Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
รอยตราพิศวาส ตอนที่ 4 part 2

แต่เงาของจอมทัพก็ไม่ปลิวหายไปจากใจ ตรงกันข้ามเขาก้าวล่วงเข้ามาเรื่อยๆอย่างจงใจก่อกวนให้ชีวิตของสิริญปั่นป่วนเที่ยงวันนั้นหลังจากกัดฟันแก้งานตามที่เขาสั่งเรียบร้อยแล้วจอมทัพก็เรียกสิริญเข้าไปพบอีก ครั้งนี้เขามีงานชิ้นใหม่คือให้เธอรับรองลูกค้าของบริษัท

“คุณนครเป็นลูกค้าคนสำคัญคืนนี้จะมีงานเลี้ยงขอบคุณฉันอยากให้เธอช่วยรับรอง”

“ดิฉันไม่ถนัดเรื่องนี้”

สิริญปฏิเสธอย่างลำบากใจเธอไม่ชอบงานสังคมแค่ลำพังการวางตนในที่ทำงานยังเป็นเรื่องอึดอัดนี่จะให้เธอรับรองแขกแปลกหน้าชวนพูดคุยทำให้เขาพอใจมันดูจะเป็นเรื่องยากกว่าเขียนโครงการที่เธอไม่มีความรู้นั่นหลายร้อยหลายพันเท่านัก

“ดิฉันหมายความว่าไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ลูกค้าสนใจหากเขาถามขึ้นมาดิฉันจะตอบไม่ได้บริษัทจะเสียหายคุณน่าจะมอบหมายให้คุณสรวงสุดาหรือแก้วเก้ามากกว่า” การยอมรับว่าตนเองไม่มีความสามารถดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่ารับปากส่งๆไป

“สองคนนั่นก็ต้องไปเหมือนกันเขามีหน้าที่รับรองแขกผู้ใหญ่คุณนครเพิ่งมาร่วมงานเป็นครั้งแรกเขาอาจตัดสินใจเซ็นสัญญากับบริษัทเราจากความเอาใจใส่ที่เรามีให้”

“ในเมื่อสำคัญขนาดนี้คุณน่าจะมอบให้กับคนที่มีประสบการณ์มากกว่าดิฉัน” สิริญพยายามยกเหตุผลมาอ้าง แต่จอมทัพยืนยันไม่ยอมท่าเดียว

“คุณอย่ามาพูดท่านั้นท่านี้ผมเป็นเจ้านายมีปัญญาคิดว่าใครเหมาะกับงานประเภทไหน งานเริ่มตอนหนึ่งทุ่มคุณประสานงานกับแก้วเก้าเรื่องกำหนดการและรูปแบบงานเอาเองเรื่องเสื้อผ้าถ้าจำเป็นต้องซื้อใหม่ก็ไปที่ร้านพันดาราลงบัญชีไว้ค่อยมาเบิกจากงบรับรองของบริษัท” เขาสั่งพร้อมกับบอกทางแก้ปัญหาให้เสร็จสรรพ

ร้านพันดาราเป็นร้านเสื้อระดับดีที่เซ็นสัญญาไว้กับบริษัทสูทของพนักงานทุกคนใช้บริการตัดเย็บจากร้านนี้ โดยพนักงานจะถูกหักเงินเดือนเฉพาะค่าผ้า ในส่วนของค่าตัดเย็บนั้นบริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดพนักงานทุกคนพอใจเพราะร้านนี้ตัดเย็บได้ประณีตและส่งงานเร็ว

นอกจากรับตัดเสื้อผ้าตามสั่งแล้วยังมีชุดเสื้อผ้าสำเร็จที่เตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้ชุดด่วนนำมาแก้ไขอีกเล็กน้อยให้เข้ารูปทรงก็สามารถใส่ออกงานได้ทันทีบริการดีเช่นนี้จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารระดับสูงสั่งตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับออกงานสังคมบริษัทเองก็มีงบประมาณต่างหากเป็นสวัสดิการสำหรับผู้บริหารหรือพนักงานที่ต้องออกงานสังสรรค์รับรองลูกค้าด้วยการเปิดบัญชีไว้ให้เลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับออกงานได้ตามสมควร

“แต่อย่าให้มันมากไปจนน่าเกลียดก็แล้วกัน”เขาไม่วายปิดท้ายด้วยเสียงดูถูกดูแคลนอีกเช่นเคย

“หมายความว่าอย่างไรคะ”

“คนบางคนน่ะคิดเอาแต่ได้เห็นช่องทางได้ผลประโยชน์จากบริษัทก็กอบโกยเอาโดยไม่คิดจะทำงานตอบแทนให้คุ้มค่าหลังเสร็จงานเธอเก็บเสื้อผ้าไว้ใช้ส่วนตัวได้ บริษัทถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการทำงาน”

สิริญเพิ่งเข้าใจว่าเขาพูดตักเตือนกลายๆว่าอย่าผลาญเงินบริษัทให้มากนักเธอถอนหายใจสั้นๆอย่างไม่พอใจ อึดอัดคับข้องใจก็มีมากอยู่แล้ว นี่ยังมาถูกดูแคลนอีกแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาอยู่เหนือเธอทุกอย่างทั้งสถานะทางสังคมและหน้าที่การงาน จึงได้แต่ก้มหน้ารับกรรมหวังว่าเธอจะอดทนได้จนกว่าจอมทัพจะเบื่อและรามือไปเอง

เย็นวันนั้นสิริญได้รับอนุญาตให้ออกจากที่ทำงานเร็วกว่าปกติ ราวบ่ายสามโมง เธอ แก้วเก้า และสรวงสุดาออกจากที่ทำงานไปยังร้านพันดาราด้วยรถยนต์ส่วนตัวคันหรูของสรวงสุดาสิริญนั่งอย่างเบื่อๆอยู่บนเบาะหลังนิ่งฟังสรวงสุดาบ่นเอากับแก้วเก้าแบบเข้าหูบ้างไม่เข้าหูบ้าง

“ฉันไม่ไปส่งยายสิริญหรอกนะบอกรถของบริษัทให้รอรับด้วย”

สรวงสุดาบอกด้วยใบหน้างอหงิกเธอไม่พอใจที่ต้องรับภาระพาแก้วเก้าและสิริญมาด้วย แก้วเก้าแอบกระซิบกับสิริญว่าสรวงสุดาเข้าใจผิดคิดว่าท่านประธานชวนเธอไปงานเลี้ยงรับรองในฐานะคู่ควงจึงดีใจจนเนื้อเต้นแต่มาฝันสลายเอาตอนที่รู้ว่าแก้วเก้าและสิริญก็ไปร่วมงานนี้เช่นกันเพื่อรับรองลูกค้าแถมคุณลาวัลย์ยังให้เธอพาสองสาวไปแต่งตัวและไปงานพร้อมกันเสียด้วยเลย

“ฉันนัดกับลุงดนัยแล้วค่ะประมาณสามทุ่มครึ่งลุงจะมารอรับที่หน้าโรงแรม”

ลุงดนัยเป็นคนขับรถของบริษัทมีหน้าที่รับส่งผู้บริหารและลูกค้าแต่ถ้าบริษัทมีงานนอกเวลาก็ต้องบริการพนักงานด้วย นี่ก็เป็นสวัสดิการอันหนึ่งที่บริษัทมีให้นอกเหนือไปจากเสื้อผ้าสำหรับใส่ออกงานใครที่ต้องไปทำหน้าที่และไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถใช้บริการได้แต่ก็ใช่ว่ารถของบริษัทจะไปส่งจนถึงบ้าน ลุงดนัยมีหน้าที่รับจากสถานที่จัดงานมายังบริษัทเท่านั้นต่อจากนั้นก็ต้องนั่งรถกลับบ้านกันเองเหมือนมาทำงานปกติ โชคดีที่พักของสิริญเป็นทางผ่านก่อนถึงบริษัทเธอจึงจะขอลงเสียระหว่างทางไม่ต้องเสียเวลาย้อนไปย้อนมา

เมื่อทั้งสามไปถึงร้านตัดเสื้อพันดารานั้นมีพนักงานของร้านรอต้อนรับอยู่แล้ว

“คงต้องใช้ชุดที่ตัดเตรียมไว้แล้วนะคะแต่น่าจะหาไซส์ได้ไม่ยากค่ะ”

พนักงานสาววัยยี่สิบปลายบอก เธอกะขนาดรูปร่างคร่าวๆจากนั้นจึงเข้ามาวัดตัวสาวๆทั้งสามคนเพื่อความแน่ใจและเดินนำเข้าไปยังห้องจัดเก็บเสื้อผ้าด้านหลังร้านซึ่งเป็นห้องขนาดไม่กว้างมากมีราวแขวนเสื้อติดไว้โดยรอบมีกระจกบานใหญ่ติดผนังไว้ด้านหนึ่ง

“อึดอัดจะแย่ น่าจะเอาออกไปให้เลือกนะ” สรวงสุดาเปรยอย่างไม่พอใจ ห้องเล็กแทบไม่มีช่องระบายอากาศเธอคิดว่าทางร้านน่าจะนำชุดที่คิดว่าเหมาะออกไปให้เลือกที่ห้องรับรองด้านนอกมากกว่า

“อยากให้ชมว่าชอบแบบไหน สีไหนบ้างค่ะ พอคุณๆเลือกแล้วดิฉันจะหาสีและแบบที่ใกล้เคียงกันให้เลือกเพิ่มอีกสักครู่จะมีเด็กมายกออกไปให้ลองสวมกันข้างนอก”พนักงานสาวบอกอย่างใจเย็นคงเคยชินกับการให้บริการลูกค้ามาแล้วทุกรูปแบบ สรวงสุดาไม่วายพ่นลมหายใจสั้นๆอย่างฮึดฮัดขัดใจหล่อนโบกแผ่นพับของทางร้านที่หยิบติดมือมาเอาแต่บ่นว่าร้อน

แก้วเก้านั้นตาวาวราวกับพบขุมทรัพย์ล้ำค่าหล่อนชอบการแต่งตัวออกงานพบปะผู้คนอยู่แล้วจึงสนุกเสียนักสรวงสุดานั้นแม้จะไม่ใคร่สบอารมณ์แต่เธอก็มีรสนิยมในเรื่องนี้พอควรเพราะสนใจดูแลตนเองให้ดูดีและคอยศึกษาแนวโน้มความนิยมเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอยู่เสมอสองสาวจึงเอาแต่เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะที่สุดสำหรับตนเองโดยไม่สนใจสิริญแม้แต่น้อย

สิริญเลือกเสื้อผ้าไม่เป็น เธอได้แต่หยิบๆจับๆลองเอามาทาบกับตัวแล้วก็แขวนคืนไว้ที่ราวในที่สุดจึงตัดสินใจบอกพนักงานสาวที่คอยให้บริการอยู่

“คุณช่วยเลือกให้ฉันสักชุดได้มั้ยคะฉันเลือกไม่เป็น งานกลางคืนก็ไม่เคยไปกับใครเขาสักที”สิริญยิ้มแหยๆ

“ได้สิคะ”เธอกวาดตามองเรือนร่างของสิริญ ก่อนจะเข้ามาขอวัดช่วงอกซ้ำอีกครั้ง

“คุณหุ่นดีมากเลยนะคะ ตัวเล็ก ช่วงขาเรียวเอวคอดสะโพกมน แต่ช่วงอกใหญ่ไปนิด”เธอบอกอย่างชวนคุยมากกว่าจะวิจารณ์ให้อับอาย

“แต่ดีแล้วล่ะค่ะสาวๆสมัยนี้อยากมีหน้าอกหน้าใจต้องหาวิธีทั้งยกทั้งเสริมให้วุ่นวายแต่คุณน่ะไม่ต้องเลย รู้มั้ยคะรูปร่างแบบนี้ถ้าใส่ชุดไทยจะสวยมากๆ”

สิริญได้แต่ยิ้มรับคำชมเพราะปกติไม่ชอบแต่งตัวออกไปไหนต่อให้แต่งแล้วสวยเป็นนางฟ้าเธอก็ไม่มีโอกาสออกงานอยู่ดี นอกเสียจากถูกบังคับกลายๆอย่างวันนี้

“เลือกชุดที่เป็นคอวีกระโปรงสั้นเหนือเข่าโชว์ขาสวยๆน่าจะเหมาะนะคะ”

“โบว์นึกว่างานกลางคืนต้องใส่ชุดกระโปรงยาวๆเสียอีก” สิริญบอกไปตามความเข้าใจของตนเอง

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะนอกเสียจากงานที่เป็นทางการเอามากๆ แต่เท่าที่แจ้งมาเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ธรรมดา” หล่อนคุยไปมือก็เลือกเสื้อผ้าชุดต่างๆลองทาบกับตัวของสิริญ

“คุณไม่ต้องเกร็งหรอกค่ะงานแบบนี้ส่วนมากจะคุยกันไปกินอะไรเล็กๆน้อยๆ มีนักร้องมาร้องเพลงโชว์หรือไม่ก็มีการแสดงให้ดูกันเพลินๆค่ะ”

“ลองชุดนี้มั้ยคะ”พนักงานสาวเสนอขึ้น ในมือเป็นชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนทำจากเนื้อผ้าพลิ้ว ตัวเสื้อเป็นคอวีเล่นลายบริเวณช่วงอกเมื่อลองทาบกับตัวแล้วมีความยาวเหนือเข่าสิริญได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย หรืออันที่จริงเธอไม่มีความเห็นเสียด้วยซ้ำ

“ไหน หล่อนเลือกได้แล้วเหรอยายสิริญ” เมื่อสิริญเลือกชุดได้สรวงสุดากลับสนอกสนใจเสียอีก หล่อนกวาดตามองชุดสวยในมือพนักงานสาวตาวาว“นี่เสื้อเก่าหรือเปล่า”

“ไม่ใช่นะคะ เป็นเสื้อใหม่ที่ทางร้านออกแบบเองค่ะแต่เป็นไซส์สำหรับโชว์ลูกค้าที่ชอบแบบเราจะตัดให้ใหม่ เลือกสีเลือกผ้าให้เหมาะกับสีผิวและรูปร่าง แต่ชุดที่มีอยู่คุณคนนี้น่าจะใส่ได้”

“ฉันไม่ชอบแบบที่แขวนๆไว้นี่เลยอยากได้ชุดที่อยู่ตู้โชว์ด้านหน้า”สรวงสุดาบอกพร้อมกับปรายตาอย่างดูแคลนสำหรับหล่อนแล้วเสื้อผ้าในห้องเล็กคับแคบนี้ช่างด้อยค่าและเป็นของเหลือเลือก

“เอ่อ ดิฉันเกรงว่า...” พนักงานสาวมีท่าทีลำบากใจ “คือเป็นชุดที่สั่งตัดไว้น่ะค่ะคงให้ไม่ได้”

“อะไรกัน นี่เห็นว่าพวกฉันมาใช้สวัสดิการของบริษัทหรือไงถึงเอาของเก่ามาให้เลือก งานพวกนี้มันก็เป็นหน้าเป็นตาของร้านนะอีกอย่างเธอให้ฉันเข้ามาเลือกเองแบบนี้น่ะมันไม่ให้เกียรติกันเสื้อผ้าพวกนี้เป็นพวกเกรดล่างบางชุดเป็นของที่คนอื่นเคยเช่าไปใส่ออกงานแล้วเธอจะให้ฉันขายขี้หน้าหรือไงใส่ชุดซ้ำกับชาวบ้านเขาเนี่ย หา”

สรวงสุดาหวีดเสียงขึ้นดังก้องจนทุกคนตกใจพนักงานสาวหน้าซีดจากนั้นก็แดงก่ำสิริญนึกชมว่าหล่อนเก็บอารมณ์ได้ดีที่ไม่แสดงสีหน้าโกรธออกมาถึงกระนั้นหล่อนก็ต้องนิ่งสงบใจอยู่เป็นครู่

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ เชิญคุณออกไปที่ห้องรับรองด้านนอกเดี๋ยวดิฉันจะให้เด็กนำแคตตาล็อกไปให้เลือกก็แล้วกันค่ะ”

“ฉันด้วยนะ”แก้วเก้าพลอยผสมโรงหล่อนก็คิดเช่นเดียวกับสรวงสุดาแต่เห็นว่าโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ครั้นสรวงสุดาเอะอะขึ้นหล่อนก็เลยเออออขอเกาะติดเอาผลประโยชน์ไปด้วย

“ของโบว์เอาชุดนี้ล่ะค่ะสวยดีแล้วโบว์เลือกไม่เป็นแค่พอมีชุดใส่ก็พอ”สิริญรีบบอกพนักงานสาวอย่างเจียมตัว ก็ได้รับรอยยิ้มอย่างขอบคุณตอบกลับมา

สรวงสุดาเดินก้าวฉับๆนำไปก่อนตามด้วยแก้วเก้าที่หยิบชุดที่พึงใจส่งให้พนักงานถือติดมือไปด้วยสามสี่ชุดสรวงสุดายังไม่หยุดแค่นั้นหล่อนเรียกร้องเอาตามอำเภอใจ แถมเลือกเสื้อผ้าไม่ถูกใจเสียทีแม้ว่าพนักงานจะนำทั้งภาพทั้งชุดจริงออกมาให้ลองสวมใส่นับสิบชุด

“นี่ยายสิริญเธอไปซื้อน้ำเย็นๆมาให้ฉันสักขวดซิเอาน้ำชาที่ฉันเคยกินน่ะ จำได้ใช่ไหม”จู่ๆสรวงสุดาก็ตวาดสั่งเสียงดังลั่นกลางร้าน พนักงานของร้านที่กำลังกุลีกุจอนำเสื้อผ้ารองเท้ามาให้เลือกต่างหันมามองสิริญเป็นตาเดียวเธอถึงกับหน้าชาด้วยความอับอาย

ขออภัยที่มาดึกค่ะ มัวแต่จัดกระเป๋า ไป ตจว 2 วันนะคะ วันอาทิตย์ดึกๆมาอัพต่อ 




Create Date : 09 พฤษภาคม 2556
Last Update : 9 พฤษภาคม 2556 22:29:08 น. 2 comments
Counter : 835 Pageviews.

 
ถึงว่า วันนี้ใจดี ลงให้เยอะกว่าทุกวัน หนีเที่ยวนี่เอง เดินทางปลอดภัยนะคะ


โดย: Ama_jung IP: 125.24.40.227 วันที่: 10 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:52:30 น.  

 
กลับมาแล้วจ้า มึนนิดหน่อย นั่งรถนาน แต่ก็สนุกดี
ขอบคุณจ้า


โดย: ดาวกันยา วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:41:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.