มังกรเขียว...ในหมู่ไม้...ใต้เงาเมฆ

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
ฉันชอบตอบข้อสอบอัตนัย



เผลอแป๊บเดียว เดือนสุดท้ายของปีก็ผ่านไปกว่าครึ่งแล้ว

อากาศตอนเช้าๆ ช่างนอนสบาย แม้ตอนบ่ายๆ แดดจะค่อนข้างแรง

แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เราหมกตัวอยู่ในห้องเรียนกัยสตูดิโอพอดี

ช่วงนี้ตามห้างร้าน ถนนหนทางก็ประดับไฟกันสวยๆ ทั้งนั้น

เดินในสยามตอนเย็นๆ คนออกมา่ถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสกัน

มีเสียงเพลงคริสต์มาส เปิดคลอๆ สร้างบรรยากาศ


ช่วงนี้บรรดาลานเบียร์ ก็ดูจะกิจการดีกันเป็นพิเศษ

จิบเบียร์ มองไฟ ชมฟุตบอลจอยักษ์ ใครอยู่บ้านเหงาๆ

ออกมานั่งสังสรรค์กับเพื่อนฝูงก็คงเข้าท่าดี

เห็นผู้คนหน้าตาเบิกบาน กันตอนใกล้ๆ สิ้นปี

เราก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย ถึงแม้ในมือตัวเองจะยังมีงานอีกเพียบก็เถอะ


ใกล้เทศกาลคริสต์มาส ยันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

เด็กมัธยม เด็กมหา'ลัย ก็ต้องทำใจไว้เลยว่าเป็นช่วงเหนื่อย

ก็นี่มันคือฤดูกาลสอบนี่นา อาจารย์ทุกวิชาก็ระดมสั่งงาน

ราวกับต้องการส่งท้าย (ทั้งที่จริงๆ แล้วเปิดปีใหม่มาก็สั่งงานอีก)

ตามปกติตอนอยู่ปีหนึ่ง เด็กคณะสถาปัตย์อย่างเรา

จะชอบช่วงสอบเป็นพิเศษ เพราะอ่านหนังสือสอบ

ต่อให้หนักแค่ไหน เท่าที่เคยพบก็ยังไม่เคยหนักจนไม่ได้นอนเสียที


ผิดกับช่วงสัปดาห์ก่อนจะสอบที่เป็นช่วงส่งงาน

ที่เหนื่อยสาหัส จนพวกเราพากันเรียกว่า 'สัปดาห์นรก'

ช่วงสอบตอนปีหนึ่งนั้น นับเป็นช่วงชิลล์

เพราะงานการทุกวิชาจะส่งหมดแล้ว ปิดโปรเจกท์กันเรียบร้อย

รอมารับโปรเจกท์ใหม่ในปีหน้า(ให้ความรู้สึกเหมือนจะอีกนาน)

สัปดาห์สอบจึงเป็นสัปดาห์ที่ได้นอนเต็มอิ่มติดต่อกันหลายวันในรอบปี


ข้อสอบของคณะเรามีไม่กี่วิชา ที่เน้นท่องจำ

ส่วนมากจะเป็นการวิเคราะห์ คำนวณ และเขียนแบบมากกว่า

ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยเครียดกับการอ่านหนังสือสอบเท่าไหร่

อ่านจบก็ได้นอน อ่านไม่จยอยากนอนก็นอนได้(อ่าว...)

ถ้าอ่านไม่ทันกันจริงๆ ฟังเพื่อนติวหน้าห้องสอบยังพอช่วยได้

ขอให้พอมีหลักในการตอบ ที่เหลือก็บรรยายแสดงความคิดเห็นกันไป

ดึงหลักการที่เคยเรียนมาทั้งหมดมาสังเคราะห์เป็นคำตอบ



หรือเรียกกันว่า อ่านพอมีหลักให้ 'แถ' ได้นั่นเอง

ข้อสอบส่วนใหญ่ มักจะเป็นคำถามเปิดกว้าง

เปิดให้ใช้ฝีมือด้านบรรยายโวหาร พรรณนาโวหารกันเต็มที่

แต่ก็มีบางวิชาเหมือนกัน ที่ต้องการความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ

อย่างวิชา Materials&Construction(วิชาวัสดุและการก่อสร้าง)

จะไม่ให้ตอบแบบบรรยาย แต่เน้นให้เขียนเป็นภาษาภาพเลยมากกว่า

(ใครที่เรียนไม่เข้าใจ แถมอ่านไม่จบ ก็ม่องเท่งกันไป)



อีกวิชาหนึ่งเป็นวิชาที่เน้นความจำพอสมควรคือวิชา

History of Arts (ประวัติศาสตร์ศิลปะ) ที่ถึงแม้จะออกเชิงวิเคราะห์

หรือเปรียบเทียบ (ดูเหมือนจะ'แถ' ได้) แต่ก็ต้องมีข้อมูลในสมอง

บ้างเหมือนกัน ข้อสอบวิชาHistory นี้ เป็นวิชาที่ก่อนสอบ

เด็กจะจิตตก เพราะเนื้อหาเยอะเหลือเกิน ไม่รู้จะออกตรงไหนบ้าง

พอเข้าห้องสอบก็จะเริ่มเครียด เพราะที่อ่านไม่ออก ที่ออกไม่ได้อ่านมา

ท้ายๆ คาบจะเริ่มปลง และเข้าสู่ภาวะที่เรียกกันว่าการ'แถ'



ข้อสอบ History มักจะมีรูปภาพจิตรกรรม ประติมากรรม

สถาปัตยกรรมมาให้ หนึ่งภาพ สองภาพ หรือสามภาพก็แล้วแต่

แล้วถามประมาณว่าเป็นผลงานชิ้นนี้ชื่ออะไร ของศิลปินคนใด

ทำขึ้นในยุคใด (ตอนปีหนึ่งเราจะเรียนประวัตอศาสตร์ทางยุโรป)

มีลักษณะเด่นที่สำคัญอย่างไร ถ้ามีสองภาพมักจะให้เปรียบเทียบ

ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ยิ่งพวกในยุคกลาง

ที่ศิลปะถูกครอบงำโดยศาสนาด้วยแล้ว เรื่องราวในพระคัมภีร์

ตอนเดียว มีคนเอาไปวาดภาพที่แตกต่างกันเป็นสิบเวอร์ชัน



เฉพาะ Madonna Enthroned นี่ มีศิลปินเขียนกันทุกยุค

แต่ละยุคก็มีลักษณะเฉพาะและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

ต่างกันออกไป บัลลังก์คนละแบบ สีหน้าแสดงอารมณ์แค่ไหน

ลักษณะการจีบผ้าแข็งหรือพริ้ว ใบหน้าอ่อนโยนมั้ย

ดูมีความสัมพันธ์ที่มีต่อพระเยซูหรือเปล่า ทุกรายละเอียด

จะบ่งบอกถึงยุคสมัย และความเชื่อ ความนิยมในช่วงนั้นได้



เมื่อต้องจำทั้งชื่อ และรายละเอียดของผลงานหลายร้อยชิ้น

ขณะที่ข้อสอบออกเพียงไม่กี่สิบชิ้น ก็จะเกิดอาการ

จำได้บ้างไม่ได้บ้าง และสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจำไม่ได้

ก็คือชื่อผลงาน กับชื่อศิลปินนั่นเอง เพราะรายละเอียด

สามารถ'แถ' ได้จากในภาพ(ถ้าข้อสอบมันชัดพอนะ)


ดังนั้นด้วยความเชื่อบางประการของนิสิตบางคนที่ว่า ถ้าทำข้อสอบไม่ได้

ก็ควรจะมั่วให้มีคำตอบไว้ก่อน เผื่อฟลุคอาจได้คะแนนค่าหมึกปากกา

จึงเกิดชื่องานศิลปะใหม่ๆ(ที่ตั้งกันสดๆ ในห้องสอบ)เกิดขึ้นมากมาย

ส่วนชื่อศิลปินตั้งใหม่ลำบาก เลยมั่วเอาพอให้คุ้นๆ ว่าอยู่ในยุคนั้น

และนำมาพูดคุยเป็นที่สนุกสนานเฮฮากันหลังสอบ

แต่อาจารย์ท่านคงไม่สนุกด้วย อาจจะำขำๆ คนแรกๆ

แต่ถ้าต้องเจอเด็กมั่วๆ แบบนี้เยอะๆ คนตรวจข้อสอบเสียสายตาฟรีจริงๆ



ดังนั้นพอขึ้นปีสอง จึงได้เห็นหมายเหตุที่ใบปะหน้าข้อสอบ

วิชาหนึ่งว่า '...หากไม่ทราบคำตอบ ขอให้เว้นไว้'(พวกเราคิดต่อในใจ

ทันทีว่า...กรุณาอย่าแถ)



จะยกตัวอย่างชื่องานบางชิ้น ที่ยาวซะเหลือเกิน

จนเด็กแทบกระอักตอนจำ ไม่รู้คนอื่นมาอ่านตอนนี้

จะรู้สึกอยากกระอักด้วยหรือเปล่า แต่สำหรับคนที่ต้องสอบ

และไม่ได้สอบแค่วิชาเดียว ชื่อเหล่านี้โหดมากๆ

อ้อ พวกชื่อศิลปินสัญชาติอิตาเีลียนนี่ ก็ชื่ออ่านยากและยาวเกินจะรับจริงๆ


อย่างภาพ Madonna with Members of the Pesaro Family,

Eleanora of Toledo and Her Son จริงๆ ก็ไม่ยาวมาก

เหมือนจะแปลตรงตัว แต่ตอนนั้นมันจำไม่ด้ายยยย...

แต่ศิลปิน Fra Filippo Lippi ชอบชื่อนี้มาก โคตรน่ารักเลย อย่างนี้จำแม่น



แล้วก็มีบางทีที่ภาพในข้อสอบไม่ชัดดูไม่ออก แถมจำไม่ได้ว่า

มีรายะเอียดยังไง ก็แต่งเรื่องขึ้นเอง จากสุภาพสตรีสูงศักดิ์

ที่มาอาบน้ำแบบ Outdoor กลายเป็นโสเภณี กำลังโศกเศร้า

นั่งจับกลุ่มคุยกันไปซะเฉยๆ (ภาพเค้าราคาตกหมด)



อย่างไรก็ตามนับว่าข้อสอบคณะนี้ถูกโรคกับจขบ.มากอยู่

เพราะจขบ.เป็นพวกทำข้อสอบแบบมีตัวเลือกหรือปรนัยทีไร

โอกาสผิดจะสูงมาก โดยเฉพาะข้อสอบตอนเรียนม.ปลายนั้น

มักจะถามแบบว่า มีข้อผิดกี่ข้อ ข้อถูกกี่ข้อ ไม่ได้ถามนะว่า

ข้อไหนถูกข้อไหนผิดไปชัดๆ แต่ต้องอ่านข้อความประมาณ

5 ข้อความ ที่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้ทั้งหมดจะถูกต้อง แล้วเอามาตอบ

แค่ว่าถูกกี่ข้อ หรือผิดกี่ข้อ เท่ากับเราต้องรู้เป๊ะๆ ทุกข้อ มั่วไม่ได้



แล้วอย่างข้อสอบชีวะอย่างเนี้ย ใครจะไปจำได้หมดหละเหวย

แต่ก็นับว่ายังดีตอนม.ปลายนั้น สอบมิดเทอมเป็นอัตนัย

ทำให้จขบ.พอจะสะสมคะแนนได้มากอยู่ แต่ถึงแม้มีคะแนนมิดเทอม

เป็นที่หนึ่งของห้อง แต่ก็ตกม้าตายตอนไฟนอลได้อยู่ดี

เพราะไฟนอลทุกวิชาจะเป็นปรนัยหมด เดาว่าเพื่อความรวดเร็ว

ในการตรวจ ยิ่งเด็กม.หก ต้องรีบจบ ทำข้อสอบแบบฝนๆ

เข้าคอมตรวจแป๊บเดียวก็เสร็จ ดังนั้นถึงแม้เราจะมีคะแนนเก็บ



สุดอลังการ ที่มีแต่คนบอกว่าแก 4 แน่ๆ แล้ว แต่ก็มีหลายวิชา

ที่ไฟนอลออกมาแล้วเฉียด 80 ไปนิดเดียว เท่ากับว่า

บางวิชาทำได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่รู้เป็นโรคอะไรเหมือนกัน

ถูกข้อสอบหลอกทุกที(แกสะเพร่าเองมากกว้าม้าง)

ยิ่งวิชาคำนวณสุดแสนจะไม่โปรด อย่างฟิสิกส์ยิ่งแล้วใหญ่

ถ้าเป็นแบบแสดงวิธีทำ อาจารย์จะตรวจเป็นขั้นๆ ไป


สมมติว่าวิธีทำขั้นแรกถูก ก็เอาไปหนึ่งคะแนน ช่วงสองอีกสองคะแนน

และถ้าคำตอบรวมถูกอีกหนึ่งคะแนนประมาณนี้

เราก็จะพอมีคะแนนอย่างน้อยข้อละสองสามคะแนน

แต่พอเป็นข้อสอบปรนัย อาจารย์ออกข้อสอบเก่งมาก

ไม่ว่าจะคิดยังไงก็มีคำตอบทุกที ดักไว้หมดอย่างนี้

คนไม่รู้เห็นมีคำตอบก็ดีใจคิดว่าตัวเองถูกแล้ว

เราเองสามารถบอกได้อย่างภาคภูมิใจว่า

เคยทำปรนัยฟิสิกส์ 10 ข้อ(ข้อสอบมิดเทอมมีทั้ง อัตนัย

ปรนัย และเติมคำ) ได้ 0 คะแนนมาแล้ว เหอะๆ


พอสอบไฟนอลฟิสิกส์ครั้งสุดท้ายก่อนจบม.หก

ซึ่งเป็นฟิสิกส์บทที่ไม่รู้เรื่องที่สุด เราไม่ทนแล้ว ปลงๆ

คณะที่เราเรียนก็ไม่น่าจะได้ใช้ฟิสิกส์เรื่องนี้

(ฟิสิกนิวเคลียร์-ฟิสิกส์อะตอม)


ให้กระดาษทดมาสองแผ่น เราก็ใช้สำหรับการมั่วไปแผ่นหนึ่ง

ส่วนอีกแผ่นกลายเป็นเจ้าสิ่งนี้...






Photobucket

ทำข้อสอบเสร็จแล้ว(อย่างรวดเร็ว) แต่ยังไม่ถึงเวลาออกจากห้องสอบ

เลยวาดรูปโต๊ะตัวเอง กับโต๊ะเพื่อนข้างหน้า แล้วก็แถวข้างๆ แก้เซ็ง

อาจจะดูมุมมองมันแปลกๆ เพราะวาดกันคนละทีค่ะ ไม่ได้อยู่ในภาพเดียวกัน




เฮ้อ..ผ่านไปจะสองปีแล้วสินะ ม.หก

มาอ่านหนังสือที่จะสอบวันอังคารดีกว่า
























Create Date : 20 ธันวาคม 2551
Last Update : 20 ธันวาคม 2551 17:38:11 น. 23 comments
Counter : 1343 Pageviews.

 
จ๊ะเอ๋


โดย: ดาวเจิม (เบอร์สองก็ได้) (discipula ) วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:18:06:26 น.  

 
ไม่ค่อยได้ทำอัตนัยเเบบของน้องเจื้อยเเจ้ว ทั้งยังรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกโรคกับมันซักเท่าไหร่เลย วิชาบรรยาย อย่างวิชาธรณีวิทยาเบื้องต้นที่ต้องเรียนตอนปีหนึ่ง (น้องเจื้อยเเจ้วต้องเรียนมั้ยวิชานี้ ?) เป็นตัวอย่างของวิชาที่พี่มักทำคะเเนนได้ไม่ดี วิชาพวกนี้เนื้อหามักจะเยอะจนล้น

ในช่วงของการเตรียมตัวสอบวิชาบรรยายเเบบนี้ นิสิตจำเป็นต้องจับประเด็นในเรื่องที่ควรออกสอบหรือเก็งประเด็นที่ควรออกสอบให้ได้มาก ๆ ซึ่งก้เเปลก รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับตัวเอง

คิดว่าการเรียนในคณะสถาปัตย์คงต่างออกไป ข้อสอบวิชาบรรยายที่ตอบเเบบอัตนัย น่าจะเป็นวิธีการตอบข้อสอบที่เหมาะ เเละที่เอิ้อให้นิสิตได้มีโอกาสยกตัวอย่าง เปรียบเทียบ พิจารณา ประเด็นเนื้อหานั้นได้อย่างกว้างขวาง


โดย: Wild Strawberries วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:18:22:00 น.  

 
ข้อสอบอัตนัย ที่เคยตรวจนะ จะใช้คีย์เวิร์ด อาจจะ 5-6 หรืออาจจะเป็น 10 คำ คนตรวจก็จะหาคำเหล่านี้จากคำตอบที่ตอบมา คีย์เวิร์ดแต่ละคำอาจมีคะแนนไม่เท่ากัน พอเจอคำนึงก็ได้คะแนนของคำนั้น เจออีกคำก็จะได้เพิ่มเป็นค่าคะแนนของคำนั้นๆ บวกเข้าไป

คะแนนค่าแถ ก็คงให้ถ้าอาจารย์เจ้าของวิชาตรวจข้อสอบเอง แต่ส่วนมากจะไม่ จะมีทีเอตรวจให้ แต่การแจ้งว่าถ้าไม่รู้อย่าตอบนี่พี่ไม่เคยเจอ ทำร้ายจิตใจมากเลย ทำให้เราสิ้นหวังซึ่งๆ หน้า โหดร้าย

เจื้อยแจ้ววาดรูปสวยจังน้องเอ๊ย


โดย: momster วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:19:23:08 น.  

 
สวัสดีจ้ะน้องเจื้อยแจ้ว

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า กระดาษวาดรูปเล่นของหนูดูดีเหลือเกิน ถ้าพี่จะวาดรูปอย่างนี้บ้างเห็นทีจะใช้เวลาเป็นวันๆ ขยำแล้วขยำอีก

เรื่องข้อสอบ พี่ได้ทั้งสองแบบ จะเป็นอัตนัยหรือปรนัยก็ได้ ดีทั้งสองแบบ ... ถ้าเป็นปรนัย ดีตรงที่ เราสามารถมั่วได้แบบมีขอบเขต ส่วนอัตนัย เวลาไม่รู้คำตอบ เราสามารถใช้จินตนาการได้อย่างเต็มที่ 555 พูดเรื่อยเปื่อยไปนู่น ... จริงๆแล้วถนัดข้อสอบแบบวิเคราะห์จ้ะ เรื่องท่องจำนี่ได้มั่งไม่ได้มั่ง
แต่ก็นะ เรียนคณะพี่เน้นท่องจำซะเยอะ

ตอนนี้น้องเจื้อยแจ้วจะสอบ พี่ก็ขอให้โชคดีได้เอนะจ๊ะ สู้ๆจ้ะ จะคอยส่งกำลังใจไปให้


ป.ล. ตกลง "แถ" แปลว่า ทำมั่วๆเหรอ (พี่ำไม่รู้เจงๆ T_T)


โดย: discipula วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:19:33:58 น.  

 
เห็นน้องเจื้อยแจ้วเอากระดาษวาดรูปเล่นในห้องสอบมาลง พี่ก็มีอะไรมาอวดเหมือนกัน ... เมื่อหลายปีก่อนในวิชาละตินอ่ะ ถูกบังคับให้ไปฟังบรรยายเกี่ยวกับโบราณคดีกันทั้งห้อง (จริงๆถ้าครูจะไปฟังคนเดียว เด็กๆก็ไม่ว่าอะไรหรอก ชอบซะอีก 555) น่าเบื่อมาก พอดีนั่งอยู่หลังห้องกับเพื่อนๆ เลยหากิจกรรมผ่อนคลายทำกัน คือ เล่นวาดรูปทายชื่อเทพเจ้า สัตว์ประหลาดใน mythology กัน


Photobucket


555 เป็นไง ฝีมือวาดรูปไม่ได้เรื่อง แต่ก็บรรลุวัตถุประสงค์


โดย: discipula วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:19:42:27 น.  

 
ชอบอัตนัยเหมือนกันจ้า เขียนเพลินๆ บางทีมั่วบ้างก็มี อิอิ


โดย: StarInDark วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:20:15:55 น.  

 


ข้อสอบแบบอัตนัยสนุกดีนะพี่ก๋าว่า
แต่มันขึ้นอยู่กับกึ๋นของครูผู้ตรวจด้วย
อย่างวิชาพวกที่ต้องใช้สุนทรียศาสตร์มากๆ
บางทีมันขึ้นอยู่กับทัศนคติส่วนตัวของครูซะเป็นส่วนใหญ่

มันเหมือนกับมีรูปวาดแนวนามธรรม
แล้วให้นักศึกษาตอบว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อมองภาพนั้น

พี่ก๋าว่าข้อสอบแบบนี้มีอคติอยู่ค่อนข้างมาก
เพราะครูผู้สอนก็มีความชอบความเชื่อปักธงรอไว้ล่วงหน้า
คราวนี้มันขึ้นอยู่กับความคิดครูกับนักเรียนจะตรงกันหรือไม่เท่านั้นเอง








โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:20:22:12 น.  

 
แฮะๆ ความรู้สึกแบบนี้นานมาแล้วค่ะ
แต่ไม่ว่าข้อสอบแบบไหนจะใจจดจ่ออยากทำมากๆ
เพราะอยากให้ผ่านไปเร็วๆค่ะ แล้วเดี๋ยวจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ
ว่าแต่เจ้าของบ้านยังต้องทำข้อสอบไปอีกนานไหมค่ะ


Photobucket




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:20:48:12 น.  

 
สมัยพี่เรียน คณะพี่มีแต่ข้อสอบอัตนัยนะ (ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น) แต่มาวันนี้ ได้ข่าวว่ามีการออกข้อสอบปรนัยด้วย... แปลกจริงๆ พี่ละสงสัยว่าคนที่จะต้องเขียนรายงานความเห็น ที่ต้องมีการคิดวิเคราะห์ก่อนเขียนคำตอบ ถ้าเรียนมาในระบบติ๊ก ก ข ค ง แล้วจะเขียนรู้เรื่องรึ...
อือม์..น้องเจื้อยแจ้วเขียนหนังสือได้เป็นเรื่องเป็นราวเพราะยังงี้นี่เอง เพิ่งรู้ว่าคณะนี้เขามีให้เขียนข้อสอบพรรณนาโวหารด้วย ชอบตรงที่ได้ใช้จินตนาการด้วยนิ...
มิน่า พวกคุณวินทร์ พี่ดี้ พี่จิกถึงได้เขียนกันได้เขียนกันดี...


โดย: พี่มารูน... (Devonshire ) วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:00:39 น.  

 
ถูกต้อง

ให้ได้เขียนมีคะแนนแน่ๆ

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:12:50 น.  

 


โดย: VELEZ วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:30:03 น.  

 
ฝันดีครับน้องเจื้อยแจ้ว



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:41:57 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปอ่านอัปสราที่บล๊อกนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ นะคะ จะเข้าไปแก้ไขค่ะ

ปล.แอบอ่านบล๊อกของคุณแล้วอมยิ้มเล็ก ๆ ค่ะ นึกถึงตอนเรียนหนังสือเหมือนกัน


โดย: จิณณา (Siraprapa_p ) วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:22:43:31 น.  

 
เริ่มจะชอบวิธีการนำเสนอของบ้านนี้ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะคะ
มาทักทายยามดึกค่ะ
เพิ่งหายมึน อิอิ
.....
ช่วงนี้ก้อช่วงเตรียมฉลองจริง ๆ แต่นักศึกษาต้องสอบกลางภาพอ่ะนิ
ไฟท์ติ้ง!!


โดย: MeMoM วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:23:51:12 น.  

 


ความรู้สึกแบบนี้นานแล้วค่ะ
ถ้าเพลียกับข้อสอบ ก็ไปเดินเล่นสูดอากาศเย็นๆ สมองจะได้ปลอดโปร่ง




โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:0:17:26 น.  

 
แวะมา Good night น้องหล่าเจื้อยแจ้ว ตอนนี้น้องน้องหล่าเจื้อยแจ้วหลับแล้วไป่น้อ อ่านหนังสือสอบฮอดไสแล้วน้อ ตอนเอื้อยเรียนเอื้อยก็อ่านหนังสือจนหลับคาโต๊ะ () ตื่นขึ้นมาความรู้หายโหม้ด

เอื้อยหละประทับใจบล็อกน้องหล่าเจื้อยแจ้วมื่อนี่จริง ๆ ยาวได้ใจหลายแท้ สอบอัตนัยเอื้อยก็แถไปเรื่อยคือกัน เพราะบางทีหลัก ๆ อันเราอ่านมา เราก็จำบ่ได้ ก็เลยแถไปบ่ได้เป็นบางเทีย ก็เหมือนกันกับน้องหล่าเจื้อยแจ้วที่อาจารย์บอกว่าอย่าแถไปมั่ว ๆ ไม่ตรงประเด็น

ได้อ่านบล็อกน้องหล่าเจื้อยแจ้วมื่อนี่แล้วเฮ้ดให่ เอื้อยคิดฮอดความหลังครั้งยังเยาว์ เขียนปี้น้อยส่งข้ามโต๊ะ วิชาที่เอื้อยพอซิเฮ็ดได้ก็มีแต่ภาษาปะกิด เหล่าผองเพื่อนก็ซิถ่าเอานำเอื้อย ส่วนวิชาอื่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะเอื้อยลอกเค้าหมด เฮ็ดให่ตอนเรียนมหาลัยเอื้อยหลีกหนี่วิชาเหล่านี้ แต่ก็เสียดายแฮ้งแฮงที่เพิ่งซิฮู้ตัวว่าอยากเรียนคือน้องหล่าเจื้อยแจ้ว บ่จังสั่นคือซิได้แถบวก drink เพื่อให้ไอเดียบรรเจิดแบบน้องหล่าเจื้อยแจ้ว แต่ก็บ่เป็นหยัง

หวังว่าน้องหล่าเจื้อยแจ้วคือซิพออ่านเม้นเอื้อยเข้าใจเด้อ

คันบ่เข้าใจเอื้อยซิเข้ามาอธิบายเป็นภาษากลางอีกที

ไปเด้อน้องหล่าเจื้อยแจ้ว

ขอให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ทุกโต เข้าใจทุกเรื่องเด้อ

ไปหละ

สู้ ๆ สู้ตาย


โดย: แค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง (minporee ) วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:3:04:59 น.  

 
โห น้องเจื้อยฯอัพไวมาก
ยอด
emo


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:4:07:50 น.  

 
ตกอยู่ในสภาวะเดียวกันเลย
หนูก็จะสอบกลางภาควันจันทร์นี้อยู่เหมือนกัน
ยังเรียนไม่รู้เรื่องเลย 5555+
ข้อสอบอัตนัยดีนะคะ อย่างที่พี่บอกแหละ
โดยเฉพาะวิชาสังคมมันแถได้ทั่วทุกมุมโลกเลย


โดย: Fai_Cotton_lonely วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:10:44:38 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ
วันหยุดพักผ่อนอย่างนี้ไปเที่ยวไหนคะ
แจนมะได้ไปไหนเลย นอนกลิ้งไปมาอยู่บ้านอ่ะ
ไปเที่ยวไหน ทำอะไรก็ขอให้สนุกสนานนะคะ
(แจนเองก็ยังทำได้ไม่ทุกข้อเพื่อชะลอความแก่หรอกค่ะ 555+)
Have A Nice Day...คร่า


โดย: นู๋แจน (JJ&TheGang ) วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:11:00:06 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด มาแล้ว เดี๋ยวขออ่านก่อนนะน้องเจื้อยแจ้ว


โดย: หมาออนไลน์ (prunelle la belle femme ) วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:19:04:59 น.  

 
อัพบล็อกยาวให้อ่านกันเมามันอีกแล้วค่ะน้องเจื้อยแจ้ว บล็อกนี้นอกจากจะพูดเรื่องสอบแล้วยังเป็นการอธิบายคำว่า "แถ" ให้น้องเอ็มเข้าใจไปในตัวด้วยใช่ไหมคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ไม่อยากจะบอกเลยว่าพี่วาดรูปไม่เป็นอ่ะค่ะ ส่วนฝีมือน้องเจื้อยกะน้องเอ็มนั้น 555 เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนจริงๆ

ขอเป็นกำลังให้น้องเจื้อยสู้ตายเรื่องการสอบที่ใกล้จะมาถึงนะคะ

ป.ล. ไม่เอาเพลงมาลงแล้วอ่ะ


โดย: หมาออนไลน์ (prunelle la belle femme ) วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:19:13:14 น.  

 
สวัสดีจ้ะน้องเจื้อยแจ้ว

อ่านหนังสืออยู่ใชป่าว ไม่ต้องพึ่งอะไรขวดๆแล้วมั้ง

ไปล่ะจ้ะ แวะมาทักเฉยๆ


โดย: momster วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:19:55:55 น.  

 
วาดรูปเก่งจังครับ

ตอนสอบผมเองก็มั่วประจำเหมือนกันครับ


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:20:47:17 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

cruduslife
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




I’m not going to tell the story the way that it happened. I’m gonig to tell it the way I remember it. --Great Expectations--
Friends' blogs
[Add cruduslife's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.