ย้อนรอยเขาใหญ่-ปากช่อง กับเถิดเทิงทริป No.10
และแล้วก็เป็นประจำปี กับเถิดเทิงทริป ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 10 พอดี ท่านประธานชมรมเถิดเทิงจึงชักชวนพวกเราไปย้อนอดีตการเดินทางที่พวกเราเคยไปในทริปครั้งที่ 3 นั่นก็คือเขาใหญ่-ปากช่องนั่นเอง แม้ที่นี่จะเป็นที่ที่พวกเราเคยไปนานมากแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ที่แห่งนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่ๆมากมาย ซึ่งก็เป็นเวลาอันดีที่เราจะกลับมาเยี่ยมเยือนที่นี่อีกครั้งโดยทริปครั้งนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14-15 กรกฎาคม 55 ที่ผ่านมา เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยการนมัสการศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ และสถานที่แห่งแรกที่เราไปเยี่ยมเยือนคือ "น้ำตกเหวสุวัต" น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเป็นน้ำตกที่เกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25 เมตร และมีแอ่งน้ำทางด้านล่างน่าลงไปเล่นมาก เสียดายที่เขาไม่อนุญาตให้ลงไปเล่นน้ำได้ แต่ได้เห็นสายน้ำที่ตกลงมาเป็นละอองกระจายท่ามกลางธรรมชาติรอบด้าน ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบายและคุ้มค่ามากๆแล้วครับ
ตามตำนานเล่ากันว่า ชื่อน้ำตกเหวสุวัตนี้ มีที่มามาจากโจรชื่อสุวัต หนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจนมุมยังน้ำตกแห่งนี้ เลยตัดสินใจกระโดดลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ แต่สิ่งที่ยืนยันได้แน่ๆก็คือว่า ลีโอนาโด ดีคาปริโอ เคยกระโดดลงมาจากน้ำตกแห่งนี้มาแล้ว เพราะที่นี่เคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ Hollywood ชื่อดังเรื่อง "The Beach" นั่นเอง
หลังจากไปสัมผัสความสดชื่นจากน้ำตก พวกเราก็นั่งรถกลับมาที่จุดชมวิวที่เขาใหญ่ ทันทีที่เราลงจากรถมาจุดชมวิวที่นี่ ก็พบกับความสวยงามของทิวทัศน์ฉากหลังอันเขียวขจีที่แทบไม่สามารถหาได้จากในเมือง จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปที่นี่รวมถึงพวกเราด้วย
ช่วงบ่าย หลังจากอิ่มหนำสำราญจากครัวจันผา ก็เปลี่ยนบรรยากาศมาเยี่ยมชมคอมมูนิตี้มอลล์แบบลิตเติ้ลอิตาลีที่ "Palio" ที่นี่มีร้านค้ามากมายและตึกสีสันสดใสสไตล์ทัสคานี
หลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อนี้มีที่มาอย่างไร จริงๆแล้วคำว่า Palio เป็นภาษาอิตาเลียน ความหมายคือรางวัล ซึ่งผู้สร้างต้องการสร้างให้เป็นรางวัลกับชุมชนคนเขาใหญ่ และเป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากโครงการ Primo Posto ที่พวกเราชาวเถิดเทิงเคยแวะมาแล้วเมื่อทริปวังน้ำเขียวเมื่อ 3 ปีก่อน แต่โครงการนี้จะคนเยอะและใหญ่กว่ามาก
สถานที่ต่อไปในการเดินทางทริปนี้ พวกเราแวะมาที่ "The Pete Maze" แรกเริ่มเดิมทีก็สงสัยว่า ที่นี่มันจะมีอะไรนะ รู้แต่ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางผจญภัยเหมือนในเขาวงกต
ต่อมาจึงได้รู้ว่า คอนเซ็ปท์ของที่นี่คือ "จุดหมายหรือชัยชนะอาจไม่สำคัญเท่ากับ สิ่งที่คุณได้พบเจอระหว่างทาง" ใครอยากจะรู้ว่าในเขาวงกตที่นี่มีอะไร ก็อย่าลืมเข้าไปชมกันได้นะครับ เพราะระหว่างทางในนี้ ถ้าไม่หลงทางไปซะก่อน ก็จะมีมุมถ่ายรูปสวยๆซ่อนอยู่หลายมุมเลยทีเดียว
และแล้ว ก็มาถึงสถานที่พักของพวกเราในคืนนี้ "ลีลาวดี รีสอร์ท" ปากช่อง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาใหญ่มากนัก บรรยากาศภายในรีสอร์ทเงียบสงบและร่มรื่นมากๆ ที่พักมีบ้านหลายแบบให้เลือก หรือใครจะกางเต้นท์นอนก็สามารถทำได้ พร้อมบริการคาราโอเกะ ซึ่งมีหรือที่พวกเราจะพลาด..หึหึ..
หลังจากพักผ่อนในรีสอร์ทจนหายเหนื่อย วันรุ่งขึ้นเราก็มุ่งหน้าไปยัง "อ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง" อ่างเก็บน้ำแห่งนี้สร้างอยู่บนยอดเขายายเที่ยง โดยสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองที่อยู่ข้างล่างเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวบ้านในโคราชและแถบพื้นที่ใกล้เคียง
แม้ที่นี่จะเป็นเพียงแค่อ่างเก็บน้ำ แต่ก็มีสถานที่ดึงดูดใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกังหันลมในการผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ บรรยากาศโดยรอบของอ่างเก็บน้ำล้อมรอบไปด้วยวิวของเขื่อนลำตะคองเบื้องล่างสลับตัดกับขุนเขาเขียวขจี เมื่อเดินไปจนสุดปลายทาง จะพบหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ (พระพุทธรูปปางนาคปรก) ประดิษฐานอยู่สันอ่างเก็บน้ำให้พวกเราได้นมัสการเป็นศิริมงคลก่อนกลับ
สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่จะพลาดไม่ได้ก็คือ "Sheep Land" ดินแดนแห่งเด็กเลี้ยงแกะ หนึ่งเดียวในเขาใหญ่ หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยเลี้ยงแกะที่ Scenary Resort ที่สวนผึ้งมาแล้ว แต่ที่นี่รับรองว่าจะได้เลี้ยงแกะแบบใกล้ชิดไม่แพ้กับที่สวนผึ้งเลยทีเดียว
สิ่งที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากสวนผึ้งก็คือ ที่นี่จะปล่อยน้องแกะได้เดินเล่นอย่างอิสระ เราสามารถเล่นกับเจ้าแกะตัวน้อยได้ตั้งแต่ทางเข้า นอกจากนี้ยังสามารถให้อาหารหญ้า หรือป้อนนมน้องแกะก็ทำได้อย่างใกล้ชิด
และสถานที่สุดท้ายในการเดินทางครั้งนี้ก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็คือ "บ้านรมควันแห่งเขาใหญ่ (Smoke House)"
จริงๆแล้วที่นี่ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมคล้ายๆปราสาทสไตล์ยุโรป แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนSmokehouse ร้านอาหารแบบปิ้งย่าง ส่วนเบเกอรี่และกาแฟสด ส่วนประภาคารที่เป็นบาร์เสริฟเครื่องดื่มประเภทต่างๆ และ ส่วน Wineconnection ที่รวบรวมไวน์หลากหลายแบบไว้ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ
การเดินทางทริป "เขาใหญ่-ปากช่อง" ครั้งนี้ แม้จะเป็นครั้งที่ 10 แล้ว แต่ก็ยังประทับใจไม่แพ้ทริปที่ผ่านมา และแน่นอนทริปนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งในความทรงจำดีๆที่จะจดจำไปไม่รู้ลืม ขอบคุณภาพถ่ายน่ารักๆโดย พี่กร นิด ปุ่น วิทย์ แอม และพี่ป๋อง และขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางท่านอื่นๆ น้องมด น้องอร และมิค และหวังว่าพวกเราจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวกันอีกในทริปหน้านะครับ ย้อนรอยเถิดเทิงทริปจากอดีตสู่ปัจจุบัน
Trip # 9 (9-10 ก.ค. 54): ตะลุยเมืองผลไม้ จันทบุรี กับเถิดเทิงทริป No.9 //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=07-2011&date=15&group=4&gblog=15
Trip # 8 (10-11 ก.ค. 53): จากสวนผึ้งสู่อ้อมกอดขุนเขา ราชบุรี //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=07-2010&date=17&group=4&gblog=13
Trip # 7 (10-12 ก.ค. 52): วังน้ำเขียว ทุ่งกระเจียว ชัยภูมิ-โคราช //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=07-2009&date=18&group=4&gblog=11
Trip # 6 (18 ส.ค. 50): สามชุก อดีตที่มีรอยยิ้ม สุพรรณบุรี //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=08-2007&date=25&group=4&gblog=6
Trip # 5 (3-4 มี.ค.50): เที่ยวเมืองกาญจน์ สราญใจในอมาดาด //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=03-2007&date=17&group=4&gblog=5
Trip # 4 (22 ก.ค. 49): พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัน-เมืองโบราณ สมุทรปราการ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=11-2006&date=27&group=4&gblog=4
Trip # 3 (28-29 ม.ค. 49): เที่ยวเขาใหญ่ ตะลุยเมืองโคราช //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=11-2006&date=27&group=4&gblog=3
Trip # 2 (24 ธ.ค. 48): เยี่ยมชมเมืองเก่า พระนครศรีอยุธยา //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=11-2006&date=27&group=4&gblog=2
Trip # 1 (26 ธ.ค. 47): รีดนม ขี่ม้าฟาร์มโชคชัย สระบุรี //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=crackerjack&month=11-2006&date=27&group=4&gblog=1
Create Date : 21 กรกฎาคม 2555 |
|
5 comments |
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 20:36:03 น. |
Counter : 19404 Pageviews. |
|
|
|