Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
29 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

แผนลวง ติดบ่วงรัก บทที่ ๕




รถสายตรวจของผู้กองวรเวชเลี้ยวเข้ามาจอดตรงลานดินกว้าง เยื้องตลาดสดเล็กๆ แห่งนี้ รถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงรถกระบะเพียงสามสี่คันจอดอยู่ใกล้ๆ เช้านี้ที่นี่ยังคงคึกคักเพราะเป็นตลาดแห่งเดียวในหมู่บ้านแห่งนี้ ร้อยตำรวจเอก วรเวช กิจจรัล รีบก้าวลงจากรถแล้ววิ่งอ้อมด้านหน้ารถไปเปิดประตูให้หญิงสาว ที่กำลังพยายามเปิดประตูรถแต่เปิดไม่ออก

“เชิญครับ” ผู้กองรีบมาเปิดประตูให้ “ประตูด้านนี้ตัวเปิดมันแข็งครับ ต้องออกแรงเยอะหน่อยครับ”

เมืองวดีก้าวลงมาพร้อมกล่าวขอบคุณนายตำรวจหนุ่ม แม้เธอจะอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วตั้งแต่เรียนจบกลับมา แต่เธอก็ไม่คุ้นเคยกับตำรวจที่นี่มากนัก โดยเฉพาะผู้กองหนุ่มคนนี้ หญิงสาวแทบจะไม่ได้เจอกันเลย เธอไม่มีเรื่องอะไรต้องไปโรงพัก และเธอก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนมากนัก ส่วนใหญ่เธอก็จะไปๆ มาๆ ก็แค่ ที่ทำงานกับบ้านซึ่งก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก ยิ่งตลาดด้วยแล้ว จะมีคนที่บ้านมาซื้อของเป็นประจำอยู่แล้ว ตัวเธอถ้ามีโอกาสจะเข้าตัวเมืองมากกว่า เธอเพิ่งจะได้เห็นผู้กองคนนี้ก่อนหน้าที่คุณย่าจะหายไปเพียงเดือนเศษ

“ผู้กอง ย้ายมานานรึยังคะ” หญิงสาวถามขึ้นมาหลังจากที่เห็น ชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมา ทักทายผู้กองหนุ่ม

“ก็ประมาณหกเดือนกว่าแล้วครับ”

“ผู้กองรู้จักคนแถวนี้เยอะกว่าวิลล์อีกค่ะ วิลล์ไม่ค่อยได้ออกมาเดินตลาดบ่อยเท่าไหร่”

“ครับ ผมมาทุกวันครับ ต้องออกพื้นที่ด้วย ต้องทำความคุ้นเคยกับชาวบ้านด้วย ยังดีที่คนเก่าแก่ที่นี่ยังมีเยอะ ยังจำผมได้”

“ผู้กอง สนิทกับคุณย่าด้วยเหรอคะ” เมืองวดีถามขึ้นมาลอยๆ ผู้กองวรเวชที่เดินอยู่ข้างๆ ถึงกับหันหน้ามามองด้วยสีหน้าที่งุนงงกับคำถาม

“ครับ ท่านเป็นย่าของไอ้.. ของชายแดน สมัยเด็กผมมาเล่นที่สปาบ่อยครับ คุณย่าเลยเอ็นดูเหมือนเป็นหลานอีกคน แต่เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยเห็นคุณวิลล์เลยนะครับ”

“ค่ะ วิลล์ ย้ายมาตอน ป.5 น่ะค่ะ พี่... คุณชายแดนกำลังจะเข้า ม.ปลายค่ะ”

“อ๋อ ก็หลังจากผมย้ายไปไม่นานเท่าไหร่”

“วิลล์เป็นห่วงคุณย่าจังเลย ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง ...เฮ้อ..” เมืองวดีเผลอถอนหายใจออกมาดังๆ

“ครับ ผมจะพยายามตามหาท่านอย่างเร่งด่วน อย่างน้อยข่าวคืบหน้าก็พอจะทำให้สบายใจกันได้บ้าง”

“ผู้กองคิดว่า คุณย่ายังอยู่ในละแวกนี้รึเปล่าคะ”

“ครับ ผมคิดว่าคุณย่าคงยังอยู่แถวๆ นี้ หรือไม่ก็ไม่ไกลกันนี้ครับ เพียงแต่ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น การลักพาตัวทำเพื่ออะไร จนป่านนี้ทำไมไม่มีใครโทรมา แถมยังเจอคุณย่าไปหาหมอ คุณย่าไปไหน คุณย่ากำลังทำอะไร ประเด็นมากจนผมต้องมาตั้งสติ สืบทีละประเด็น ผมยังให้ลูกน้องช่วยตามสืบ แต่เรื่องคุณย่านี้ผมทำเองซะส่วนใหญ่”

“ค่ะ อย่างน้อยก็สบายใจขึ้นที่คุณย่าไม่เป็นอันตราย”

“ครับ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ครับ อึม...ว่าแต่คุณวิลล์จะทำอะไรเย็นนี้ดีครับ เราเดินวนจะรอบตลาดแล้วยังไม่ได้ซื้ออะไรเลย” ผู้กองหนุ่มกล่าวยิ้มๆ

เมืองวดีถึงกับหัวเราะออกมา “เรามัวแต่คุยกันเพลิน ไปกันเถอะค่ะ” แล้วเมืองวดีก็เดินนำผู้กองทัวร์ตลาด ซื้อของสดหลายอย่าง กับพวกเครื่องปรุงบางอย่างที่เธอไม่แน่ใจว่าที่เรือนคุณย่าจะมีรึเปล่า เกินดีกว่าขาด เธอคิดเช่นนั้น เพียงครู่เดียวของในมือผู้กองหนุ่มก็เต็มไปด้วยถุงหิ้ว

แต่พอกำลังจะไปที่จอดรถ หญิงสาวก็ต้องหยุดกะทันหัน คิ้วขมวดกับภาพข้างหน้า เธอเห็นรถวิ่งผ่านหน้าเธอไป แวบแรกเธอเห็นคนลักษณะคล้ายคุณย่า นั่งอยู่ในรถ

“คุณย่า !!” หญิงสาววิ่งตามรถกระบะที่วิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว จนฝุ่นคลุ้งกระจาย แต่ก็ไม่ทัน ปล่อยให้ผู้กองหนุ่มที่หิ้วของพะรุงพะรัง กระหืดกระหอบวิ่งตามมา

“อะไรครับ คุณวิลล์”

“คุณย่าค่ะ คุณย่า ฉันเห็นคุณย่าอยู่ในรถคันเมื่อกี๊” หญิงสาวชี้ไปตามรถที่วิ่งจนลับสายตาไปแล้ว

“เรารีบตามไปเถอะครับ เผื่อได้ร่องรอย” ผู้กองบอกหญิงสาว พร้อมรีบจ้ำไปที่รถ
พอทั้งสองคนถึงรถต่างรีบขึ้นรถโดยไม่รีรอ ผู้กองหนุ่มรีบเลี้ยวรถออกในทันทีที่หญิงสาวปิดประตู รถสายตรวจแล่นไปถามถนนเล็กๆ ตรงไปทางที่รถกระบะต้องสงสัยวิ่งไปก่อนหน้านี้

เมืองวดีมองตรงไปยังทางข้างหน้า กระวนกระวายใจ สายตากวาดหารถกระบะสีบรอนซ์ เสียดายที่เธอมองเลขทะเบียนรถไม่ทัน ถนนในหมู่บ้านแม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ก็เป็นทางผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รถที่วิ่งบนท้องถนนวันนี้ก็ดูมากมายเป็นพิเศษ หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อผู้กองหนุ่มชะลอรถจอดข้างทางก่อนถึงสี่แยกข้างหน้า

“ไม่รู้ไปทางไหน” เมืองวดีบ่นด้วยความหงุดหงิดใจ

“คุณวิลล์แน่ใจนะครับว่าใช่” ผู้กองวรเวชถามย้ำขึ้นมา

หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน คิ้วทั้งสองข้างยังคงขมวดมุ่นหากัน เธอเริ่มลังเล แต่แวบหนึ่งเธอว่าใช่ “วิลล์ คิดว่าใช่ค่ะ”

“ครับ เดี๋ยวผม ว.ไปที่ด่านข้างหน้าเผื่อดักได้ทันนะครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้หญิงสาว พร้อมหยิบวิทยุตำรวจขึ้นมา ว.แจ้งไปยังด่านตำรวจที่ตั้งประจำอยู่ไม่ไกลนัก

เสียงโต้ตอบจากอีกฟากแจ้งมาว่าไม่มีรถคันดังกล่าวผ่านไป ดังชัดเจน จนหญิงสาวไม่ต้องรอฟังคำบอกจากผู้กองวรเวช พอผู้กองวางวิทยุลง

“เรากลับกันเถอะค่ะ อาจจะไม่ใช่คุณย่าก็ได้”

“ครับผม”



ชายแดนกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ระเบียงบ้าน เห็นรถสายตรวจเลี้ยวเข้ามาก็วางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะเล็กๆ ด้านหน้า ออกไปยืนตะโกนถาม

“ไปซะนานเชียว รอจนตลาดวายรึไงวะ”

ผู้กองวรเวชไม่ตอบกลับ เพียงแค่หัวเราะแล้วโบกไม้โบกมือลา พอเมืองวดีเอาของลงจากรถเสร็จ ผู้กองหนุ่มก็ถอยรถออกไป พร้อมตะโกนกลับ “เย็นเจอกันโว้ย”

คุณพร แม่บ้านวัยสามสิบปีเดินถือของที่เมืองวดีเดินลอดใต้ถุนไปทางครัวที่ต่อไว้ด้านหลังเรือน โดยมีเมืองวดีเดินตามไปติดๆ ไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่มองลงมา

“เอาใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะจ๊ะ เย็นๆ ถึงจะทำ” เมืองวดีบอกให้กับแม่บ้านที่ยืนรอฟังคำสั่ง “พี่พร ไปทำอย่างอื่นเถอะจ๊ะ”

“ค่ะ คุณวิลล์” พรรับคำแล้วเดินออกจากห้องครัว แทบจะชนกับชายแดนที่เดินสวนเข้ามา

“ซื้ออะไรมาทำ”

หญิงสาวเงยหน้าจากการหยิบของออกจากถุงมาวางเรียงที่ชั้นเครื่องปรุง

“หลายอย่าง เออ...คุณ...” เมืองวดีกำลังจะเล่าเรื่องที่เจอเมื่อครู่เกี่ยวกับคุณย่า แต่พอเห็นท่าทีของเขาที่คอยจะหาเรื่องเธอตลอดเวลา เธอเลยเปลี่ยนใจ เดี๋ยวจะมาว่าปั้นน้ำเป็นตัว ให้ผู้กองเป็นคนเล่าเองดีกว่า พอคิดได้อย่างนี้เมืองวดีก็ไม่สนใจหันหลังกลับมาเรียงของต่อ

“พิลึกคน มีอะไรก็ไม่พูด ผมถามว่าเย็นนี้คุณจะทำอะไรเลี้ยงเพื่อนผม”

“เย็นก็รู้เองแหละ มีอะไรอีกรึเปล่าคะเจ้านาย วันนี้วันหยุดฉันนะ จะกลับไปพัก”

“เรื่องคุณย่า ได้เรื่องอะไรบ้างรึเปล่า” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยกะทันหัน เธอมองหน้าเขาอีกครั้ง อย่างชั่งใจ

“ฉันคิดว่าฉันเห็นคุณย่า ไม่สิ..ฉันว่าใช่คุณย่าแน่ๆ “ เธอกล่าวย้ำกับตัวเองเหมือนเรียกความมั่นใจในสิ่งที่เห็น หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าชายหนุ่มที่ยืนรอฟัง แต่พอเธออ้าปากจะพูดเล่าต่อ เขาก็แทรกขึ้นมา

“ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมาใหม่นะ”

อยากจะปาถุงนี่ใส่หน้าอีตาบ้าปากเสียคนนี้จริงๆ มันอะไรกันนักหนานะ เขาคิดว่าเธอเป็นยังไงกันแน่ คอยหาเรื่องตลอด แม้แต่เรื่องสำคัญขนาดนี้ยังคิดว่าเธอสร้างเรื่องขึ้นมาอีก

“ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องฟัง ไปรอถามผู้กองเพื่อนคุณเองแล้วกัน” เธอแว๊ดกลับ ไม่สนใจที่จะคุยกับเขาอีกต่อไป เดินลิ่วออกจากครัวไป

“เดี๋ยว...”

เมืองวดีหยุดนิ่งเพียงครู่ กำลังจะเดินต่อไป มือของชายแดนก็คว้าหมับเข้าที่แขนเธอได้ทัน

“เราไปนั่งคุยบนบ้านดีกว่า จะได้นั่งสบายๆ”

“ปล่อยนะ” เธอตวาด พยายามสลัดแขนให้หลุด แต่มือที่จับราวกับคีมคีบ ไม่ยอมปล่อยให้หลุดง่ายๆ พาเธอเดินขึ้นบันไดด้านหลังบ้านติดกับห้องครัว ขึ้นไปยังบนบ้าน “ปล่อย” เธอตะโกนซ้ำ

เขาหันมามองแวบหนึ่งพร้อมตอบกลับมาไม่เบานัก “ปล่อยก็ตกบันไดสิ ค่อยไปปล่อยข้างบน”

พอเดินขึ้นมายังชานด้านหลังบ้าน เมืองวดีก็สลัดแขนอย่างแรงอีกครั้งพร้อมกับจังหวะที่เขาปล่อยมือพอดี ทำเอาเธอเซไป เกือบหน้าคะมำ

ชายแดนรีบคว้าแขนไว้อีกครั้ง “ซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยน”

คราวนี้พอหญิงสาวตั้งหลักได้ เขาเห็นเธอสะบัดหน้าเดินเข้าไปในห้องที่กั้นไว้สำหรับเป็นห้องเตรียมเครื่องดื่มหรืออาหารเบาๆ สักครู่เธอก็เดินออกมาพร้อมถาดบรรจุกาแฟสองแก้ว กับคุกกี้จานเล็กๆ สองจาน ยกมาวางที่โต๊ะเล็กๆ ที่เธอจัดเป็นโต๊ะรับแขก ชุดเล็กด้านหลังบ้าน มีร่มสาใหญ่กางอยู่ช่วยบังแดด แต่วันนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม ไม่ร้อนมาก พอที่จะนั่งกินกาแฟยามบ่ายได้

“ขอบคุณ” เขามองเมืองวดีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตักครีม ตักน้ำตาลใส่แก้วของตัวเอง โดยไม่สนใจในคำขอบคุณของเขา พอเรียบร้อยเธอก็นั่งพิงเก้าอี้ จิบกาแฟสายตาทอดมองไปยังดอยที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังของเขา ‘เหมือนเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น’

“ทำไมคุณอยากแต่งงานกับผม” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา

เมืองวดีถึงกับสำลักกาแฟที่เพิ่งดื่มเข้าไป “ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณ” เธอเน้นช้าๆ ชัดๆ ทุกถ้อยความ

“ก็เมื่อก่อนคุณประกาศปาวๆ จนผู้ใหญ่เขาเห็นดีเห็นงามด้วย”

“นั่นมันสมัยเด็ก เด็กก็พูดไปยังงั้น” เธอตอบหน้าตาเฉย แต่ข้างในนี่อายแทบแทรกโต๊ะหนี ‘ตาบ้า อยู่ๆ มาพูดขึ้นมาทำไม’

ภาพเธอในอดีตแวบเข้ามาในห้วงคิดของเธอ ‘น้องวิลล์จะแต่งงานกับพี่แดนค่ะ’ เด็กน้อยยิ้มยิงฟันหลอ พูดฉะฉานต่อหน้าคุณทรงศักดิ์ และคุณวัลภาระหว่างงานเลี้ยงมื้อเล็กๆ ในสวนรุ่งอรุณ ‘พี่แดน’ อ้าปากค้างกับคำพูดของเธอ แต่ผู้ใหญ่ทั้งโต๊ะ หัวเราะชอบอกชอบใจ

‘ย่าจะจัดการให้จ๊ะ หนูวิลล์’ เธอกลับจำคำพูดของคุณย่าวัลภาได้ดี พี่แดนของเธอโวยวายลั่น เธอไม่คิดว่าคำพูดของเธอตามประสาเด็ก จะทำให้คุณย่าและคุณตาทรงศักดิ์ของเธอ ซึ่งเคยเป็นคู่รักเก่ากันมาก่อนได้ความคิดที่จะสานสัมพันธ์ในรุ่นหลาน พี่แดนกล่าวหาว่าเธอวางแผน

“ก็ความคิดเด็กๆ “ หญิงสาวพูดเบาๆ จนแทบจะฟังไม่ชัด ยกกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้งแก้ความขวยเขินที่อยู่ในใจ “ไม่ได้อยากแต่ง และจะไม่แต่ง”

เมืองวดีไม่เข้าใจในความหมายของเขา ‘จะมาไม้ไหนเนี่ย’

“คุณจะขุดคุ้ยขึ้นมาทำไม”

“ผมกำลังหาสาเหตุในการหายตัวของคุณย่าอยู่ไง”

“แต่ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหานะ คุณทำยังกับฉันเป็นคนลักพาตัวคุณย่า จะหาเรื่องกันรึไง” หญิงสาวชักโมโหกับท่าทีของเขาที่มุ่งประเด็นมาที่เธอหลายครั้ง “จะบ้ารึไงคุณ อย่ามากล่าวหากันมั่วๆ นะ ฉันจะพาตัวคุณย่าไปซ่อนทำไม”

“เพราะคุณอยากให้ผมมาที่นี่”

“โอย ไปกันใหญ่” หญิงสาวกระแทกแก้วกาแฟลงกับโต๊ะ “คุณจะให้ฉันทำยังไง คุณถึงจะเชื่อ”

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาหาเธอ ก้มหน้าลงมาแทบจะใกล้ใบหน้า จนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รดแก้มอยู่ พร้อมคำพูด ช้าๆ ชัดๆ แต่ทำเอาเธออ้าปากค้างอีกครั้ง เมื่อได้ยินเขาพูดข้างหูเธอว่า

“คุณต้องมาอยู่ที่นี่ มาอยู่ในสายตาผม”



...คอปเตอร์..





 

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
5 comments
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 23:22:33 น.
Counter : 1017 Pageviews.

 

เอาล่ะสิ หนูวิลล์แย่แน่ โดนไม้เด็ดพี่ ม. เอ๊ย พี่ชายแดนเข้าแล้ว

แล้วคุณย่านั่งรถกระบะไปเที่ยวไหนหนอ วิ่งกันฝุ่นตลบกลางวี่กลางวัน หรือจงใจให้หลานเห็นกันนะ

 

โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 3 มีนาคม 2555 6:37:53 น.  

 

อั้ยย่ะ เมืองวดีไม่อยากแต่งงานกับพี่ชายแดนจริงหรืองับ แหน่ๆๆ ปากแข็งหรือเปล่าน้องวิลล์

พี่แดนทำไมเข้มจังเลย อิอิอิ

 

โดย: หนึ่งดาววอนฟ้า 3 มีนาคม 2555 12:44:52 น.  

 

มาติดตาม ...ชายแดน... ค่ะ

 

โดย: apple panita IP: 110.171.37.168 12 มีนาคม 2555 11:16:49 น.  

 

มาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ แต้มต่อให้คนเขียน เดี๋ยวตามอ่านรวดเดียว อุ๊อุ

 

โดย: พรายทราย 17 เมษายน 2555 19:25:56 น.  

 

แล้วรู้หรือยังล่ะ "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
อยากบอกอะไรก็จะรับรู้ไว้...ว่าฉันก็เป็นเหมือนเธอ..
อยากบอกให้เธอได้รู้ไว้เธออยู่ในใจฉันเสมอไม่เคยลืม
เวลาเจอก็ดีใจถึงแม้ว่าไม่ได้พูดได้คุยกับเธอก็ตาม
แต่อยากให้รู้ว่า "ยังรัก" เสมอ เช่นกัน

 

โดย: วินัย นักรบนพดล IP: 210.246.186.4 10 พฤษภาคม 2555 4:40:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


copter-forwriter
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add copter-forwriter's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.