Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
จอมใจเจ้าป่า ตอน 4 part 3

“ลีน่า” เสียงห้าวที่เรียกอยู่เบื้องหลังทำให้เด็กสาวถึงกับชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวลงจากเรือนหล่อนหันขวับเชิดหน้าให้คนถามพลางซ่อนถุงกระดาษในมือไว้เบื้องหลัง หลายวันมานี้หล่อนหลบหน้าพี่ชายมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เขาลงไม้ลงมือกับหล่อน

“พักนี้หายหน้าไปไหนเฮียไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว”

“มีเวลาสังเกตด้วยเหรอว่าลีน่าไม่อยู่บ้านนึกว่าหลงเมียจนหน้ามืด”

“อย่านอกเรื่องเฮียถามดีๆ” เมษาต้องสะกดใจนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้ระเบิดอารมณ์ใส่แม่น้องสาวตัวแสบมันจะชวนทะเลาะให้ได้สิน่า

“ไปนอนบ้านตายายไม่อยากอยู่บนเรือนไม่มีใครอยู่สักคนกลัวผีหลอก”

บ้านหลังใหญ่ไม่อบอ่นเหมือนแต่ก่อนข่าวคราวที่ได้รับเกี่ยวกับผู้บุกรุกทำให้ทุกคนต้องระวังตัวทุกนาทีจึงมีแต่ความตึงเครียดพี่ชายก็เข้าไปคุมคนงานที่ไซต์บ่อยขึ้นวันไหนออกจากป่าก็ต้องไปนอนเฝ้านังหน้าพลาสติกที่ป่วยไม่ยอมหายสักทีทั้งที่เกิดเรื่องมาจะร่วมอาทิตย์แล้ว

“ไปไหนมาไหนคนเดียวระวังตัวไว้บ้างอย่าไปตามที่เปลี่ยว”

“ห่วงลีน่าด้วยเหรอสนใจลีน่าด้วยหรือไง”

“อย่าเริ่มเฮียปวดหัว” เมษายกมือยอมแพ้ “เข้าใจเฮียบ้างลีน่าครีมเขาก็สบายดีแล้ววันนี้เฮียจะส่งเขาขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ”

“หมดไปเท่าไหร่ล่ะค่าทำขวัญน่ะ”

“เรื่องของผู้ใหญ่น่า” ไอ้เด็กตัวแสบมันแสนรู้นัก นอกจากค่ารักษาในโรงพยาบาลชั้นหนึ่งของจังหวัดร่วมแสนยังต้องรับขวัญด้วยสร้อยข้อมือฝังเพชรคอร์สศัลยกรรมจากโรงพยาบาลเกี่ยวกับความงามชื่อดังและปิดท้ายด้วยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอีกหนึ่งเครื่องอาการของคู่ขาสาวแสนร้อนแรงจึงค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ

“มานี่มา” เมษากวักมือเรียกน้องสาว แต่เจ้าหล่อนกลับเมินหน้าหนีแถมยังทำปากเชิด

“ลีน่า” เสียงห้าวชักจะห้วน ตาคมวาวแสงแสดงว่าพี่ชายเริ่มหมดความอดทน ขืนยังดื้อดึงชักช้าคงได้องค์ลงอีกชุดใหญ่เด็กสาวจึงเดินกระแทกเท้าเข้าไปหาอย่างตั้งใจให้รู้ว่าจำใจ เมษารั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดกดหัวเจ้าตัวดื้อที่ทำตัวแข็งให้แนบอก

“เฮียขอโทษที่อารมณ์เสียใส่”

“โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ”อกอุ่นๆเรียกน้ำตาแห่งความน้อยใจให้คลอตาได้อีก เด็กสาวเชิดปากใส่

“ขอโทษแล้วไง สัญญา ต่อไปนี้จะไม่ตีเด็กดื้ออีกแล้ว”

“ทำไมล่ะ ลีน่ามันไม่ดีนี่ชอบยั่วผู้ชายพี่สะใภ้คนดีเขาเตือนก็ไม่ฟัง”

“เฮียรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง” เมษาถอนหายใจยาว “โสภณเล่าให้ฟังพวกเด็กรับใช้ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครีมเขาหาเรื่องก่อน”

“รู้ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เลิกนะยังจะเอาอกเอาใจกันอีกทำไมไม่ไล่เขาไปล่ะ เขาใส่ร้ายน้องคิดเหรอว่าจะอยู่ร่วมบ้านกันได้”

“มีบางเรื่องที่มันอธิบายยากเข้าใจไหมสำหรับผู้ชายน่ะไม่ได้ต้องการอะไรมาก ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็อิสระดีแค่มีเซ็กส์ที่เข้ากันได้คอยเอาใจเล็กๆน้อยๆนิสัยขี้วีนหรือปากจัดนิดๆหน่อยๆบางทีมันก็พอมองข้ามไปได้” เมษาบอกตรงๆ

ลลินาเม้มปากแน่นโกรธนั้นโกรธแน่ แต่หล่อนก็ใจกว้างพอจะรับฟังเหตุผลของเขาพี่ชายเป็นคนแบบนี้เอง เขาพูดจาโผงผางตรงประเด็น แถมยังกล้าพูดเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาวได้อย่างเต็มปากหล่อนก็กล้าพอจะรับรู้

“พูดอะไรน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ เดี๋ยวก็ใจแตกหรอก” หล่อนบ่นอุบ

“ก็พูดอย่างผู้ใหญ่พูดกันไม่ใช่ผู้ใหญ่พูดกับเด็ก”

“จะยกโทษให้ครั้งหนึ่งก็ได้แต่ถ้ามีคราวหน้าลีน่าจะหนีออกจากบ้านเลยคอยดู”

“หนีจากเรือนใหญ่ไปนอนบ้านตาศักด์หรือไง” เมษาหัวเราะขันยายเด็กแสบทำขู่เป็นเรื่องเป็นราว “อย่าดื้อสิช่วยอยู่สงบๆสักพักเถอะให้เฮียหายปวดหัวบ้างงานก็เยอะยังต้องมาคอยตามห่วงเราอีก จะต้องให้ไหว้ไหม”

“ลีน่าไม่ได้ดื้อมายุ่งเองทำไม ส่งไปให้ไกลๆเลยอย่าเอากลับมาเหยียบที่นี่อีก”

“เขาก็คงไม่อยากมานักหรอก” เมษาถอนหายใจยาวกดคางกับผมนุ่ม “ส่งไปอยู่ทีมชาติดีไหมตบเก่งนักนะเรา” เขาพูดกลั้วหัวเราะทำเอาลลินาหัวเราะกิ๊ก

“เฮียไปก่อนล่ะค่ำๆถึงจะกลับอยู่บ้านดีๆล่ะอย่าซนให้มันมากนัก”เขากดจูบที่หน้าผากมนก่อนจะดันเจ้าตัวแสบออกห่าง เด็กสาวยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แล้วนี่หอบอะไรมาถุงเบ้อเร้อ”

“อาหารหมา”

“ที่บ้านตาน่ะเหรอ” เมื่อเด็กสาวพยักหน้ารับพี่ชายก็ไม่ได้สนใจอีกเขาเพียงแค่ส่ายหน้าและเดินลงเรือนไปลลินาปล่อยลมหายใจพรูแอบนึกในใจ “เกือบไปแล้วเรา”

ถ้าพี่ชายขอดูในถุงใบเบ้อเร้อนี่คงต้องหาข้อแก้ตัวกันไม่จบทั้งซุปไก่สกัดรังนกของบำรุงกำลังเป็นสิบๆขวดที่มีคนเอามาให้เป็นของขวัญวันปีใหม่หล่อนกวาดจากตู้ในห้องครัวใส่ถุงมาหมดเกลี้ยง

นี่มันอาหารหมาเสียที่ไหนกันเล่า!

เก็บไว้ก็ไม่มีใครกินสุดท้ายก็ต้องแจกพวกคนงานไปหมดหล่อนเก็บไปบำรุงคนป่วยของหล่อนดีกว่า เสียงรถยนต์ของพี่ชายติดเครื่องและดังห่างออกไปลลินาเตรียมตัวลงจากเรือนบ้างแต่เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อนเด็กสาวจึงต้องวิ่งตื๋อกลับเข้าไปใหม่

“สวัสดีค่ะ เทพวัฒน์ค่ะ” หล่อนส่งเสียงทักทายไป

“นั่นแกใช่ไหม ลีน่า”เสียงคุ้นหูที่ตอบกลับมาดูจะสะบัดอย่างอารมณ์เสีย

“แม่หรือคะแม่คะโทรหาลีน่าเหรอ มีอะไร” หล่อนอดดีใจไม่ได้แม่คงเป็นห่วงถึงได้ลงทุนโทรทางไกลข้ามประเทศมาหา

“พี่ชายแกอยู่ไหน”

“ออกไปธุระแล้วค่ะแม่มีอะไรคะโทรเข้ามือถือสิคะเพิ่งออกไปนี่เอง”

“ฉันโทรเป็นสิบสายแล้วมันไม่ยอมรับถึงต้องโทรเข้าบ้านเนี่ย” ปลายสายตวัดเสียงกราดเกรี้ยว ปกติแม่เป็นคนเจ้าอารมณ์แต่การแสดงออกจะมีภาพลักษณ์ที่ดีเสมอขนาดที่ว่าโกรธหล่อนแทบตายแม่ยังแค่เอ็ดเอาและแสดงท่าทีเย็นชาเข้าใส่น้อยครั้งนักที่แม่จะอาละวาดเสียงดังแบบนี้ หล่อนพอเดาอะไรได้รางๆก็คนที่ทำให้แม่โมโหได้ขนาดนี้มีน้อยคนนัก

“ทำไม เกิดอะไรขึ้นคะ”

“บอกพี่แกว่าให้หยุดได้แล้ว”มารดาเอ็ดตะโรเสียงดังจนหล่อนต้องเอาหูโทรศัพท์ออกห่าง

“บอกมัน สั่งคนของมันให้หยุดเดี๋ยวนี้”

“อะไรกันแม่ หยุดอะไร ใครทำอะไร”

“อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง แกไปบอกมันใช่ไหมเรื่องเออร์วิน” คำตอบที่ได้รับทำให้ลลินาถึงกับอึ้งไปด้วยความนึกไม่ถึง

“ฉันก็บอกแล้วว่าแกเข้าใจผิดจะเสนอหน้าไปฟ้องมันทำไมไอ้เมษมันบ้าส่งคนมาซ้อมเออร์วิน เป็นพวกนักเลงชั้นต่ำที่ไหนไม่รู้ เขาเจ็บหนักต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจที่นี่เรียกฉันไปสอบ ฉันรู้ว่าต้องเป็นฝีมือมันแน่ สันดานอันธพาล” แม้แต่หลานชายคนเดียวคุณลลนาก็ยังด่ากราด

“อาการหนักมากไหมคะ” ลลินาสะใจนักเมื่อถามประโยคนี้ออกไป “ถ้าไม่เป็นอะไรมากลีน่าจะกลับไปซ้ำให้เจ็บหนักกว่านี้”

“ลีน่า แกพูดอย่างนี้ได้ยังไงก็บอกแล้วไงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง ทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้”

“งั้นแม่ก็คงเข้าใจผิดเรื่องเฮียเหมือนกันค่ะถ้าเป็นฝีมือเฮียนะคะ ลีน่าว่าแฟนแม่คงไม่แค่นอนโรงพยาบาลหรอกค่ะคงได้นอนในหลุมไปแล้ว แค่นี้นะคะ ลีน่ามีธุระสำคัญ”หล่อนวางสายไปเสียดื้อๆเจ็บแปลบในใจไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นสำคัญกว่าหล่อน

แต่ใครจะสน

แม่มีใครคนใหม่คนที่แม่บอกว่าสามารถเติมเต็มชีวิตที่ขาดของแม่ได้หล่อนก็จะมีเหมือนกันใครสักคนที่เป็นคำตอบของหัวใจอ้างว้างขาดความรักดวงนี้เด็กสาวยิ้มขื่น บางทีหล่อนควรเลิกรอคอย “อะไร”ที่ไม่มีวันได้ครอบครอง หล่อนไม่ควรเสียเวลากับเงาที่ไม่มีวันไขว่คว้าแม่มองเห็นแต่ตนเองไม่เคยมีหล่อนหรือใครอยู่ในสายตา

หล่อนยังเหลือพี่ชาย ลลินายิ้มออกเป็นครั้งแรกเมษาจัดการกับมันแทนหล่อนไปแล้ว ไอ้ผู้ชายฉวยโอกาสจิตใจต่ำทรามคนนั้นคงสำนึกอะไรได้บ้างว่าการแตะต้องหล่อนเพียงแค่ปลายเล็บจะเกิดผลร้ายเพียงใดเมษาคุ้มครองหล่อนได้ แม้ว่าในวันหนึ่งเขาจะมีคนสำคัญที่ต้องดูแลอย่างที่ยายพรเคยพูดไว้แต่กว่าจะถึงวันนั้นหล่อนคงแข็งแกร่งพอที่จะดูแลตัวเองได้

ความขุ่นมัวน้อยใจที่ตกตะกอนปลิวหายไปเป็นปลิดทิ้งเด็กสาววิ่งซอยเท้าลงเรือนอย่างอารมณ์ดีโดยมีจุดหมายอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนของตาศักดิ์

********************

“คุณคงต้องพักอีกหลายวันกว่าจะฟื้นตัว”

นายศักดิ์คลี่ผ้าห่มผืนบางคลุมให้กับคนป่วยหลังจากทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เรียบร้อยแล้วบาดแผลปิดสนิทอาจจะยังหลงเหลือร่อยรอยบวมแดงแต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง คนที่นอนบนเตียงแข็งแรงขึ้นมากแม้ว่าจะยังลุกนั่งเดินเหินไม่เป็นปกติแต่ก็ดีกว่าเมื่อแรกพาตัวมานับตั้งแต่วันนั้นเขาก็เป็นไข้อยู่หนึ่งวันหนึ่งคืนกว่าที่อาการจะค่อยดีขึ้นเป็นลำดับเรือนกายสูงใหญ่นั้นแข็งแรงพอตัวจึงฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้

ในตอนที่เขาเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั้นดวงตาคู่คมตวัดมองทุกคนอย่างเป็นศัตรู เมื่อเห็นว่ามีเพียงคนแก่และเด็กผู้หญิงจึงค่อยสงบลงอย่างไรก็ตามแม้จะคลายความระแวงลงแล้วเขาก็ไม่ยอมเปิดปากพูดกระทั่งเช้าวันนี้

“ที่นี่…”

“เทพวัฒน์ครับ” ชายชราบอกพร้อมรอยยิ้มจางๆนึกสนุกที่ได้พูดคุยกับชายหนุ่มบนเตียง นานมาแล้วที่เขาไม่มีอะไรให้ทำมากไปกว่าตัดหญ้าปลูกต้นไม้เลี้ยงนกและชิมอาหารฝีมือคู่ชีวิตแน่นอนมันเป็นชีวิตที่ผาสุกเรียบง่าย แต่หลายครั้งที่ชายชราได้แต่นั่งนิ่งครุ่นคิดถึงวันคืนเก่าๆวันที่เลือดหนุ่มยังเดือดพล่านใช้ชีวิตอย่างท้าทายโชคชะตามันมีทั้งความตื่นเต้นจนเลือดในกายร้อนระอุก็เป็นธรรมดาของคนแก่นี่นะ ที่จะนึกถึงความหลัง

วันนี้เขาได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เปรียบเสมือนตัวแทนของวันคืนแห่งความทรงจำลูกชายคนกลางของนายไกร นักเลงบ้านใต้ที่ชื่อเสียงร่ำลือไปทั่วที่สำคัญคือเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของประมุขสูงสุดของเทพวัฒน์ เขาจะรู้สึกอย่างไรที่ได้รับรู้ว่าตกอยู่ในกำมือของศัตรู

เป็นไปอย่างที่คิด ตาคมของคนป่วยวาวแสงขึ้นอีกทั้งยังเกร็งตัวขึ้นราวกับจะลุกไปเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดที่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์พร้อม

“ไอ้เมษ”

“ไม่อยู่ครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอยู่ที่นี่” คำตอบยังคงเรียบเรื่อย

“ทำไม...ช่วยฉัน”

“คุณคงอยากถามว่าทำไมไม่ฆ่าคุณมากกว่า” ชายชรานั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงบอกด้วยน้ำเสียงติดจะหัวเราะ

“นายไกรเคยมีบุญคุณกับผมมาก่อน” คำบอกเล่าฟังดูไม่น่าเป็นไปได้จนคนป่วยถึงกับขมวดคิ้ว

“รู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นใคร”

“แหวนวงนี้นายไกรให้คุณมาใช่ไหม” ชายชรามองที่แหวนทองเกลี้ยงบนนิ้วชี้ของคนป่วย อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆ “ลองกลับไปถามท่านดูว่าได้มาจากไหน” รอยยิ้มบางๆผุดที่ริมฝีปากของชายชราอีกครั้งเรื่องราวหลายเรื่องในอดีตไม่ได้ถูกเอ่ยถึงเป็นเวลายาวนานเท่ากับความขัดแย้งบาดหมางของคนรุ่นก่อน

วันที่บุตรชายและสะใภ้จากไปไม่มีวันกลับนายศักดิ์เองก็อยู่ในเหตุการด้วยแต่เขาโชคดีรอดชีวิตมาได้จากอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ก็อาการสาหัสนักขณะที่นอนร่อแร่ติดอยู่ในซากรถที่พังยับเพราะหักหลบรถอีกคันที่แล่นสวนกินเลนมาจึงอัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ถ้าไม่ได้นายไกรซึ่งผ่านมาพบเข้าเขาคงเป็นผีเฝ้าถนนไปอีกคนทิ้งให้เมียและหลานชายคนเดียวต้องอยู่สู้ชีวิตโดยลำพัง

ฝ่ายนั้นรู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นคนของใครแต่ก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ท้ายที่สุดนายศักดิ์จึงถอดแหวนประจำกายมอบให้เป็นไว้แทนคำขอบคุณ ตั้งแต่นั้นมาเขาสั่งสอนพงษ์พันธ์ไม่ให้ล่วงเกินคนในครอบครัวฤทธิไกรไม่ว่าจะเป็นคำสั่งของใครเลี่ยงได้ก็ขอให้เลี่ยงนายไกรเองคงรู้ว่าวันข้างหน้าบุตรชายคนนี้จะเที่ยวมีเรื่องได้ทั่วสารทิศโดยเฉพาะกับคนของเทพวัฒน์ แหวนทองคำเกลี้ยงหนึ่งวงจึงแทนคำบอกกล่าวฝากฝังให้ช่วยดูแล

“คุณเหมือนท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ ยิ้มยาก พูดน้อย คงต่อยหนักเหมือนกัน”

“มีคนบอกอยู่เหมือนกัน” คนป่วยลูบหน้าเขาคลายความระแวดระวังไปมากเมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาร้าย “ขอบใจที่...ช่วย”

“ผมตอบแทนคุณพ่อของคุณ” ดวงตาที่ดูขุ่นมัวเพราะชราภาพทอประกายสดใส แต่ก็ไม่ได้ขยายความอะไรไปมากกว่านั้น

“ที่นี่เป็นบ้านของผม วางใจได้ คุณเมษไม่รู้เรื่องนี้ไอ้เจ้าหนุ่มที่ช่วยดูแลคุณไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับใครแน่เพราะมันพูดไม่ได้คุณจะไปจากที่นี่ได้เสมอขอเพียงแข็งแรงพอ” นายศักดิ์บอกสิ่งที่ยังคาใจคนป่วย

“อยากได้อะไรไหมครับผมจะได้บอกเด็กหามาให้”

“ที่อยากได้...”คนป่วยทำท่านิ่งคิด “...ยายเด็กปากมากคนนั้น” เขาเม้มปากแน่นอย่างคนเจ้าอารมณ์

“ช่วยเอาไปห่างๆได้ไหม” เขาทำหน้ารำคาญ นายศักดิ์ได้ฟังถึงกับหัวเราะขึ้นเต็มเสียงก่อนจะลงมือเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำแผล

“ไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอกครับอย่าไปตอบอะไรก็แล้วกันไม่งั้นมีหวังพูดจ้อไม่หยุด”

“หน้าคล้ายลูกครึ่ง แต่พูดไทยชัด”

“ยายกรองแม่ครัวที่เรือนใหญ่มีลูกสาวคนเดียวทำงานอยู่ที่รีสอร์ทได้ผัวเป็นฝรั่ง เลยได้หลานลูกครึ่งชื่อน้ำผึ้ง” ชายชราแน่ใจว่าไม่ได้พูดโกหก เขาเพียงแต่เล่าสู่กันฟังส่วนที่คนฟังจะคิดไปแค่ไหนนั้นก็แล้วแต่

“อีกสักครู่เจ้ากรคงเอาข้าวเช้ามาให้คุณอย่าลืมกินยาหลังอาหาร”

“อาหารอร่อยมาก” คำบอกราวกับจะขอบคุณ ทำเอาชายชรายิ้มกว้างตั้งแต่ฟื้นคืนสติคนป่วยพูดน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย หน้าคมเข้มดูจะเบื่อหน่ายอยู่ตลอดเวลาคิ้วหนาเอาแต่ขมวดมุ่นมีน้อยครั้งที่จะพอใจจนออกปาก

“เมียผมทำกับข้าวเก่งใครได้ลองเป็นต้องติดใจรสมือทุกคน”

เสียงเคาะประตูสั้นๆดังขึ้นชั่วเสี้ยววินาทีก่อนที่ประตูจะถูกผลักเปิดอย่างถือวิสาสะดูเหมือนผู้ที่มาจะเคาะประตูแค่พอเป็นพิธีเท่านั้น เพียงแค่ได้ยินเสียงฝีเท้าคนป่วยก็เบือนหน้าหนีชายชรามองอาการนั้นพร้อมกับกลั้นยิ้ม

“มาแล้วจ้าอาหารคนป่วย” เสียงใสดังมาก่อนตัว

“ทานข้าวเสียหน่อยครับจะได้มีแรง” นายศักดิ์บอก “แกมีน้ำใจ ตอนคุณป่วยก็มานอนเฝ้าอยู่หลายคืนเรื่องอื่นก็ทนๆเอาหน่อยครับพูดเองเออเอง ไม่มีใครคุยด้วยเดี๋ยวก็ไป”

“ฉันไม่ชอบเด็กรำคาญนักจะจับฟาดก้นให้” เขาเข่นเขี้ยว

“คุยอะไรกัน” เสียงใสร้องทักขณะเจ้าตัววางถาดอาหารลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง ข้าวต้มเครื่องทำจากข้าวซ้อมมือสีน้ำตาลข้นคลั่กปนด้วยหมูสับปรุงรสเข้มข้นโรยต้นหอมกระเทียมเจียวส่งกลิ่นหอมตลบไปทั้งห้องแต่คนป่วยกลับเบ้หน้า เมื่อลับกายชายชราเด็กสาววางถุงที่หอบมาพะรุงพะรังลงข้างโต๊ะโครมใหญ่จากนั้นจึงนั่งราบลงกับพื้นหยิบขวดแก้วขวดเล็กขวดน้อยออกมาวางเรียงราย

“อันนี้รังนกซุปไก่สกัด ว้า นี่พรุนสกัดเข้มข้นกินไม่ได้นะเดี๋ยวจู๊ดๆเข้าห้องน้ำบ่อย” เจ้าหล่อนบอกเจื้อยแจ้ว ปากพูดไปมือก็คัดแยกของออกเป็นกองเล็กๆไม่นานนักรอบตัวก็เต็มไปด้วยขวดอาหารเสริมหลากชนิด

วีรสิงห์ขมวดคิ้วขยับนั่งพิงหัวเตียงอย่างยากลำบากแผลที่ลำตัวยังปวดระบม เขานิ่วหน้าเล็กน้อย พยายามเอื้อมมือหยิบชามข้าวแต่ตลอดช่วงแขนตึงจนร้าวไปทั้งร่าง

“อย่าขยับเดี๋ยวแผลปริ” ยายเด็กปากมากกระโดดผลุงเดียวก็ขึ้นมานั่งข้างเสียงแจ๋นทำเอาหมดอารมณ์กิน

“นั่งดีๆเดี๋ยวป้อนข้าวให้นะ” มือเล็กลูบหัวเหมือนเป็นเพื่อนเล่น คนป่วยกัดกรามกรอดอยากจะปัดมือทิ้งติดอยู่แต่ยังขยับตัวไม่ถนัดได้แต่อาฆาตในใจ “หายเมื่อไรพ่อจะจับฟาดให้เข็ด เด็กอะไรลามปามผู้ใหญ่”

“หิวแล้วใช่ไหมเจ้ายักษ์รอเดี๋ยวนะ เป่าให้ก่อน มันร้อนจะลวกปากเอา”เจ้าหล่อนตักข้าวต้มในชามจนพูนช้อนเป่าพรวดสองสามทีก็ยื่นให้จนชิดปาก

“กินสิอ้ำ กินเยอะๆนะ จะได้โตไวๆ” คนป่วยอ้าปากรับทั้งที่หน้าตาบูดไม่ได้กินตามคำสั่งแต่รีบๆกินให้หมดเพื่อว่าคนป้อนจะได้ไปไกลๆเสียที

“เก่งมากกินเก่งแบบนี้เดี๋ยวก็หายนะ” หล่อนปลอบใจราวกับเขาเป็นเด็กห้าขวบ

เขาได้แต่เคี้ยวอาหารตามหน้าที่โชคดีที่รสชาติถูกปากทำให้ความขุ่นมัวลดลงไป...นิดหน่อย แม้จะหันหน้าหนีด้วยความรำคาญสักพักมือเล็กๆนั่นก็ต้องจับให้หันกลับมาอยู่ดีในสภาพนี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่านั่งนิ่งมองไปรอบตัว แต่ห้องพักก็เป็นแค่ห้องเปล่าๆเครื่องเรือนมีแค่สองชิ้นคือตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนสุดท้ายก็ต้องหันกลับมามองตัวกวนใจ...เพราะไม่มีอะไรจะให้ดู

แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างบานเล็กเข้ามาจับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนของพยาบาลจำเป็นจนเกิดเป็นเงางามวีรสิงห์เพิ่งจะมีโอกาสมองหล่อนตรงๆเป็นครั้งแรก

ช่วงที่นอนป่วยทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเลือนลางไปทั้งสิ้นทั้งเสียงอื้ออึงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ภาพที่เห็นหรือก็ไม่แจ่มชัดไม่รู้แม้ว่าเป็นเวลากลางคืนหรือกลางวันรู้แต่ว่ามีผู้ชายแข็งแรงคอยพยุงป้อนยาชายชราเสียงทุ้มที่คอยบอกให้เขาทำตามเพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บและสุดท้ายคือตัวอะไรบางอย่างที่วิ่งวนไปมาแทบจะรอบเตียงส่งเสียงแจ๋วร้องรำคาญหู

เด็กสาวตัวแสบผิวพรรณดีผิดจากชาวบ้านทั่วไปตาสีน้ำตาลมีประกายสดใส ผมที่คงจะยาวและดกหนาถูกรวบเกล้าจนตึงดอกไม้ดอกเล็กกลิ่นหอมเย็นเสียบประดับอยู่รอบมวยผมวงหน้านวลแอร่ม ไม่มีแม้ร่องรอยเครื่องสำอางดูแจ่มใส ที่สำคัญคือประกายตามีชีวิตชีวาที่บ่งบอกว่าหล่อนตื่นเต้นไปเสียทุกเรื่องหล่อนสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง กางเกงขาสั้นชายลุ่ยและรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ก้มหน้าก้มตาคนข้าวต้มตักขึ้นมาเป่าพอเขาอ้าปากรับหล่อนก็ยิ้มกว้างดีใจ

“อร่อยใช่ไหมลีน่าให้ยายปรุงรสเพิ่มอีก คนป่วยกินยามากๆลิ้นรับรสไม่ค่อยได้” ฟังที่หล่อนพูดดูจะเป็นความคิดที่ดีทีเดียว

“ยายทำข้าวต้มอร่อยอย่างนี้เลย” หล่อนยกนิ้วโป้งให้เป็นการรับประกัน “ลีน่าอยากกินยายบอกว่าทำให้คนป่วยเอารสอ่อนๆ ลีน่าบอกให้ปรุงรสเพิ่ม” คราวนี้เหตุผลชักฟังดูแปลกๆ

“กินจนพุงกางแล้วก็ยังเหลือเลยตักใส่ชามมาให้กินนี่ล่ะ” สรุปว่าคนป่วยอย่างเขากินอาหารเหลือจากคนดีๆใช่ไหมนั่น!

ยายเด็กตัวแสบพูดเรื่อยเปื่อยอีกร้อยแปดเรื่องจนเขาจำไม่ไหวน่าแปลกที่คิดว่ารำคาญแต่เผลอพักเดียวข้าวต้มชามใหญ่ก็หมดเกลี้ยง พยาบาลปากมากยังส่งน้ำให้ถึงปากตามด้วยยาสารพัดชนิดตามที่ชายชราสั่งไว้

“เก่งมาก” ยายเด็กนี่ลูบหัวเขาอีกโดยไม่สนใจตาเขียวปัดของเขา หล่อนไม่เห็นหรือไงว่าเขาไม่ชอบ

วีรสิงห์อึดอัดเสียยิ่งกว่าอะไรลำพังแค่ต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงไปไหนไม่ได้นี่ก็เหลือจะทนแล้ว ยายเด็กคนนี้ยังทำเหมือนเขาเป็นสัตว์เลี้ยงอย่าให้หายดีก็แล้วกันเขาจะจัดการหล่อนให้หลาบจำรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เสียบ้าง ให้ตายเถอะ

ยายเด็กบ้า!

********************




Create Date : 31 ธันวาคม 2555
Last Update : 31 ธันวาคม 2555 8:01:19 น. 3 comments
Counter : 1351 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าค่ะ..

เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ที่จะถึงนี้..ฟ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกนี้..

จงช่วยดลบันดาลให้คุณ และครอบครัว พร้อมทั้งญาติสนิท มิตรสหาย คนใกล้ชิด...

มีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายจิตใจแข็งแรง สุขสวัสดิ์พิพัฒน์มงคลตลอดไป นะคะ




โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:8:26:52 น.  

 
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ
^_______^


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: วันฝัน วันซันเดย์ วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:11:40:30 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีปีใหม่ ประสบแต่สิ่งดีสมหวังดังตั้งใจและมีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ


โดย: ดาวกันยา วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:7:51:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.