Hotline News Today
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
19 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
เมื่อชีวิตต้องพลัดพรากจาก "บางพลัด" เพราะภัยพิบัติอุทกภัยปี 54

"ศิลป์เชียงแสนสิงห์สาม อันลือนามพระแซกคำ กระท้อนอร่อยล้ำ ติดริมน้ำเจ้าพระยา สุราบางยี่ขัน สี่สะพานนั้นข้ามมา ยี่สิบสามวัดงามตา คือคุณค่าเขตบางพลัด"




ถ้ากล่าวถึง "บางพลัด" ใครหลายคนอาจจะคุ้นชื่อนี้ไม่มากก็น้อยจากข่าวคราวในช่วงที่ผ่านมา พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชุมชนเก่า ตามที่มาว่ากันว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยล่องตามลำน้ำเจ้าพระยาเพื่อมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่กรุงธนบุรี ชาวบ้านจำนวนหนึ่งก็พลัดถิ่นมาตั้งรกรากบริเวณนี้ และกลายเป็นที่มาของชื่อ "บางพลัด" ในปัจจุบัน จากชุมชนเล็กๆชานเมืองในอดีต มีถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นถนนสายหลักในการสัญจร ปัจจุบัน "บางพลัด" เจริญเติบโตกลายเป็นแหล่งการค้าและแหล่งที่อยู่อาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นภายในช่วงเวลาไม่กี่ปี และในอีก 5-6 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็จะมาพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมกับการขยายตัวอย่างมากมายในอนาคต

กว่าสามสิบปีที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่นี้ แม้ที่นี้จะมีชื่อว่า "บางพลัด" แต่ก็ไม่เคยมีความคิดว่าเราจะพลัดถิ่นไปที่ไหนอีก เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัย แต่ความคุ้นเคยในสถานที่และผู้คนที่นี่ ทำให้เรารู้สึกผูกพันเกินกว่าที่จะย้ายไปไหนได้ แม้ที่นี่จะเคยเกิดน้ำท่วมใหญ่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ทั้งปี 2526 และปี 2538 ซึ่งในปี 38 เป็นครั้งที่จดจำได้ไม่ลืม ความทรงจำในครั้งนั้นยังคงติดตรึงตรามาถึงทุกวันนี้ แม้การจราจรโดยรอบในขณะนั้นจะใช้การไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้อพยพไปไหน เพราะยังพอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ ซึ่งหลังจากปีนั้น ก็มีการสร้างคันกั้นน้ำและเขื่อนป้องกันน้ำจากเจ้าพระยา ก็ไม่ปรากฎว่าข่าวน้ำท่วม ณ ที่แห่งนี้เลย

ล่วงมาถึงปี 2554 อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า ปริมาณน้ำเหนือในปีนี้มีเป็นจำนวนมากกว่าทุกปี ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน เริ่มมีข่าวน้ำท่วมไล่มาตั้งแต่นครสวรรค์ ลงมาจนถึงอยุธยา ปทุมธานี และบางบัวทอง ซึ่งในใจก็ยังมีความมั่นใจว่าที่บ้านคงไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะขนาดน้ำที่ท่วมหนักๆในปี 38 ก็ยังแค่ประมาณหน้าฟุตบาท ซึ่งในตอนนี้มีทั้งคันกั้นน้ำและเขื่อนก็คิดว่าน่าจะพอรับไหว แต่แล้วเช้าวันที่ 24 ตุลาคม 2554 ความผิดปกติก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเริ่มมีน้ำเอ่อท่วมบริเวณหน้าพาต้าปิ่นเกล้า ทำให้ผมหวนนึกถึงน้ำท่วมปี 38 ในทันที เพราะก่อนน้ำท่วมในปีนั้น น้ำก็เริ่มเ่อ่อท่วมจากที่นี่เป็นจุดแรก และดูเหมือนจะเป็นสัญญาณให้พวกเราได้เตรียมตัวทันที สถานการณ์เริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆจนมาถึงเช้าวันที่ 27 ตุลาคม 2554 น้ำก็ท่วมเต็มพื้นที่ในถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนมาถึงแยกบรมราชชนนีต่อเนื่องมายังถนนจรัญสนิทวงศ์ และดูเหมือนจะเริ่มมากขึ้นตลอดวัน ในช่วงระหว่างนั้น เริ่มมีข่าวคันกั้นน้ำในซอยจรัญสนิทวงศ์ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแตกหลายจุด ในขณะที่เริ่มมีน้ำจากฝั่งบางกรวยมาสมทบ ทำให้สถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ รถบนถนนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากถนนหลายสายเริ่มปิดการจราจร และคืนนั้นเอง สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนั่นก็คือการที่ กทม.ประกาศให้ประชาชนในเขตบางพลัดอพยพออกนอกพื้นที่



ผมและแม่ย้ายตัดสินใจย้ายไปอาศัยบ้านพี่ชายที่ประเวศ วินาทีนั้นไม่รู้เลยว่าน้ำจะขึ้นไปถึงไหน แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่า เดี๋ยวสัก 3-4 วันน้ำก็คงลด ก็ย้ายกลับมาได้ใหม่ แต่แล้ว สถานการณ์ดูเหมือนไม่น่าจะดีขึ้น ระดับน้ำกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางที่ท่วมไปถึงอกก็มี จากที่คิดว่าจะอยู่สัก 3-4 วัน กลับกลายเป็นว่าต้องอยู่ยาว



ไม่กี่วันหลังจากอพยพ หลังจากที่อดรนคิดถึงบ้านทนไม่ไหว จึงขอกลับไปเยี่ยมบางพลัดอีกครั้ง การเดินทางในครั้งนี้ดูจะลำบากกว่าปกติ เพราะถนนโดยรอบได้ปิดการจราจรหมดทุกเส้นทาง มีเพียงเรือ รถทหาร และรถใหญ่ๆบางคันเท่านั้นที่พอจะวิ่งเข้าไปได้



หลังจากติดรถข้ามสะพานซังฮี้มาฝั่งธน ภาพที่ปรากฎให้เห็นตรงหน้า แทบไม่เชื่อสายตาตนเองว่าเมื่อมองจากสะพานลงมา ท้องถนนที่คุ้นเคยกลับกลายเป็นคลองอันกว้างใหญ่ที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็น



เมื่อเลี้ยวเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ อุโมงค์ข้ามแยกบางพลัดอันความภาคภูมิใจของคนที่นี่ก็กลายสภาพไปเป็น คลองบางพลัด ไปโดยสิ้นเชิง ถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เคยคับคั่งไปด้วยการจราจรอันติดขัดตลอดวันก็มีสภาพไปเป็นคลองจรัญสนิทวงศ์ไปเช่นเดียวกัน






ชั่วชีวิตนี้ ไม่เคยคิดเหมือนกันว่า เมืองที่เคยมีคนพลุกพล่นก็กลายสภาพแทบไม่ต่างอะไรกับเมืองร้าง ผู้คนที่เคยรู้จักต่างอพยพออกไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เหลือไว้เพียงแต่สภาพความเสียหายที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาฟื้นฟู






ไม่ต่ำกว่าสองสัปดาห์ที่บางพลัดเผชิญกับมหาอุทกภัยในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าที่นี่จะโชคดีกว่าใคร ระดับน้ำที่นี่ได้ลดลงอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันเรียกได้ว่าแทบจะแห้งสนิท แม้จะมีความเสียหายอยู่พอสมควร แต่ก็คงเทียบไม่ได้เลยกับพื้นที่อื่นๆที่ประสบภัยในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็น ดอนเมือง ลำลูกกา สายไหม บางบัวทอง และบางกรวย ที่ชาวบ้านต้องทนทุกข์กับมหาอุทกภัยครั้งนี้มาเป็นแรมเดือน เราชาวบางพลัดก็ได้แต่แสดงความเห็นใจและขอให้ระดับน้ำในที่ต่างๆจะลดลงเร็วๆ เพื่อที่เราทุกคนจะได้ร่วมกันฟื้นฟูประเทศชาติ และกลับมายืนได้แข็งแกร่งกันเหมือนเดิม



แม้วันนี้ชาวบางพลัดเริ่มกลับมาฟื้นฟูและกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่ก็ขอร่วมเป็นแรงใจให้พี่น้องที่ประสบภัยท่านอื่นๆฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้เร็วๆ สู้ๆครับ






Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2554 15:58:31 น. 7 comments
Counter : 3258 Pageviews.

 
Nice one Tui Tui


โดย: Ronny IP: 110.49.235.7 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:22:05 น.  

 
เขียนเป็นละครได้เลย เก็บไว้ให้ลูกหลานดู


โดย: มด IP: 103.1.165.200 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:41:54 น.  

 
อ่านเพลินเลยผม ^ ^


โดย: พิทักษ์จักรีวงศ์ IP: 58.11.29.134 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:55:23 น.  

 
นายเยี่ยมมาก :)


โดย: P'Jeab IP: 110.169.204.5 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:48:05 น.  

 
วันนี้ที่บางพลัดมี Big Cleaning Day รวบรวมได้ขยะกองโตเท่าภูเขาเลยแฮะ



โดย: Crackerjack วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:50:30 น.  

 
ป๊าดดดดดดด ไมเยอะ พรรค์นี้


โดย: พิทักษ์จักรีวงศ์ IP: 27.130.126.138 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:09:34 น.  

 
แวะมาเจิมแล้วนะ
อยากเห็นรูปในบ้านจัง


โดย: Nuchii IP: 124.122.77.220 วันที่: 6 ธันวาคม 2554 เวลา:20:25:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Crackerjack
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Google
Friends' blogs
[Add Crackerjack's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.