ทุกปีที่ปิดเทอม ผมจะได้ไปอยู่กับคุณพ่อที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมางานโครงการก่อสร้าง อยู่ที่ว่าบริษัทใหญ่จะจ่ายงานให้ไปที่จังหวัดไหน
ครั้งนี้เช่นกันได้ไปอยู่จังหวัดที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก แคมป์ที่พักอยู่ในบริเวณที่เป็นเหมือนป่าเล็กๆ มีต้นไม้เล็กใหญ่ขึ้นกันเต็ม รกครึ้ม มองจากหน้าต่างที่พัก เห็นนกชนิดเล็กชนิดใหญ่ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวบินวนเวียนไปมาเพลิดเพลินยิ่งนัก
ด้วยจิตวิญญานด้านมืดของผม เร็วเท่าความคิดหันกลับเข้าในบ้าน มองหาหนังสติ๊กเผื่อมีใครเก็บไว้ใช้งาน เหมือนนรกส่งเป็นพัสดุ EMS มาให้ มันแขวนอยู่ข้างฝาหาได้ไม่ยากนัก ตัวง่ามทำจากกิ่งฝรั่งที่ได้สัดส่วนดีมาก ตัวยางสติ๊กมีสภาพดี
ลองทดสอบการใช้งาน ประสิทธิภาพพอใช้ได้ กระสุนก็เก็บเอาจากกองหินที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นมานั่งเฝ้าเป้าหมายอย่างตั้งใจ แต่แปลก เมื่อสักพักยังบินกันไปมา โฉบมาใกล้ๆก็ยังมี ตอนนี้มันหายหัวไปไหนหมด
นั่งรออย่างอดทนต่อไป..
และเป้าหมายก็ปรากฏตัวขึ้น แต่มันเป็นนกกระจิบตัวเล็กนิดเดียวส่งเสียง จิ๊บ จิ๊บ เจ้านกชนิดนี้เป็นนกที่ไม่อยู่นิ่งกับที่ กระโดดไปโน่นมานี่ตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเป้าหมายมีหรือจะปล่อยผ่านไป
ยกหนังสติ๊กง้างเล็งตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่ตลอดเวลา นกน้อยอยู่ห่างกว่า 10 - 15 เมตร ถือว่าไกลพอสมควรสำหรับเป้าขนาดนี้ พอจังหวะได้ ผมปล่อยกระสุนออกไป เสียงผลัวะ นกน้อยร่วงลงพิ้นทันที ดีใจที่ฝีมือยังไม่ตก ผมกระโจนออกไปด้วยรอยยิ้ม ตรงไปที่เหยื่อกระสุน เมื่อเข้าไปไกล้ เห็นนกน้อยนอนหงายท้องอยู่บนพื้น ผมเอื้อมมือเข้าไปจับตรงส่วนหาง นกน้อยตกใจดิ้นหนี เหลือแต่หางทั้งกระจุกอยู่ในมือผม เวร !! มันยังไม่ตาย และไม่ได้ถูกลูกกระสุนของผม ถ้าโดนแม้เฉี่ยวนิดเดียวก็ไม่รอดแน่นอน มันคงตกใจและช็อคสลบชั่วขณะ มันวิ่งหนีสุดชีวิต วิ่งครับ ไม่ใช่บิน บินไม่ได้เพราะหางไม่มี ผมได้แต่อ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่สลดหดหู่หัวใจจริงๆ
มันวิ่งตะเกียกตะกายหายเข้าไปในดงไม้ถัดไป ผมหันหลังกลับ เดินซึมน้ำตาร่วง สงสารจับใจ มันจะอยู่ยังไง บินก็ไม่ได้ คิดไปต่างๆนาๆ บ้าที่สุด
กลับเข้าที่พักคว้ามีดพร้าในครัว เอามาสับหนังสติ๊กซึ่งเป็นของใครก็ไม่รู้ สับละเอียด โยนทิ้งหลังบ้าน สัญญากับตัวเองว่าต่อนี้ไป จะไม่ใช้ฝีมือมารเช่นนี้กับสัตว์ใดๆอีกเลย