Better Place Better Life : สถานที่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 สิงหาคม 2554
 

ตอนที่สี่ – ขยะเจ้าเอย เรารักเจ้า





-
สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพลง (?) ทุกท่าน รูมแอทแทนแดนท์สาวไทยประจำออสซี่ รายงานตัวอีกครั้งค่ะ
(มีใครเค้าอยากเจอหล่อนยะ .. ชิ)

ห่างหายไปนานชาติเศษ กลายเป็นบล๊อกที่เขียนแบบรายงานประจำปีไปซะแล้ว อิอิ

ไม่เป็นไรค่ะ ไม่อยากเจอเราก็ยังมีเรื่องอยากจะเล่าอยู่ดี ที่ผ่านมาเล่า
วีรกรรมการทวงเงินแบบหน้ามืดตามัวมาแล้ว จริงๆมีเหตุการตึงเครียดอีก
มากมายหลายเรื่องทีเดียว แต่ขอพักเบรคเรื่องหนักๆกันไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ
ระหว่างนั้นเราไป “คุ้ยขยะ” กันเถอะ

จริงๆค่ะ อ่านถูกแล้วล่ะ “คุ้ยขยะ” ค่ะ
อ๊ะ อ๊ะ อย่าคิดว่ามันเป็นแค่งานประจำอย่างการเก็บขยะออกจากห้องพักใน
โรงแรมนะคะ แต่เป็นการเอาตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกองขยะใหญ่ที่รวบรวม
และแยกแยะเอาไว้แล้วนะค่ะ
หุหุ .. เกิดมาก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มันเป็นอีกงานหนึ่งของรูมแอทแทนแดนท์
ซะด้วย

จริงๆจะว่ามันเป็นหน้าที่ หรือว่างานที่ต้องรับผิดชอบมันก็ไม่ถูกนักหรอกค่ะ
แต่เหตุเกิดจากความเหงา อ๊ะ ไม่ใช่สิ เหตุเกิดจากความประมาท
เลินเล่อ และ เซ่อซ่า ของเราเองต่างหาก

เอาล่ะค่ะ จะระลึกให้ฟังล่ะนะ

ปกติทุกวันที่เรามาถึงโรงแรมในตอนเช้า เราจะได้รับบอร์ดหนึ่งบอร์ด
ในนั้นจะเขียนหมายห้องต่างๆแล้วแยกแยะไปว่า ห้องไหนคือห้องเช็คเอาท์
อันหมายถึงแขกเดิมเช็คเอาท์ หรือ กำลังจะเช็คเอาท์ เราต้องคลีนใหม่หมด
ทั้งห้องเพื่อต้อนรับแขกที่กำลังจะเข้ามาพักใหม่ โดยจะต้องทำให้แขกคนใหม่นั้น
รู้สึกราวกับว่า ห้องนี้เป็นห้องที่ไม่เคยมีใครอยู่มาก่อน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้น
สักครึ่งชั่วโมงมันจะเหมือนนรกลงก็ตามเถอะ

ส่วนที่เหลือเราจะเรียกว่าห้องเซอร์วิส หรือห้องอ๊อคคิวพาย (occupied) คือแขกยัง
ไม่ได้เช็คเอาท์ เราก็แค่เข้าไปจัดเตียง โต๊ะ ตู้ ให้เข้าที่ ทำความสะอาดห้องน้ำนิดหน่อย
ก็ว่ากันไป

นอกจากบอร์ดนี้แล้ว เราก็ต้องเตรียมเคมีคอล แปรงขัด ฟองน้ำ และผ้าขี้ริ้ว อันเป็นอุปกรณ์
หากินของเราให้พร้อม เคมีคอลมีห้าตัวค่ะ
บรีซ สีขาว เอาไว้ขัดคราบฝังแน่นต่างๆตามร่องกระเบื้อง ชะงัดนัก แล้วก็โถส้วมค่ะ
เป็นเคมีตัวที่แรงที่สุดในจำนวนห้าตัว เคยเล่นงานดิฉันมาแล้ว มันเข้าตาค่ะ
คือฉีดบรีซตามร่องกระเบื้องในตู้อาบน้ำไปแล้ว แต่ด้วยความที่มันดำมาก
ท่านซูปเปอร์ไวเซอร์ผู้ตรวจงานในวันนั้น ซึ่งก็คือ ลิซซี่ (อยากรู้ว่าเป็นใครไปหาตอนเก่า
อ่านเอานะคะ) ไม่เชื่อค่ะ เพราะมันไม่ออก ดิฉันก็เลยฉีดให้ดูมันตรงนั้นซะเลย
แต่มันพลาดค่ะ พลาดที่มันอยู่ระดับตาพอดี แล้วมันก็ใกล้มาก วันต่อมาดิฉันก็แต่งตัว
ออกจากบ้านนี่แหละค่ะ แต่ออกไปหาหมอ เพราะเจ็บตามากจนลืมตาไม่ได้
ไอ้ประกันสุขภาพที่บางคนมากันสองปีไม่เคยได้ใช้ ตอนนั้นเรามาสองเดือนใช้ไป
สองครั้ง (มนุษย์โลก.. กลัวไม่คุ้มหรือไงนะ)
เพอร์เพิลเคมิคอล ตรงตัวเป๊ะค่ะ มันเป็นน้ำยาสีม่วง เอาไว้ใช้กับทุกอย่างในห้องน้ำ
ฤทธิ์อ่อนกว่าบรีซเล็กน้อย แต่กลิ่นดีกว่ามาก น้องอ้นอันเป็นเทรนเนอร์ของดิฉัน
ก็เลยมีทริคให้นิดหน่อยว่า ช่วยเอามันออกไปใช้นอกห้องน้ำด้วย เพราะกลิ่นดี
สะอาดจัง
มัลติเพอร์โพส อันนี้เป็นสีเหลืองค่ะ เอาไว้ล้างจาน และ เช็ดทุกอย่างในห้อง
โต๊ะ ตู้ เตียง ผนัง กำแพง ตู้เย็น ประตู พื้น ใช้ได้หมดค่ะ อย่ากินเป็นพอ
ปล. นี่แหละตัวปัญหาทำให้เราต้องใกล้ชิดกับขยะกองยักษ์
กลาสคลีนเนอร์ ก็น้ำยาเช็ดกระจกบ้านเรานั่นแหละค่ะ
สุดท้ายก็ แอร์เฟรชชั่นเนอร์ อันนี้สีเขียว เอาไว้ฉีดลงพรมได้ทั่วไป เพื่อเพิ่มความหอม
รัญจวนให้กับห้องค่ะ ซึ่งเราแพ้ ฉีดนิดเดียวก็จะคันคอมากแล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้ฉีดเท่าไร
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนตรวจมาฉีดตามหลังเอาก็แล้วกันค่ะ

นอกจากนี้เราทุกคนก็จะต้องเซ็นชื่อรับคีย์การ์ดเพื่อใช้เปิดห้องค่ะ
คีย์การ์ดของพนักงานส่วนใหญ่จะเปิดได้ทั้งชั้น คือถ้าได้คีย์การ์ดชั้นสอง
ก็จะเปิดห้องที่อยู่ชั้นสองได้ทั้งชั้น บางอันเปิดได้ทั้งโรงแรม แต่เราไม่ได้รับอนุญาต
ให้เปิดประตูให้กับใครนอกเหนือจากเปิดให้ตัวเองตามเบอร์ห้องที่ได้มา
ในบอร์ดนะคะ แม้ว่าคนที่ขอให้มาเปิดจะเป็นแขกที่ทำหน้าตาหน้าเอ็นดู
มากแค่ไหนก็ตาม


เราเคยเปิดให้ผู้หญิงแก่คนหนึ่ง คือเค้าแก่และแลดูน่าสงสารมากน่ะค่ะ แล้ว
เราเห็นแล้วว่าเขาทำอย่างไรก็เปิดห้องตัวเองไม่ได้สักที จนมาขอร้องให้เราเปิดให้
ก็ตามประสาหญิงไทยน้ำใจงาม ก็งัดคีย์การ์ดของตัวเองมาเปิดให้คุณยาย
เข้าไปในห้อง สักพักคุณยายเดินหน้าตาเหลอหลาออกมา
“โทษทีนะ ฉันจำชั้นผิดน่ะ ห้องฉันห้องนี้แหละ แต่อยู่ชั้นบน” ... เอ่อ คุณยายคะ
หนูจะโดนไล่ออกเพราะความจำของคุณยายไหมคะเนี่ย????

พอเราได้คีย์การ์ดมาเราโยนมันลงไปในถังใส่เคมิคอลค่ะ โยนมันลงไปทั้งหมดเลย
โดยยังไม่แยกตัวการ์ดออกจาก คีย์ คัฟเวอร์ เอิ่ม... ที่ใส่คีย์การ์ดลักษณะแบนๆเหมือน
เอาไว้เสียบบัตรน่ะค่ะ เราเคยไม่ใส่เอาไว้แล้วลืมว่าเอาไปวางไว้ที่ไหน ทั้งที่มัน
สำคัญชนิดห้ามหายน่ะค่ะ ถ้าหายขึ้นมาทั้งโรงแรมจะต้องทำระบบกุญแจและ
ความปลอดภัยใหม่ อย่างที่บอกว่าคีย์การ์ดบางอันสามารถเปิดห้องได้ทั้งโรงแรมน่ะค่ะ
ดังนั้น พอได้มามันก็จะระเห็จจากมือเราไปอยู่ในถังทันที กันลืม

เมื่อเราเตรียมอุปกรณ์ครบพร้อมทำงาน บรีฟนิดหน่อย ว่าเราโดนคอมเพลนอะไรมาบ้าง
ต้องทำอะไร เน้นตรงไหนเป็นพิเศษ ก็ยกของทั้งหมดที่ว่าไปวางบนทรอลลี่ย์
อันเป็นรถเข็นเอนกประสงค์ ที่ในนั้นมาผ้าปูหลากไซส์ ผ้าขนหนูหลายขนาด
แชมพู ครีมนวด ชา กาแฟ เตรียมอยู่แล้ว (ซึ่งก็พวกเรานี่แหละที่ต้องเติมทุกวัน)
แต่ทีนี้ทรอลลี่ย์มันเล็กค่ะ ไม่พอจะวางของ เราก็ต้องเอาเครื่องดูฝุ่นบ้าง
ถังใส่เคมิคอลบ้างไปวางไว้บนถุงขยะและถุงใส่ผ้าปูและผ้าขนหนูเปื้อนที่อยู่คนละ
ฟากฝั่งของทรอลลี่ย์ แล้วก็เข็นไปมาตามห้องต่าง

ระหว่างทำห้องจะมีคนมาเก็บผ้าสกปรกกับถุงขยะที่เราเอาขยะจากห้องมาใส่เป็นระยะๆค่ะ
อุบัติเหตุที่บ่อยๆระหว่างเราและทรอลลี่ย์ก็คือ โดนมันเหยียบเอาที่เท้า
เท้าของเรา โดยมีเราเป็นคนเข็นนี่แหละค่ะ ... ที่บ้านบางทีเรียก “เซ่อ”
บางทีก็เข็นมันไปชนกำแพง แล้วอย่างรีบร้อนเราก็หยุดตัวเองไม่ทัน
ชนทรอลลี่ย์ที่ชนกำแพงไปแล้วอีกที เจ็บได้อีก ปวดได้อีก เขียวช้ำได้อีก
และที่บ่อยๆไม่แพ้กันก็คือ เครื่องดูดฝุ่นร่วงลงมากจากทรอลลี่ย์กลิ้งแอ้งแม้ง
อยู่กับพื้น ตอนนี้ทำเครื่องดูดฝุ่นแตกร้าวไปหลายเครื่องแล้วค่ะ ...
นี่ยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะเนี่ย พอดีมันยังใช้การได้ เลยเงียบๆเข้าไว้
อีกอย่างที่ตกลงไปบ่อยๆก็คือ ถังเคมิคอลนี่แหละค่ะ บางวันมันก็ล่วงลงไปที่พื้น
แล้วแตกกระจายเคมิคอลไหลรินออกมานอกขวด เป็นเหตุให้ต้องรายงาน
ว่ามีพรมเปียก

แต่วันนั้น มันตกลงไปในถังขยะค่ะ
งานเสร็จหมดแล้วน่ะค่ะ เหลือแต่แพ็คของใส่ทรอลลี่ย์เพื่อรอใช้งานของวันพรุ่งนี้
ก็ต้องไปคุ้ยๆๆๆเอาของทุกอย่างที่ตกลงไปในถังขยะออกมา แล้วก็เอาถุงขยะ
ออกมาจากทรอลลี่ย์เพื่อให้เขามาเก็บไปลงขยะใหญ่ เหมือนๆกับที่ต้องเอาผ้าสกปรก
แยกออกมาเพื่อให้เขาไปส่งซัก

เสร็จสรรพก็ลงมาที่ออฟฟิศ โดยหอบหิ้วเอาของที่เอาขึ้นไปเมื่อเช้าลงมาด้วย นั่นคือ
ถังเคมิคอล ผ้าขี้ริ้วที่ตอนเย็นก็เปื้อนดำไปแล้วเรียบร้อยและต้องเซ็นชื่อคืนคีย์การ์ดค่ะ

ตายล่ะวา....

เคมิคอลเอาขึ้นไปห้าตัว แต่เอาลงมาแค่สี่เองอ่ะ

ต้องเป็นตอนที่มันตกลงไปในถังขยะแน่เลย เราต้องคุ้ยมันออกมาไม่หมดแน่ๆ
เราเป็นอย่างนี้ทุกวันค่ะ พอตกเย็นเรี่ยวแรงก็จะหงอยตามสภาพอากาศไปด้วย
ก็ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะทำอะไร ห้องไหนที่เราทำตอนเย็นๆ ถ้าไม่ช้ามาก
ก็จะได้ห้องที่ไม่ค่อยดีเท่าไร เฮ้อ.... ดังนั้นมันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้เคมิคอล
กลับมาไม่ครบ ตัวที่หายไปก็อย่างที่บอกน่ะค่ะ เจ้าสีเหลือง

แต่.. ช่างมัน ทำเป็นหน้าซื่อตาใส ไม่รู้ไม่เห็นไปก็แล้วกัน คริคริ
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็จับถังเคมิคอลไปวางปะปนกับของคนอื่นๆที่วางไว้ก่อนแล้ว
ฉลาดสุดๆ... อิอิ

แต่เดี๋ยวก่อน ตายแน่ล่ะ คราวนี้ตายแน่ๆทีเดียว
เราทำคีย์ คัฟเวอร์หายไปค่ะ มันหายไป มันไม่ได้อยู่ในถังอย่างที่มันควรจะอยู่
มันเหลือแต่ตัวคีย์ซึ่งเราเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง

ทำไงล่ะทีนี้....

พอดีวันนั้นมีรุ่นพี่คนไทยคนหนึ่งทำงานประจำอยู่ที่โรงแรมนี้ค่ะ รับหน้าที่เป็น
ซุปเปอร์ไวเซอร์เหมือนกัน ก็แนะนำให้ไปหาในถังขยะใหญ่
โอ้...คุณพระ นึกสภาพออกไหมคะ ไม่ค่ะ นึกไม่ออกเลย แต่เมื่อต้องทำก็ต้องทำ
นั่นแหละค่ะ ยังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่นิดๆว่า ตอนที่ถังมันตกในขยะนั้นมันเป็น
ขยะล็อตสุดท้ายที่ถูกเก็บไปไม่น่าจะหายาก

วิ่งจุ๊ดๆๆๆไปที่ถังขยะรวมที่มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกำลังบีบ อัด ยัด ขยะทั้งหมดที่แยกขวดแก้ว
ออกแล้วลงไปในรถขยะอีกที
“หยุด เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน” ระล่ำระลักค่ะ เราพยายามส่งภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงนักของเรา
ไปยังชายหนุ่มตาหน้าไม่บอกสัญชาติคนนั้น ซึ่งภาษาอังกฤษก็อ่อนแอไม่แพ้เรา
แต่ช่างเถอะค่ะ ไม่ใช่เวลจะทดสอบไอเอลสฟ์ เอาเป็นว่าถ้าแกไม่รู้ว่าฉันพูดเรื่องอะไร
เดี๋ยวฉันทำให้ดูเลยก็แล้วกัน

แล้วเราก็จัดการเปิดประตูของทรอลลี่ย์เข็นขยะซึ่งเป็นลูกกรงขนาดใหญ่ ใหญ่กว่า
ทรอลลี่ย์ของเราเองหลายเท่าแล้วชะเง้อชะแหง่งเอาถุงขยะออกมานั้นทีละถุงสองถุง
แต่ทำอย่างไรก็หาไม่เจอค่ะ

.... ไม่ได้การณ์ ......

คงต้องทำอะไรสักอย่างที่ดูเป็นงานเป็นการ และเข้าท่ามากกว่านี้
เราตกลงปลงใจไปขนเอาลังใส่น้ำขวดลิตรขนาดใหญ่มาซ้อนกันสองชั้น
แล้วปืนมันขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งในขยะในทรอลลี่ย์ยักษ์นั่นซะเลย
คุ้ยค่ะ ถุงนั้น ไม่ใช่ ถุงนี้ไม่ใช่ ถุงโน้นก็ยังไม่ใช่
เฮ้อ...ทำไงดีอ่ะ
เออ..ใช่แล้ว เราทำเคมิคอลตกลงไปด้วยนี่นา ก็ต้องหาถุงที่มันดูเหมือนจะมี
ขวดเคมิคอลสิ
ดวงตาเห็นธรรมค่ะ
แววตาเป็นประกายปลาบปลื้มยินดี โดยมีน้องอ้นที่แสนน่ารักมายืนให้กำลังใจ
อยู่ข้างๆ
ค้นต่ออีกสักสามสี่ถุงก็เจอ คือมันไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะก่อนหน้านั้น
เราขนออกไปเป็นสิบๆถุงแล้วนะ ไอ้ที่ว่าเป็นล็อตสุดท้ายที่ลงมาแล้วน่าจะอยู่ด้านบน
ด้านนอกน่าจะหาง่าย มันไม่ใช่น่ะค่ะ ไม่ใช่เลย
เพราะล็อตสุดท้ายมันก็รวมของรูมแอทแทนแดนท์ทุกคนไว้ด้วยน่ะค่ะ

ตอนนั้นดีใจมาก ปลื้มปรีติเป็นที่ยิ่ง ยกมือโชว์หราว่านี่นะได้มาแล้ว คีย์ คัฟเวอร์
แถมยังได้ขวดเคมิคอลคืนมาด้วยนะ
ระหว่างทางกลับออฟฟิศเจอแดนนี่ซุปฯอีกคน ก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังค่ะ
“อ้าว แล้วเธอจะไปกังวลทำไมล่ะ แค่คีย์ คัฟเวอร์ ไม่ใช่ คีการ์ด ซะหน่อย
เดี๋ยวทำใหม่ก็ได้” อ๊าววววววว อ๊าว แล้วไอที่ลงทุนไปคุยขยะมาเนี่ย
ก็ศูนย์น่ะสิ สูญด้วย กรรมจริงๆ

ทำไมไม่มาบอกให้มันเร็วกว่านี้นะ แดนนี่...

เอาเหอะค่ะ .. ได้มาแล้ว ก็ไม่ต้องทำใหม่

แต่ไม่มีใครเข้าใกล้เลยอ่ะ เลยลองสำรวจตัวเองนิดนึงก็อยากจะเป็นลม
ลงไปกองตรงนั้น มันเหม็นได้ใจจริงๆค่ะ เหม็นเหมือนยังไม่ได้ออกมาจาก
ทรอลลี่ย์ขยะ ยังคงเสมือนเดินอยู่ท่ามกลางกองขยะใหญ่ยักษ์
โอว คุณพระ แล้วลูกจะกลับบ้านยังไงล่ะคะ???
คุณพี่ซุปฯชาวไทยใจดีเลยบอกให้ไปอาบน้ำค่ะ ห้องอาบน้ำอยู่ติดห้องน้ำสต๊าฟฟ์
มีห้องเดียวไม่มีประตู มีแต่ผ้าม่าน...
เฮ้อ ประเสริฐสุดๆ
แต่ก็นะ ดีกว่ากลับบ้านทั้งที่เป็นขยะเดินได้ แล้วก็รู้สึกไฮโซนิดหน่อย
หนอย..ทำงานมาตั้งนานเพิ่งจะมีโอกาสได้ใช้ผ้าขนหนูโรงแรมเป็นจริง
เป็นจัง เป็นงานเป็นการก็คราวนี้แหละ ปกติใช้แทนผ้าขี้ริ้วตอนเช็ดพื้นห้องน้ำ
มันหนาดี ... อุปส์

เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้แหละค่ะ
ประสบการณ์มันๆ (มั๊ยล่ะ???) ของรูมแอทแทนแดนท์




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2554
0 comments
Last Update : 5 สิงหาคม 2554 23:22:34 น.
Counter : 647 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

cha_ame
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add cha_ame's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com