Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 

รอยตราพิศวาส ตอนที่ 2 part 2

“โบว์มันคล่องให้มาช่วยเสิร์ฟอาหารด้วยก็ได้ครับผมจะไปขอครูสันต์ให้”

จะอย่างไรสิริญก็ยังมีพ่อเป็นบุคคลที่ชาวบ้านนับหน้าถือตา ทำให้นายสุพลออกจะลำบากใจหากครูสันต์รู้ว่าเขาขอให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนมาวิ่งเสิร์ฟอาหารคงไม่พอใจนักแต่จนใจที่แถบนี้มีคนที่เป็นงานอยู่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านอายุมาก หากใช้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจะพลอยทำให้เสียหายไปกันใหญ่

“ผมก็ลำบากใจ แต่เขายืนยันจะมากันให้ได้ไม่ต้องกังวลหรอกครับก็ทำไปตามมีตามเกิด” จอมทัพกลับไม่ใส่ใจกังวลกับเรื่องนี้เท่าใดนัก

“ให้โบว์มาช่วยก็ดีเขาพอรู้เรื่องบ้าง แต่ให้เสิร์ฟอาหารอย่างเดียวนะอย่าให้ลงมือเอง” เขาว่ายิ้มๆ สิริญมองเห็นแววตาขบขันของเขาก็ย่นจมูกใส่ จอมทัพชอบยั่ว ตั้งแต่รู้ว่าเธอทำกับข้าวอะไรไม่เป็นสักอย่างเขาหัวเราะขันเสียจนตัวงอตัวเขาเองเสียอีกที่เป็นผู้ชายแต่กลับทำเป็นหลายอย่าง สิริญนั้นได้แต่เป็นลูกมือหั่นผักหั่นเนื้อและคอยล้างจานเท่านั้น

“เพื่อนพี่จะมาหรือคะ” เธอถามทำตาโตตื่นเต้นที่จะได้เจอผู้คนจากต่างถิ่นทั้งยังเป็นเพื่อนของพี่จอมอีกด้วยพวกเขาคงต้องคุยสนุกและใจดีเช่นเดียวกัน จอมทัพพยักหน้าจับศีรษะสิริญโยกเบาๆ

“โบว์ช่วยพี่หน่อยนะ มากันไม่มากหรอกประมาณเก้าคนสิบคนผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่ มาย่างบาร์บีคิวกินกันพี่ทำยำกับสลัดง่ายๆ พวกนี้เขาไม่กินอะไรหนักท้องกันหรอกเห็นว่าจะติดของกินเล่นกันมาคนละอย่างที่เหลือก็พวกเครื่องดื่มเขาก็จะหามากันเอง”

เพื่อนของจอมทัพเก้าคนขับรถมากันเองจากกรุงเทพในคราวแรกสิริญไม่ได้เอะใจที่เขาบอกว่ามีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแต่พอได้เจอก็ชักรู้สึกถึงอะไรแปลกๆในบรรดาเพื่อนๆเหล่านั้นเป็นผู้หญิงเสียหกคนมีสองคนที่มากับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนกับจอมทัพส่วนอีกสี่คนนั้นได้ยินว่าเป็นสาวโสด  

สาวๆสี่คนนี้เองที่ทำให้สิริญรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักพวกเธอคุยเก่ง หรือจะว่าไปแล้วแทบพูดไม่หยุดเลยตั้งแต่มาถึง ทั้งหมดแต่งกายนำสมัยและออกจะเปิดเผยเกินงามโชคดีที่พวกเขาไม่ได้แวะที่ใดแต่ขับรถมายังบ้านตากอากาศของจอมทัพโดยตรง หาไม่แล้วคงโดนชาวบ้านนินทากันให้แซดเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะไม่ควร

สี่สาวที่ว่านี้บ้างก็ใส่กางเกงขาสั้นซึ่งไม่ใช่ผ้าหนาเช่นผ้ายีนส์อย่างที่สิริญชอบใส่แต่เป็นผ้าเนื้อบางสีขาวซึ่งบางแจ๋วจนแทบเห็นขอบกางเกงชั้นใน เสื้อแขนกุดโชว์ไหล่คอเสื้อคว้านลึกจนเห็นร่องอกเบียดกันแน่นบางคนแต่งเป็นชุดติดกันยาวแค่เข่าลวดลายกระจุ๋มกระจิ๋มแต่ท่อนบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวอวดผิวเนื้อรำไรใต้ร่มผ้าเช่นกัน

“เธอน่ะเป็นเด็กรับใช้ใช่ไหมมาขนกระเป๋าขึ้นไปที”

หนึ่งในสี่ที่แต่งตัวเฉี่ยวและแต่งหน้าเข้มจัดกรีดนิ้วสั่งสิริญเธอรีบทำตามไม่เกี่ยงงอนทั้งที่ยามอยู่บ้านไม่เคยมีใครจิกเรียกใช้ถึงขนาดนี้

“คุณจอมพักอยู่ห้องไหน”

“ห้องข้างล่างค่ะ”

“งั้นฉันจะพักข้างล่างนี่ด้วย”

“ชั้นล่างมีห้องนอนห้องเดียวค่ะคุณจอมให้เตรียมห้องพักชั้นสองไว้สำหรับคุณๆผู้หญิง ชั้นบนมีสองห้องนอนห้องน้ำในตัวค่ะสะดวกกว่า”จอมทัพจัดให้เพื่อนผู้ชายนอนชั้นล่างมีคนหนึ่งเตรียมเต็นท์สนามมาด้วยสิริญได้ยินว่าเขาจะกางเต็นท์นอนริมน้ำ

“กะว่าจะย่องเข้าหาเขาล่ะสิยายแอ๊นท์”

เพื่อนสาวคนหนึ่งพูดเย้าและหัวเราะคิกคักสาวสวยที่ถูกพูดถึงยิ้มกว้างยักไหล่ไม่ตอบอะไร แต่กิริยาแค่นั้นก็ทำเอาสิริญใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆตามด้วยอาการใจสั่นและร้อนไปหมดทั้งตัวยิ่งเมื่อเห็นเธอเขย่งตัวจูบแก้มและกอดรัดนัวเนียอยู่กับจอมทัพสิริญก็ถึงกับร้อนวูบเด็กสาวนึกหวงพี่จอมของเธอขึ้นมาจับใจไม่อยากให้แม่พวกนี้มาป้วนเปี้ยนวุ่นวายกับเขาและยิ่งไม่พอใจที่เขาเอาใจใส่เพื่อนๆกลุ่มนี้เป็นอย่างดี แต่สิริญก็ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอะไรได้นอกจากนั่งมองเขามีความสุขกัน

พวกเขามาถึงตั้งแต่บ่ายเปลี่ยนชุดว่ายน้ำแล้วกระโดดลงน้ำกันตูมๆแม้แต่จอมทัพก็ลงไปเล่นสนุกกับเขาด้วย สิริญซึ่งนั่งแอบอยู่มุมหนึ่งลอบมองเรือนร่างของจอมทัพด้วยความรู้สึกแปลกไปจากทุกวันเธอไม่เคยมีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับเขามาก่อนด้วยความสัตย์จริง

แต่วันนี้สิริญกลับรู้สึกเขินอายเมื่อกวาดตามองอกผึ่งผายที่ชุ่มน้ำของเขากล้ามเนื้อแข็งแรงนั้นสิริญเคยหนุนนอนเสียด้วยซ้ำเวลาที่อ่านหนังสือจนง่วงจอมทัพมีกล้ามเนื้อร่างกายแข็งกระชับเขามักใช้เวลาตอนเช้าสำหรับวิ่งและออกกำลังกายเบาๆเรือนร่างสูงใหญ่นั้นทำเอาใจเธอเต้นตุบและสั่นระรัวขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนอาจเป็นเพราะเมื่อเขาอยู่กับผู้หญิงเหล่านั้นทำให้เสน่ห์ทางเพศของเขาฉายออกมาจนเห็นได้ชัดสิริญรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวหลังจากรู้ตัวว่าลอบมองเขาอย่างเผลอไผลเป็นนานสองนาน

เพื่อนสาวของเขาค่อนข้างเปิดเผยและถึงเนื้อถึงตัวครั้งหนึ่งเมื่อเห็นจอมทัพเคล้าเคลียบดจูบกับหญิงสาวนางหนึ่งอย่างถึงอกถึงใจเด็กสาวกำลังนำกระติกน้ำแข็งและถาดแก้วน้ำเพื่อเตรียมเสิร์ฟเครื่องดื่มเธอถึงกับตกใจเสียจนควบคุมตนเองเกือบไม่อยู่ข้าวของในมือเกือบหล่นร่วงดีแต่ว่าประคองไว้ได้เสียทัน

“ไม่เอาน่าแอ๊นท์”

เขาดึงแขนเรียวที่ตวัดรอบคอออกและร้องปรามเบาๆสาวคนที่ว่าคือสาวสวยที่หมายมั่นจะนอนห้องเดียวกับเขานั่นเอง ใบหน้าของหล่อนแดงจัดดวงตาหรี่ปรือไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างอ่อนที่จิบกันมาตลอดบ่ายหรือเพราะแรงพิศวาสที่มีต่อจอมทัพกันแน่หล่อนยิ้มหวานหัวเราะเสียงใส ไต่มือเรียวสวยไปกับแขนล่ำสันไล่ขึ้นไปลูบไล้แผ่วที่ใบหน้าริมฝีปากของหล่อนแดงฉ่ำดวงตาเป็นประกายวาววามขณะเอนกายพิงอกของจอมทัพไว้โดยมีอ้อมแขนของเขาประคองไว้

“จอมก็เล่นตัวไปได้แอ๊นท์รู้น่าว่าจอมร้อนขึ้นมาแล้ว” เสียงใสบอกกลั้วหัวเราะมือไม้ยังลูบไล้วุ่นวาย

สิริญตัวร้อนซู่จนชาเจ็บแปลบจากหัวใจแผ่ซ่านไปทั้งร่างเด็กสาวเผลอร้องเบาๆในคอจอมทัพจึงหันมาเห็นเข้าแววตาของจอมทัพเปลี่ยนไปนิดเดียวแต่สิริญก็สังเกตเห็น และตีความเอาว่าเขาไม่พอใจที่เธอเข้ามาขัดจังหวะ

“โบว์ มาแล้วเหรอ”จอมทัพร้องทักแต่สิริญค้อนควับให้ เดินผ่านเขาไปไม่พูดไม่จาวางถาดแก้วและกระติกน้ำแข็งไว้ให้ที่โต๊ะเล็กริมระเบียง

“ต้องการอะไรก็เรียกนะคะโบว์จะอยู่หลังบ้านไม่ออกมาอีกแล้ว”

เธอบอกเขาเป็นนัยๆว่าถ้าไม่เรียกเธอก็จะไม่ออกมาจากที่นั่นบรรยากาศน่าตื่นใจที่จะได้รู้จักเพื่อนของเขาและสังคมของเขานั้นมลายหายไปหมดสิ้นโดยที่สิริญไม่รู้สาเหตุเธอหงุดหงิดจนอยากร้องไห้ ถ้าไม่ติดที่ป้าผ่องภรรยาของลุงสุพลจะต้องทำงานอยู่คนเดียวไหนจะต้องทำอาหารไหนจะเสิร์ฟเธอคงหนีกลับบ้านไปแล้ว

หลังจากนั้นสิริญจึงได้แต่นั่งจับเจ่าอยู่ในครัวเมื่อมีคนสั่งอาหารก็เอาออกไปส่งเสียทีหนึ่งทั้งยังเดินก้มหน้างุดไม่มองใครไม่สนใจจะปรายตามอง โดยเฉพาะจอมทัพสิริญไม่อยากเห็นเขาคลอเคลียเอาใจเพื่อนหญิงเหล่านั้นแม้แต่นิดเดียวงานปาร์ตีดำเนินไปจนเกือบสามทุ่มก็เลิกราแขกของจอมทัพแยกย้ายกันไปอาบน้ำบ้างก็หลับไปทั้งชุดเดิมสิริญช่วยป้าผ่องเก็บล้างจานชามเครื่องครัวราวๆเกือบสี่ทุ่มจึงได้เตรียมตัวกลับบ้าน

“โบว์ เดี๋ยว”เสียงคุ้นหูเรียกเธอไว้เมื่อเด็กสาวกำลังจะเดินลัดเลาะสวนด้านหลังเพื่อกลับบ้าน

“พรุ่งนี้ประกาศผลแล้วใช่มั้ย” จอมทัพถามถึงผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ซึ่งเขามีส่วนช่วยติวหนังสือสอบและเลือกลำดับคณะที่เหมาะกับคะแนนของเธอ

“ค่ะ” สิริญตอบอย่างเบื่อๆไม่มีแก่จิตแก่ใจจะคุยเธออยากกลับบ้านไปนอนไม่อยากมาที่นี่อีกแล้ว

“ทำไมล่ะเหนื่อยหรือ ขอโทษด้วยเพื่อนพี่เขาวุ่นวายกันไปหน่อย”

“เขาเป็นแฟนพี่เหรอคะ” สิริญถามเอาตรงๆ “คุณแอ๊นท์”

“เกิดอยากรู้อะไรขึ้นมา” จอมทัพยิ้ม “เรื่องของผู้ใหญ่น่า”

“แหม โบว์ไม่ใช่เด็กแล้วนะโตแล้วจะเข้ามหาลัยแล้วด้วย”

“เอาไว้สอบได้ก่อนเถอะค่อยมาอวดขอบใจมากนะที่มาช่วย” จอมทัพบอกแค่นั้นแล้วไล่เธอกลับบ้าน

สิริญพึมพำลา เดินเหมือนคนไม่มีแรงกลับบ้านคืนนั้นเธอร้องไห้จนหลับไปด้วยความปวดร้าวใจเริ่มรับรู้ว่าจอมทัพมีความสำคัญสำหรับเธอเพียงใดหลังจากตายายเสียไปแล้วพ่อก็แต่งงานใหม่และทำตัวราวกับมีครอบครัวใหม่สิริญซึ่งเป็นส่วนเกินของใครๆก็ยึดจอมทัพเป็นของตนเองมาตลอด แม้จะเป็นเวลาสั้นๆแค่เดือนเศษแต่โลกของสิริญก็มีเพียงเขาคนเดียวขณะนี้ความจริงอันน่าเจ็บปวดใจเริ่มทำร้ายสิริญอย่างทารุณ เธอกลับไปเป็นเด็กผู้หญิงที่ว้าเหว่เคว้งคว้างไร้หลักยึดคนเดิมคนที่ไร้จุดหมายกับชีวิต

วันต่อมาสิริญเข้าตัวเมืองไปกับเพื่อนที่โรงเรียนราวสิบคนเพื่อไปร่วมลุ้นผลการสอบด้วยกันแม้ว่าที่บ้านจอมทัพจะมีอินเทอร์เน็ตใช้แต่เธอก็ไม่ไปตั้งใจว่าจะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีก รู้ดีว่าอีกไม่นานจอมทัพก็กลับไป มันคงจะดีกว่าถ้าเธอไม่เอาตัวและหัวใจไปพัวพันกับเขาเพราะรังแต่จะเจ็บเธอเป็นเพียงเด็กสาวบ้านนอกที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาในช่วงสั้นๆอีกไม่นานเขาก็ลืมสิริญจึงชิงตัดเขาไปจากใจเสียก่อน

ผลการสอบออกมาดีกว่าที่คิดไว้มาก สิริญสอบติด แม้จะเป็นคณะวิชาเล็กๆด้านภาษาที่คนไม่ใคร่เลือกกันแต่เธอก็ได้สิทธิ์เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยประจำจังหวัดแห่งเดียวกับบุหงา พ่อนั้นดีใจจนเสียงสั่นสิริญเองก็ดีใจที่ไม่ทำให้พ่อผิดหวังแต่ก็อดนึกไม่ได้ว่าคงมีความสุขมากกว่านี้ถ้ามีจอมทัพแสดงความยินดีอยู่ข้างๆ

วันนั้นเมื่อสิริญบอกพ่อเรื่องผลการสอบแล้วก็ขออนุญาตไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆต่อ

“โบว์ไปกินหมูกระทะกับเพื่อนต่อนะพ่อเย็นๆกลับ” เธอบอกผ่านสายโทรศัพท์ ชุมชนเล็กๆแห่งนี้เริ่มมีความเจริญโดยเฉพาะย่านที่อยู่ติดถนนใหญ่ซึ่งตัดผ่านตรงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อของตัวจังหวัดมีร้านค้าทั้งเสื้อผ้าของที่ระลึกมาเปิดมากมายนับแต่ต้นปีที่ผ่านมาที่ตลาดก็มีร้านอาหารเปิดใหม่ซึ่งเป็นแหล่งรวมของวัยรุ่น บิดาของเธอออกปากอนุญาตเพียงแต่ให้ระวังตัวเรื่องอุบัติเหตุเพื่อนกลุ่มที่ไปด้วยนี้เรียนโรงเรียนเดียวกันกับสิริญและเคยเรียนกับอาจารย์สันต์มาแล้วทั้งนั้นเขาจึงวางใจว่าลูกศิษย์จะไม่พาลูกสาวไปเถลไถลที่ไหน

หลังจากวันนั้นสิริญก็หาเหตุออกจากบ้านทุกวันเวียนฉลองความสำเร็จกันในกลุ่มเพื่อนไปบ้านคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง เธอหลบหน้าจอมทัพได้ราวสี่ห้าวันเขาก็มาตามถึงบ้าน

“คุณคนที่อยู่ข้างบ้านเขามาถามหา” บิดาบอกในเย็นวันหนึ่ง

“เขาจะมาขอบคุณที่โบว์ไปช่วยงานเลี้ยงวันนั้นไปหาเขาเสียหน่อยนะเขาอุตส่าห์มา ให้ผู้ใหญ่มาตามถึงบ้านไม่ดี”

จอมทัพไม่ได้บอกกับพ่อถึงเรื่องการติวหนังสือหรือการเตรียมสอบสิริญมองย้อนกลับไปก็เข้าใจความคิดของเขา คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าย่อมคิดอะไรรอบคอบหากเขาบอกออกไปว่าช่วยสิริญติวหนังสืออยู่นานนับเดือนพ่อก็ต้องรู้ความจริงว่าสิริญมักไปขลุกอยู่กับเขาสองต่อสองเป็นประจำซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีนักแต่สิริญในขณะนั้นตีความไปว่าเขาคงอายหรือรังเกียจจนไม่อยากเปิดเผยกับใครๆว่าสนิทชิดเชื้อกับเธอสิริญจึงทำเฉยเสียไม่ยอมไปพบเขาตามที่รับปากกับพ่อไว้ จนเขาต้องมาตามอีกครั้ง

วันนั้นสิริญปูเสื่อนอนใต้ต้นไม้ในเขตสวนของเธอเองเด็ดชมพู่จากต้นมาแกว่งล้างน้ำกัดกินสดๆ ตาจับอยู่กับนิตยสารบันเทิง จนกระทั่งเงาดำๆสูงใหญ่เงาหนึ่งพาดผ่านมันแทบจะบดบังทุกอย่างจนสิริญต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอสะดุ้งน้อยๆเมื่อพบกับตาเขียวปัดของเขา




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2556
0 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 19:12:07 น.
Counter : 803 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.