พยายามเป็นสามเท่า ตอน 4 : ความทรงจำของดวงดาว
ต้องขึ้นตอนสี่จนได้
เพราะเล่าเรื่องแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปหนึ่งตอนเต็มๆ
แต่ยังไม่ได้เล่าถึงสิ่งสำคัญที่เราขาดมาตลอดชีวิตเลย

ความพยายามไงคะ

ยังจำหนังสือของคนมองไม่เห็นที่เราเล่าให้ได้ใช่ไหม
เราจะเล่าต่อถึงรายละเอียดข้างในค่ะ

--------------------------------------------------------
อาจารย์ต้องพยายามอย่างหนัก
เพื่อที่จะเรียนหนังสือให้ได้เท่าคนธรรมดา
ต้องไปหาหนังสืออักษรเบรลล์
หรือหาหนังสือธรรมดามาไหว้วานให้คนอ่านออกเสียงให้


บางที ต้องคัดลอกจากเทป กลับมาเป็นตัวอักษรเบรลล์อีก
ซึ่งก็พิมพ์ไม่ได้ง่ายๆเลย

สุดท้าย ถึงสามารถอ่าน สามารถเรียนได้เหมือนที่คนอื่นเรียน

แล้วยังต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดี ทั้งที่ตามองไม่เห็นนี่ล่ะ
เพราะว่าคนตาบอด จะเรียนไปได้ยังไงนอกจากขอทุน และทุนส่วนมาก ก็ต้องการคนเก่งภาษาอังกฤษ

ดังนั้น อย่าถามว่าเลยว่ารักไหม ชอบหรือเปล่า
ทั้งอักษรเบรลล์ เทปเสียง และภาษาอังกฤษ
สิ่งที่ต้องทำให้ได้ ก็ต้องทำมันไปจนได้

ใครที่ว่าเรียนหนัก ชีวิตเหนื่อยแล้ว
ท่านต้องเหนื่อยกว่าเป็นสามเท่า

ต้องพยายามเป็นสามเท่า
เพียงแค่เพื่อไปให้ได้เท่ากับคนอื่นๆ


เพราะท่านตั้งใจว่า จะเรียนและทำงานเพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็น
ว่าคนตาบอดก็เรียนได้
และเรียนได้ดี

ท่านตั้งใจเรียนกฏหมาย เพื่อหาลู่ทางแก้ไขกม. ให้คนพิการมีโอกาสมากขึ้น
ที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเอง

ถึงแม้ดวงตาของท่านจะมองไม่เห็นแล้ว
แต่แสงสว่างที่ท่านฉายออกมาช่างเจิดจ้าจนบาดตาเรา
ท่านไม่เพียงแต่เป็นดาวพราวแสงสำหรับคนพิการทางสายตา
แต่ยังเป็นบันดาลใจ เหมือนดาวเหนือที่เจิดจรัสสำหรับคนตามืดมนอย่างเราด้วย

-----------------------------------------------------------
หลังจากอ่านเรื่องราวของท่าน
ซ้ำได้พบกับตัวจริงแล้ว

ทำให้เราย้อนมาคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง
มีกี่ครั้งกันนะ ที่มันควรจะทำได้
แต่เราก็ไม่พยายาม

เรื่องราวเหล่านี้ และความจริงอีกหลายอย่างที่พบในช่วงเวลานั้น
ทำให้เรามาคิดได้

และเริ่มตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่นั้นมา
เพราะที่จริงแล้ว ชีวิตเรามันไม่ถึงกับแย่หรอก
แต่เพราะว่ายังพอทำได้นี่แหละ ทำให้เรามีข้ออ้าง ในการทำไม่ถึงที่สุด

ว่าแล้วก็ตัดสินใจทุบหม้อข้าวด้วยการลาออกจากงาน
เพราะถ้าไม่ตัดทางถอย เราก็ไม่รู้ว่าเราจะหนีอีกหรือเปล่า

ที่จริงงานเราก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี เพียงแต่เราไม่ได้เป็นคนของสังคมมากขนาดที่จะทำนิตยสาร
เราตะเกียกตะกายเข้าแพรว ก็เพื่อให้เค้าบังคับเราเขียน
แต่เมื่อเราตัดสินใจว่าจะควบคุมตัวเอง และพยายามด้วยตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วยบังคับแล้ว

เราไปฝรั่งเศสก่อนค่ะ บ้านญาติอยู่ไกลปืนเที่ยงมาก
และปารีสก็เหมาะกับการไปเที่ยว มากกว่ามาเรียน
ในสายตาเรานะ

ก็เลยกลับมาตั้งหลักกับไม้เบื่อไม้เมา
ภาษาอังกฤษไงคะ
เราว่าจะไปเรียนประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
เรียนเพิ่มในสิ่งที่เราอยากรู้
และสำรวจความต้องการของตัวเองให้ทั่วๆอีกครั้ง

พร้อมทั้งลองพยายามให้เต็มที่ดูอีกสักที่

และจากนี้ไป ไม่ว่าจะเหนื่อยสักแค่ไหน
เราก็จะไม่หนีอีกแล้ว
จะไม่หันหลัง ให้เรื่องที่เราทำไม่ได้
จะไม่มองข้าม เรื่องเล็กๆที่เราเคยรำคาญ

และไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
ถ้ามีอุปสรรค ถ้ามันยาก ถ้าเราท้อ

เราก็จะพยายามเป็นสามเท่า
เพื่อฝ่าฟันมันไปให้ได้

และมันก็ไม่สำคัญหรอก ว่าความพยายามของเรา
มันจะทำให้เราเป็นคนเก่ง หรือเอาไหนขึ้นมาได้สักเท่าไหร่

ไม่สำคัญด้วยว่า ว่าสุดท้ายแล้วเราจะชนะอุปสรรค หรือเดินไปได้ไกลแค่ไหน

แค่เพียงได้พยายามก็เพียงพอแล้ว
แค่เพียงได้ออกเดินจริงๆ ก็น่าจะดีใจแล้ว
เพราะทุกคืน ที่พยายามเขียนให้จบ ทำงานให้เสร็จ
ทุกครั้งที่ตั้งใจทำอะไรจริงๆ จากที่เคยหันหนี จนกลายมาเป็นทำได้
เรารู้สึกเหมือนเรามีแสงสว่างในตัวเอง

และเราก็พบว่า
ความพยายามของมนุษย์นี่แหละ
ที่จุดประกายพลัง ให้คนแต่ละคนเป็นดาวนำทางของตัวเองได้

ไม่ว่าวันไหนจะมืดหรือจะหนาวอีกเท่าไหร่
เราก็จะมีดาวดวงนั้นอยู่ในความทรงจำเสมอ



Create Date : 25 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2549 1:26:59 น.
Counter : 438 Pageviews.

8 comments
  
อ่านแล้วมีกำลังใจในการต่อสู้จัง....
โดย: ฝนริน (fonrin ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:54:44 น.
  
น้องก็เป็นแค่คนๆหนึ่งที่เหมือนจะเข้มแข็ง สู้ อดทนในสายตาคนอื่น
แต่หลายครั้งก็มองตัวเองออกค่ะว่าจริงๆแล้วไม่ใช่คนสู้อะไรเลย อยากหนีอะไรๆหลายอย่าง

ชอบๆ"ความพยายามของมนุษย์นี่แหละ
ที่จุดประกายพลัง ให้คนแต่ละคนเป็นดาวนำทางของตัวเองได้"
ขอบคุณที่หาบทความดีๆมาให้อ่านนะคะ



โดย: เด็กน้อยๆ (พะยูนน้อยกลอยใจ ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:51:45 น.
  
โชคดีจังที่หาตัวเองเจอ....
แต่ผมอ่ะ...ยังหาอนาคตตัวเองม่ายด้ายเล้ย...
โดย: cascade วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:57:08 น.
  
ขอบคุณค่ะ คุณฝนริน

คนอ่านก็เป็นกำลังใจสำคัญของคนเขียนเหมือนกันนะคะ

น้องเด็กน้อย
อืม พี่ว่าพี่ฟังแล้วเข้าใจเลยค่ะ
ว่างๆก็เข้ามาคุยกัน ได้นะคะ
มาพยายามไปด้วยกันนะ

คุณ cascade ค่อยๆดูไปค่ะ
ไว้สอบเสร็จ เราจะเอาวิชาที่เราเรียน ที่เค้าสอนให้ค้นหาตัวเองมาลง ดีไหมคะ

สู้ๆ สู้ตาย นะคะ
ทุกคน
โดย: dararye วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:40:14 น.
  
น่าอ่านนะ ถ้ามีหนังสือแบบนี้ ไอซ์ว่ามันน่าซื้อ น่าเก็บ แล้วเอามันมาอ่านเรื่อยๆ เมื่อเราต้องการกำลังใจ หรือ แรงบันดาลใจน่ะ

อันนี้คุณ icearee เพื่อนเราใน msn ฝากมาลง
โดย: dararye วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:04:59 น.
  
เจินถ่ายทอดได้ดีมากเลยนะคะ
จากหนังสือเล่มนั้นที่ทำให้เจินเกิดกำลังใจ
ก็เอามาถ่ายทอดบวกประสบการณ์จริงให้เรา กํบคนอ่านอีกหลายๆคน
ได้กำลังใจ และแรงบันดาลใจไปด้วย
ถ้าเราท้อ หรือหมดไฟ เราจะกลับมาอ่านซ้ำๆ
มันคงช่วยได้มาก ถ้าไม่เริ่ม ไม่มีก้าวแรก อะไรๆมันก็ดูยากเนอะ ถ้าเราไม่ลุยไปเลย
การที่เราได้ทำอะไรเต็มที่แล้ว สุดท้ายแม้จะไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ 100% แต่เรากลับมีความภูมิใจในตัวเอง
แล้วก็ ไม่เสียใจเลยที่พยายามมา
เราอยากให้ทุกคนมาพยายาม ทำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจให้ดีที่สุด
อย่าปล่อยให้มันผ่านไปแต่ละวันๆ โดยที่เรานั่งมองมัน ว่ามันไกลเกินไป
เลยนะ
โดย: ไอซ์ (So sweet honey ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:14:58 น.
  
เมื่อกี๊มาตอบไอซ์
มันหลุดจากระบบซะงั้น
ทำไมเล่นบล็อค มันยากเช่นนี้หนอ??

ขอบคุณค่ะ น่ารักจริงๆ อุตส่าห์ไปสมัครสมาชิกมาตอบเรา
ปลื้มค่ะ

ยังไงก็มาอีกนะคะ
จะพยายามเขียนอีกเรื่อยๆค่ะ

สำหรับเรา ทีสำคัญที่สุด คือเราตัดสินใจไปพบท่านด้วย พอดีอจ.เป็นนร.ทุน เรามีความหลังฝังใจกับเรื่องนี้นิดหน่อยค่ะ

แล้วท่านก็เชียร์ว่า เอาสิ ลองดู เราไม่ขาดทุนอะไรหรอก ถ้าลองพยายาม

เราก็เลยฮึด

แต่ขนาดลาออกจากงานที่ดีขนาดนี้
ก็ไม่รู้ว่ากล้าบ้าบิ่นไปหรือเปล่า เนอะ

แต่ถึงยังไง คนเราก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง
ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ไอซ์ก็ สู้ๆ สู้ตาย นะคะ

(คราวหน้าก็ลงชิงตำแหน่งซะนะ
เราภาษาแย่ขนาดนั้น ยังกล้ามาเรียนเฉยเลย
สอบได้ top เฉยเลยอีก งงเลย
สู้เข้าไว้ค่ะ เราไม่เสียอะไรหรอก อย่างมากก็แค่ไม่ได้มาค่ะ)

แล้วมาคุยกันนะคะ
คนอ่าน เป็นกำลังใจสำคัญที่สุด สำหรับคนเขียนค่ะ
โดย: dararye วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:47:58 น.
  
ชอบที่ จขบ เขียนจัง อ่านแล้วทำให้เราฮึดๆสู้ๆ เผื่อจะได้ไล่ตามความฝันของตัวเองเร็วขึ้น
โดย: i'mdancingaloneonthemoonlight วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:08:30 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dararye
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เกิดเชียงใหม่ ไปเรียนกรุงเทพ พอทำงานก็ชีพจรลงเท้า เดินทางได้สักพัก ก็ชักรู้สึกว่าโลกนี้ที่จริงแล้วไม่มีขอบเขต
เริ่มทำบล็อคอย่างจริงจัง เพราะรู้ตัวว่าต้องร่อนเร่ไปอีกไกล เผื่อว่าใครคิดถึงจะได้ตามหากันเจอ ชื่อนี้เป็นนามปากกาเดียวกับใน bookcyber ค่ะ ยิ้มก็อันเดิมนะ >>>> @^__^@

พฤศจิกายน 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
19
20
22
23
26
28
30
 
 
All Blog