|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
...เมื่อความตายมาพราก...( เรื่องสั้น )
เมื่อความตายมาพราก ........ เดือนเสี้ยวเริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว ท้องฟ้าที่ไร้เมฆหมอกช่วยให้ประกาย
แสงแห่งดวงดาวดูโดดเด่นระยิบระยับ บ้างเป็นกลุ่มก้อน บ้างกระจัดกระจาย
พรายแสงแต่งแต้มท้องฟ้าให้ดูสดใสมีชีวิต เดือนเสี้ยวแม้เหลือเพียงเศษเสี้ยว
กลับทอแสงนวลมิใช่น้อย ยามเมื่อเคลื่อนคล้อยตัดกับขอบของขุนเขา คล้าย
กับปิ่นมุกที่ปักอยู่บนเกล้าผมของดรุนีน้อย หรีด - เรไรร้องระงม เป็นดนตรี
ประโคมกล่อมเดือนเสี้ยว กลุ่มพราวพราวแสง ราวกับนักระบำที่กำลังขยับ
ย้ายส่ายเอวไปตามจังหวะของเสียงดนตรี
......... เดือนเสี้ยวคล้อยต่ำ...พลันปรากฏดาวตกพุ่งวาบเป็นทางล่วงหน้าไป
ในหนทางที่ข้าพเจ้ากำลังก้าวไป...ถนนยังคงเป็นลูกรังเช่นเดิม...เพื่อนร่วมทาง
อีกสามคนแยกย้ายกันเข้าบ้านของตัวเองแล้ว เหลือเพียงข้าพเจ้าซึ่งมีบ้านอยู่
ไกลสุด
.......... ข้าพเจ้าเดินทอดน่อง เงยหน้าชมจันทร์เสี้ยวที่กำลังคล้อยต่ำตัด
กับขอบของภูเขา...ไม่ได้เห็นภาพเช่นนี้มานาน...ใจลอยพลอยคิดถึงครั้งสุดท้าย
ที่ได้อิงแอบแนบชิดกับเธอ...ผู้เป็นที่รัก...ภายใต้แสงจันทร์เสี้ยวดวงนี้
.......... เรือนไม้ยกพื้นสูงหลังใหญ่ ซึ่งก่อนเคยเป็นรังรักอันวาบหวามและ
อบอุ่นปรากฏอยู่เบื้องหน้า สี่ปีที่จากไปกลับเป็น
............ เพียงแค่หมู่แมกไม้ที่เติบใหญ่โอบล้อมเรือนไม้ ดูร่มรื่นน่าอยู่
อาศัยยิ่งกว่าเก่านัก
........... ไอ้ตูบ...หมาน้อยที่ข้าพเจ้าเก็บมาเลี้ยง บัดนี้เติบใหญ่นอนเฝ้าอยู่
ที่ตีนบันไดเรือน มันผุดลุกขึ้นหูตั้งขนคอชี้ชัน หันรีหันขวาง มองมาทางใต้
ต้นไทรที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ ทำท่าลุกลี้ลุกลนส่งเสียงคำรามขู่แฮ่...ฮื่ออยู่ สักพัก
กลิ่นกายอาจทำให้มันจดจำเจ้าของได้ หูที่เคยตั้งกลับลดลงลู่ลีบ ส่งเสียง
...งี๊ด...ง๊าด...วิ่งวนแสดงอาการดีใจอย่างออกนอกหน้า แต่ยังไม่กล้าเข้ามา
ใกล้ มันวิ่งวนไปมาอยูรอบตัวข้าพเจ้า บางทีก็ส่งเสียงเห่าหอนออกมาซะงั้น
จนต้องจุ๊ปากปรามให้มันหยุด
......... ข้าพเจ้าก้าวขึ้นบันไดแล้วหยุดยืนอยู่นอกชานเรือน พลางกวาดสาย
ตาสำรวจไปรอบ ๆ
......... ไม้กระดานแผ่นใหญ่ยังถูกขัดถูเป็นเงามันดั่งเดิม โอ่งใบเล็กใส่น้ำ
ดื่มสำหรับผู้มาเยี่ยมเยือนยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เช่นเดิม...หยากไย่ใยแมงมุมก็ยังไม่
มีเกาะหลังคาให้เห็น เธอยังคงมีระเบียบและเป็นแม่บ้านแม่เรือนเช่นเดิม
....ข้าพเจ้าก้าวเข้าสู่ตัวเรือน
............ ภายในตัวเรือนยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ห้องนอนของข้าพเจ้ากับ
เธออยู่ด้านซ้าย ส่วนทางด้านขวาสำหรับญาติที่มาเยี่ยมเยือน ส่วนตรงกลาง
เป็นห้องโล่งสำหรับรับแขก มีโต๊ะตัวเตี้ยและหมอนอิงใบที่เธอเป็นคนเลือกก็ยัง
อยู่เช่นเดิม
........... ข้าพเจ้าค่อย ๆ เปิดประตูห้องอย่างช้า ๆ และเบาที่สุด...สายตาที่
ชินกับความมืดกลับพบเห็นสิ่งผิดปรกติ...ไม่มีเธออยู่ในห้อง แต่กลับพบเด็ก
น้อยอายุประมาณสามขวบนอนหลับอยู่อย่างเป็นสุข...แล้วเธอ...ผู้เป็นภรรยา
ของข้าพเจ้าอยู่ไหน....คงอยู่อีกห้องหนึ่งเป็นแน่...ในใจของข้าพเจ้าคิดได้เช่น
นั้น ก็ถอยกายออกจากห้องมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูของอีกห้อง...ในใจรู้สึก
วุ่นวายอย่างบอกไม่ถูก...ถ้าเธอไม่อยู่ในห้องนั้นล่ะ...ความคิดบัดซบผุดขึ้นใน
สมอง...หัวใจก็หวิวหวั่นไหว ข้าพเจ้ายืนลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วเอื้อมมืออันสั่นเทา
ผลักประตูบานนั้นอย่างช้า ๆ
ภาพที่เห็น...
........... มันเปลี่ยนแปลงทุกสรรพสิ่งในตัวของข้าพเจ้าจนหมดสิ้น...เธอ...ผู้
เป็นภรรยาของข้าพเจ้า กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขอยู่ในวงแขนอันกำยำของ
ชายที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก
“ ทรยศ” ข้าพเจ้ารำพึงอยู่ในใจ
........... ร่างกายที่เคยแข็งแรงกลับอ่อนล้า แข้งขาก็ไร้เรี่ยวแรงจนไม่
สามารถพยุงร่างกายเอาไว้ได้ ข้าพเจ้าทรุดลงกับพื้นพร้อมกับหัวใจที่แหลก
สลายและน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ไว้หน้าลูกผู้ชาย...ข้าพเจ้าสะอื้นไห้อยู่
ตรงนั้น
........... พักใหญ่ ๆ ข้าพเจ้าจึงค่อยคลายความโศกเศร้าลง ข้าพเจ้าเริ่มได้
คิดและเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ แล้ว
......... ความโกรธ...ที่เมื่อแรกคุกรุ่น...บัดนี้กลับจางหายไปจนหมดสิ้น
...กลายเป็นความสงสารและความรักอย่างที่สุด
.......... เป็นข้าพเจ้าเองที่ผิด...ผิดที่ไม่สามารถประคองความรักของเราเอา
ไว้ได้...ข้าพเจ้าเมื่อจากไปก็จากไปกับความปวดร้าว ครั้นเมื่อได้กลับมากลับ
ยิ่งปวดร้าวกว่ามากนัก
............ ไปเสียเถอะ...ไปตามหนทางที่จะต้องไปเถิด...ในใจได้คิดเช่นนี้
กลับรวบรวมกำลังที่อ่อนล้า ผุดลุกขึ้น ข้าพเจ้าเพ่งมองใบหน้าอันผาสุขของ
เธออีกครั้ง ในหัวอกมันสะท้อนสะท้านไปหมด น้ำตาพาลจะไหลออกมาอีก
ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดหมุนตัวกลับ...แล้วก้าวเดินอย่างไม่คิดชีวิต...
........... ใต้ต้นไทรหน้าเรือน...ไอ้ตูบยังส่งเสียง...งี๊ดง๊าด...แต่ยังวิ่งวนไม่
ยอมเข้าใกล้ ข้าพเจ้าเงยหน้ามองขึ้นไปบนเรือนอีกครั้งด้วยดวงตาที่แห้งผาก
...บัดนี้ไม่มีน้ำตาอีกแล้ว...มีแต่ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเท่านั้น...เด็กน้อย
นั้นคงเป็นลูกของเธอซินะ...ในใจคิดเช่นนั้นพลันบังเกิดรอยยิ้มที่มุมปาก...เธอมี
ครอบครัวที่บอุ่นและสมบูรณ์แล้ว เรายังจะห่วงอันใดอีก...วันนี้พี่กลับมาแม้จะ
ไม่ได้พูดคุยและโอบกอดให้หายคิดถึง เพียงแค่ได้เห็นดวงหน้าและรู้ว่าเธออยู่
อย่างเป็นสุข พี่ก็เป็นสุขแล้ว...จากกันคราวนี้ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะได้กลับมา หรือ
บางทีอาจไม่ได้กลับมาอีกเลยก็เป็นได้...พี่ขอให้เธอและครอบครัวของเธอมี
ความสุขและสมบูรณ์ในความรักตลอดไปนะ
......... ข้าพเจ้าหันหลังให้กับเรือนไม้หลังนั้น เดินไปบนถนนลูกรังสายเก่า
โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย...ไอ้ตูบวิ่งออกมาส่งแล้วเห่าหอนขึ้น บรรยากาศ
ช่างสลดหดหู่ยิ่งนัก
...........................................
.......... เช้าวันรุ่งขึ้น...หลังรัปทานอาหารเช้าเสร็จ ผู้ภรรยาก็เอ่ยขึ้น
“ เมื่อคืน กำไรฝันไม่ค่อยดีเลยหละ”.
“ ฝันว่าอย่างไรล่ะ”
........... เธอทำท่าเหมือนกับไม่กล้าเล่าให้ฟัง...สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ เล่ามาเถอะน่า...ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก “ ผู้สามียิ้มพลางโอบไหล่ของเธอไว้
“ กำไรฝันว่า...พี่แสนมาจ้ะ...พอเห็นหน้ากำไรแล้วร้องไห้ใหญ่เลย”
“ อืมห์”.....ผู้สามีนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนกล่าวขึ้น
“ พรุ่งนี้ตรงกับวันตายของเขาซินะ...เรา...ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขากัน
เถอะ พี่จะขออโหสิกรรมแก่เขา ด้วย”
“ ดีจ้ะ.....กำไรก็จะขออโหสิกรรมกับพี่เขาด้วย”
.......................................................
......... ไอ้ตูบส่งเสียงครางเบา ๆ มันนอนหมอบอยู่โคนต้นไทร บางครั้ง
ก็ชะเง้อคอมองออกไปที่ถนนลูกรังเหมือนกับเฝ้ารอคอยอะไรซักอย่าง...หมอบ
เฝ้าอยู่เช่นนั้นทุกวัน...ไม่สนแม้แต่อาหารที่เจ้าหนูน้อยนำมาวางไว้ให้ที่เบื้อง
หน้า ยามค่ำคืนกลับส่งเสียงเห่าหอนอย่างน่าเวทนา...จวบจน....ลมหายใจสุด
ท้าย....ของมัน...
.......................................................
จริงหรือ.....ใจมนุษย์ สุดหยั่งรู้ เกินอธิบาย
จริงหรือ......เดียรัจฉานก็มีหัวใจ
จริงหรือ......ความตายพรากได้ทุกสิ่ง....แม้
กระทั่ง..... หัวใจของเดียรัจฉาน
...........................................................
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 18:41:37 น. |
|
1 comments
|
Counter : 448 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
cumpreram |
|
|
|
|