ชวนไปรำลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้ารำไพฯ ที่วังสวนบ้านแก้ว

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ เมื่อเสด็จนิวัติกลับประเทศไทยในปี ๒๔๙๒ หลังจากที่เสด็จประทับ ณ ต่างประเทศตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ ได้ทรงมีพระราชดำริที่จะประทับในท้องถิ่นที่เงียบสงบ อากาศดี และสามารถปลูกต้นไม้ได้ และได้ทรงไปดูสถานที่ที่เชียงใหม่กับจันทบุรี ตามที่พลตรีหม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (ราชเลขาธิการสำนักพระราชวังในสมัยนั้น) ได้ถวายคำแนะนำ และในที่สุด พระองค์ได้ทรงเลือกจันทบุรี เพราะเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ สะดวกกว่าเชียงใหม่ ซึ่งที่ดินที่ถูกพระทัย อยู่บริเวณทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี เมื่อทรงตัดสินพระทัยดีแล้ว จึงทรงกู้เงินจากธนาคาร เพื่อซื้อที่ดินผืนดังกล่าว และที่ดินบริเวณโดยรอบตลอดสองฝั่งคลอง รวมแล้วได้ ๖๘๗ ไร่ และได้พระราชทานชื่อในเวลาต่อมาว่า "สวนบ้านแก้ว"



ที่วังสวนบ้านแก้วนี้ พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาประทับครั้งแรกในปี ๒๔๙๓ และได้สร้างที่ประทับชั่วคราว เป็นเรือนไม้ไผ่หลังคามุงจาก จากนั้นราว ๓ ปี จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเรือนไม้หลังเล็กๆ เพื่อประทับเป็นการถาวร ก่อนจะจัดสร้างพระตำหนักและเรือนพักต่างๆ ในเวลาต่อมา










เรือนแดง หนึ่งในอาคารภายในบริเวณวังสวนบ้านแก้ว เรือนแดงในอดีต ถูกใช้งานเป็นเรือนพักของพระประยูรญาติ และหม่อมราชวงศ์บัณฑิต จักรพันธุ์ (บุตรคนโตของหม่อมเจ้าประดิษฐา จักรพันธุ์) ปัจจุบัน เป็นห้องสำหรับศึกษาค้นคว้าข้อมูลพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗



พระตำหนักแดง หรือพระตำหนักดอนแค พระตำหนักนี้สร้างขึ้นหลังพระตำหนักเทาราวๆ ๒ ปี ที่ได้ชื่อพระตำหนักดอนแค เนื่องจากมีต้นแคฝรั่งปลูกเรียงรายอยู่บริเวณด้านหน้าพระตำหนัก พระตำหนักแดงนี้ ใช้เป็นที่ประทับของหม่อมราชวงศ์สมัครสมาน กฤดากร ราชเลขานุการส่วนพระองค์ และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ บริเวณใต้ดิน มีถังกักเก็บน้ำที่สามารถเก็บน้ำฝนได้คราวละ ๙๐ ยูนิต เพื่อมิให้ขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง


พระตำหนักเทา หรือพระตำหนักใหญ่ เป็นอาคารสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ สร้างด้วยไม้สักทอง ทาสีเทา สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงใช้เป็นที่ประทับและทรงรับรองพระราชอาคันตุกะ ปัจจุบัน พระตำหนักเทา ได้นำของใช้ส่วนพระองค์มาจัดแสดง เพื่อให้ประชาชนเข้าชม และสำหรับงานวันสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๑๐๓ ปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๙-๒๒ ธันวาคมศกนี้ ก็จะจัดนิทรรศการและงานแสดงต่างๆ ที่บริเวณพระตำหนักเทาแห่งนี้



ภายในห้องบรรทม บนพระตำหนักเทา











นอกจากพระตำหนัก และเรือนพักของเหล่าข้าราชบริพารแล้ว ยังมีอาคารสิ่งปลูกสร้างเพื่อทรงพระสำราญ และสำหรับกิจกรรมส่วนพระองค์ อาทิ ศาลาทรงไทย ศาลาทรงกลม เล้าไก่ โรงทอเสื่อ ฯลฯ ที่ปัจจุบัน แม้จะไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว แต่ก็ยังพอเหลือร่องรอยบางอย่างไว้ อาทิ เตาย้อมกกและอ่างแช่กก ที่โรงทอเสื่อ ฯลฯ

นอกจากสิ่งปลูกสร้างแล้ว ภายในพื้นที่หกร้อยกว่าไร่ของวังสวนบ้านแก้วแห่งนี้ ยังตกแต่งเป็นบริเวณสวนส่วนพระองค์ และสวนดอกไม้ส่วนพระองค์



ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณ สวยงามและให้ร่มเงา ด้วยไม้ใหญ่น้อยนานาพันธุ์





สระน้ำ


กว่าที่รัฐบาลจะถวายคืนวังศุโขทัยนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ได้ทรงประทับ ณ วังสวนบ้านแก้ว นานถึง ๑๘ ปี ซึ่งในปี ๒๕๑๔ รัฐบาลได้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานวังสวนบ้านแก้ว เพื่อใช้จัดตั้งเป็นวิทยาลัยครูจันทบุรี ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ด้วยความเต็มพระราชหฤทัย เพื่อส่งเสริมการศึกษาของชาติให้ก้าวหน้าต่อไป ซึ่งต่อมา ได้รับพระราชทานพระนามาภิไธยในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ เป็นชื่อสถาบัน "วิทยาลัยรำไพพรรณี" ในปี ๒๕๒๘ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้พระราชทานนามสถาบันใหม่ว่า "สถาบันราชภัฎรำไพพรรณี" เมื่อปี ๒๕๓๕





สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ เสด็จกลับมาประทับ ณ วังศุโขทัย ในปี ๒๕๑๕


ปัจจุบัน วังสวนบ้านแก้ว เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี ตั้งอยู่ที่ถนนรักศักดิ์ชมูล ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวังสวนบ้านแก้ว ดูกันได้ที่ //www.suanbankaewpalace.com

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2550		7 comments
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2550 10:08:34 น.
Counter : 9521 Pageviews.
Share Tweet