|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ส้มตำแอนด์เดอะแกงค์
สัมตำแอนด์เดอะแก๊งค์
พูดถึงส้มตำแล้วก็ถือเป็นอาหารคู่ชาติประจำกลุ่มของชั้นเลยทีเดียว สมัยเรียนวันไหนว่างเป็นต้องไปหากินกัน ใกล้ที่ไหนก็ไปที่นั่น กินกันกระจายและกินกันได้ทุกอย่าง บางคนกินเนื้อบางคนไม่กินแต่ก็สามารถกินร่วมกันได้ไม่ถือสาต่างคนต่างจกนี่เนอะ คิดถึงความหลังอีกแระ วันนี้เลยจะพาเพื่อนๆไปออกหากินกับส้มตำอร่อยๆและออฟชันต่างๆมากมาย ส่วนแต่ละร้านจะมีทีเด็ดอะไรมามัดใจต้องติดตามกัน............. .........ร้านแรกเริ่มจากแถวสามย่านก่อนเลย ถิ่นเก่าของข้าพเจ้าเอง ชื่อร้านเจ๊แดง ร้านนี้เด็กนิเทศและเด็กนิติรู้จักดีเพราะร้านติดรั้วมหาลัยเลย จากริมถนนเดินเลาะรั้วนิติจุฬาเข้ามาจะมีตึกแถวเป็นร้านขายการ์ตูนเก่าแก่ ระยะจากริมถนนประมาณสามสิบเมตรเลี้ยวซ้ายแรก เป็นตึกแถวร้านที่สองก็เจอเลย ติดกับร้านต้นกกซึ่งมีขนมเค้กอร่อยที่สุดในสามย่านเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมาขยายความในตอนต่อไปละกันนะ ร้านเจ๊แดงนั้นมีส้มตำที่รสชาติจัดจ้านและเข้มข้นทีเดียว ส้มตำนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานของชั้นคือ เส้นกรอบไม่เหนียวและน้ำรสกลมกล่อม ปูปลาร้าก็ไม่เค็มเกินไปหอมกำลังดี ส่วนออฟชันเด็ดดวงของร้านเจ๊คือ คอหมูย่าง เพราะจะคลุกเครื่องปรุงแบบเยอะสุดๆจนหนาแล้วย่างแบบเกรียมกรอบ สุกทั่วถึงกัน และเป็นแบบย่างใหม่ๆตลอด และออฟชันดาวเด่นอีกเมนูนึงก็คือยำไก่ทอด ไก่ทอดแบบหาดใหญ๋แป้งไม่หนาราดน้ำยำที่ธรรมด๊าดา แต่รสชาติจึ๊ดจ้าดขัดกับหน้าตาใสซื่อของมันมาก ส่วนออฟชันอื่นๆร้านแกมีครบไม่ต้องห่วง ลาบ น้ำตก ตับหวาน ไก่ย่าง ปลาดุกสามรส ฯลฯ ขอแนะนำเฉพาะระดับเอลิสต์ก่อนน้า อ้อ ควรมาก่อนเที่ยงนะจ๊ะเพราะคนเยอะมากทีเดียว หยุดวันเสาร์อาทิตย์นะ ......ร้านที่สองและสามอยู่แถวท่าพระจันทร์ฝั่งเพื่อนบ้านกันบ้าง การหาร้านนี้จะต้องระดับเซียนทีเดียวเพราะกว่าจะหาเจอนั้นไม่ง่ายเลยน้า ใครที่โมโหหิวแนะนำให้ข้ามไปเลยนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ร้านที่สองนั้นอยู่ในตรอกเช่าชุดครุยร้านเกียรตินิยมเป็นตรอกสุดท้ายของร้านครุยเลยมีอยู่สองสามตรอกจากหน้าประตูมหาลัยธรรมศาสตร์ หน้าตรอกขายพระเครื่องและอาหารตามสั่งเดินเข้าตรอกจะเจอแยกเล็กๆทางซ้ายเลย ไม่เกินสองคูหาหรือแค่พ้นร้านอาหารตามสั่ง เลี้ยวเข้ามาจะเป็นที่เงียบๆเพราะเป็นบ้านคนไม่มีร้านอะไร ประมาณห้าหกคูหาจะเจอร้านอยู่ทางขวามือ ไม่รู้ชื่อร้านเพราะจำไม่ได้ ไปกินตามสัญชาติญาณทุกทีเลยไม่ได้จำง่ะ เป็นร้านส้มตำสไตล์โฮมเมดแท้ๆเลยทีเดียวเพราะออฟชันทำจากในครัวหลังบ้านส่วนหน้าบ้านก็เป็นส่วนตำแค่เล็กๆ ไปกี่ทีๆเด็กธรรมศาสตร์หน้าใสๆเต็มร้านไปหมดเลย ที่แปลกกว่านั้นคือเป็นครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนทำส้มตำขาย อ่ามาและหลานสาวตำ เจ๊และเฮียอยู่หลังร้านทำออฟชันและเสริฟ ส้มตำที่นี่รสชาติสไตล์เด็กๆกลมกล่อมดีมากๆ ตำแบบหน้าตาใสซื่อนิดๆเส้นน้อยๆแต่เครื่องเพียบเลย ออฟชันที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ข้าวโพดทอด ข้าวโพดทอดแบบฟูกรอบร่วนเป็นเม็ดๆไม่ใช่แบบเป็นก้อนๆทั่วไป ยำปลาหมึกรสชาติจัดจ้านหน้าตาใสๆ เนื้อย่างหมักเหล้าจีนรสหวานหอม เนื้อนุ่มๆต้องกินกับแจ่วที่เปรี้ยวเค็มคู่กันถึงจะพอดี อาหารที่นี่จะทำเป็นจานเล็กๆกินกันง่ายๆ เพราะสนนราคาก็สามสิบบาททุกอย่างยกเว้นต้มแซบหม้อดินสีสิบบาท ออฟชันอย่างอื่นก็มีหมดเช่นกันนะ แนะนำ เฉพาะเอลิสต์เท่านั้นห้ามพลาด ควรมาก่อนและหลังเที่ยงและควรมาตอนที่ยังไม่หิวเพราะจะช้าหน่อย คนเค้าน้อย และต้องเอาทิชชูมาเองนะเพราะเค้ามี แต่ไว้ขายน่ะ ไม่ฟรี.....หยุดวันอาทิตย์จ้า ...................ร้านที่สามยังอยู่แถวท่าพระจันทร์อยู่นะ บางคนอาจจะบอกว่าชั้นเห็นแถวๆนี้มีร้านตั้งเยอะแยะเลยแถววังหลังก็เยอะทำไมไม่อร่อยหรือ ไม่ใช่นะคะเพราะเราชอบหาออฟชันของแปลกๆน่ะค่ะ คงไม่ว่ากันนะ ร้านนี้ต้องเดินเข้ามาทางหอสมุดปรีดีผ่านเลยคณะรัฐศาสตร์มาอีก มาจนสุดรั้วทางออกเลย อยู่ขวามือติดกับรั้วข้างๆเป็นห้องกักเก็บขยะ เพื่อนๆที่เรียนรัฐศาสตร์เก่าเรียกว่าร้านขยะ จะเป็นร้านเล็กๆอยู่ด้วยกันสามร้าน ร้านแรกนั้นเป็นอาหารตามสั่งร้านที่สองขายส้มตำและสามขายน้ำต่างๆ อยู่กันแบบพึ่งพาอาศัย ส้มตำนั้นเป็นรสชาติที่เผ็ดดีทีเดียวหากใครไม่กินเผ็ดก็บอกเป็นพริกกี่เม็ดก็ว่ากันไปนะ ออฟชันเด็ด(อีกแล้ว)คือ ไก่ทอด ที่นี่จะใช้น่องไก่และปีกไก่เท่านั้นคลุกสมุนไพรหลากหลายชนิดเช่นตะไคร้ใบมะกรูดชุบแป้งหนาเข้มข้นมากกกกกทอดจนเกรียม กลิ่นหอมเตะจมูกสุดๆ กินทีไรต้องเบิ้ลเพราะไม่เคยพอเลย บางทีถ้าไปบ่ายโมงเหลืออยู่สิบกว่าชิ้นก็เหมาหมดตู้เลยกินกันเกลี้ยง เพราะมันไม่เลี่ยนนั่นเอง ส่วนที่เหลือก็อร่อยทุกอย่างเหมือนเดิม ควรไปก่อนบ่ายเพราะไก่จะหมดนะจ๊ะ ที่นี่ทอดกันแค่กระทะสองกระทะเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่มีรถหรูๆมาจอดเหมาไก่ไปหมดเลยก็มี สนนราคาออฟชันอยู่ที่ ยี่สิบห้าถึงสามสิบบาท ส่วนไก่ทอดนั้นราคาน่องละสิบบาทเองจ้า ขายในเวลาราชการเท่านั้น ...........ร้านที่สี่นั้นเป็นร้านละแวกบ้านคือแถวๆรัชดา ชื่อร้านนายหำ จริงๆเปลี่ยนเป็นชื่อที่เพราะๆแล้วแต่จำไม่ได้ หากมาเส้นรัชดาทางไหนก็ได้เมื่อเห็นคาร์ฟูร์แล้วสังเกตสะพานลอยหน้าคาร์ฟูร์ฝั่งตรงข้ามกันเลยติดสามแยกไฟแดงใหญ่เลย อยู่ตรงสะพานลอยจริงๆพอดีเด๊ะ เป็นร้านส้มตำสายพันธ์อีสานแท้ๆรสชาติจัดจ้าน อาหารที่นี่จะเป็นจานใหญ่ๆทั้งนั้นเลย เมนูแนะนำคือคอหมูย่าง ที่รสชาติหวานมันได้ใจ แตกต่างจากร้านเจ๊แดงที่ออกเผ็ดๆนิดๆ และปลาช่อนเผา ตัวละหกสิบบาทเท่านั้นแต่ตัวใหญ่ทีเดียว ต้มแซ่บนั้นก็เผ็ดและร้อนแรงมากๆมีให้เลือหลากหลายทั้งหมู ไก่ ปลาดุก แปลกสุดคือตำซั่ว เป็นตำขนาดอลังการงานสร้างและแปลกสมใจคือ ใส่ส้มตำ เส้นขนมจีน แล้วก็มี ปลากรอบ กากหมูกรอบ ถั่วงอกขาวอวบ โรยหน้าด้วยถั่วและกุ้งแห้งจานใหญ่สุดๆที่พอกินคำแรกหลังจากลังเลกับรสชาติอยู่พักนึงแล้วบอกได้เลยว่า เข้ากั๊นเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ การเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกสบายทั้งรถเมล์และรถใต้ดิน ที่ลงตรงป้ายหน้าจัสโก้แล้วเดินย้อนมา ส่วนรถใต้ดินก็ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมทางออกศูนย์วัฒนธรรมแล้วเดินมาทางไฟแดงก็เจอเลยล่ะ หาง่ายมากเลยเปิดตั้งแต่สิบเอ็ดโมงถึงบ่ายสามถ้ามาตอนเที่ยงโต๊ะจะเต็มต้องยืนรอ เปิดเฉพาะวันธรรมดาเช่นเดียวกัน หากเอารถมาก็จอดที่คาร์ฟูร์หรือโรบินสันก็ได้จอดฟรีอยู่แล้ว เอาล่ะผ่านไปสี่ร้านในดวงใจของชั้นแล้วนะ แต่จะเป็นที่ถูกใจเพื่อนๆรึเปล่าอันนี้ยังรอการพิสูจน์อยู่ ผิดพลาดประการใดก็ขอน้อมรับไว้ด้วยประการ ละฉะนี้ล่ะจ้ะ เพราะเรื่องนี้คงไม่บังคับใจกันล่ะน้า ใครเคยกินแล้วเป็นยังไงหรือมีร้านไหนก็มาบอกกันบ้างนะจ๊ะ............................................
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2549 13:10:19 น. |
|
3 comments
|
Counter : 475 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Mr.Vop วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:20:04 น. |
|
|
|
โดย: ต่อตระกูล วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:23:17 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:52:50 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มาเยี่ยมบ้าน