Turkish Airlines, My lovely Career :) 2
กลับมาต่อกันในตอนที่ 2 นะคะ

ไม่อยากใ้ห้บล็อคมันยาวมาก กลัวว่าจะอ่านกันไม่ไหว อิอิ

เล่าเรื่องอะไรต่อดีล่ะเนี่ย? ฮืม...โอเค เรื่องสนุกๆในการทำงานแล้วกันนะ อิอิ

ถึงจะเป็นไฟลท์อย่างที่เค้าเรียกว่าไฟลท์แขก ก็จริง แต่คนตุรกีน่ะแตกต่างจากแขกทั่วๆไปนะคะ
หนึ่งเลยคือเค้าไม่ได้เป็นแขกมีกลิ่นอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ คนตุรกีเป็นแขกขาว ศาสนาประจาำชาติคืออิสลามค่ะ แต่ด้วยความที่ภูมิประเทศของเค้าเนี่ย ครึ่งหนึ่งเป็นเอเชีย อีกครึ่งนึงเป็นยุโรป คนตุรกีเลยจะได้อิทธิพลมาจาก ชาวยุโรปค่อนข้างเยอะ เราจะเห็นว่าประเทศมุสลิมเนี่ย เค้าจะใส่ชุดยาวๆ ที่คลุมหน้าคลุมผมใช่มั้ยคะ ผู้โดยสารชาวตุรกีก็มีบ้างที่ใส่แบบนั้นค่ะ แต่จะไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะแต่งตัวตามสมัยไปเลยมากกว่า จริงๆนะ นานน๊านนนนนน จะเห็นใส่อย่างนั้นซะที

แล้วด้วยความที่ TK เนี่ย route บินเยอะมากกกกกก บินไปเกือบทั่วโลกเลย จำชื่อย่อพอร์ทกันแทบไม่หวาดไม่ไหว ผู้โดยสารก็เลยจะมีทั้งชาวตุรกีเองและแถบยุโรปคือจะบินไปต่อเครื่องที่อิสตันบูลแล้วกลับบ้านนั่นเองค่ะ

พอร์ทฮิตๆที่มีคนบินไปต่อเครื่องเยอะๆก็จะเป็น
ARN : มาจากชื่อสนามบินออลันดาค่ะ ที่สตอล์กโฮม สวีเดน
LHR : แน่นอนค่ะ ลอนดอน ฮีทโธรว์
MAD : มาดริด สเปน
BCN : บาเซโลนา สเปน
GVA : เจนีวา สวิสฯ
FRA,DUS,CGN,TXL : แฟรงค์เฟิร์ต,ดุสเซลดอฟ,โคโลญจน์,เบอร์ลิน หลายพอร์ทมากกก ที่เยอรมัน

แล้วก็มีอีกมากมาย ทั้งอิตาลี ฝรั่งเศส รัสเซีย โรมาเนีย ยูเครน เรียกว่าน่าจะไปเกือบทั่วยุโรปได้มั้ง นอกจากนี้ยังไปแอฟริกาด้วย อ้อ..อเมริกา-แคนาดา มันก็ไปนะ อิอิ บินเยอะมากๆ ดังนั้นผู้โดยสารเลยมีหลายสัญชาติค่ะ

พอมีผู้โดยสารหลายสัญชาติ ปัญหาก็เลยตามมา อิอิ

ถ้าเป็นโซนยุโรปก็ยังดีหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษได้ และ"พูดรู้เรื่อง" พูดรู้เรื่องคือเข้าใจว่ากฎของสายการบินเป็นอย่างนี้นะ อันนี้ต้องทำตาม ไม่งั้นคุณไม่ได้บินนะ ดีมากกกกก เข้าใจทำตาม

คนที่สื่อสารยากๆ ก็จะเป็น 1. ตุรกี 2.โซนที่พูดภาษาิอังกฤษไม่ค่อยได้ และ 3. คนไทย....

มาเริ่มกันดีกว่า ทำไมคนตุรกีถึงมาอันดับหนึ่ง ก็สายการบินนี้มันสายการบินประจำชาติเค้าค่ะ น้ำหนักเนี่ย ได้คนละ 20 กิโล ก็ขนนนนมันเข้าไป และถึงแม้จะมีบัตรทอง ได้เพิ่มเป็น 60 กิโลแล้วก็ตาม...มันก็ยังขนมาเป็นร้อยโล เอาเข้าไป ภาษาอังกฤษก็ถ้าเป็นตุรกีที่แก่แล้วก็จะพูดไม่่ค่อยได้ ก็พูดตุรกีอย่างเดียว มีปัญหาที่นั่งตั๋วอะไรมา ชั้นจะคุยกับManager คนที่เป็นคนตุรกีน่ะ ไหนเรียกมาซิ ชั้นเป็นญาติลูกเรือนะ พ่อชั้นเป็นตำรวจอยู่ตุรกีนะ แม่ชั้นเปิดร้านทองอยู่ที่นู่นนะ นี่สายการบินประจำชาติชั้นนะ ทำไมชั้นจะเอาไปไม่ได้ ที่นั่งพี่แกฉลาดก็เช็คอินทาง Internet กันมาเล๊ยยย จองที่นั่งริมหน้าต่าง - ทางเดินกันสุดฤทธิ์ เหลือไว้ให้แต่ไอ่ที่ตรงกลาง ให้คนอื่นๆนั่ง ดีจริงๆ


เดือดร้อนเราไอ่คนเช็คอินต้องมาคอยต่อล้อต่อเถียงกะมาน เฮ้อ... แต่ยังดีนะว่าเป็นตุรกี คุณมานาเจอร์ก็ยังช่วยเคลียร์ได้บ้าง พอมาเจออันดับ 2 นี่ พวกที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ มึนกว่า เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องจรีงๆ

ไม่ได้จะเป็นการดูถูกเชื้อชาติแต่อย่างใดนะคะ เล่าสู่กันฟัง
คนประเทศในอันดับ 2 นี่ ก็จะประมาณโรมาเนีย อาเซอร์ไบจัน ทาจีกิสถาน ยูเครน อะไรประมาณนี้ พวกนี้จะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักค่อนข้างเยอะค่ะ แล้วมักจะเริ่มเรื่องแบบนี้ทุกที...คือมันมีผู้โดยสารอยู่คู่นึงค่ะ เป็นโรมาเนีย เราจำแม่นเลย อิอิ ชายหญิง เดินเข้ามาเช็คอิน พูดภาษาอังกฤษได้ดีเลย เราถามไปไหนอยากนั่งตรงไหน ตอบได้หมด แต่พอเช็คอิน แล้วจะโหลดกระเป๋าเท่านั้นแหละ พูดเป็นอยู่คำเดียว No English ขึ้นมาทันที

คืออย่างนี้ค่ะ โดยปกติแล้วตั๋ว Economy เนี่ย จะได้น้ำหนักตามหน้าตั๋วคนละ 20 กิโล หยวนให้ได้ประมาณ 23-25 กิโล ยกเว้นแต่ว่าจะมีการ์ดเงิน การ์ดทอง ก็บวกเพิ่มไป 10-20 KG ตามประเภทของการ์ด แต่!! ค่ะ แต่ กระ๋เป๋า 1 ใบเนี่ย ต้องไม่เกิน 32 KG เท่านั้นนะคะ คือถ้าคุณมีการ์ด ขนน้ำหนักได้ถึง 40 KG คุณก็ต้องเฉลี่ยกันยังไงก็ได้ ไม่ให้ใบใดใบนึงเกิน 32 KG

คือมันเป็น securityและเรื่องสุขภาพของคนที่ทำหน้าที่ขนย้ายกระเป๋าด้วย แล้วก็การรับน้ำหนักของสายพานที่ลำเลียงกระเป๋าด้วย ดังนั้นเรื่องเนี้ยจึงต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษเพราะถ้าเราปล่อยไปแล้วน้ำหนักมันเกินขนาดนั้นอ่ะ เค้าอาจจะไม่ยกขึ้นเครื่องก็ได้ ดังนั้นกระเป๋าผู้โดยสารก็จะไปไม่ถึงปลายทาง

คุณโรมาเนียสองคนนี่ก็มาเลย What about your luggage check? ชีก็ยกมาค่ะ ชั่งสเกลปุ๊บ เอิ้ก....1 ใบ 44 KG!!!! แม่เจ้า มันยัดอะไรเข้าไปนักหนาล่ะเนี่ยยย แถมเอาไปแร็บพลาสติกใสมาแล้วด้วยนะ กรรม ลำบากแน่ชั้น ยังไงมันก็ต้อง re-pack ใหม่แหงมๆ ปล่อยไม่ได้หรอก เกินมาเยอะขนาดนี้ (บางที 32.5 อะไรงี้ก็อาจจะปล่อยนะคะ แล้วแต่ว่าผู้โดยสารทำตัวน่ารักรึปล่าว) ก็บอกมัน เนี่ย..ใบนี้น้ำหนักมันเกินนะคะ ยังไงต้องเอาไปรีแพ็คนะ มีกระเป๋าอื่นๆอีกมั้ย มันก็บอกไม่มี อ่า..ถ้าอย่างนั้นรบกวนไปซื้อกล่องที่ไปรษณีย์มาด่วนเลยป่ะ ยังไงๆก็ต้องแบ่งน้ำหนักออกไป มันก็เริ่มเลย

จริงๆแล้วการสนทนานี้ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษนะคะ

Pax : ปกติน้ำหนักต่อคนได้เท่าไหร่?
เรา : 23 KG
Pax : แล้วนี่เท่าไหร่
เรา : 44 KG
Pax : ก็นี่ไง 2 คน คนละ 23 มันก็ต้องได้ 46 นี่มัน 44 ก็ยังไม่เกินไง แล้วจะมาบอกว่า มันเกินได้ไง ยูอยากจะเก็บเงินค่าน้ำหนักเกินใช่มั้ยเนี่ย (มันเริ่มพูดจาไม่ดีแล้วนะ แต่เป็นภาษาอังกฤษ ออกอากาศไม่ได้ เหอะๆ)
เรา : (อะไรของมันฟะ) ก็ใช่ น้ำหนักรวมมันไม่เกินแต่น้ำหนักกระเป๋าน่ะมันเกิน ยูเข้าใจมั้ยยยย เค้ากำหนดให้ 1 ใบไม่เกิน 32 KG มันเป็น Security ที่ทั่วโลกเข้ากำหนดมาไม่ใช่เฉพาะสายการบินนี้ ที่ไหนเค้าก็ทำกัน ชั้นไม่ได้อยากจะเก็บตังค์แกเลยนะ

Pax : อะไรกัน ก็มันไม่เกินไง เราไม่มีกระเป๋าหรอกนะ ยูมั่วแล้วขามาไอยังมาได้เลย อย่ามามั่วนะ เนี่ยน้ำหนักมันไม่เกินชัดๆ

เรา : หืม...(แก แหละมั่ววว ไอ่บ้า ไม่มีที่ไหนเค้าให้แกโหลดหรอกนะ 44KG น่ะ)ยูอยากจะไปวันนี้มั้ย ถ้าไปก็ต้อง re-pack นู่น ไปรษณีย์อยู่ตรงนู้น ไปซื้อกล่องมา ไม่อย่างนั้นชั้นก็ไม่เช็คอินให้ เร็วๆด้วย Counter จะปิดอยู่แล้ว

Pax : I don't know!! what do you mean? I don't understand (อื้อหือ...ทำเป็นฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องขึ้นมาเชียวนะ)

แล้วเราก็ยังคงเถียงกะมันต่อไปเรื่อยๆ เคาท์เตอร์ก็ใกล้จะปิดแล้ว มันก็ไม่ยอมไปซื้อกล่อง ไม่ยอมทำอะไร เถียงอยู่นั่นแหละว่า 2 คน 44 KG มันไม่เกิ๊นนนน เออออออ ไม่เกิน แต่กระเป๋าเมิงอ่ะเกินนนน โอ๊ยยยย ปวดกะบาล -_-"

พอดีพี่ Supervisor เดินมาเห็นเราเถียงกะมันหน้าดำคร่ำเครียด เลยไล่ให้เราไปช่วยที่เกท เออ..ดี เกียดมานนนน พูดไม่รู้เรื่อง ชิ!!!

นั่นเป็นตัวอย่างสำหรับพวกกระเป๋าเกิน แต่ยังมีอีกค่ะ พวกที่มาแปลกๆ มาต่อกันเรื่องนี้ดีกว่า อันนี้ไม่ใช่เคสของเราเองหรอกนะ เพื่อนเป็นคนเจอคนแรก แต่มัน Continue มาเรื่อยๆ

วันนึงเพื่อนเราเช็คอินอยู่ ก็มีผู้โดยสารชาย 3 คน จำไม่ได้ว่าเป็นชาติอะไร มาเช็คอิน แกก็เอากระเป๋ามาด้วย 3 ใบใหญ่ๆ น้ำหนักก็ไม่เกินหรอกนะ เช็คอินตามปกติ แต่ขนาดกระเป๋ามันใหญ่มาก เลยต้องให้เอาไปโหลดที่ Oversize Baggage ก็ปล่อยไปไม่มีอะไร
ซักพักพี่ supervisor ก็ได้รับโทรศัพท์ "เจ้าหน้าที่ Turkish Airlines ใช่มั้ยครับ รบกวนมาที่จุด x-ray ตรง Y4 (Oversize BG) ด้วยนะครับ กระเป๋าของผู้โดยสารมีปัญหานิดหน่อย" อ่ะ พี่เค้าก็ไป เอ๊...มีปัญหาอะไรน้า มีของมีคมอะไรรึไง พอเดินไปถึง 3 คนนั้นก็ยืนเรียงแถวอยู่ หน้าตาเจี๋ยวเจี้ยมเชียว เกิดอะไรขึ้นหว่า

"ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่ากระเป๋าผู้โดยสารมีปัญหาอะไรหรือคะ"
"ไม่มีอะไรมาหรอกครับ แค่มี ปลา อยู่ข้างใน!!!!"

เหอ...ปลา ปลาร้า ปลาเน่าหรือปลาอะไร ไปเปิดดูเอิ้ก...จะเป็นลม ปลาสวยงามค่ะ มีทั้งปลาเงิน ปลาทอง ปลาทะเล สวยๆทั้งน้านนนน ใส่ถุงพลาสติกมัดปากไว้อย่างดี กะว่าคงจะเอาไปขายต่อที่นู่นแหงมๆ แต่ขอโทษทีย่ะ เค้าไม่ให้นำสิ่งมีชีวิตแบบนี้ออกนอกประเภทโดยไม่มีการแจ้ง แล้วปลาเนี่ย ก็ไม่สามารถเอาไปได้ด้วยย หันขวับไปหา 3 คนนั้นทันที นี่ ยู รู้มั้ยว่าเค้าไม่ให้เอา่สิ่งชีวิตออกนอกประเทศน่ะ มันผิดกฎหมายนะ!! ต้องเรียกเจ้าหน้าที่แล้ว (จำไม่ได้อ่ะที่ดูแลด้านสัตว์ เวลาเอาหมาขึ้นเครื่องก็ต้องไปขออนุญาตที่นี่)

มันก็ : อะไรกันทำไมจะไม่ได้ ไอปิดปากถุงอย่างดีแล้วไง ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยๆไปเถอะ

อ๊ะ...ไอ่พวกนี้พูดไม่รู้เรื่อง ชั้นไม่ได้กลัวปลามันจะว่ายน้ำบนเครื่องหรอกนะ แต่มันเอาออกไปไม่ได้ เข้าใจม้ายยยยย ถ้ายูจะกลับบ้านก็ต้องทิ้งปลาไว้ที่นี่นะ โอเคมั้ย

แล้ว 3 คนนั้น ก็แสดงอาการรักสัตว์ขึ้นมาทันที ชั้นไม่ไปไหนทั้งนั้น ชั้นจะไม่ไปถ้าไม่มีปลาของชั้นไปด้วย ม่ายยยยย อื้อหือ ออสกาจริงๆ ไม่ไปถ้าไม่มีปลาใช่มั้ย...ได้ Offload!!!!!

เด็ดขาดมากค่ะ คุณพี่ซุป วันต่อมามันก็มาอีก คราวนี้ เราเช็คอินค่ะ พี่ที่จำได้ก็เดินมาบอกก่อน อ้อ 3 คนนั้นเมื่อวานมีปลานะ ระวังด้วย "โอเค ได้ค่ะ" เช็คอินอะไรเรียบร้อย อ๊ะ น้ำหนักไม่เกิน โอเค ราวนี้มาฉลาดแร็บกระเป๋ามาด้วย นี่ ก็เราเปิดขอดูปปลาล่ะสิ หึๆ ไม่เป็นไร ยังไงกระเป๋าแกก็ต้องไปโหลดที่ Y4 อยู่ดี 555+ พอเช็คอินให้มันเสร็จแล้ว ก็ให้พี่ๆ เค้าเดินตามไปดูมันโหลดกระเป๋า และแล้ว...แน่นอนค่ะ ก็ยังคงมีปลาว่ายน้ำเล่นอยู่ในกระเป๋ามันอยู่ดี เหมือนเดิม...ไม่ไปใช่มั้ย Offload!!!!

วันต่อมาวันที่ 3 มันมาอีกแล้วค่ะ คราวนี้หน้าซึมหน้าเศร้ามาเชียว เช็คอิน อ๊ะ กระเป๋าเบาลงนะแก เลยถาม นี่ยู วันนี้เอาปลามาอีกมั้ยเนี่ย...มันก็มองหน้าแล้วตอบมา ปลาหรอ..ตายหมดแล้วยู ไออยากกลับบ้านแล้วอ่ะ ให้ไอกลับเถอะนะ พลีสสสสส
อ้าวกรรม ขาดอากาศหายใจอยู่ในถุงนั่นล่ะ ตายซะแระ เออ...ดีนะ ยูๆทั้งหลายจำไว้นะ อะไรที่มันทำไม่ได้ มันก็ไม่ได้คุณเอ๊ย เข้าใจมั้ย?? รักษากฎกันหน่อย

ทุรงทุเรียนน่ะ เค้าบอกไม่ให้เอาขึ้น ก็อย่าเอาขึ้น รู้ว่ามันอร่อย (แต่เราไม่ชอบนะ เหอะๆ เหม็น) อยากเอาไปฝากเพื่อนที่บ้าน ยังแอบเอาใส่กระเป๋าขึ้นเช็คอิน แหมมมม ไม่รู้อะไรซะแล้ว ทุเรียนมันกลิ่นแรง แค่ยกมาวางบนสเกลก็ได้กลิ่นแล้ว หึหึ เอาออกมาซะดีๆ เอาไปไม่ได้ ไม่งั้นผู้โดยสารบนเครื่องตายยยยกันหมดเพราะกลิ่นทุเรียนแน่ๆ!!!!!

ยัง ยังไม่หมด!!! ยังมีเรื่องอีกเยอะ ติดตามกันไปเรื่อยๆละกันค่ะ







Create Date : 29 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 22:51:08 น.
Counter : 5234 Pageviews.

3 comments
  
โดย: thanitsita วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:04:16 น.
  
พี่ค่ะคืออยากทำงานที่สายการบิน turkish airline เป็นเด็กจบใหม่เลยค่ะ จบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน อยากไปทำงานที่นั่นเพราะมีแฟนเป็นชาวตรุกีค่ะ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างค่ะ kissbeller@gmail.com
โดย: เบล IP: 75.111.135.59 วันที่: 30 เมษายน 2556 เวลา:5:02:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I'm in awe
Location :
Castro Valley,CA  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นคนไกลบ้านแล้ว ก็ยังแต่งบล็อกไม่เป็นเหมือนเดิม อิอิ แวะมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันบ่อยๆนะคะ ยินดีอย่างยิ่งหากเรื่องราวในบล็อกนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณค่ะ :)
New Comments
เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog