Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าจากบ้านนา - ปีใหม่กับลูกทุ่งพลัดถิ่น



ปีใหม่ กับลูกทุ่งพลัดถิ่น ใกล้จะมาถึงแล้ว เล่าสู่กันฟังดีไหม
ด้วยชะตาชีวิตที่ไม่อาจฝืน ต้องมาทำงานอยู่ในเมืองหลวง ทั้งที่ไม่ได้พิศวาส ความเป็นอยู่ในนี้เลย
แถมตัวเองก็ยังเป็นคนที่ผูกพันธุ์กับท้องถิ่นมากเสียด้วย
เรียนอยู่ต่างจังหวัดจนจบ ปวส. แถมเพื่อนฝูงที่คบกันมาก็คอลูกทุ่ง คนบ้านนาทั้งนั้น
ตัวเองเป็น ลูกข้าราชการแต่เป็นหลานชาวนา ทั้งปู่ย่าตายาย ทำนาทั้งสิ้น

ดังนั้นปีใหม่ หรือวันหยุดยาว.. พวกเราจะได้ของขวัญที่พิเศษ โดยอัตโนมัติ
คือ............. เวลา
ผมเล่าให้เพื่อนฟังว่า "หัวหน้าขอให้กรูอยู่ทำงานช่วงหยุดปีใหม่ แล้วให้ไปหยุดช่วงกุมภาฯ แทน แถมให้เป็นอาทิตย์กว่าเลย"
เพื่อนผมเดาใจผมถูกว่า "ใครจะไปเอาวะ"
เพื่อนผมเข้าใจ หัวหน้าผมไม่เข้าใจ แต่แกก็ไม่ว่าอะไร
ก็ได้หยุดนาน ๆ แต่กลับบ้านแล้วไม่เจอใคร จะไปมีประโยชน์อะไร..

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 11:01:57 ]


ความคิดเห็นที่ 1

//ชั่วโมงแรกแวะตลาดในหมู่บ้าน//
ตาแหวง : "เฮ้ย.. ไอ้เอ็มขาวขึ้นนี่หว่ามรึง"
ยายช่วยขายขนมจีน : "เป็นไงวะ ไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ ได้เมียรึยัง" (ปิดท้ายด้วยขนมจีนน้ำยาน้ำพริกส่งให้หนึ่งชุด)
พี่ตี๋ : (นั่งก๊งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ในร้านกาแฟในตลาด ผมก็เห็นมีที่นี่แหละ ขายกาแฟโบราณ แต่ดันมีคนมานั่งกินเหล้า) อ้าวเอ็ม มาเหนื่อยๆ ชดเชยเหงื่อซะหน่อยเว้ย
ผม : (คิดในใจ แอ้ก.... ร้อนคอชิบ ทำไมกินแก่จังวะ กินไปนิดหน่อยแล้วขอตัว)
หลุดจากค่ายกลพี่ตี๋มาได้ ต้องหาอะไรล้างคอหน่อย ยังไม่ทันเข้าบ้านมีกลิ่นเหล้า เดี๋ยวแม่ด่า.
และที่ไหนจะเหมาะไปกว่าร้านน้องผึ้ง คนที่เป็นขวัญใจตั้งแต่สมัยเรียน
ชื่นชมเธอทุกเช้าตอนนั่งรถไฟเข้าตัวจังหวัดไปเรียนพร้อม ๆ กัน
นั่น เธออยู่นั่น.. เอ๊ะไม่เจอกันไม่กี่เดือน ทำไมดูอ้วนขึ้นเร็วจัง
ผึ้ง : อ้าวพี่เอ็ม มาเมื่อไหร่ นี่เตรียมอะไรไว้รับขวัญหลานด้วยนะอีก 4 เดือน
..............................
ผม : .... (พูดไม่ออก ชัดเลยไม่ต้องถามอะไรแล้ว ไม่กล้าถามด้วยว่าไอ้คนไหนที่มันเอาหัวใจผมไปกระทืบแล้วฉี่รด เดี๋ยวกลับบ้านถามแม่เอา)

อยู่ที่ทำงาน คนรู้จักคือเพื่อนร่วมงาน จำนวนหนึ่ง ได้คุยกันพอให้คลายเหงา
อยู่บ้านแค่เดินตลาดแป๊บเดียว ได้คุยกับคนเป็นสิบ เรื่องที่คุยเป็นร้อย
เรื่องเหงาน่ะ ลืมไว้กรุงเทพฯ เดี๋ยวเลยวันหยุดค่อยกลับไปเอา

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 11:06:26 ]






ความคิดเห็นที่ 2

//ชั่วโมงที่ถึงบ้าน//
ไอ้น้องอิน(ลูกน้องชาย) : ลุงเอ็ม.... (วิ่งตะโกนมาแต่ไกล เข้ามากอดขา ไม่พูดนะแต่มองหน้าแล้วใช้สายตาถาม ประมาณว่าของฝากล่ะ)
ผม : เออ ถ้าไม่มีของฝากนี่จะคิดถึงลุงไหมวะ.. เอ้า (ส่งของเล่นให้)
จากนั้นก็เข้าไปไหว้ พ่อ แม่ และแม่ใหญ่(ยาย)
ของฝาก ของแม่ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าผ่อนซะมาก ของแม่ใหญ่ก็จะเป็นของกิน แต่ต้องพิเศษหน่อยไม่ให้แสลงเบาหวาน ความดัน
ส่วนของพ่อ ไม่ค่อยมี ไม่ใช่ไม่อยากฝากนะ แต่ไม่รู้จะหาอะไรให้
ส่วนใหญ่ก็เลยให้เป็นทัวร์น้ำตกแถวบ้าน ซึ่งดูแกก็ชอบมากกว่าของฝากด้วย
น้องชาย น้องสะใภ้ ไม่ฝาก งบส่วนนี้เป็นของฝากลูกเอ็งไปแล้วนี่
(ใครมีลูกหลานเล็กๆ แนะนำให้ลองไปดูของเล่นแถวสะพานเหล็กครับ ถูกกว่าแถวบ้านเรา ครึ่ง ๆ เลย)

อยู่กรุงเทพ เลิกงาน กลับห้อง กินข้าวดูทีวี นอน
อยู่บ้าน กินข้าวพร้อมกัน 5-6 คน แย่งกันดูทีวี นอนคุยกันจนกว่าจะหลับ สนุกกว่า

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 11:23:05 ]






ความคิดเห็นที่ 3

//เช้าวันแรก//
เดินเข้าป่าไผ่ หาตัดไผ่มาทำว่าว กับไม้โพล๊ะ(ไม่รู้ที่อื่นเรียกอะไรเป็นของเล่นแบบยิง ใช้ลูกปอเป็นกระสุน แถวบ้านผมเรียกแบบนี้)
ของเล่นยอดนิยม ให้หลานกับเพื่อนหลาน ที่จริงขี้เกียจ ว่าจะทำให้หลานคนเดียว
แต่ไอ้หลานมันเอาไปอวดเพื่อนชวนเพื่อนมาขอให้ช่วยทำ
เพื่อนหลาน ก็ลูกเพื่อนเรา ก็เลยเอาวะไม่เป็นไรคนกันเองทั้งนั้น
ส่วนว่าวที่ต้องทำเองไม่ซื้อเพราะ มันเป็นเครื่องแสดงศักดิ์ศรี
ใครตัวใหญ่ ก็เจ๋งกว่าเพื่อน ซึ่งแน่นอน ถ้าอยากได้ใหญ่มันต้องทำเอง
แต่ว่าวทำเอง ก็ขึ้นดีกว่าว่าวซื้อด้วยแหละ
ไม้โพล๊ะ ก็เหมือนกัน ใครยิงได้ดังกว่า แรงกว่า ก็จะได้รับการยกย่อง
บางทีก็คุยทับกัน "พ่อกรูทำแน่กว่า แรงควันออกปากเลย" "เฮ่ยต้องลุงกรูสิ ยิงเฉียดเนื้อนี่ไหม้เลยนะมรึง"
(ค่อนข้างอันตรายนะครับ ลูกหลานใครเล่นดูกันหน่อยก็ดี)
สองอย่างนี้นับว่าเป็นของเล่นคู่วันปีใหม่เลย เพราะลมว่าวก็มาช่วงนี้ ลูกปอก็มีหน้านี้ แถมคนทำก็กลับบ้านช่วงนี้อีก
ท้องนาบางที่ ก็จะกลายสภาพเป็นสนามเด็กเล่น เพราะเขาเกี่ยวข้าวแล้ว

อยู่กรุงเทพฯ เห็นหัวหน้า เห็นเพื่อนซื้อของเล่นให้ลูก
อยู่บ้านทำของเล่นให้หลาน ของเล่นทำเองถูกกว่า อยู่ได้นานกว่า อาจจะสนุกกว่าเพราะเป็นของที่เล่นพร้อมกันได้หลายคน

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 11:50:07 ]






ความคิดเห็นที่ 4

//บ่ายวันแรก//
เริ่มกิจกรรมผู้ใหญ่ ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมดังนี้
1. แคร่ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใต้ต้นมะขาม ข้างทางเข้าหมู่บ้าน หน้าบ้านไอ้ผู้ใหญ่(ที่เรียกอย่างนี้เพราะไอ้โจเพื่อนเรียนวิทยาลัยเทคนิคด้วยกัน หันเหทางเดินมาเป็นนักการเมืองท้องถิ่นรั้งตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอยู่ตอนนี้)
2.สายไฟยาวพอจะลากจากบ้านไอ้ผู้ใหญ่มาที่แคร่
3.เครื่องเสียงคอมโบขนาดประมาณ ข้ามคลองยังฟังได้
4.เครื่องคอมพิวเตอร์(ฮ่า ๆ บ้านนอกทันสมัยนะครับ ประทานโทษ) พร้อมโปรแกรมคาราโอเกะ อย่าถามเรื่องลิขสิทธิ์
5. อาหารอันประกอบด้วย ข้าวเหนียวหนึ่งกระติก(ไม่ได้เขียนผิด) ลาบหมูและเนื้อ ไก่ย่าง คอหมูย่าง เนื้อย่าง ก้อยเนื้อ(ขมๆ) ซุปสามช่า คือ หน่อไม้ เห็ดโคน เห็ดกระด้าง ส้มตำซึ่งมักเตรียมแค่วัตถุดิบและอุปกรณ์ อาศัยเมียเพื่อนตำกันระหว่างกิจกรรมนั้นเลย ) และอื่น ๆ ตามแต่จะเห็นสมควร
6.เครื่องดื่มอันประกอบด้วย ตรารวงข้าวสำหรับรุ่นใหญ่ น้ำขาว(ถ้าใครเขาหมักเตรียมไว้) ตราช้าง ตราสิงห์ สำหรับรุ่นเล็ก และอื่น ๆ ตามรสนิยม รวมทั้งเครื่องผสม เช่น น้ำแข็ง โซดา น้ำอัดลม ซึ่งนอกจากใช้ผสมแล้วยังไว้ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ใกล้ และเหล่าภรรยา
7.ญาติสนิท มิตรสหาย ที่นาน ๆ เจอกันที บางคนไปต่างจังหวัด บางคนอยู่กรุงเทพฯ นาน ๆ พวกเมืองนอกก็มาซักที เพื่อนเคยเรียนด้วยกัน เคยบวชวัดเดียวกัน เคยเที่ยวงานวัดด้วยกัน ไม่จำกัดเพศจำกัดวัย ญาติผู้ใหญ่ที่ยังอยากเฮฮา
8.อากาศช่วงปีใหม่ ซึ่งถึงนั่งกลางแดด ตอนบ่าย ๆ ก็ไม่ร้อน

สิ่งเหล่านี้ไม่มีทางหาได้ครบเลยในเมืองหลวง

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 12:52:52 ]






ความคิดเห็นที่ 5

/บ่ายวันแรก//(เริ่มกิจกรรม)
เมื่อเตรียมอุปกรณ์และทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว
ก็นั่งล้อมวง รินสุรา แจกจ่ายอาหาร ใครขยันพูดหน่อย ก็ถือไมค์ไว้คอยแซวคนโน้นคนนี้(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผม กับไอ้ผู้ใหญ่เพราะผ่านงานโฆษกล้วงไห,สอยดาว กันมาแล้วทั้งคู่)
สลับกับ การร้องเพลงของบรรดาสมาชิก ซึ่งเพลงที่ร้องส่วนใหญ่ก็เพลงลูกทุ่ง
มีสตริง เพลงวัยรุ่น เพลงลูกกรุง เพื่อชีวิต แม้แต่เพลงสากล มาผสมบ้าง

ไอ้ผู้ใหญ่ : เฮ้ยมรึงดูซิใครมา
ผม : อ้าว.... จะใคร พี่จ้อยนี่ไง เป็นไงมั่งพี่ตั้งกะแต่งกะน้องไหมเมื่อกลางปีไม่ได้เจอกันเลย
ไอ้ผู้ใหญ่ : มรึงจะถามเขาทำไมว่าเป็นไง ดูซิผอมแห้งขนาดนี้ กรูว่ามีความสุขไม่เว้นวันเว้นคืนล่ะเว้ย
ผม : เออว่ะ น้องไหม ก็นางสงกรานต์ประจำตำบลเลยนะเว้ย
พี่จ้อย : เฮ่ย มรึงสองคนจะแซวกรูก็วางไมค์ก่อนสิวะ กลัวชาวบ้านเขาจะไม่รู้หรือไง....

อยู่กรุงเทพฯ ทำอย่างนี้เป็นได้ต่อยกับห้องข้างๆ แน่ ข้อหารบกวน
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 00:05:58

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 13:07:51 ]







ความคิดเห็นที่ 6

/เกือบเย็นวันแรก//
ไอ้ผู้ใหญ่ : พ่อแม่พี่น้องครับใครมีลูกสาว ฟังทางนี้ครับ เพื่อนผมคนนี้ยังไม่มีเมีย...
ผม : อ้าวเฮ้ย เล่นกันเองซะแล้วหรือมรึง
ไอ้ผู้ใหญ่ : ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้นะครับพ่อแม่พี่น้อง เพียงแต่มันตั้งมาตรฐานไว้ ต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อยสี่ข้อ
สมาชิกวง : หนึ่ง
ไอ้ผู้ใหญ่ : สวย
สมาชิกวง : สอง
ไอ้ผู้ใหญ่ : รวย
สมาชิกวง : สาม
ไอ้ผู้ใหญ่ : เก่ง
สมาชิกวง : สี่
ไอ้ผู้ใหญ่ : ใฝ่ต่ำ!
สมาชิกวง : อ้าวทำไมงั้นล่ะผู้ใหญ่
ไอ้ผู้ใหญ่ : อ้าว ถ้าสวยรวยเก่ง แล้วไม่ใฝ่ต่ำ จะมีใครเอามันรึ
ผม : พอเลยมรึง เมาแล้วก็ไปนอน

ร้องเพลงมั่งหยุดแซวกันมั่ง ทั้งคืนมีสมาชิกเปลี่ยนหน้ากันมาเรื่อย แต่ละคนก็มีอาหารเครื่องดื่มติดมือมา จึงทำให้กิจกรรมดำเนินไปได้ไม่มีขาดตอน
ส่วนผม หลานวิ่งมาตาม บอกว่าย่า(แม่ผม)ให้กลับบ้านเตรียมของทำบุญพรุ่งนี้ เลยนั่งอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่

อยู่กรุงเทพฯ ดูวีซีดี ตลกค่าเฟ่
อยู่บ้านเล่นตลกค่าเฟ่ ให้ลุงป้าน้าอา ดู

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 13:25:02 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ขอบคุณนะค่ะ ที่เอาบรรยากาศมาฝากกัน

อ่านเพลินไปเลย

อ่านแล้วยิ้มตามไปด้วย

จากคุณ : ชมพู่มะเหมี่ยว - [ 17 พ.ย. 49 14:46:05 ]






ความคิดเห็นที่ 8

บอกได้คำเดียวว่าอิจฉาค่ะ

อยู่ กทม.แต่กำเนิด

ไม่เคยเจอบรรยากาศแบบที่คุณเล่าสักครั้ง

เห็นเพื่อนๆ อยู่ ตจว. มีแต่ความอิจฉา

คุยกับเพื่อน ตจว. เขาก็หาว่าเหมือนคุณหนู

กทม.มันมีอะไรทุกอย่างเกือบครบ
แทบไม่ต้องทำอะไร ไป ตจว.จึงทำอะไรไม่ค่อยเป็น
ไม่ได้ดัดจริต แต่ไม่กล้าจะทำมากกว่า
กลัวทำแล้วไม่ถูก...
เลยเหมือนคนทำอะไรไม่เป็น

เฮ้อ....อยากเกิดเป็นคน ตจว.จิงๆ
หรือไม่ก็...หา....เป็นคน ตจว. เนอะ
จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบคุณเล่า

เริ่มแต่ปีหน้าแล้วกัน...อิอิ
ปีนี้แห้วแล้วนี่

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 17 พ.ย. 49 15:26:25 ]






ความคิดเห็นที่ 9

ขอบคุณ จขกท.ที่มาเล่าเรื่องราวให้เราได้ตาร้อนผ่าวๆ

ชีวิตช่วงปีใหม่ก็คงคล้ายๆ น้องsunny-low เพราะเป็นคนกรุงเช่นกัน
ที่ผ่านมาเวลาในช่วงปีใหม่เหมือนถูกทิ้งให้ลอยขว้างอยู่ในป่า(คอนกรีต)
แม้ว่าก่อนวันขึ้นปีใหม่จะมีงานเลี้ยงทั้งของที่ทำงานและที่บ้าน
ให้ได้เฮฮาปาร์ตี้...อิ่มรส กลิ่น เสียงกันพอกระดี๊กระด๊ากับหมู่เพื่อนๆ
ในที่ทำงานและสมาชิกในครอบครัว...แต่พองานเลี้ยงเลิกรา
ทุกคนก็สลายโต๋หายจ้อยไป..รอบข้างจึงดูเงียบกริบเหมือนป่าช้า
เพื่อนสนิททั้งที่ทำงานและส่วนตัวส่วนใหญ่จะเป็นคน ตจว.วันหยุดยาว
จึงกลับบ้านไปกราบบุพการีและพบปะญาติพี่น้องฉลองวันรับพศ.ใหม่
ส่วนบางคนเขาก็ไปเที่ยว ตจว.กับครอบครัวแสนสุขสันต์บันเทิง
"ฉันก็มีครอบครัวเหมือนกันนะ" ไอ้เราก็คิดอยากจะชวนกันไปเที่ยวบ้าง
พอถึงวัน...เจ้าน้องชายทุกคนไม่มีใครว่าง....พาแฟนไปเที่ยว...ซะงั้น
"แล้วฉันหล่ะ" คิดแล้วก็อยากร้องไห้..เหลียวซ้ายแลขวา...เห็นหมาอยู่ 2 ตัว
นั่นแหล่ะเพื่อนเล่นยามเหงา...ปีที่แล้วเอาไวน์มานั่งจิบรอเวลา 00.00 น.
ของวันที่ 1 มกราคม...เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลาจัดการเทไวน์ให้เพื่อนยาก
ขออภัยลืมแนะนำชื่อไป...ตัวหนึ่งชื่อแม่เต้าฮวย สาวร่างอวบจากเมืองสองแคว
กับแม่คอฟฟี่ สาวตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ยที่อิมพอร์ตจากเมืองจีน...
ทั้ง 2 ตัวลิ้มรสหวานของไวน์...แล้วเดินตุปัดตุเป๋ไม่พูดไม่จาไปนอนซะเฉย
ปล่อยเรานั่งจิบไวน์ใต้แสงจันทร์....ฟังเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องร่ำ
(บางทีเจ้าอึ่งก็ช่วยเสริมเป็นคอรัสให้ด้วย)

"ไชโยๆ...........ปีใหม่"...............ปีนี้จะไม่เหมือนปีก่อนเพราะวางแผนไว้แล้ว
ปีนี้จะปล่อยเจ้า 2 เพื่อนซี้ให้ระริกระรี้ฉลองกันเอง...แล้วบินข้ามไปฮานอย
ไปคนเดียวไม่มีใคร.....แต่ขอให้ได้ไป....ดีกว่าอยู่เปล่าๆ คนเดียว
"มันเหงาว้อยยยยยยยยยยย........อุ๊บ....ขออภัยในความไม่สุภาพ อิอิอิ"

จากคุณ : กระแตไทย - [ 17 พ.ย. 49 16:05:39 ]






ความคิดเห็นที่ 10

นานๆคนกรุงเทพฯกลับมาเยี่ยมบ้าน

คนทางบ้านก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

ตอนผมเป็นเด็ก ก็รอพี่ชาย พี่สาวที่ไปทำงานกรุงเทพฯ

จะมา ปีใหม่ ตรุษจีน หรือไม่ก็สงกรานต์

จะมีอะไรมาฝากเราบ้างหนอ

พอเค้ากลับไปกรุงเทพฯก็แอบร้องไห้เล็กๆ

แล้วก็รอ ปีหน้า ต่อไป

จากคุณ : p เสื้อเหลือง - [ 17 พ.ย. 49 17:45:50 ]






ความคิดเห็นที่ 11

//เช้าวันที่สอง//
ใส่บาตรหน้าที่ว่าการอำเภอแต่เช้า
ทางอำเภอนิมนต์พระมาจากเกือบทุกวัด
รับบิณฑบาตรข้าวสารอาหารแห้งในโอกาสที่ประชาชน
ในอำเภอมาร่วมทำบุญกันปีใหม่
หนุ่มสาวหลายคนที่ปกติไปเรียนหรือทำงานอยู่ต่าง ถิ่น
จะได้เจอกันก็งานนี้แหละ

หลวงพี่รงค์ : ว่าไงทิดสบายดีหรือ ไม่ค่อยเห็นหน้าเลยนี่ ตั้งแต่สงกรานต์
ผม : สบายดีครับหลวงพี่ แต่สู้หลวงพี่ไม่ได้มังครับ
หลวงพี่รงค์ : เฮ่ยไอ้นี่ พระก็ใช่จะสบายนะ รักษาศีลน่ะ คิดว่าเรื่องง่ายรึ ถ้าง่ายตอนทิดบวชน่ะ แหกพรรษาซะทำไม
ผม : เอ่อ.. ก็ผ้าเหลืองมันร้อนวูบวาบ ๆ ผมทนไม่ไหวก็ต้องเผ่นซะน่ะสิ เหอะน่าหลวงพี่ ยังได้ตั้งเดือนกว่าล่ะน่า..

มีเวลาสนทนากันแค่นั้นเพราะท่านเดินอยู่ในแถวพระที่ต้องเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อรับบิณฑบาตร

อยู่กรุงเทพฯ มีวัดอยู่ทุกแขวงทุกเขต หาเวลาไปไม่ได้
อยู่บ้านบางทีก็ไปวัด บางทีวัดก็มาหา(หมายถึงพระท่านมีกิจนิมนต์ไปบ้านโน้นบ้านนี้เจอกันอยู่เรื่อย)
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 17:51:23

แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 49 17:50:40

จากคุณ : บ้านน้อกบ้านนอก (บ้านนอกไฮโซ) - [ 17 พ.ย. 49 17:49:21 ]







ความคิดเห็นที่ 12

เอ๊ะ คุณกระแตฯ ที่พระท่านบอกว่า หมาไม่กินเหล้า ก็ไม่จริงน่ะสิ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 17 พ.ย. 49 17:52:55 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ฟังเพลงนี้ไปด้วยจะได้บรรยากาศ

//www.sayanfanclub.com/music03.htm

จากคุณ : p เสื้อเหลือง - [ 17 พ.ย. 49 18:03:34 ]






ความคิดเห็นที่ 14

เห็นใจคุณ s (sunny-low) และทุกท่านที่อยู่ในสถานะเดียวกัน
แต่คิดในมุมนึง ทุกวันคุณกลับบ้านก็เจอครอบครัวแล้ว
ก็เป็นความอบอุ่นที่ดีใช่ไหมล่ะครับ

แต่พวกผมไม่ใช่อย่างนั้น ก็แตกต่างกันไป

ขอบคุณ "ภูธรที่รัก" จากพี่ p เสื้อเหลือง ครับ

ยังไม่ถึงเวลากลับกรุงเทพ แต่ง่วงแล้วล่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ(ถ้ายังไม่มีใครบ่นขี้เกียจอ่านน่ะนะ)

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 00:38:11 ]






ความคิดเห็นที่ 15

คำว่า "ครอบครัว" ใน กทม.กับครอบครัวใน ตจว.
ไม่เหมือนกันหรอกนะคะ
สังคม กทม.เป็นสังคมโดดเดี่ยว ส่วนมากจะคล้ายๆ กับฝรั่งคือ แยกไปอยู่กันเอง เพื่อความสะดวกในการทำงาน หรือเพราะความรักในอิสระ หรือเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม

ดังนั้น หลายๆ ครอบครัวจะเหมือนที่พี่กระแตเล่า คือ จะพบกันเฉพาะกิจแบบชั่วคราวในเทศกาลสำคัญและแยกกันตามทางที่ตัวเองตั้งไว้ว่าจะทำอะไร

บรรยากาศที่คุณบ้านนอกฯ เล่า สำหรับชีวิตการทำงานใน กทม.ช่วงวันปกติ คือ เช้าไปทำงาน เลิกงานกลับบ้าน
ดูทีวี และฟังเพลง คนกทม.หลายๆ คนก็เป็นเช่นกัน ใช่ว่ากลับมาได้เจอครอบครัวทุกคนหรอกค่ะ แต่บางคนอาจจะชอบ เพราะความเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางและการทำงาน การอยู่คนเดียว มันก็ทำให้อิสระที่จะทำอะไรก็ได้เมื่อถึงบ้าน อยากนอนก็นอน อยากไปเที่ยวก็ไป จนกลายเป็นความเคยชินกับการไม่มีครอบครัว

และถึงแม้บางครอบครัวจะอยู่ด้วยกัน แต่กว่าจะเจอหน้าพร้อมกันพ่อแม่ลูก ก็ใช่ว่าจะพบเห็นได้ทุกครอบครัวนะคะ ครอบครัว กทม.หลายๆ ครอบครัวไม่อบอุ่นเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะชีวิตที่รีบเร่ง ทำให้หลายๆ คนลืมครอบครัวมังคะ

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 18 พ.ย. 49 06:41:49 ]






ความคิดเห็นที่ 16

อ่านซะเพลินเลย ทั้งเรื่องราวและคอมเม้นท์

ว่าแล้ว สิ้นเดือนนี้กลับบ้านดีกว่า

จากคุณ : ปะหล่อง - [ 18 พ.ย. 49 11:10:39 ]






ความคิดเห็นที่ 17

ที่คุณ sunny-low ว่ามา ก็เป็นอีกมุมนึง
ที่ผมยังไม่เคยสัมผัส ขอบคุณครับที่แลกเปลี่ยนกันฟัง
คิดว่ามีครอบครัวอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ จะดีกว่าลูกทุ่งพลัดถิ่นอย่างเรา ซะทั้งหมด ก็ไม่แน่เสมอไปเนอะ

แต่... อย่างผมก็ไม่ได้สนุกสนานเฮฮาตลอดนะครับ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากหลายปี แล้วเอามาผสมกัน เดี๋ยวเล่าใกล้จบแล้วจะนำเสนออีกแง่มุมนึงที่ไม่สนุกแต่ก็ให้ข้อคิด ลองฟังดูแล้วกันครับ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 13:03:32 ]






ความคิดเห็นที่ 18

//บ่ายวันที่สอง//
ตั้งใจไว้แล้วว่าของฝากที่ให้พ่อ คือการนำเที่ยวน้ำตกแถวบ้าน
ซึ่งบ้านผมแม้จะไม่ได้อยู่จังหวัดนครนายกแต่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่
ก็เลยขนพ่อแม่พี่น้องลูกหลาน แล้วชวนบ้านน้าที่อยู่ใกล้ ๆ กันไปด้วยรถกระบะจำนวนสองคัน (ไม่มีใครต้องนั่งกระบะท้าย)
บางทีก็ไปสาลิกา บางทีก็ไปวังตะไคร้

ภาพที่เด็ก ๆ ลูกหลานอยากเห็นคือน้ำตก ที่เล่นน้ำ ไอ้หลานผมตื่นเต้นถึงกับนอนไม่หลับในคืนก่อนไป
แถมเช้าวันใส่บาตรก็กระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข คงคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะไปซะทีว้า...

ส่วนภาพที่พวกผู้ใหญ่อยากเห็นมีเพิ่มเข้าไปอีกอย่างคือ ภาพที่ไอ้ตัวน้อยทั้งหลายมันได้เจอน้ำตก ได้เล่นน้ำ
กระดี่ได้น้ำจริง ๆ เลย ครับพี่น้อง

เบาใจหน่อยตรงที่ว่า บ้านผมอยู่ติดแม่น้ำปราจีนบุรี(แม่น้ำที่มารวมกับแม่น้ำนครนายกแล้วเป็นแม่น้ำบางปะกง)
เด็กแถวบ้านผม นี่มีคนพูดติดตลกว่า เด็กแถวนี้ว่ายน้ำเป็นก่อนเดินได้ซะอีก ก็เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องอุบัติเหตุเท่าไร
(แต่ก็ประมาทไม่ได้นะครับ)
เด็ก ๆ ก็เล่นน้ำไป ให้ผู้ใหญ่นั่งดู เพลินใจด้วยกันทั้งสองรุ่น
หิวก็พักมากินข้าว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก ซึ่งหาได้ง่ายมาก แถวนั้น
แปลกใจเหมือนกัน ทำไมต้องเป็นอาหารแนวนี้ แต่ก็ได้กินทุกทีที่ไป

อากาศเย็นสบายแม้จะถูกแดด
ในน้ำยิ่งเย็นเข้าไปใหญ่
แต่เด็ก ๆ ก็ยังสามารถลงไปแช่ในน้ำได้
เล่นไล่จับ ไล่ปล้ำกันจนแต่ละคนไม่มีใครหนาว
ส่วนเรา ไม่เอาด้วยล่ะ แค่ได้กลิ่นน้ำตก(ไม่ใช่เนื้อย่างติดมันนะ) ได้เห็นน้ำเห็นต้นไม้ เปลี่ยนที่กินข้าว เห็นรอยยิ้มได้ยินเสียงหัวเราะ แค่นี้ก็พอแล้ว

ไปเที่ยวตอนอยู่กรุงเทพฯ แปลกที่ แปลกคน
กลับบ้านแล้วไปเที่ยว ก็แปลกที่ แต่คุ้นคน

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 13:31:38 ]






ความคิดเห็นที่ 19

//เช้าวันต่อมา//
ผม : เออแม่.. ไอ้ผึ้งมันได้กับใคร
แม่ : (หันมาจ้องหน้าผมอย่างประหลาดใจ) นี่มรึงเมามากขนาดนี้เลยหรือ วันก่อนที่มรึงบอกกรูว่าจะไปกินกับไอ้ผู้ใหญ่น่ะ ตกลงมรึงไปไหนกันแน่

ผมได้คำตอบเป็นคำถามกลับมาแบบนี้ ทำให้เกิดคำถามเพิ่มอีกหลายคำถามในหัว แต่ทุกคำถามก็ทยอยคายคำตอบด้วยตัวมันเองออกมา

เจอไอ้ผึ้งเมื่อไหร่ - เจอตอนไปซื้อน้ำตอนมาถึง กับที่บ้านไอ้ผู้ใหญ่แป๊บนึง
มันไปทำอะไรบ้านไอ้ผู้ใหญ่ - อ้าว ก็ตาชุมพ่อมันนั่งกินเหล้าอยู่กับเรา ก็คงมีธุระไปหากันมั่ง เห็นถือกับข้าวกับปลามาร่วมวงด้วยนี่หว่า
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นลูกเขยตาชุม - ก็เย็นนี้นัดรวมพลกันอีกทีเดี๋ยวถามตาชุมเอาก็ได้ ว่าได้ใครเป็นลูกเขย
แล้วทำไมแม่ถึงพูดอย่างกะเราไม่ได้ไปบ้านไอ้ผู้ใหญ่ทั้งๆ ที่เราก็ไป - ไม่รู้ว่ะ..

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 13:45:46 ]






ความคิดเห็นที่ 20

//เย็นวันต่อมา//(เย็นก่อนคืนสุดท้ายที่ได้นอนบ้าน)
หลังจากที่ผมได้เฉลยทั้งหมดโดยบังเอิญจากไอ้น้อย เด็กวัดคอยถือปิ่นโตตามผมตอนบวช ตอนนี้โดนทหารได้ยังไม่ถึงปี
ได้หยุดกลับบ้านเหมือนกัน

ไอ้น้อย : พี่เอ็มเป็นไง กำลังจะไปบ้านพี่โจเหมือนกันหรือเปล่า ไปด้วยสิพี่
ผม : เออ.. มาสิ เป็นไงมรึง ฝึกหนักไหม
ไอ้น้อย : ก็หนักแต่น้อยกว่าที่กลัวก่อนหน้านี้ เออ.. มีเมียหรือยังล่ะพี่
ผม : ยังโว้ย.. ทำไมชอบถามกันนักวะ
ไอ้น้อย : เอ๊า.. ก็ทีพี่โจซี้ๆ กันเขายังสอยไอ้ผึ้งไปแล้วเลย!!!!

ไอ้น้อยพูดว่าอะไรหลังจากนั้นจำไม่ได้
มิน่า เห็นไอ้ผึ้งที่บ้านไอ้ผู้ใหญ่วันก่อน ไม่เห็นว่ามันมาทางไหน ไปทางไหน
มิน่า ตาชุมนาน ๆ จะได้มานั่งกินด้วยกันซักที นั่งก็นั่งไม่นาน วันนั้นอยู่นานผิดปกติ

ไอ้ผู้ใหญ่.. ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด .........

ไอ้ผู้ใหญ่ : (ถือไมค์พูด) อ้าว... พิธีกรทำไมมาช้าจังเฮ่ย.. มาทางนี้เลย ไปทำอะไรอยู่วะเพื่อน
ผม : ใครเพื่อนมรึง เพื่อนเขาทำกันอย่างนี้หรือวะ
ไอ้ผู้ใหญ่ : ทำอะไรวะ
ผม : มรึงชอบพอกันตั้งแต่เมื่อไหร่
ไอ้ผู้ใหญ่ : (วางไมค์แล้วพูดกับผม) เอ๊ะ.. อ๋อ... ไอ้ผึ้งน่ะ ก็ตั้งแต่มรึงไปกรุงเทพฯ ได้ปี
ผม : แล้วเมื่อวานทำไมมรึงไม่บอกกรู ไอ้...
ไอ้ผู้ใหญ่ : ก็กรูนึกว่ามรึงรู้แล้ว ถึงบ้านตั้งวันนึงแล้วนี่
ผม : (จ้องมองมันประหนึ่งว่าจะเผานั่งยางมันทั้งครอบครัว แล้วหยิบไมค์ขึ้นมาหันหน้าไปทางวงเหล้าและชาวบ้านที่มายืนดูเราทะเลาะกัน)
ผม : พ่อแม่พี่น้อง ดูเอาเถอะครับ ไอ้คนอย่างนี้น่ะหรือจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้นำชุมชน
ไอ้ผู้ใหญ่ : (หน้าถอดสี)
ผม : แค่เพื่อนเก่าแกล้งทำเป็นโกรธ อำเล่นนิดหน่อย ก็หน้าซีดแล้ว บ้าเอ๊ย.... (เปลี่ยนสีหน้าแสดงอารมณ์จริงออกมา แล้วมองอย่างเย้ยหยัน ที่อำมันได้สำเร็จ)
ไอ้ผู้ใหญ่ : โหย ไอ้ฟาย...... ไอ้ ship hide กรูไม่ได้กลัวมรึงโกรธหรอกโว้ย กรูกลัวมรึงจะร้องไห้ฟูมฟายไม่เป็นผู้เป็นคนเหมือนตอนไอ้แก้วหักอกมรึงน่ะ
ผม : อ๊ะไอ้นี้เสียท่าแล้วขุดเอาความหลังมาเล่น เมาซะเถอะมรึง(ด่าย้อน พร้อมส่งแก้วให้)
ไอ้ผู้ใหญ่ : แล้วมรึงคิดว่ามรึงจะรอดหรือ คืนนี้นอนเป็นเพื่อนอีอ่อน(วัวของพ่อมัน) ซะดีดี(ย้อนกลับ พร้อมส่งอีกแก้วคืนมาให้ผม)

คืนนี้กิจกรรมเปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อย
อาหารเปลี่ยนเป็นสุกี้ชุมชน คือตั้งหม้อพร้อมเตาถ่านเล็ก ๆ ไว้ วงละหม้อ เนื้อผัก เป็นอะไร แล้วแต่สมาชิกวงจะหิ้วมา น้ำจิ้มสุกี้สูตรเด็ด ที่เอ็มเคไม่กล้าทำ ฮอทพอทไม่กล้าขาย แต่ถูกใจชาวบ้านเหลือเกิน
การแสดงบนเวที เปลี่ยนจากตลกคาเฟ่ เป็นโต้วาทีระหว่างผมกับไอ้ผู้ใหญ่

รู้สึกตัวอีกทีตอนเช้า ไอ้ผึ้งกำลังเข้าครัวต้มข้าวต้ม เลี้ยงผมกับสามีที่รักอยู่
ไม่รู้เมื่อคืนไปนอนที่ไหน เพราะพอผมรู้สึกตัวก็เห็นว่าผมนอนกอดกับผัวมันอยู่ในห้องมัน(ไอ้น้อยเล่าให้ฟังทีหลังว่าลูกบ้านช่วยกันหามพ่อผู้ใหญ่ที่เคารพกับหนุ่มกรุงเทพฯ ผู้ทันสมัย ซึ่งสิ้นสติไปแล้วทั้งคู่ จากวงเหล้าขึ้นไปนอน)

อยู่กรุงเทพฯ ทำอย่างนี้ไม่รู้จะได้ตื่นที่ไหน
(ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดี อันนี้ก็ทราบอยู่ครับ และปีนั้นปีเดียว ปีต่อไปไม่ถึงขนาดนั้นแล้วครับ)
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 00:10:37

แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 15:39:01

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 15:01:38 ]







ความคิดเห็นที่ 21

//สายวันต่อมา//
ผม โดนแม่ด่า
ไอ้ผู้ใหญ่ เมียด่า

กลับบ้านเที่ยวนี้คุ้ม ได้จากพ่อจากแม่ทั้งคำอวยพรทั้งคำด่า

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 15:04:48 ]






ความคิดเห็นที่ 22

//ชั่วโมงก่อนเข้ากรุงเทพ//
ผม : พ่อแม่ ไปเน้อ สวัสดีครับ
พ่อแม่ : เออบุญรักษาลูกไปดีมาดี
ผม : แม่ใหญ่ ไปนะแม่ อย่าแอบกินขนมนะ
แม่ใหญ่ : แหมกรูไม่ใช่เด็ก นะโว้ย เออไปเถอะ กรูแก่มากแล้วนะโว้ย จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จะได้เห็นลูกมรึงไหม
ผม : ไอ้อินคนเดียวยังปวดหัวไม่พอใช่ไหมแม่
ผม : ไปแล้วว่ะ
น้องชาย : เออ..
น้องสะใภ้ : จ้ะ
ผม : (ลูบหัวไอ้น้องอิน แล้วดึงเข้ามากอด)
ไอ้น้องอิน : (เสียงสั่น ๆ) ลุง... คราวหน้าเอาเรือนะ รถมีหลายคันแล้ว
ผม : (คิดในใจว่า มันคงใจหายและคิดถึงเราแหละ แต่ก็พูดไปประสาเด็ก)

ควบโคโรล่าปีเก้าสี่คู่ชีพ เข้ากรุงเทพฯ สู้ชีวิตต่อ
ด้วยสภาพที่เหมือนถ่านไฟชาร์จเต็มที่
แม้จะใจหายที่ต้องจากบ้านอีกครั้ง
เอื้อมมือไปเปิดเพลงฟังในรถ
เจอเพลง หนาวแสงนีออน ของน้องแตน
ทำไมแทงใจอย่างนี้ฟะ.....

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 15:17:38 ]






ความคิดเห็นที่ 23

///ส่งท้าย///
ใครที่ไม่อยากรับรู้เรื่องสะเทือนใจกรุณาข้ามความเห็นนี้ไปครับ

ที่ผ่านมาผมเล่าให้ฟังเฉพาะมุมที่เป็นความสุขความอบอุ่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ต่อไปนี้เป็นความจริงอีกด้านนึงที่เกิดขึ้น


















ก่อนนั้นเราไม่ได้ยึดทางเข้าหมู่บ้านซึ่งแยกมาจากถนนใหญ่ไกลมาก เป็นที่สังสรรค์ แต่เพราะมีอยู่ปีหนึ่งมีรถกระบะที่ขับโดยผู้ขับเมาสุราพุ่งจากถนนใหญ่ลงมาหากลุ่มคนซึ่งกำลังฉลองปีใหม่อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ ห้าสิบเมตรซึ่งเราก็เคยคิดว่าไกลพอแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีหลายครอบครัวที่สูญเสียสมาชิกไป

มีอยู่บ้านหนึ่งในหมู่บ้านผม
ลูกสาวไปเรียนกรุงเทพฯ
แล้วก็ออกจากโรงเรียนที่กรุงเทพฯ
แล้วก็ทำงานอะไรไม่รู้ในกรุงเทพฯ
แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไปที่กรุงเทพฯ
แล้วก็มีข่าวคราวใหม่ตอนใกล้ปีใหม่ส่งมาจากกรุงเทพฯ
บอกว่าเธอเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่กรุงเทพฯ

พี่แมวในตลาดเลี้ยงลูกสองคน โดยไม่มีพ่อของลูก
ตั้งแต่พี่ศักดิ์ตายในรถตู้โดยสาร
ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่




















สวัสดีปีใหม่ ล่วงหน้าครับ
ขอให้โชคดีไม่มีความประมาทครับ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 18 พ.ย. 49 15:37:10 ]






ความคิดเห็นที่ 24

แหม ได้อ่านเรื่องสั้นที่สุดแสนจะยอดเยี่ยม

คุณบ้านนอกไฮโซ เขียนหนังสือขายได้เลยนะเนี่ย

ชอบครับชอบ

อ่านแล้วนึกภาพออกตลอดเรื่อง มีการเล่า มีการสรุป สนุกดี

จากคุณ : p เสื้อเหลือง - [ 18 พ.ย. 49 16:34:33 ]






ความคิดเห็นที่ 25

เรียนเจ้าของกระทู้


ระวังมีคนลอกมุขไปเขียนหนังสือขายนะครับ
กำลังฮิตๆ อยู่ด้วย เรื่องลอกเนี่ย
เขียนจังหวะจะโคนดีซะประมาณนี้
ทั้งหมดนั้นเอาไปขยายเป็นเรื่องสั้นได้ตั้งหลายเรื่อง
รวมได้เป็นเล่มเชียวแหละ
ฮาทุกเรื่องซะด้วย

ชวนให้คิดถึงบ้านจริงๆ


เฮ้อ!



คิดถึงบ้านจัง
ไม่ได้กลับมาตั้งอาทิตย์นึงแล้ว



อิ อิ



กลับบ้านทุกอาทิตย์แหละครับ


อิ อิ อิ




ดีใจครับที่ได้อ่าน

จากคุณ : หัวใจไข้ขึ้น - [ 18 พ.ย. 49 16:43:21 ]






ความคิดเห็นที่ 26

เขียน ได้อ่านน่าสนุกจริงๆ ค่ะ
บรรยากาศ เหมือนอยู่บ้านนอก มากๆๆๆ
ทั้งๆ ที่อาจจะไม่ไกลกรุงเทพเท่าไร่เลย
ได้บรรยากาศดีจริงๆ

ขอเข้ามาชมอีกครั้ง
ตามอ่านทุกวันเลยนะนี่
อิอิ..

ปล....คุณลุงหัวใจค่ะ
มีคนตามหานะค่ะ
อย่าหายไปนานๆ สิค่ะ

จากคุณ : ชมพู่มะเหมี่ยว - [ 18 พ.ย. 49 17:27:58 ]






ความคิดเห็นที่ 27

เห็นด้วยกับคุณพีฯและคุณหัวใจฯค่ะ..ข้อเขียนของคุณบ้านนอกฯ
ให้แง่คิดอะไรได้หลายๆ มุมเลยทีเดียว นอกจากแง่คิดสำนึกรักบ้านเกิดแล้ว
ยังแง่คิดในเรื่องเมาแล้วไม่ขับ....และสุดท้ายที่อ่านแล้วสะท้อนใจ
ในฐานะคนกรุงเทพฯ กับเรื่องที่ว่า..............

มีอยู่บ้านหนึ่งในหมู่บ้านผม
ลูกสาวไปเรียนกรุงเทพฯ
แล้วก็ออกจากโรงเรียนที่กรุงเทพฯ
แล้วก็ทำงานอะไรไม่รู้ในกรุงเทพฯ
แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไปที่กรุงเทพฯ
แล้วก็มีข่าวคราวใหม่ตอนใกล้ปีใหม่ส่งมาจากกรุงเทพฯ
บอกว่าเธอเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่กรุงเทพฯ

ทุกอย่างสูญสิ้นและสูญเสียในกรุงเทพฯ...ดูเหมือนว่ากรุงเทพฯ
จะกลายเป็นดินแดนแห่งความชั่วร้าย..แต่ก็ให้นึกแปลกใจอยู่ว่า
ทำไมใครๆ ถึงชอบมาเรียน มาทำงาน มาอยู่มากินในกรุงเทพฯ
แล้วก็ชอบบอกว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองศิวิไลน์
แล้วกรุงเทพฯมันน่ากลัวอย่างนั้นจริงๆ เหรอ
...ชักกลัวบ้านเกิดตัวเองเสียแล้วสิเรา...

จากคุณ : กระแตไทย - [ 18 พ.ย. 49 17:51:26 ]






ความคิดเห็นที่ 28

กรุงเทพฯ คงเป็นเมืองที่เหมาะกับการทำมาหากิน
เท่านั้นมั้งคะ
แต่ไม่เหมาะจะฝากชีวิตไว้ตลอดไป

คน กทม.จริงๆ ที่มีรายได้พอประมาณ
ถึงเวลาหนึ่งเขาก็นิยมซื้อที่ ตจว.
เพราะเขาไม่ได้อยากอยู่ กทม.ไปจนตาย

ในส่วนตัวคิดว่า กทม.ไม่ได้น่ากลัว
แต่คนที่อยู่ กทม.มาจากหลายหลากแหล่ง
หลากหลายสถานะ
ความน่ากลัวมาจาก "คน" ที่หลากหลายนี่แหล่ะค่ะ

เราบอกไม่ได้หรอกว่า
เหตุร้ายๆ ที่เราพบบนหน้า นสพ.
ซึ่งส่วนใหญ่เกิดที่ กทม.นั้น เพราะใคร และเพราะอะไร

ชีวิตคน กทม. ประมาทไม่ได้เลยค่ะ
ไม่งั้นแค่เดินๆ อยู่ คุณก็ตกท่อได้แระ
จริงๆ นะ...เพื่อนตกท่อขาเจ็บ มา 2 คนแระเนี่ย

นี่แหล่ะ...กทม.

ความสวยงามก็มีมากมาย แต่ของปลอมซะส่วนใหญ่
แม้จะมีงานเลี้ยงบันเทิงแบบคุณบ้านนอกฯ เล่ามา
คนที่ไปร่วมงาน ก็ใช่ว่าจะมีความจริงใจต่อกัน
เจอบ่อยจนไม่อยากไปสักงาน
สังคมแบบนี้

สู้ไปร่วมงานสังสรรค์ชาวบ้านที่ ตจว.ไม่ได้เลย

เขียนไปเขียนมา เหมือนตัวเองไม่ใช่คน กทม.เลยเนาะ

อิอิ....
ไม่เคยชอบ กทม.สักนิด
แต่เลือกเกิดและเลือกอยู่ไม่ได้มากกว่า

หากมีโอกาสและอายุยืนยาวพอ
ก็หวังว่าจะเลือกที่สุดท้ายให้ตัวเองได้
ที่ไม่ใช่ กทม.นี่

ปล. ถ้าเป็นสาวๆ ตจว.มาทำงานใน กทม.
น่าจะชอบเพลง สาวนาพเนจร เนอะ สาว กทม.ฟังยังชอบเลย
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 13:47:41

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 18 พ.ย. 49 19:27:37 ]







ความคิดเห็นที่ 29

<<ยืนเกาะลูกกรงมอง
จากห้องฮังหนูแบ่งเช่า
ดวงจันทร์ห่มหมอกหนาว
เหมือนใจสาวนาพเนจร
เจ้า นาย
ใช้งานลูกจนล้าอ่อน
อยากคืนเมือบ้านดอน
พักใจจนจน บนตักแม่>>

เพลงน่าฟังดีออก จะสาวนา สาว กทม. ใครก็น่าจะชอบแหละเนอะ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 19 พ.ย. 49 17:32:37 ]






ความคิดเห็นที่ 30

ใครเขาจะลอกก็ช่างเขาเถอะครับ
ใช่ว่าเขาไม่ลอกแล้วผมจะได้ตังค์
ก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วนี่ ว่าเหล้าสู่กันกิน เอ๊ย.. เล่าสู่กันฟัง
ถ้ามีคนใจดีช่วยเผยแพร่ให้ ก็ดีน่ะสิ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 19 พ.ย. 49 17:36:47 ]






ความคิดเห็นที่ 31

คุณบ้านนอกฯ นี่น่าจะเขียนบล็อกนะ

เขียนหนังสือน่าอ่านแบบนี้

น่าจะมีเรื่องราวดีๆ นำมาแบ่งให้เพื่อนๆ อ่านอีกเยอะ

ลองเป็นคนใจดี
เผยแพร่สิ่งที่คุณมีให้เพื่อนๆ มากกว่านี้สิ

อิอิ

แล้วอาจมีเพื่อนๆ ใจดี
รวมผลงานคุณไปขายให้

ปล. บรรทัดสุดท้ายล้อเล่น

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 19 พ.ย. 49 18:41:27 ]






ความคิดเห็นที่ 32

ครายยยยยยยยยย

จาเขียนหนัวสืออออออออออ

บอกม่างงงงงงงงงง

จะขอเช่าไว้อ่าน

เอ ใช้ชื่อไรดี


รวมพลคนลูกทุ่งดีมะ

ลุงหัวใจนำทีม

เอาแบบฮา ๆ ก็พอ

รวมเล่ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

นักเขียนคือทุกคนที่มีเรื่อง

ดีมะ


อิอิ

จากคุณ : ปะหล่อง - [ 19 พ.ย. 49 22:02:45 ]






ความคิดเห็นที่ 33

ว่าแต่ ห้องนี้มีเรื่องทุกคนเลยนะนี่

อิอิ..

จากคุณ : ชมพู่มะเหมี่ยว - [ 20 พ.ย. 49 09:09:44 ]






ความคิดเห็นที่ 34

ถ้าคุณชมพู่ยังไม่มีเรื่อง

ก็หาเรื่องกับคนแถวนี้สิครับ

รับรองได้เรื่องแน่ ๆ

อิอิ

จากคุณ : ปะหล่อง - [ 20 พ.ย. 49 13:25:26 ]






ความคิดเห็นที่ 35

ทำ blog
ก็สนใจอยู่นะครับ
ปัญหาคือยังไม่ค่อยรู้เรื่อง blog เท่าไหร่น่ะสิ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 20 พ.ย. 49 16:31:00 ]






ความคิดเห็นที่ 36

ทำแล้วได้อันนี้มา
//dark-blue.bloggang.com
แต่ไม่เห็นมี My Blog ขึ้นหลังชื่อเลยล่ะ

จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ - [ 20 พ.ย. 49 17:06:38 ]






ความคิดเห็นที่ 37

รอหน่อยสิ ....

จายร้อนไปได้

อิอิ....

ไฟกำลังแรง...เนอะ

เดี๋ยวจะมอดแบบบางคน

เกือบ 2 เดือนไม่เขียนบล้อกอีกเลย



จากคุณ : s (sunny-low) - [ 20 พ.ย. 49 17:57:11 ]






ความคิดเห็นที่ 38

นั่นสิ

ถ้าเป็นผมนะ ป่านนี้เป็นร้อยๆเรื่องแล้ว

จากคุณ : p เสื้อเหลือง - [ 20 พ.ย. 49 19:03:44 ]






ความคิดเห็นที่ 39

บางคนน่ะใครเหรอ

บอกหน่อยจิ

ผมจะได้กระแนะกระแหนถูกคนหน่อย

เนาะพี่พีเนาะ

อิอิ

จากคุณ : ปะหล่อง - [ 20 พ.ย. 49 19:25:57 ]






ความคิดเห็นที่ 40

เฮ้อ...หนุ่มๆ ห้องนี้นี่

เชื่อเขาเลย

คุณบ้านนอกไฮโซ อย่าเป็นแบบพวกเขานะ

มีหัวหน้าเป็นมารพรรคเขียวอีกคน

นั่นน่ะ....ไม่เบาเลย (น้ำหนักมั้ง)

อิอิ

แต่สาวๆ ห้องนี้น่ารักทุกคนนะ

ถ้ามาครบทีม ยิ่งน่ารัก (ซะไม่มี)

หุ หุ หุ

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 20 พ.ย. 49 19:53:58 ]






ความคิดเห็นที่ 41

ถูกต้องงงงงงงงงงงงงงงง
(มาช่วยหนู sunny-low อีกแรง อิอิอิ)

จากคุณ : กระแตไทย - [ 20 พ.ย. 49 20:49:30 ]






ความคิดเห็นที่ 42

พี่กระแตน่ารักที่ซู๊ดดดดด

อิอิ

เราต้องช่วยกันเนอะพี่เนอะ

อิอิ

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 20 พ.ย. 49 21:15:02 ]






ความคิดเห็นที่ 43

เข้ากันเป็นขี่เป็นปุ่ย

เอ้ย

เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะครับคุณป้าทั้งสอง


เฮ้อ

วัยรุ่นเซ็ง

อิอิ

จากคุณ : ปะหล่อง - [ 20 พ.ย. 49 22:45:41 ]






ความคิดเห็นที่ 44

เวลากินเหล้าร้องเพลงคาราโกะ อย่าเล่นไพ่ ต้องดูก่อนว่าปิดไมค์แล้วยัง ไม่งั้นเสียงมันจะกระจายไปทั่วทั้งทุ่งจนเข้าหูโปลิศเข้า ประเดี๋ยวก็ได้ไปฉลองปีใหม่ต่อที่ ฮ่องกง

จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ - [ 21 พ.ย. 49 14:40:56 ]






ความคิดเห็นที่ 45

จำได้ลางๆ ว่าเมื่อก่อนนานมาแล้ว
พวกผู้ใหญ่จะใช้ให้ไปซื้อตั๋วเล่นไพ่ที่โรงพัก
ซึ่งเขาอนุญาตให้เล่นได้
ตำรวจไม่จับ
เป็นไพ่ตองใบเล็ก ๆ

ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่ไหม

จากคุณ : บ้านน้อกบ้านนอก (บ้านนอกไฮโซ) - [ 21 พ.ย. 49 17:36:41 ]






ความคิดเห็นที่ 46

อยากรู้ปะ
ลองไปซื้อดูสิ

ถ้าไม่ถูกจับ ก็แสดงว่ายังมีอยู่

เพื่อนๆ จะได้รู้ด้วยงัย



ห้องมันเงียบๆ ชอบก๊ล

จากคุณ : s (sunny-low) - [ 26 พ.ย. 49 20:04:26 ]










Create Date : 15 ธันวาคม 2549
Last Update : 15 ธันวาคม 2549 10:25:06 น. 5 comments
Counter : 3028 Pageviews.

 
อ่านแล้วสนุกดีค่ะ
มีเรื่องเพียบเยย


โดย: immyjang วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:11:36:26 น.  

 
น่าติดตามมาก


โดย: tanoy~ตะนอย วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:11:50:03 น.  

 
สวัสดีครับ....
ผมก็คนบ้านนอก....คอกนา (ไม่ได้เป้นไฮโซ)
เข้ามาเมืองกรุง กะกล่องกระดาษหนึ่งใบ
ตามหาใบปริญญา....
เป็นความหวังของหมู่บ้าน..


โดย: เทียมฟ้า IP: 124.121.159.106 วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:6:24:08 น.  

 
มองไปทางขอบฟ้าทิศตะวันตก ทิวเขาสีเขียวปนน้ำเงิน ขอบฟ้าสีคราม หมู่เมหสีเทาคล้อยต่ำ เดือนสามหน้าแล้ง กอซังข้าวเหี่ยวเฉาสีเหลืองหม่น หญ้ากรอบแดง ใบยางพาราเหลือนกล่นบนพื้น ตามกิ่งก้านกำลังแตกยอดอ่อนรอรับหยดน้ำฝนที่จะร่วงมาไม่ช้านี้
ควนหนองหงส์ เป็นหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอชะอวด ชาวบ้านยังคงทำอาชีพที่บรรพบุรุษฝากไว้ ทำนา และสวนยางพารา กรีดยางเลี้ยงชีพ ทดเป็นทุนรอนยามหน้าฝน เดือนสิบสองน้ำยังหลากตามรอบปี ฮิฮิ เดี๋ยวยาว อยากแต่งเรื่องชนบทกับเขาเหมือนกัน สมัครสมาชิกได้ที่ไหนครับ


โดย: คนชะอวด IP: 61.47.94.211 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:19:42:02 น.  

 
อยู่ดีๆก็อยากเสนอหน้ามาอ่านบล๊อคนี้ซะงั้น
อ่านแล้วชอบจังค่ะ
นึกถึงตอนเรายังเล็กๆเลย พ่อทำว่าวให้ด้วย
เราก็คนต่างจังหวัด เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองกรุงเหมือนกัน
อ่านแล้วมันอินยังงัยไม่รู้

ชอบจังอ่ะ..


โดย: cid_rain IP: 203.113.45.5 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:55:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บ้านนอกไฮโซ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add บ้านนอกไฮโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.