพอล คาเมรอน นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ร่วมงานกับพอล ผมเคยทำงานกับเขามาก่อนใน Total Recall และเขาก็เหลือเชื่อเลย เขาได้ใช้แสงถ่ายทอดอารมณ์ออกมาด้วยรายละเอียดและความมีชีวิตชีวา ผมกังวลตอนที่อ่านบทว่าถ้ามันดูเหมือนดรามาเกินไปหรือสกปรกเกินไป มันก็อาจจะเหมือนกับเอพิโซดจากซีรีส์ตำรวจ แต่ผมรู้สึกเหมือนว่า DEAD MAN DOWN มีโอกาสที่จะซึมซับไปด้วยความเจ็บปวด ความสุข ความหวัง ความผิดพลั้ง ความคาดหวังและความผิดหวังทั้งหมดทั้งมวลในชีวิต แต่มันก็สามารถถูกยกระดับขึ้นมาได้และขับเน้นบางเรื่องได้ มันอาจจะสร้างความรู้สึกที่ลึกลับหรือเหมือนกับเทพนิยายให้กับหนังได้ ไอเดียนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากความสัมพันธ์ระหว่างวิคเตอร์และเบียทริซบนระเบียง และพอลก็ให้แสงมันในแบบที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่เหมือนกับ Pride and Glory ดรามาตำรวจที่ผมเคยเล่นเมื่อหลายปีก่อนในนิวยอร์ก มันมืดหม่นมากๆ และผู้กำกับภาพดีแคลน ควินน์ก็ให้แสงมันอย่างวิเศษมาก แต่มันก็เฉพาะเจาะจงมากๆ มืดหม่นมากๆ และหนักอึ้งมากๆ ด้วย แต่หนังเรื่องนี้จะมีแสงมากกว่าหน่อย แม้ว่าธีมของเรื่องจะค่อนข้างหนักและถูกสำรวจอย่างอ้อมๆ มันก็ยังคงมีแสงสว่างอยู่ แสงที่ใช้มีความรู้สึกเหมือนจะเย้ายวนครับ ผมไม่อยากจะบอกว่ามันเหมือนกับ In the Mood for Love แต่ผมรู้ว่านีลส์ดูหนังเรื่องนั้นแล้วยืมธีมแสงของมันมานิดๆ น่ะครับ”
















“นีลส์วิเศษสุดครับ” ฟาร์เรลกล่าวอย่างตื่นเต้น “คำสั่งที่เขาสั่งคุณเป็นอะไรที่พิเศษสุด ผู้กำกับบางคนจะปล่อยคุณตามสบายและไปกังวลกับเรื่องของตำแหน่ง เฟรม การเคลื่อนไหวของกล้อง และการเล่าเรื่อง รวมถึงการลำดับภาพมากกว่า ถ้ามือลำดับภาพอยู่ในกองถ่ายด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องวิเศษสุดและสำคัญจริงๆ แต่นีลส์เป็นผู้กำกับที่แม้ว่าเขาจะกังวลกับเรื่องทั้งหมดข้างต้น เขาก็นำเสนอแนวทางการกำกับที่ตรงไปตรงมาและน่าสนใจ รวมทั้งเต็มไปด้วยรายละเอียดจริงๆ ด้วย ดังนั้น ถ้าฉากนั้นๆ ไปในทิศทางหนึ่งๆ เขาก็จะเข้ามาแล้วขอให้คุณเปลี่ยนความคิด 180 องศาแล้วให้คุณแสดงอีกแบบหนึ่งดู ซึ่งผมก็ต้องถามเสมอว่า ทำไม ทำไมและทำไม เขาพยายามจะใส่แสงเข้าไปในเรื่องให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะธีมมันค่อนข้างจะมืดหม่น เขาก็เลยพยายามจะใส่แสง รวมถึงความลื่นไหล ที่ไม่ให้มีการติดอยู่กับอารมณ์แบบใดแบบหนึ่ง แต่ให้มีแท่งแสงทิ่มแทงเข้ามาในเรื่องให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ”



















“แต่สิ่งที่นีลส์กังวลเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดคือปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งหมด” ฟาร์เรลกล่าวย้ำ “ผมหมายถึงแน่นอนว่าเขาควรจะกังวลเรื่องนี้เพราะเขาเป็นผู้กำกับ แต่เขาหมกมุ่นกับปฏิสัมพันธ์และพฤติกรรมระหว่างตัวละครทั้งหมดจริงๆ และคุณก็มักจะไม่เจอกับการใส่ใจในรายละเอียดพวกนั้นมากขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นครับ ผมหมายถึงนี่เป็นการถ่ายทำ 43 วัน และก็มีอะไรต้องทำมากมายในช่วงเวลาเหล่านั้น มันมีฉากใหญ่ๆ สามฉาก ที่หรูหราจริงๆ และกว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ก็แสนสาหัส แล้วมันก็มีการย้ายโลเกชันหลายครั้ง ภายในระยะเวลาจำกัด แต่แม้ว่าจะมีแรงกดดันที่จะทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย ผมไม่ได้รู้สึกเลยว่าแง่มุมสร้างสรรค์ของเรื่องถูกลดทอนไป และมันก็แสดงให้เห็นถึงวิธีการทำงานที่ค่อนข้างจะแน่วแน่ของเขาในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่สำคัญในหนังเรื่องนี้และสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อถ่ายทอดมันออกมา”



























คลิ๊กอ่านได้เลยค่ะ ^^

บล็อกที่ 2 ประวัตินักแสดง :: DEAD MAN DOWN แค้นได้ตายไม่เป็น



บล็อกที่ 3 ประวัตินักแสดง :: Dominic Cooper .. โดมินิค คูเปอร์

บล็อกที่ 4 ประวัตินักแสดง :: Noomi Rapace (นูมี ราเพซ)

บล็อกที่ 5 ประวัตินักแสดง :: Terrence Howard (เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด)













Create Date : 13 พฤษภาคม 2556
Last Update : 19 พฤษภาคม 2556 13:53:15 น. 9 comments
Counter : 1959 Pageviews.

 
ขยันมว๊ากๆ

ทำภารกิจอย่างมีความสุขนะตะเอง

เค้าแวบขึ้นไปอ่านก่อน


โดย: fonrin วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:28:28 น.  

 
หนุ่มคนนี้ มีหนวดมีเครา
แต่ตาเค้าสวยเนอะ



โดย: fonrin วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:31:10 น.  

 
ปีนี้น้องดีชัดเจนมากกับการเป็นบล้อกเกอร์ที่นำเสนอข้อมูลเรื่องภาพยนตร์

พี่ก๋าเขียนงานเอาไว้เยอะมากครับ
มากพอที่จะเป็นต้นทุนในการทำบล้อกอย่างน้อยหนึ่งปี

นี่ว่ากันเฉพาะก๋าราณี และ บทกวีนะครับ

พี่ก๋าเขียนงานเก็บเอาไว้เยอะมากพอสมควรเลย

ความจริงอยากทำงานหนังสือให้มากกว่านี้
แต่ดูเหมือนจังหวะเวลายังไม่ลงตัวครับ

พี่ก๋าอยากลองส่งไปหลายๆ สนพ. ดูครับ

ต้นปีนี้ส่งไป 3 เล่ม
ไม่ผ่านการพิจารณา 2 เล่มครับ 5555

เหลืออีกเล่ม ตอบตกลงแล้วก็เงียบไป 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:36:28 น.  

 
สวัสดีค่า คุณดี ^^

มาตามต่อค่ะ

วันนี้โคลินหนุ่มเข้ม มาเต็มๆ



โดย: lovereason วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:29:16 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องดี








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:6:42:05 น.  

 
สวัสดีค่ะดีดี
ห่างๆ หายๆไปค่ะพี่ช่วงนี้
ไม่รู้เวลาหายไปไหน ^^

ขอบคุณดีดีนะคะที่แวะไปยินดีกับพี่และสาวน้อยค่ะ

พี่อยากดูหนังมาก แต่ไม่มีเวลาเลย
อาศัย TV ดูซีรี่ไปพรางๆอ่ะค่ะ
ทำงานไปดูซีรี่ไปก็พอไหวค่ะ ^^

ดีดีมีความสุขมากๆนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:06:48 น.  

 
สวัสดีครับคุณดี

เข้ามาอ่านเรื่องราวของภาพยนตร์แอคชั่น DEAD MAN DOWN ครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Gargen Blog ดู Blog
มัชชาร Movie Blog ดู Blog

ปล.มีภาพจากบล็อกตอนใหม่มาฝาก อาจจะดูน่ากลัวไปหน่อยต้องขออภัยครับ





โดย: ทองกาญจนา วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:06:16 น.  

 
คนนี้ก็คนโปรดพี่เลยค่ะน้องดี




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:41:37 น.  

 

สวัสดียามเย็นค่ะ
---------------------
แอบหนีไปเที่ยวกัมพูชาเสียหลายวัน โดยไม่ได้บอกกล่าวไว้เลย ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะน้องดี


โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:16:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มัชชาร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




Friends' blogs
[Add มัชชาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.