Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
.....หมาหนาว.....

“ หมาหนาว ”

...ดีน ดาเรน...



คืนนี้ผมจับได้ไม้สั้น...


ผมทำงานอยู่ที่ร้านอะโกโก้แห่งหนึ่งแถวถนนสุริวงศ์ ถนนกิเลสราตรีอย่างที่ใครบางคนว่า แต่ความจริงมันก็คือถนนแห่งสายอาชีพหนึ่งเช่นเดียวกับอาชีพสุจริตอื่นๆนั่นเอง

หลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ ม.3 ผมก็เข้ากรุงเทพฯเพื่อหางานทำ ผมลงรถที่ขนส่งหมอชิต ขึ้นแท็กซี่จะไปหาญาติที่ทำงานก่อสร้างแถวนนทบุรีตามแผนที่ที่ญาติส่งไปให้ผม แท็กซี่พาผมตระเวนจนหมดเงินไปกับค่ารถแล้วพาผมไปส่งไว้ที่หมอชิตตามเดิม

คืนนั้นผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงอาศัยแอบหลบนอนอยูในสวนจตุจักร ผมพบเด็กรุ่นเดียวกับผมซึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่เข้ามาชวนพูดคุยและชวนไปทำงาน จากการคุยกันผมพอฟังออกว่าเขาจะชวนผมไปทำงานอะไร ผมไม่ได้โง่นัก พอจะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อยากจะคิดดีทำดีอย่างที่ควรจะเป็น แต่จะทำอย่างไรได้เพื่อปากเพื่อท้องที่หิวอยู่ผมจึงไม่มีสิทธิ์จะเลือกอะไรได้มากนัก

โชคดีหน่อยที่ผมเป็นคนหน้าตาไม่ขี้ริ้วขี้เหร่จึงพอเป็นใบรับรองการเข้าทำงานได้ งานที่ผมต้องทำก็ไม่ยากเย็นอะไรแค่ยืนยิ้มเข้าจังหวะกับเสียงเพลง ทนหนาวเอาหน่อยกับเสื้อผ้าน้อยชิ้นซึ่งบางทีก็ไม่มีเลย...ไม่อายอยู่แล้วเพราะเคยแก้ผ้าจับปลาในบ่อเลนบ่อยๆ

คิดถึงการจับไม้สั้นไม้ยาวครั้งแรกของผม...ผมคิดหนีทันทีเมื่อรู้ว่าจะต้องทำอะไร แต่เมื่อหนีเสือเข้าไปในบ่อจระเข้ยังไงก็โดนกัดวันยังค่ำ คืนนั้นผมวิ่งหนีออกจากร้านโดยมีพวกบึ้กๆวิ่งตามสามสี่คน พวกมันร้องกล่าวหาว่าผมวิ่งราว เราวิ่งหนีวิ่งไล่ตามซอกซอยแถวนั้นสักพักผมก็ถูกตำรวจจับ

ที่โรงพักกำลังวุ่นวาย ทั้งตำรวจในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ ชายหญิงวัยรุ่นซึ่งเป็นผู้ต้องหาและวัยรุ่นที่ไม่ได้เป็นผู้ตัองหา ผมพยายามเล่าความจริงให้ตำรวจฟัง พี่บึ้กประจำร้านก็เล่าความจริงของเขาให้ฟังเช่นกัน คุณตำรวจทำท่างงๆแต่คงเข้าใจความจริงจึงลงบันทึกไปว่าผมมีความผิดฐานพกพาอาวุธมีดแล้วปล่อยตัวกลับ...กลับไปถูกซ้อมน่ะซิ!

ครั้งต่อๆ มาไม้สั้นหรือไม้ยาวผมก็ไม่ยี่หระแล้วละ ช่างมัน!

เวลาตอกบัตรเข้างานของผมคือ 18.00 น. ถ้าใครมาสายถูกปรับ 200 บาท ขาดงานโดยไม่บอกล่วงหน้าปรับ 500 บาท และถ้าไม่อยู่จนร้านปิดก็อดได้ค่าแรงในวันนั้น...เท่าไหร่ทราบไหมครับ ค่าแรงประจำวันคือ 100 บาท ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสวัสดิการอะไร อ้อ! มีกางเกงขาสั้นผ้าร่มอุบาทว์ๆหนึ่งตัวและมีหมอมาตรวจสุขภาพทุกเดือน เท่านั้นเอง

พวกผมมีชีวิตอยู่ได้จากทิปและเปอร์เซ็นต์จากค่าเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งให้ ซึ่งไม่ค่อยมีลูกค้ามากนักเพราะร้านประเภทนี้มีมากเหลือเกิน เด็กๆอย่างผมยั้วเยี้ยไปหมดทั้งถนน

หลังงานเลิกประมาณตีหนึ่ง บางทีก็ตีสอง ผมจึงได้กินอาหารมื้อเดียวประจำวันของผม อาหารยอดฮิตคือข้าวเหนียวส้มตำ 30 บาทก็อิ่ม เหลือเงิน 70 บาทเป็นค่ารถ ค่าน้ำดื่มและค่าเช่าห้อง

กินส้มตำเสร็จแล้วผมต้องเตร็ดเตร่ เดินเล่นไปเรื่อยๆ บางทีก็นั่งที่สนามหญ้าหน้าสวนลุมพินีเพื่อรอให้ใกล้สว่างจึงจะกลับห้องพักที่เพื่อนผมเช่าอยู่กับแฟน พอพวกเขาไปทำงานประมาณเจ็ดโมงเช้าผมจึงเข้าห้องได้ ตอนเย็นเพื่อนกลับจากงานผมก็ออกไปทำงานพอดี เพื่อนคิดค่าเช่าเดือนละ 300 บาท ผมต้องเก็บเงินไว้วันละ 10 บาทเป็นค่าเช่าห้อง

วันหนึ่งแม่เขียนจดหมายมาขอเงินเพื่อจะเอาไปตัดดอก ธกส. ผมจะไปเอาที่ไหนกันละนี่?...ก็เพราะไม่อยากให้แม่กังวลใจผมจึงได้เคยบอกแม่ไปว่าผมมีงานทำที่ดี แม่จึงหวังจะให้ผมช่วยเหลือ...ลำพังรายได้วันละร้อยของผม ผมก็เป็นบ้านี่กิ๋นข้าวเหนียวตึงวันอยู่แล้ว!

เคยมีลูกค้าพาผมออกไปข้างนอกเหมือนกัน ผมขอยาเพื่อนกินหนึ่งเม็ดก่อนจะออกจากร้าน แล้วลูกค้าจะทำอะไรผมก็ทำไปเถอะ ผมเบลอๆไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่หรอก...ตรงนี้แหละที่ได้เป็นค่าเสื้อผ้าและค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ

ประชาชนอย่างผมจะเรียกว่าชั้นสองหรือชั้นสามดีครับ หรือไม่มีชั้นเลยถ้าดูจากการหาเลี้ยงชีพ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ผมยังเคยคิดดูถูกตัวเองเสมอ อยู่ไปวันๆมองหาอนาคตและหนทางที่ดีได้ยาก เพื่อนบางคนหวังอนาคตที่ดีจากลูกค้าที่จะมาจริงใจและรับเลี้ยง...คงยาก แม้หาได้เดี๋ยวเขาก็เบื่อ ถึงไม่เบื่อก็ไม่น่าจะยินดีกับสถานะภาพเช่นนั้นเลย มันหดหู่...เหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่ง!

โดยเฉพาะเพื่อนแล้วยิ่งหายาก เพื่อนร่วมอาชีพที่จะเป็นเพื่อนแท้หาแทบไม่มี ทุกคนต้องแสดงตัว ต้องอวดตัว ต้องแก่งแย่ง หรือไม่ก็งัวเงียอ่อนเปลี้ยเสียจนแทบจะไม่มีเวลาเสวนากับใคร...ก็กลับกลางวันเป็นกลางคืนกลางคืนเป็นกลางวันอย่างนั้น ทุกวันทุกคืน...

แต่ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง...เอ้ย! ตัวหนึ่ง...มันคือไอ้ตูบหน้าปากซอยเข้าหอพัก เมื่อผมย้ายมาอยู่ใหม่ๆ มันเข้ามาตีสนิทอี๋อ๋อกับผม เพราะคงจะได้กลิ่นปลาร้าส้มตำที่ผมเพิ่งกินมาหมาดๆ คืนต่อมาผมจึงเก็บกระดูกไก่จากร้านส้มตำมาฝากมัน และผมก็ทำเป็นประจำทุกวัน

ไอ้ตูบมันคอยมารับผมหน้าปากซอยทุกคืน กระดิกหางแกว่งก้นให้ทุกครั้ง ก็กลิ่นกระดูกไก่มันหอมหวนออกอย่างนั้น มันคาบกระดูกเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง...บ้านของมัน...มันอยู่ตัวเดียวไม่มีเพื่อนพ้องหรือลูกเมีย แน่ละไม่มีเจ้าของคอยให้ความเมตตา คงว้าเหว่และต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดเพียงลำพัง...เช่นเดียวกับผม

คืนหนึ่งผมกลับเข้าซอยเร็วกว่าปกติ ประมาณตีสาม มีวัยรุ่นสองคนเข้าประชิดตัว คนหนึ่งล็อคคออีกคนเอามีดจี้ ผมเห็นจวนตัวจึงปลดเป้สะพายให้อย่างที่พวกมันต้องการ ไอ้ตูบโผล่ออกมาจากความมืดกระโดดแยกเขี้ยวคำรามงับเจ้าสองคนเสียกระเจิง เออ...ค่อยคุ้มค่ากระดูกไก่หน่อย...

จากวันนั้นผมไม่กล้ากลับเข้าซอยในเวลาดึกๆ อีก ต้องรอจนกว่าฟ้าสางจึงกลับเข้าหอ ผมกลัวไอ้สองคนจะกลับมาแก้แค้น ขนาดเวลาเย็นตอนออกไปทำงานผมยังหวาดๆกลัวพวกมันจะมาดักทำร้ายที่หน้าปากซอย ผมจึงต้องเดินเรื่อยเปื่อยทุกคืน คืนไหนง่วงจริงๆผมก็นอนมันตรงนั้นละ ตรงไหนก็ตรงนั้นที่มันไม่ประเจิดประเจ้อและไม่ผิดกฎหมาย

ความมืดอยู่ที่ไหนความมืดก็อยู่ที่นั่น ไม่มีหรอกแสงสว่าง ผมเคยเดินไปเรื่อยๆ ในสวนลุมฯเพื่อรอเวลาให้ถึงเช้า ใจหนึ่งลึกๆ อยากเป็นสัตว์เลี้ยงของใครสักคนอย่างที่ตัวเองเคยนึกรังเกียจนักหนาเหมือนกัน...

วันหนึ่งผมเดินไปพบวัยรุ่นพวกที่เคยเห็นนั่งเล่นอยู่ที่สถานีตำรวจ พวกเขาเดินปรี่เข้ามา ผมรีบชิ่งออกกลางถนน...ก็เลยรอดตัวมาได้ คืนต่อมาเจออีก คราวนี้มันยิ้มเหยียดๆเยือกๆหนาวเข้ากระดูก ผมจึงเลี่ยงไม่เดินไปทางนั้นอีก


ผมยังวิตกถึงเรื่องเงินตัดดอก ธกส. ของแม่...

ค่อยคิดแล้วกันนะ...ถึงเวลาทำงานจากผลของการจับไม้สั้นไม้ยาวแล้ว ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่กินยาหนึ่งเม็ดแล้วขึ้นเวทีไปให้ไอ้เพื่อนที่จับได้ไม้ยาวมันรังแกให้ลูกค้าดู...

พอลงจากเวทีพี่กัปตันมาจูงผมไปหาแขกคนหนึ่ง ผมพูดไม่ผิดหรอก ก็ลูกค้าที่เป็นแขกไง เขาใส่ชุดยาวๆที่มีผ้าคลุมหัวด้วย ผมใส่เสื้อผ้าทั้งที่ยังเบลอๆอยู่และตามออกไปกับแขกคนนั้น...เมื่อถึงที่พักของเขาปรากฏว่ามีแขกทะมึนอีกคนหนึ่งรออยู่...ผมรีบกินยาอีกสองเม็ด คิดกลัวๆ อยู่ในใจว่าผมอาจจะตายจากการกระทำของแขกสองคนนี้ก็ได้ถ้าเขาเป็นคนไม่ดี แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ตายก็ตายนะ! คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้ผมอึดได้ขนาดนั้น

ผมไม่ตายครับ...และแขกก็ใจดีให้เงินพอที่แม่จะใช้ตัดดอก ธกส.ได้ แล้วผมก็สะเงอะสะงะไปนั่งเบลองีบหลับด้านหลังของสวนลุมฯ ในที่มืดลับตาคน

กำลังจะเคลิ้มหลับผมเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมาที่ผม ผมปรือตามองแล้วต้องสะดุ้ง...ไอ้พวกที่ผมหลบฉากมาได้สองหนสองครานั่นเอง ผมใจหายวาบรีบเอามือกุมกระเป๋าสตางค์แน่น “ แม่จ้วยเปิ้ลจิ่ม!” ผมลุกขึ้นจะวิ่งหนีแต่ช้ากว่าพวกมัน...

กำลังคิดว่าคงแย่แน่แล้วผมก็ทรุดฮวบลงกับพื้น...ดาวลอยวูบวาบอยู่ตรงหน้า แค่เฮือกหายใจเท้าก็ลอยมาที่หน้าผมอีกตื้บ และอีกตื้บ พวกมันสี่ห้าคนรุมยำผม ผลัดกันตืบ ตึ้บๆปึ้กๆ...ผมชาไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร ส่วนใหญ่พวกมันเลือกอัดแต่บนใบหน้า...โชคดีที่ใส่รองเท้าผ้าใบกันทุกคน

พอได้สติผมร้องขอความกรุณาให้พวกมันหยุดทำร้ายผมจะเอาอะไรก็เอาไป ผมกลัวว่ามันจะใช้อาวุธซึ่งผมคงเสียชีวิตแน่ แม้แค่เพียงจับผมโยนลงน้ำผมก็คงตายเหมือนกันเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

“ กูไม่เอา กูไม่เอาของมึง ” มันคนหนึ่งตะคอกใส่ผม

“ มึงเป็นตุ๊ดใช่มั้ย ? ” ตื้บๆๆ

“ กูเห็นมึงหลายวันแล้ว ” ปึ้ก ตื้บ ผมยกมือไหว้ร้องขอชีวิต

“ มึงไม่ต้องไหว้กู ไอ้ตุ๊ด ” ผมกลัวตายมากยื่นกระเป๋าสตางค์ให้มัน

“ กูไม่เอาของมึง มึงไม่รู้จักกู อยากจะเข้าคุกหรือมึงไอ้ห่ะ ”

“ มึงอย่ามาเดินให้เห็นหน้าอีก ” แล้วผมก็ถูกรุมอัดอีกสักพัก

“ มึงจะได้หายหล่อ ไอ้ตุ๊ด ถุย !” มันสำรอกทิ้งท้ายก่อนจะจากไป

ผมมีแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รู้ วิ่งขโยกออกมาที่ถนนโบกมือเรียกรถแท็กซี่ พอคนขับรู้ว่าผมวิ่งหนีคนร้ายมาและเห็นใบหน้าที่ปูดบวมมีเลือดออกไหลโทรมของผมเขาก็เหยียบคันเร่งทิ้งผมไป ดีหน่อยที่คันที่สองยอมรับผม ผมขอร้องให้พี่แท็กซี่ไปส่งเท่าที่เงิน 70 บาทที่เหลือจะไปได้ แต่พี่เขาใจดีส่งผมถึงปากซอยหอพักและแนะนำให้ผมไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ...

ลงจากรถได้ผมทรุดนั่งกับฟุตปาทริมถนน ควักกระจกบานเล็กออกมาส่องดูหน้า จากแสงไฟข้างถนนผมเห็นหน้าของแดร็กคูล่าตนหนึ่ง ดวงตาบวมปลิ้นเต็มไปด้วยสีแดงช้ำของเลือดที่คั่งอยู่เต็มสองลูกตา ไม่มีตาขาวเหลืออยู่เลย คิ้วแตกเห็นเนื้อปนเลือด เหนือคิ้วและบริเวณหน้าผากปูดบวมออกมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะปูดบวมได้ขนาดนั้น เหมือนเสริมกะโหลกสุนัขไว้บนหน้าผาก แข็งๆ ปูดๆ นี่มันมาจากไหนกัน ใต้ตาก็แตกช้ำ เลือดกำดาวยังซึมเกรอะกรัง ทั้งน้ำมูกน้ำลายและเลือดไหลเลอะเต็มเสื้อไปหมดทั้งตัว...ผมไม่เหลือแม้แต่สภาพของประชาชนชั้นเลวอยู่เลย...

ผมเริ่มรู้สึกปวดบนใบหน้าและร่างกาย ผมค่อยๆ ลุกขึ้นก้าวเดินเข้าซอย ผมตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า นึกเสียดายเงินตัดดอกของแม่...แต่แล้วก็นึกได้ว่าพวกผู้ร้ายไม่ได้เอาไป...เอ...ทำไมมันจึงไม่เอาเงินของผม แล้วมันรุมกระทืบผมทำไม...ยังจำได้ที่มันทำเสียงสมเพชพูดว่าผมไม่รู้จักว่าพวกมันเป็นใคร และขู่จะเอาผมเข้าคุก...

หรือมันคือขาใหญ่ที่หมั่นไส้และอยากสั่งสอนผม...ถ้าเป็นมิจฉาชีพพวกมันต้องชิงทรัพย์ผมซิ...หรือว่า...จริงสิ ผมเคยเห็นพวกมันบนสถานีตำรวจนี่นา...หรือผมกำลังถูกสั่งสอนโดยคนที่ผมหวังจะพึ่งพาหาความปลอดภัยจากพวกเขาอยู่...

โอ...ให้ตายซิ! นี่มันเรื่องจริง เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม ไม่ใช่เรื่องสั้นวันอาทิตย์ของหนังสือพิมพ์รายวันฉบับไหนๆทั้งนั้น...

ไอ้ตูบเดินออกมาจากซอกมืด เมื่อเห็นผมมันไม่กระดิกหางอย่างเคย คงจำผมไม่ได้...มันก้มหน้า เหลือบตามองผมอย่างหวาดระแวงแล้วเลี่ยงลงข้างทาง ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว หรืออาจจะเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นตอนค่อนรุ่งปลายเดือนธันวาคมก็ได้ ...มันเหลือบตามองผมอีกครั้งแล้วแทรกตัวที่สั่นเทานั้นเข้าไปในพงหญ้าแห้ง.....


มันคงหนาวเข้ากระดูกเหมือนผมในขณะนี้กระมัง!.....






Create Date : 08 มกราคม 2551
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 14:21:19 น. 30 comments
Counter : 950 Pageviews.

 
อ่านซะจน..พี่จะเชื่อแล้วว่าคนเขียนทำงานแถวสีลมจริงๆ



แต่เอ๊ะ.. พี่ว่าพี่อ่านเรื่องนี้รอบที่สอง รอบแรกไม่รู้อ่านที่ไหน..จำไม่ได้..ถนนนักเขียนหรือเปล่า..

ไม่แน่ใจ

แต่ถือว่า..เป็นการถ่ายทอดความทรงจำผสมผสานเข้ากับจินตนาการได้น่าอ่านอีกเรื่องหนึ่ง..

พี่ชอบเรื่องสั้นมากกว่าเรื่องยาวแฮะ.. (อย่างน้อยก็มีเหตุผลที่พอเพียงแหละ..เหตุและผลที่ว่าเพราะใช้เวลาอ่านน้อยกว่าไง)




โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:13:19:53 น.  

 
พี่ครับ...

ใช่แล้วครับ...จากห้องน้กเขียน...

อะ อะ ผมป่าวเคยทำงานที่สีลมนะ...

ดีน ครับ.


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.80 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:15:01:28 น.  

 
ง่วงจน..ศีรษะจะโขกกับคอมพ์ได้แล้ว

แต่ก็นะ.. รับงานออกแบบไว้ เด็กนักเรียนก็เหลือเกิน..ไม่ส่งพรุ่งนี้ วันนี้มืดๆ มันไม่มากัน..

ให้ได้อย่างนี้เถอะโรบิ้น..

รายไหน รายนั้น

แต่พอเค้ามาออดๆ หน่อย

อาแจมๆ ๆ .. มันก็ทนไม่ได้ ต้องรับผิด รับชอบให้เขา

รับจัดอาร์ตเวิร์คเนี่ยเขารับเงินกันเป็นหมื่น..สีน้ำฟ้ารับจากนักเรียนคนร้อย สองร้อย..

นักศึกษาโตหน่อยก็พัน..ไม่เกินพันห้า.. เมื่อไหร่จะรวยน๊อ..

งึมงำๆ .. มาบ่นบ้ายามเกือบสว่าง
ไปล่ะ ก่อนเครื่อง(คน) จะเอ๋อเหรอไปมากกว่านี้

ถ้าชาร์จกล้องเสร็จ ไว้จะเอาหนังสือที่ทำเสร็จมาอวด.. เห็นแล้วก็ชื่นใจนะ..อย่างน้อยเราก็ได้จรรโลงสังคม โดยการช่วยเด็กทำการบ้าน..(ออกแบบ จัดรูปเล่ม)

อืม..เนอะ..อย่างน้อยงานที่เสร็จก็น่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ชนบทที่ห่างไกล..

^__________^


โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.165.90 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:5:35:28 น.  

 
พี่ครับ...

อย่างไรก็เหลือหัวกะทิไว้บ้างนะ...

เดี๋ยว "หินสักลาย" จะเหลือแต่หางกะทิ

ดีน ครับ.


โดย: ดาเรน IP: 124.121.172.167 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:7:39:20 น.  

 
เมื่อคืน..(สอง-สามทุ่ม) รับงาน..เด็กคนที่หนึ่งเดินเข้ามา..

--น้าพิมพ์งานให้หน่อย.. (ห้วนๆ สั้นๆ)

-- รับเมื่อไหร่คะ

--พรุ่งนี้เช้า

--งานเยอะมากเลยค่ะ กลัวจะพิมพ์ให้ไม่ทันนะ..

เขาสะบัด....อู๊ดออกไป

รายใหม่เดินมา..

--น้าคร้าบบ รับพิมพ์รายงานไหมครับ

--รับ แต่คงทำให้ไม่ทันหรอก เพราะงานค้างหลายเล่มเลย

--น้า..ช่วยหน่อยต๊า ส่งพรุ่งนี้แล้ว (หัวเราะ)

-- ?? (มองหน้า...หนุ่มก็ยิ๊มมมมม..)

บลาๆๆๆๆ

แล้วก็เลยต้องรับใช้เขาไป..

นะ..โชคดีที่ว่าหนุ่มแรกเขาสะบัดออกไปก่อน ไม่งั้นคงงอมกว่านี้

..

ง่วงๆ แต่กะจะชิ่งไปนอนก่อน ช้ากว่าน้าก็เลยต้องเฝ้าร้านต่อไป..

ไม่เฝ้าก็ไม่ได้ เดี๋ยวร้านหาย เอ๊ยไม่ใช่.. เดี๋ยวเด็กๆ มาต้องมารับรายงานไปส่งครู


รับกรรมต่อไป..

^__________^




โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.165.90 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:8:06:56 น.  

 
พี่ๆหนีมาอยู่ในนี้กันทั้งสองคนเลย..

ทิ้งให้หนูเหงาอยู่คนเดียว..



โดย: โอ๊ต..เจ้าค่ะ.. IP: 124.120.62.110 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:10:01:17 น.  

 
อย่าเลย...

เค้าเข้าไปดูทั้งวันที่โน่น...

ไม่เห็นอะไรเลย...ฮึ!...

นะพี่นะ......


โดย: ดีน ดาเรน IP: 124.121.172.167 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:10:04:45 น.  

 
ปู่ดีนขา..โอ๊ตเพิ่งอ่านจบอะหนุกดีค่ะ..

แต่โอ๊ตสงสัย..อะไรบางอย่างเลยไปถามไว้หลังไมค์นะคะ..

คิดว่าไม่ควรถามไว้ในนี้อะค่ะ..เอิ๊กๆ..


โดย: โอ๊ต..เจ้าค่ะ.. IP: 124.120.62.110 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:10:19:33 น.  

 
แวะมาเยี่ยม ก็ไม่ไงหรอกค่ะ หึหึหึหึ เพราะช่วงนี้อารมณ์ดี ไม่อยากฆ่าใคร ถ้านึกอยากฆ่าคนเมื่อไรจะบอกนะค่ะ


โดย: แอม IP: 118.172.4.169 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:18:52:05 น.  

 
ยอมตายจร้า.......


โดย: ดาเรน IP: 124.121.171.168 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:7:33:31 น.  

 
สวัสดี
ครับท่าน
ดีน ยอมตาย
อะไรรึขอรับ อิ อิ อิ
*******************


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:12:41:34 น.  

 
ครับ....

ข้อความ 10 เนื่องมาจาก...

ข้อความ 9 ครับคุณคน...

คนของใครก็ได้...



ใช่ป่าว?.....


โดย: ดีน (ดาเรน ) วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:15:21:59 น.  

 
อะ
แอ้ม..
จุ๊ๆๆๆๆ
*********


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:1:24:59 น.  

 
อ้าว.....

จิ้งจกอะแอ้มเป็นด้วยหรอ...

หึ หึ หึ.....



โดย: ดาเรน IP: 124.121.172.225 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:6:23:40 น.  

 
ท่าน
ดีน นี่
ช่างรู้ใจนัก
***********


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:16:00:59 น.  

 
ผมจะตอบอะไรดีล่ะครับ...

ดีน ครับ.


โดย: ดาเรน IP: 124.121.172.140 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:14:50:09 น.  

 
แวะ
มาราตรี
(อรุณ)สวัสดิ์
ขอรับ พี่น้อง อิ อิ
**************


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:2:07:58 น.  

 
ผมมีถรระผูกพันธ์เกิดขึ้นละซี....

จริงอย่างที่พี่แจมพูดไว้...

ครับ......

ตึงวันสวัสดิ์...ครับ.....


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.163 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:7:14:30 น.  

 
/emo/emo28.gif>มะกี้จะเขียนว่าภาระ...

เพิ่งตื่นก็จึงเป็นนั้นไปครับ


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.163 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:7:19:06 น.  

 
ไม่เรียบร้อยอีกแระ...เฮ้อ!


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.163 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:7:21:15 น.  

 
ก๊อกๆๆ
สวัสดียาม
กลางคืนขอรับท่าน อิ อิ
*******************


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:22:40:02 น.  

 
เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าครับ.....

ผมไม่ใช่ยามนะเออ...

ผมเป็นเจ้าของบ้าน ครับ.....อิ อิ



โดย: ดาเรน IP: 124.121.171.108 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:23:10:25 น.  

 
ท่านดีนมองไปที่ซ้ายมือ
ด้านบนของบล๊อกก็
จะมีหัวข้องบล๊อก
ต่างๆอะครับ
ตอนนี้อยู่ที่
เรื่อง คลิ๊กนี่ -
คลีนิคร้อย......
โคลงผวน ครับ อิ อิ ลองดู
****************** **

และที่กล่องคอมเม้นต์เหมือนกันขอรับ อิอิ
**************************
ก็มาเคาะสวัสดีไงขอรับ อิ อิ


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:23:41:21 น.  

 
ติ๊ง
หน่อง
มีใครอยู่ไหมคร๊าบบ
*****************


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:14:54:28 น.  

 
ผมชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้ของคุณนะ
ชอบชื่อเรื่อง และลำดับการเล่าเรื่อง อ่านจบแล้วได้แต่ถอนหายใจครับ


โดย: แสง สีรุ้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:17:45:56 น.  

 
ขอบคุณมากครับ คุณแสง...

คุณชื่อเหมือนพ่อของหินเลยครับ...

แต่จะปรากฏอยู่ใน "สโตน เฮนจ์" บทที่ 17 หรือ 18 นี่ละครับ...

อ๊ะ อ๊ะ ...อ่าน "หินสักลาย" ให้จบก่อนนะครับค่อยอ่าน "สโตน เฮนจ์" เพราะเป็นเรื่องต่อเนื่องกันครับ.....

ดีน ครับ.


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.27 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:23:11:31 น.  

 


โดย: my_oom วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:32:38 น.  

 
แวะมาดูเรื่องสั้น.. หกเรื่องเองแฮะ..
มะไหร่จะงอกล่ะพ่อหนุ่ม



โดย: คนที่ดีนก็รู้ว่าใคร IP: 125.25.204.63 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:48:58 น.  

 
ผมลืมรดน้ำอะป้า!


โดย: ดาเรน IP: 124.121.178.45 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:08:44 น.  

 
ไหนอ่ะ มารออ่านเรื่องสั้น
ได้ข่าวว่างอกเอง โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย

ฮี่ฮี่


โดย: คนเดียวกะคอมเม้นท์ 28 IP: 125.25.200.16 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:46:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.