|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความสุขที่แท้จริง ??
เริ่มเรื่องว่า
เมื่อน้องเออายุได้ 14 ปี ต้องเตรียมสอบขึ้น ม.ปลาย
พ่อแม่และคุณครู ต่างแนะนำให้น้องเอ หยุดเล่นฟุตบอลในตอนเย็น
และวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อจะได้อยู่บ้านและใช้เวลา
กับการทำการบ้าน เค้าอธิบายว่าถ้า น้องเอสอบได้คะแนนดี
น้องเอก็จะมีความสุข
น้องเอ เชื่อคำแนะนำ น้องเอสอบได้ดี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้น้องเอ
มีความสุข แต่ความสำเร็จนั้นกลับทำให้น้องเอต้องเรียนหนักขึ้นไปอีก 3 ปี
เมื่อถึงการสอบเข้ามหาลัย พ่อแม่และคุณครู แนะนำไม่ให้ออกไปเที่ยว
ยามค่ำคืน และวันเสาร์อาทิตย์ และไม่ให้ไล่จีบผู้หญิง แต่ให้อยู่บ้าน
เพื่อท่องหนังสือและบอกกลับน้องเอว่า ถ้าน้องเอสอบได้คะแนนดีดี
น้องเอจะมีความสุข
อีกครั้งที่น้องเอ เชื่อคำแนะนำ และสอบได้คะแนนดี และอีกครั้งเช่นกันที่
มันไม่ได้ทำให้น้องเอมีความสุขเท่าไหร่ เพราะน้องเอพบว่า
ตัวเองต้องเรียนหนักที่สุด
อีกตลอด 4 ปีที่แสนจะยาวนาน เพื่อให้ได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัย
คราวนี้ พ่อแม่และอาจารย์ ต่างก็แนะนำน้องเอให้อยู่ห่างจาก
ร้านเหล้า ผับ บาร์ต่างๆ
เพื่อจะได้มีเวลาเต็มที่กับการเรียน เค้าบอกกับน้องเอว่า
ปริญญาจากมหาวิทยาลัยสำคัญมาก ถ้าน้องเอได้มา
น้องเอจะมีความสุข
..... มาถึงตรงนี้ น้องเอเริ่มสงสัยแล้วว่า
น้องเอเห็นรุ่นพี่บางคนเรียนหนัก และได้ปริญญา
เดี๋ยวนี้เค้าต้องทำงานแลกอย่างหนัก
เพื่อให้เงินมากพอซื้อของที่จำเป็น เช่นรถ เค้าบอกกับน้องเอว่า
' เมื่อพี่มีรถยนต์ พี่จะมีความสุข ' แต่เมื่อพี่คนนั้นหาเงินได้มากพอที่จะซื้อรถยนต์คันแรกได้
เขาก็ยังไม่มีความสุขอยู่ดี
พี่เค้าเริ่มทำงานหนักขึ้นเพื่อซื้อของอื่นๆ ที่จะทำให้เค้ามีความสุข
หรือเค้าก็กำลังสับสนวุ่นวายกลับความรัก พยามยามตามหาคนที่ใช่
และบอกกับน้องเอว่า ' ถ้าพี่ได้แต่งงาน กับคนที่ใช่พี่จะมีความสุข '
เมื่อแต่งงานแล้ว เค้าก็ยังไม่มีความสุข เค้าต้องทำงานหนักกว่าเดิม
รับงานพิเศษมากขึ้น เพื่อเก็บเงินไว้สำหรับบ้านสักหลัง และบอกกับน้องเอว่า
' ถ้าพี่มีบ้านของตัวเองเมื่อไหร่ พี่จะมีความสุข '
และแล้ว เรื่องน่าเสียใจก็เกิดตามมา ค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านสักหลัง
มันหนักหนามาก ทำให้พวกเค้าไม่ถึงความสุขสักที และยิ่งไปกว่านั้น
เค้ามีครอบครัว มีลูกต้องดูแล ที่จะตื่นมากลางดึก เงินเก็บที่มีมาก็หมดไป
เพิ่มความกังวลมากมายให้กับเค้า คราวนี้คงจะเป็นอีก 20 ปีที่เค้าจะทำ
อะไรได้อย่างที่เค้าต้องการ เค้าจึงบอกน้องเอว่า
' เมื่อไหร่ที่ลูกๆโตพอที่จะออกไปตั้งตัวได้ เมื่อนั้นแหละเค้าจะมีความสุข '
กว่าลูกๆ จะโต เค้าก็คงปลดเกษียณ ต้องเลื่อนเวลาของความสุข ออกไป
เขาต้องทำงานหนักเพื่ออดออมไว้ยามแก่ เค้าบอกกับน้องเอ ว่า
' เกษียณเมื่อไหร่ จะได้มีความสุขสักที '
และหลังจากนั้น เมื่อเค้าเกษียณ เค้าเริ่มเข้าวัด ฟังธรรม ทำให้น้องเอสงสัย
ว่าทำไมคนแก่ๆ ถึงชอบมาที่วัดกัน และคำตอบที่น้องเอ ได้ฟังก็คือ
' เพราะว่าตายไปแล้วจะได้มีความสุข '
ถ้าจบเรื่องราวไว้เพียงแค่นี้ คงมีคำถามในใจมากมาย ว่าเขียนทำไม
ลองใช้เวลาคิดสักนิดก่อนที่จะอ่านนิทานเรื่องต่อไป
นิทานเรื่องที่ 2
ในหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบแห่งหนึ่งในเม็กซิโก
ชายอเมริกันคนหนึ่งเดินทางเข้ามาพักผ่อนอยู่ที่หมู่บ้านนี้
เค้าเฝ้าดูชาวประมงคนหนึ่งขนปลาที่จับได้เช้าวันนั้น
ชายอเมริกันเป็นโปรเฟสเซอร์ที่ประสบความสำเร็จสูง
เค้าเป็นอาจารย์ที่มหาลัยชื่อดังของโลก เขาจึงอดไม่ได้
ที่จะแนะนำแก่ชาวประมงเล็กน้อย
' นี่นาย! ทำไมนายถึงเลิกจับปลาแต่เช้าอย่างงี้ละ '
' เพราะผมจับปลาได้เพียงพอแล้วซิคับ ' ชาวประมงตอบอย่างอารมณ์ดี
' พอเพียงที่จะเป็นอาหารของครอบครัวและก็เหลืออีกเล็กน้อยไว้ขายด้วย
เดี๋ยวผมก็จะไปกินข้าวกลางวันกับลูกเมียผม แล้วก็งีบสักหน่อย
ตื่นมาเล่นกับลูกๆ หลังอาหารเย็นผมก้อไปร้านเหล้าดื่มเตกีล่าสักหน่อย
เล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ มันก็พอเพียงสำหรับผมแล้วคับ '
' นี่ สหาย ฟังผมนะ ' โปรเฟสเซอร์กล่าว
' ถ้านายอยู่ที่ทะเลจนถึงบ่ายแก่ๆ นายจะได้ปลามากขึ้นเป็นสองเท่าอย่างสบายๆ
นายขายปลาจากที่กินกับครอบครัว รวบรวมเงินสักหกเดือน หรือเก้าเดือน
นายก็จะสามารถซื้อเรื่อที่ใหญ่กว่า ดีกว่าลำนี้ได้ และจ้างลูกจ้างได้ด้วย ทีนี้
นายจะสามารถหาปลาได้มากขึ้นเป็นสี่เท่า คิดดูสิ นายจะหาเงินได้มากแค่ไหน
ใน 1- 2 ปี
ถ้านายทำตามแผนธุรกิจนี้นะ ภายใน 6-7 ปี นายจะได้เป็นเจ้าของกองเรือประมงขนาดใหญ่ น่าภูมิใจมั๊ยล่ะ ลองวาดภาพดู
หลังจากนั้นนายก็ย้ายสำนักงานใหญ่เข้าสู่เม็กซิโกซิตี้
จากนั้น 3-4 ปี นายก็เอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น ตั้งตัวเป็น CEO รับเงินเดือน
พร้อมผลตอบแทน
แล้วอีกไม่กี่ปี ฟังให้ดีนะ ! นายก็เริ่มงานแผนซื้อหุ้นคืน
ซึ่งจะทำให้นายกลายเป็นอภิมหาเศรษฐี !
ผมรับประกัน! ผมน่ะเป็น โปรเฟสเซอร์ด้านนี้นะ ผมรู้เรื่องพวกนี้ดี
ชายประมงตั้งใจฟังทุกอย่างที่ชาวอเมริกันพูด
เมื่อโปรเฟสเซอร์พูดจบ เค้าจึงถามขึ้นว่า
' โปรเฟสเซอร์ครับ แล้วผมจะเอาเงินหลายล้านดอลล่าร์ไปทำอะไรล่ะครับ '
เป็นเรื่องน่าแปลกยิ่ง ที่โปรเฟสเซอร์ไม่เคยได้คิดแผนธุรกิจไกลขนาดนั้น
ดังนั้นเค้าจึงเริ่มคิด แล้วบอกกับชาวประมงว่า
' สหาย! เมื่อมีเงินมากมายขนาดนั้น นายก็เลิกทำงาน ใช่ๆ เลิกทำงาน
ตลอดชีวิตเลยนะ แล้วก็ซื้อวิลล่าเล็กๆ สักหลัง ในหมู่บ้านที่งามราวกับภาพวาด เช่นหมู่บ้านนี้
แล้วซื้อเรือลำเล็กๆสักลำ ไว้ออกตกปลาตอนเช้า
กลับมากินข้าวกลางวันกับลูกเมียได้ทุกวัน
แล้วก็งีบตอนบ่ายสักหน่อย ไม่มีอะไรต้องกังวล
ตื่นมาใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับลูกๆ ของนาย
หลังอาหารเย็นก็ออกไปเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆที่ร้านเหล้า
ดื่มเตกีล่าสักหน่อย ใช่แล้วเพื่อนเอ๋ย
นายก็เลิกทำงานแล้วก็ใช้ชีวิตให้สบายไปเลย '
แต่โปรเฟสเซอร์ครับ..... ' หนุ่มชาวประมงพูดขึ้น
ผมกำลังทำทุกอย่างที่ว่านั่นแล้วนี่คับ '
Create Date : 20 มีนาคม 2552 |
Last Update : 20 มีนาคม 2552 8:50:29 น. |
|
1 comments
|
Counter : 545 Pageviews. |
|
|
|
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:14:00:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ความสุข เป็นปรัชญา เฉพาะบุคคล ความทุกข์ ก็เช่นกัน
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ