Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
การรักษาแผลไหม้และถลอก โดยเน้นความชุ่มชื้น( MOIST WOUND HEALING)



จาก Blog ที่ผ่านมา
แผลที่ลาเต้ได้รับคือลักษณะแผลถลอก ทีเกิดจากการเสียดสี เป็นลักษณะแผลแบบไฟไหม้ ไฟลวกค่ะ

ตอนแรกๆ อรก็ไม่คิดว่าคุณหมอสัตว์แพทย์ที่รักษาลาเต้ จะใช้วิธีการรักษาแบบปกติ เป็นแบบ เทเบตาดีนฆ่าเชื้อ ตามด้วยทำให้แผลแห้งซะอีก

แต่ไปๆ มาๆ
คุณหมอที่ โรงพยาบาลสัตว์กลับทำให้อรแปลกใจมากเหมือนกัน
เพราะเขาจัดการรักษาลาเต้ด้วยการรักษาแบบที่ใช้ในการรักษาแผลถลอกและแผลไหม้แบบใหม่ หรือที่เรียกว่าการรักษาแบบชุ่มชื้น หรือที่เรียกแบบภาษาอังกฤษว่า MOIST WOUND HEALING แทนค่ะ

จริงๆ MOIST WOUND HEALING หรือการรักษาแผลแบบชุ่มชื้นนี้ เป็นทฤษฎีที่คิดกันขึ้นมาใหม่ในการรักษาแผลค่ะ

จากที่เมื่อก่อน เราจะเชื่อกันว่าบาดแผลที่เป็นลักษณะถลอกหรือเปิดแบบนี้ ควรจะรักษาโดยการทำให้แผลแห้งให้มากที่สุด เพราะความชุ่มชื้นจะทำให้ปากแผลเป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรียก และทำให้แผลหายช้าลง การที่ให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บใต้สะเก็ดแผล (scab) จะทำให้แผลหายได้ไวกว่า

จนกระทั่งมีการศึกษาและพิสูจน์ จากแผลไฟไหม้ และเปิดที่เกิดจากความร้อน และพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากแผลไฟไหม้ขั้นรุนแรง มักเกิดจากการติดเชื้อที่ปากแผล (septicemia) ดังนั้นเลยมีการสนใจเกี่ยวกับการทายาฆ่าเชื้อที่บริเวณปากแผลที๋โดนไฟไหม้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดทีเกิดจากแผลไฟไหม้เป็นวงกว้างแทน

แต่จากการศึกษา ก็อีกเช่นกันค่ะ การทายาฆ่าเชื้อที่บริเวณปากแผลจะมีผลทำให้กลไกลการรักษาของร่างกายช้าลงโดยเฉพาะการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ (re-epithelialization)

หลังจากนั้นจากการศึกษาที่มากขึ้น มีการเปรียบเทียบระหว่างข้อดีและข้อเสียของการรักษาแบบเน้นให้แผลแห้ง และสะอาด กับการรักษาแบบชุ่มชื้น ก็พบว่า

ในกรณีแผลเปิดที่ไม่มีความลึกของแผล และไม่ได้เกิดการไหม้(non-burning wound)

เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างความรักษาแบบแห้ง กับแบบเปียก
การรักษาแบบแห้ง



จะพบว่า บริเวณเซลล์ผิวหนังที่อยู่ลึกลงไปมีการตายได้ง่ายกว่า

เซลล์ epidermis ใหม่ที่บริเวณรอบๆ ผิวจะเคลื่อนที่มาสร้างพื้นที่ผิวได้ช้ากว่าการรักษาแบบชุ่มชื้น (impediment of Cell migration)

ออกซิเจนจะซิมเข้าเซลล์น้อยลงกว่าการรักษาแบบชุ่มชื้น และสารอาหารที่นำมาหล่อเลี้ยงพื้นผิวบริเวณที่เสียหายจะช้าลง รวมถึงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

เมื่อเทียบกับการรักษาแบบชุ่มชื้น



จะพบว่า มี fluid linings อยู่ที่บริเวณผิวที่เสียหายใช่ไหมคะ
fluid lining หรือลักษระ film ของเหลวที่เคลือบแผลเอาไว้ เป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายเวลาที่มีการบาดเจ็บค่ะ

ข้อดีคือ การที่มี Fluid lining ส่วนนี้เอาไว้ จะช่วยให้ epithelia ข้างๆปากแผลเข้ามาซ่อมแซมแผลได้ไวขึ้น และ collagen ที่มีอยู่ในเซลล์ผิวหนัง จะมีการเคลื่อนที่มาซ๋อมแซมผิว ทำให้ผิวมีความยืนหยุ่นที่ผิวเพิ่มขึ้น และแผลไม่ลึกเท่ากับการรักษาแบบแห้ง
(Credits: ภาพโดย website //www.burnsurgery.org/Betaweb/Modules/moisthealing/part_2.htm ค่ะ)

ในการรักษาแบบนี้ จะเน้นพลังในการรักษาตัวเองของร่างกายค่ะ
สิ่งที่เป็นข้อดีของการรักษาวิธีนี้ ก็คือ เซลล์จะมีการฟื้นฟูตัวเองได้ไว ทำให้แผลหายไวขึ้น การเจ็บปวดจะลดลง เนื่องจาก fluid linining ที่หุ้มเอาไว้จะทำหน้าที่ช่วยลดการส่งสัญญาณที่ปลายเซลล์ประสาทบริเวณผิวหนัง ทำให้เจ็บได้ลดลงอีกด้วยนะคะ

แต่การรักษาแบบนี้ตั้งแต่ ครั้งแรกที่ได้แผลมา

จะเน้นการล้างแผลด้วยสารที่มีลักษณะความเข้มข้นของสารใกล้เคียงกับของเหลวในเซลล์มากที่สุด (โดยมากจะเป็น 0.9% normal Saline)

มีการทำครีมที่ป้องกันการติดเชื้อแบบบางๆ (หรืออาจจะกินยาปฏีชีวนะด้วยก็ได้ ในกรณีแผลใหญ่) เช่นพวกครีมที่มีส่วนประกอบของ zinc oxide (ZnO2) เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแบคทีเรีย

หลังจากนั้นก็มีการทาครีมที่มีลักษณะเป็น film บางๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากอากาศสู่ปากแผล (เช่น Cavilon ของ 3M)

การรักษาแผลรูปแบบนี้ ใช้ได้ดีสำหรับแผลถลอก หรือแผลไหม้ที่ไม่รุนแรงนักค่ะ

และการรักษารูปแบบนี้ในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า6 ขวบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ เนื่องจากเด็กๆ อาจจะมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงแบบผู้ใหญ่ค่ะ



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 22:50:24 น. 7 comments
Counter : 8611 Pageviews.

 
โอ ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล ความรู้ ดีๆ


โดย: iam_zuzie (iam_zuzie ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:48:13 น.  

 
ขอให้ลาเต้หายไวไวนะคะ


โดย: yuki san วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:38:27 น.  

 
ได้ความรู้ดีจังค่ะ


โดย: แม่มินมิน (nardlada ) วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:15:57:11 น.  

 
ข้อมูลดีจังค่ะ พี่ชีโตสจะได้จำไว้ใช้บ้าง



นำต้นคริสต์มาสมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ ชอบรูปนี้ค่ะ ของขวัญเต็มต้นสวยงาม ขอให้แม่ลาเต้ ป๋าลาเต้ และลาเต้มีสุขภาพดีแข็งแรงสุดๆนะคะ


โดย: ภ.สำเภากางใบ วันที่: 26 ธันวาคม 2550 เวลา:21:42:59 น.  

 



โดย: สิงห์นครพิงค์ วันที่: 29 ธันวาคม 2550 เวลา:17:40:04 น.  

 
ขอให้มีความสุขทุกวันในปีใหม่นี้ครับ

ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิตครับผม

Photobucket


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:3:11:24 น.  

 
แม่บัดดี้มาบอกว่าบ้านบัดดี้ย้ายบ้านแล้วนะครับ

ถ้าเรื่องมะม๋า ทางเข้าบ้าน คือ //dog.iirt.net/


สูตรอาหารทั้งคนและม๋า ทางเข้าบ้านมี 3 ทาง คือ

//food.iirt.net/

//elara.lunarservers.com/~ptv003/goong/cooking/index.html

//www.ggfood.th.gs/


ถ้าจะฝากคำถามหรือคุยกับแม่บัดดี้ ทางเข้าบ้าน คือ

//myhome.iirt.com/board/


โดย: แม่บัดดี้ (แม่น้องอันนา ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:38:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชิสุมุมห้อง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add ชิสุมุมห้อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.