Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
จอมใจเจ้าป่า ตอน 5 part 3

ร่างที่กองอยู่กับพื้นหายใจรวยรินไร้เรี่ยวแรงแทบจะนับวันคืน “รอวันตาย”

เด็กหนุ่มตาพร่าเจ็บปวดไปทั่วร่างแค่จะหายใจยังเจ็บจึงได้แต่นอนนิ่งเขาแค่นยิ้ม นายจะรู้ไหมว่าพิรุณใกล้ตายแล้วเสียดายที่ยังรับใช้นายได้ไม่เท่าไร บุญคุณที่ท่วมหัวพิรุณขอตอบแทนชาติหน้าก็แล้วกันนะนาย

“รุณไอ้รุณ” เสียงเรียกไกลๆช่างเหมือนเสียงของนายเหลือเกินหรือว่าพิรุณจะตายแล้วได้เจอกับนายในเมืองผี แสดงว่านายก็ตายแล้วเหมือนกันใช่ไหมไม่สิ...นายสิงห์จะตายง่ายๆได้อย่างไรกัน

“ตายหรือยังไอ้รุณ” เสียงนั้นช่างคุ้นหูเด็กหนุ่มแข็งใจเฮือกสุดท้ายเผยอเปลือกตาอย่างยากเย็นดวงตาที่เลื่อนลอยค่อยมีสัญญาณของชีวิต

“นาย...นายของพิรุณ”

“ลุกไหวไหมอ่วมเลยนะเอ็ง”

“ไม่ไหวหรอกนายข้าวก็ไม่ค่อยได้กินโดนซ้อมเช้าซ้อมเย็น”เด็กหนุ่มเพ้อเสียงแผ่ว

“เอออย่าเพิ่งตายก็แล้วกันข้าจะพากลับบ้าน อยากกลับไหม ถ้าอยากตายก็นอนต่อจะได้ทิ้งไว้ที่นี่”

“หยะ...อยากสินายพิรุณอยากกลับบ้าน”

“งั้นก็แข็งใจไว้นะ” มือใหญ่ลูบหัวแค่นั้นเด็กหนุ่มก็อุ่นใจหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนรู้สึกปลอดภัยที่สุดนับตั้งแต่ถูกพามาที่นี่ นายสิงห์มาแล้วนั่นหมายถึงเขารอดแน่แล้วนายสิงห์ไม่มีวันปล่อยให้พิรุณตายใครหน้าไหนคิดจะทำร้ายคนของนายนั้นอย่างหวัง

วีรสิงห์สั่งการให้ลูกน้องขนย้ายคนเจ็บเปลสนามถูกเตรียมมาพร้อมตั้งแต่ได้รับการติดต่อจาก “นาย” คนทั้งกลุ่มมีกันแค่สี่ห้าคนแต่เคลื่อนไหวรวดเร็วร่างกายกำยำแข็งแรงใช้เวลาไม่นานเปลคนป่วยก็ถูกยกปลิว

“ล่วงหน้าไปก่อน” เขาสั่งการ “ฉันจะเก็บกวาดอีกนิด”

ชายหนุ่มย่อตัวลงสั่งความกับลิ่วล้อของไอ้ศัตรูตัวร้ายที่นอนโอดโอยอยู่กับพื้นหน้ากระท่อมหลังเล็กซึ่งใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ“บอกนายของมึงด้วย กูรับคนของกูไปแล้ว ขอบใจที่ดูแลอย่างดีต่อไปนี้กูจะดูแลคนของมันแบบเดียวกันบ้าง”เขาโยนก้านไม้ขีดติดไฟลงกับพื้น แค่พริบตาแสงไฟสว่างวาบเป็นทางไปพุ่งไปยังตัวบ้านก่อนจะแผดเผาลุกลามด้วยเชื้อเพลิงที่ราดไว้ก่อนแล้ว

“นี่เป็นของฝากจากกู” เขาปล่อยร่างปวกเปียกให้กองอยู่ที่เดิม อีกสักพักพวกของมันคงมาวีรสิงห์แสยะยิ้ม ก่อนแฝงกายกับความมืดลัดเลาะไปตามเส้นทางที่สำรวจมาอย่างดี ทางแม้จะมืดแต่ไม่เกินความสามารถและความชำนาญที่สั่งสมมาไม่นานนักก็ถึงเขตแดนเหลือเพียงข้ามร่องน้ำแห้งข้างหน้าก็เข้าสู่เขตแดนของฤทธิไกรเขาเกือบจะพ้นชายป่าอยู่แล้วถ้าไม่มีร่างหนึ่งโผล่พรวดออกมาเสียก่อน

“จะไปไหน” เจ้าหล่อนกางแขนดักหน้า

“หลีก”

“จะไปไหนจะหนีไปแบบนี้เหรอ ไม่ให้ไปหรอก”

“อยากโดนสักทีใช่ไหมยายเด็กแก่แดด” ตาคมมีแววบางอย่างที่ทำให้คนที่ยืนขวางรู้สึกร้อนไปทั้งหน้า อับอายจนกลายเป็นโกรธและโกรธจนถึงที่สุด

“จะฟ้องตา...เนรคุณ”

“เฮ้ย” เขากัดฟันคำรามฮึ่ม ฟังยายเด็กแก่แดดพูดเข้า

“คนเขาอุตส่าห์ช่วยให้ข้าวให้น้ำกลับหนีไปเสียดื้อๆ ไม่รู้จักบุญคุณ” หล่อนยังไม่รู้ว่าเขาถวายพระเพลิงตอบแทนบุญคุณแถมไปอีกชุดไม่อย่างนั้นคงไม่โดนข้อหาแค่นี้

“ต้อง...กลับบ้านแล้ว” เขาเค้นเสียงรอดไรฟัน “บ้านอยู่ฝั่งโน้น”

“ไปด้วย ฉันเลี้ยงดูนายตั้งหลายวัน นายต้องเลี้ยงฉันบ้างสิ” เด็กสาวตาวาวนึกอยู่แล้วว่าเจ้ายักษ์ต้องมาจากที่นั่น หล่อนอยากไปฝั่งโน้นอยากเห็นว่าคนที่นั่นอยู่กันยังไงภายใต้การปกครองของนายสิงห์ใจโหดนั่นไม่แน่...บางทีเจ้ายักษ์อาจรู้จัก

“ตามใจ” ในความมืดริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มมีเลศนัยในเมื่ออยากไปเองก็...ช่วยไม่ได้

เด็กสาวไม่สนใจ ตื่นเต้นราวกับได้ใบอนุญาตผ่านเข้าดินแดนมหัศจรรย์ไม่มีทางปล่อยให้โอกาสงามแบบนี้หลุดรอดไปได้ หล่อนสาวเท้าตามร่างสูงที่เดินดุ่มๆไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ยอมให้คลาดสายตา

********************

“นายกลับมาแล้วสีแพรห่วงนายเหลือเกิน” สาวน้อยนางหนึ่งผวาเข้ากอดรัดเขาทันทีที่เห็นหน้าหล่อนเกลือกใบหน้ากับอกกว้างน้ำตาร่วงเผาะ

ลลินานึกแปลกใจอย่างเจ้ายักษ์ก็เป็นเจ้าคนนายคนด้วยเหรอ? ตั้งแต่มาถึงที่นี่ทุกคนที่เจอเอาแต่เรียกนายนาย แถมยังทำหน้าตาดีใจเป็นที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่สาวคนนี้

ชื่อของหล่อนคือสีแพรดูจากหน้าตาและลักษณะกิริยาอายุอานามคงมากกว่าลลินาสักสองสามปี แต่หญิงสาวตรงหน้าดูเป็นสาวเต็มตัวมีน้ำมีนวลของวัยสาวมากกว่านักหล่อนมีผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย มันผุดผาดบาดตาจนเด็กสาวอดเทียบกับผิวตนเองไม่ได้ และเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าผิวพรรณตนเองช่างซีดเสียยิ่งกว่าอะไรแม่สาวสีแพรนั่นมีผมสีดำสนิทเกล้ารวบต่ำไว้ที่ท้ายทอย เปิดให้เห็นวงหน้างามผุดผาดบาดตาดวงตายาวรีมีน้ำใสๆกลิ้งดูวับวาวราวกับประกายเพชร จมูกโด่งงามรับกับริมฝีปากอิ่มเต็มไหนจะอกอวบหนั่นแน่นอีกทั้งสะโพกผายบั้นท้ายงอนงามช่างเซ็กซี่เหลือร้าย

อ้อ ที่แท้...เจ้ายักษ์ชอบแบบนี้

เด็กสาวอดค้อนลมค้อนแล้งไม่ได้มิน่าล่ะถึงได้ดูถูกหล่อนนัก มีสาวเอ๊กซ์อึ๋มรออยู่นี่เอง เชอะ!

“ขมิ้น” ลลินาตะโกนก้องอย่างดีใจเมื่อเห็นลูกสมุนที่พลัดพรากกันไปนานหล่อนก้าวพรวดเข้าหาไขว่คว้าจับตัวมันลากแรงจนร้องเอ๋ง

“ขมิ้นใช่ไหม โอ๋ๆ”

เจ้าขมิ้นชัดๆจากกันเป็นเดือนมันโตขึ้นมากทีแรกมันทำหน้างงเหมือนจำหล่อนไม่ได้ แต่หล่อนกลับจำมันได้ดีทั้งสีทั้งลาย เจ้าหมาน้อยเอาจมูกดุนดมฟืดฟาดพักเดียวก็งี๊ดง๊าดทักทายเริ่มจำเจ้านายสาวได้บ้างแล้วคราวนี้เอาแต่เห่าแถมวิ่งวนรอบตัว มันคงดีใจได้เจอเพื่อน

ว่าแต่เจ้าขมิ้นมาอยู่ในบ้านเจ้ายักษ์ได้ยังไง?

หล่อนหันไปจะถามเจ้ายักษ์แต่กลายเป็นว่าต้องมานั่งมองดูสองร่างที่นัวเนียกันอยู่กลางห้องไม่ได้สนใจเล้ยว่ามีคนและหมาอยู่ด้วยอีกอย่างละหนึ่งเจ้ายักษ์กอดผู้หญิงคนนั้นไว้หลวมๆปากพร่ำพึมพำปลอบใจ ฝ่ายหญิงยังระทดระทวยอยู่ในอ้อมแขนเหมือนไม่มีกระดูกเด็กสาวชักเริ่มไม่ชอบหน้าหล่อนเสียแล้วสิ

“พิรุณเป็นไงบ้าง” ชายหนุ่มถามถึงเด็กรับใช้

“ส่งโรงพยาบาลแล้วจ้ะพ่อจัดการแล้ว”

สีแพรเช็ดหน้าเช็ดตาแต่ยังไม่ยอมถอยห่างตื้นตันใจเสียนักที่เขากลับมา นายสิงห์หายตัวไปหลายวันแล้ว เป็นหลายวันที่หล่อนกินไม่ได้นอนไม่หลับกลัวเขาจะมีอันตรายก็กลัว กลัวเขาไปมีเมียก็ยิ่งกลัวกว่าโล่งใจเหลือเกินที่เขากลับมาและยังแข็งแรงดี...ว่าแต่เขาพาตัวอะไรกลับมาด้วย?

“นั่นอะไรจ้ะนาย”หล่อนเบือนหน้าไปทางตัวประหลาดหัวแดงผิวขาวเผือด เคลื่อนไหวได้ว่องไวปรู๊ดปร๊าดเหมือนลิงที่พอมาถึงก็วิ่งจู๊ดไปเล่นกับหมาพอหล่อนถามมันก็หันหน้ามาขู่ฟ่อ

“ต๊ายคนนี่จ้ะ” เป็นคนจริงๆด้วยเนื้อตัวสกปรกเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งเป็นริ้วๆ เสื้อผ้าหล่อนมันคงเก่าจนเปื่อย พอโดนเกี่ยวนั่นนี่ก็ฉีกแคว่กไหนจะหน้าตามอมแมมจนแทบไม่เห็นเค้าหน้า เห็นแต่ตาโตเขียวปัด

“มาจากฝั่งโน้น” วีรสิงห์บอกสั้นๆไม่ให้รายละเอียดมากกว่านั้น สีแพรก้าวเข้าไปดูใกล้ๆเจ้าตัวประหลาดก็ลุกขึ้นยืนจ้องหน้า

“ตัวเมียเหรอจ้ะ” หล่อนชักคอแข็งมันจะตัวอะไรก็ช่าง ถ้าเป็นตัวเมียถือว่าเป็นศัตรูทั้งนั้น“สกปรกเนอะ เหม็นหึ่งเลย” นิ้วเรียวสวยยกขึ้นบีบปลายจมูกราวกับเจอของกลิ่นฉุนรุนแรงท่าทางแบบนั้นทำให้คนมองโมโหจิ๊ด

ลลินาถลึงตาใส่หล่อนนางมารเอ็กซ์แตกนี่กล้าสบประมาทคุณลีน่า เดี๋ยวแม่ตบโชว์แต่พอมองสารรูปตัวเองแล้วก็ชักจะเห็นจริงหล่อนยังไม่ได้อาบน้ำอาบท่าก็วิ่งตามเจ้ายักษ์เข้าป่า เดินเท้ามาเกือบชั่วโมงจนเข้าเขตหมู่บ้านต้องนั่งรถเข้ามาอีกตั้งนานสองนานจนมาถึงบ้านนี่ล่ะหัวหูมีแต่กิ่งไม้หยากไย่ค่าที่เดินดุ่มไม่ดูทางไหนจะกลิ่นเหงื่อคราบดินโคลนสกปรกเต็มตัว

“สีแพรดูให้หน่อยไม่ค่อยรู้เรื่อง” วีรสิงห์ปัดตัวภาระเสียดื้อๆ

“ฟังภาษาคนรู้เรื่องไหมจ้ะ” หล่อนทำหน้าสงสัยจริงจัง จนผู้ชายคนเดียวในห้องถึงกับหัวเราะหึๆ

“ฉันเป็นคนฟังภาษาคนรู้เรื่อง”

“ต๊ายนึกว่าลิงเผือก ซีดจังนะเธอน่ะ ไม่เคยออกแดดเลยหรือไง” พอรู้ว่าเป็นผู้หญิงวิ่งตามเจ้านายหล่อนก็เริ่มกระบวนการตินั่นนี่ ลลินาได้แต่ยืนจ้องหน้าเถียงไม่ออก แต่ไหนแต่ไรมามีแต่คนอิจฉาผิวผ่องนวลเนียนของคุณลีน่าพวกแม่สาวๆที่ทำงานบนเรือนยังชมออกบ่อย ยายสีแพรสีไพรอะไรนี่มาจากไหนมาว่าหล่อนเป็นลิงเผือก

“ไปอาบน้ำหน่อยไหมโดนน้ำได้หรือเปล่าเธอ” หล่อนทำท่าแหยง

ลลินาแทบเต้น มันจะมากไปแล้วนะหล่อนดูถูกกันมากไปแล้ว

“จะอาบน้ำกับเจ้ายักษ์” สาวน้อยยอมเสียที่ไหน

“อะไรไหนเจ้ายักษ์ หมาเธอเนี่ยเหรอชื่อเจ้ายักษ์”

“เจ้ายักษ์นี่” ลลินาชี้มือไปยังร่างที่ทรุดนั่งบนเตียง “เคยอาบน้ำ...ด้วยกัน”

คนหนึ่งอาบน้ำอีกคนนั่งรอจะเล่นด้วยเฝ้าเสื้อผ้าให้แถมยังคอยเร่ง เขาก็ต้องเรียก...ด้วยกัน...นั่นล่ะถูกแล้ว

ยายสีแพรตีหน้าปุเลี่ยนก่อนจะสะบัดหน้าส่งสายตาค้อนควัก“พูดเรื่อยเจื้อย ใครจะเชื่อ”

“มีแผลเป็นตรงนี้” ลลินาวาดมือชี้ไปที่ด้านหลังแถวบั้นเอว ก็หล่อนเช็ดให้ออกจะบ่อยแผลใหม่แผลเก่าอยู่ตรงไหนบ้างให้หลับตายังชี้ถูกแม่นี่เคยรู้บ้างหรือเปล่าเหอะ ลลินาส่งยิ้มตาใสให้ แม่สาวชาวป่าก็แน่จริงหล่อนย่ำเท้าตึงๆไปเลิกเสื้อนายหนุ่มดูให้เห็นกับตาเดี๋ยวนั้นเช่นกันพอเห็นแผลที่ว่าหล่อนก็แทบกรี๊ด

“นายแผลมาจากไหน นางลิงป่ามันรู้ได้ยังไง” หล่อนร้องลั่นบ้านปากคอสั่นวีรสิงห์ได้แต่เกาหัว

“เอาไว้ว่ากันทีหลังสีแพรไปหาข้าวมาให้ฉันกินก่อน” คำบอกเล่าไม่ใส่ใจของนายทำเอาสาวบ้านป่าคอแข็งเสียหน้าไปไม่น้อยเมื่อนายไม่เห็นความสำคัญของหล่อนมากไปกว่าแม่บ้าน

“สีแพรจะเอามาให้ คงอีกสักชั่วโมง” ข้าวเตรียมไว้พร้อมแล้วแต่นายทำให้ไม่สบอารมณ์ก็อย่ากงอย่ากินมันเลย ปล่อยให้หิวท้องกิ่วทั้งคู่นั่นล่ะ หน้าสวยๆบูดบึ้งจนเหมือนยักษ์ปิดประตูตามหลังโครมใหญ่ลลินาหัวเราะชอบใจจนลงไปนอนกลิ้งกับเจ้าขมิ้น

“ไปอาบน้ำไปเหม็นจริงอย่างที่เขาว่า”วีรสิงห์โยนผ้าเช็ดตัวให้บุ้ยปากไปทางห้องน้ำ เอนตัวนอนตั้งใจจะพักซักงีบเสียงหัวเราะเบาลงแล้วเหลือแต่เสียงคิกๆคักๆ

“ไม่มีเสื้อ”

“เอาของฉันใส่ไปก่อนในตู้”

********************




Create Date : 06 มกราคม 2556
Last Update : 6 มกราคม 2556 7:59:52 น. 0 comments
Counter : 1239 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.