► ►► ..ก า ล ค รั้ งห นึ่ ง เ ก า ะ ล้ า น . . .( ต อ น ที่ 4 )◄
ลงจากเนินสิบบาท เจอชายสองคนกำลังเติมน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไชค์อยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ
พลันชายผู้หนึ่งในสองคนนั้นก็เอื้อนเอ่ยวจีขึ้นมา “ คนละสิบบาทครับ”
ทำให้เราทราบว่า เขานี่เอง เจ้าของเนินสิบบาท
ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว เข้ากับกระดูกสัตว์ชนิดต่างๆ
ที่เป็นพรอพอยู่ที่เนินสิบบาทเป็นอย่างดี
ชะรอยว่าคงเป็นชายผู้นี้แหละ
ที่ตกแต่งเนินสิบบาทซะจนถ้าผ่านมาตอนกลางคืนต้องแขวนพระมาให้เต็มเหนี่ยว
หรือเขาจะเป็นใครก็ไม่รู้ ที่มาดักเก็บเงินจากคนที่ลงจากเนินสิบบาท
เจ้าของเนินตัวจริงอาจจะไม่อยู่ ไปติดต่อธุรกิจต่างประเทศก็เป็นได้
ก่อนที่เราจะคิดมากไปกว่านี้ เขาก็ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดีแล้วบอกว่า
“พวกคุณนี่มากับฝนแท้ๆ ที่นี่ฝนไม่ตกนานแล้วตั้งแต่ตอนน้ำท่วมใหญ่
วันนี้เพิ่งมาตกเป็นวันแรก “ จากนั้นเขาและเพื่อนก็ขี่มอร์เตอร์ไซค์จากไป
ท่ามกลางความสับสนเล็กๆ เราสองคนได้ทำการมุ่งหน้าไปหาดตาแหวน
ถนนทางไปหาดตาแหวน กำลังก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจรใหม่
สองข้างทางเป็นส่วนปลายของเหล็กแหลมที่โผล่ขึ้นมาจากการก่อสร้างท่อระบายน้ำ
ถนนแฉะและลื่นจากการที่เมื่อคืนฝนตกหนัก
พี่แตนที่ไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์มานานหลายปี และคนซ้อนอย่างเราประคองสติไว้เต็มที่
ถ้าล้มลงไปแล้วโดนเหล็กเสียบ คงได้ออกเรื่องจริงผ่านจอกันแน่ๆ
07:41 น.
หากตาแหวนอยู่ข้างหน้า
.
.
.
.
.
ไปถึงหากตาแหวน เวลาเกือบจะแปดโมงเช้า
ฟ้าครึ้ม เมฆหม่นพายุฝนอยู่บนฟากฟ้า ทางลงหาด เป็นถนนชัน ชวนให้หัวฟาดพื้นมากๆ
ตอนเช้า ที่นี่ดูเงียบสงบ ยิ่งวันฝนตกแบบนี้แล้ว ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่
มีร้านขายโจ๊กและอาหารเช้าแบบง่ายๆอยู่ริมหาด
มีมนุษย์ผู้ไม่กลัวเปียกฝนมาหาข้าวเช้ากินกันท่ามกลางบรรยากาศอันน่านอนอุตุ
เราสองคนไม่ได้แวะกินข้าว และก็ยังไม่รู้จะทำอะไรกันดี
เดินไปเดินมา เจอแมวทะเลตัวนึง
.
.
.
.
หาดทรายเปียกๆ จากสยาฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะๆ
หาดตาแหวนต้อนรับเราด้วยเสียงคลื่นและก้อนเมฆสีเทา
หาดยามคลื่นลมไม่สงบแบบนี้ ชวนให้ทำอะไรไม่ถูก เลยเดินทอดน่อง
ดูร่องรอยของสายฝนที่กระทำต่อผืนทรายไปเพลินๆ
เดินไปไม่ทันไร ฝนก็เทลงมา
.
.
.
.
ทะเลจะเปลี่ยนสีไปตามมุมที่เรามอง
ถังขยะแห้ง และถังขยะเปียก
วันนี้ไม่แบ่งแยก ทั้งสองถังต่างเปียกฝนด้วยกัน
.
.
.
.
วันที่เปียกแฉะแบบนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวผู้มากับฝนข้ามมายังเกาะเป็นระยะๆ
แต่ต่างจากวานนี้ ที่วันนี้ นักท่องเที่ยวต้องใส่ชูชีพกันทุกคน
วานนี้ไม่เป็นไร นักท่องเที่ยวชาวไทยบนสะเปียกโบ๊ท ถือว่าคราวเคราะห์
.
.
.
.
เมฆช่วงนี้ ไม่ใช่เมฆกระจายทั่วฟ้า แบบทำให้ฝนตกหยิมๆทั้งวัน แบบนั้น ไม่ใช่
แต่เป็นเมฆฝนที่เป็นก้อนๆ ก้อนไหนลอยผ่านมาที ฝนก็เทลงมาที มาเป็นระลอกๆ
ทำให้เราต้องกะจังหวะกันให้ดีๆ เวลาจะออกไปกลางแจ้ง
.
.
.
.
หลังจากหลบฝนทนหนาวและนั่งหาวเพราะตื่นเช้ากันอยู่ซักพัก
ก้ออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์สองล้อ มุ่งหน้าไปข้างหน้า โดยที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนกัน
มีถนนที่ไหน ไปที่นั่นว่างั้นเถอะ
ก่อนออกจากหาดตาแหวน ได้ใส่บาตรล้างซวยด้วย วันนั้นเป็นวันพระใหญ่ปรจำเดือน
เราลืมถอดรองเท้าข้างเดียวที่ใส่ไปวันนั้น เนื่องจากสับสนในความรู้สึก
เท้าซ้ายบอกว่า เราถอดรองเท้าแล้ว (เพราะไม่ได้ใส่) เท้าขวาบอกว่ายังไม่ถอดซะหน่อย
สรุปเลยใส่บาตรทั้งๆที่ยังใส่รองเท้าข้างเดียวนั่นแหละ
หลวงพ่อให้พรเสร็จเราทั้งสองก้มุ่งหน้าไปทางขวา
ไปโผล่บนเนินเรดาร์ได้ไง ไม่รู้
.
.
.
.
มองไปข้างหน้า เห็นเมฆครึ้มอยู่เหนือเกาะสาก
น่าจะชื่อเกาะสากนะ เกาะนั่น
เดินถ่ายรูปอยู่แถวนั้น เดินไปเดินมา
.
.
.
.
มองไปทางพัทยา เจอโรงงานยกยอขนาดยักษ์
ยกที คงได้ปลาเยอะน่าดู
.
.
.
.
ลงจากเนินเรดาร์ กลับมาที่พัก มีข้าวต้มกุ้งวางไว้รอสองชาม
ใครหนอช่างรู้ใจกันดีแท้
นั่งกินแบบสบายอารมณ์
จากนั้นได้เวลาออกเดินทางจากเกาะ
ชำระค่าพัก แล้วก็บึ่งมอเตอร์ไซค์ไปท่าเรือ
โทรฯคุยกับเจ้าของรถ ถามว่าจะคืนรถกันยังไง ให้ขี่ไปส่งไหม
เจ้าของรถบอก เอาจอดไว้ใต้ต้นมะขามแถวนั้นแหละ กุญแจก็เสียบไว้
ออกจากเกาะเวลาเกือบเที่ยง
เกือบเที่ยง เราออกจากเกาะ
.
.
.
.
ตอนหน้า ตอนจบแล้ว
ไว้พบกันครับ
ลงนาม
เป็ดสวรรค์
ขำจัง ไดอารี่จริง เขียนโดนใจ อย่าลืม
การแข่งขันทำให้เราพัฒนาครับ แต่อย่าจริงจังกับมันมาก เอาหนุกๆก็พอ เนอะ
ชวนไปพบปะกันในเฟสบุ๊ค
กดไปตามนี้โลด
ตะพาบรั้งท้าย
คุณ eroz_killer
Create Date : 07 มิถุนายน 2555 |
|
45 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2555 0:07:32 น. |
Counter : 2697 Pageviews. |
|
|
|