ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
31
 
 
All Blog
Samsung Galaxy Note 4 อัพเดทราคามือถือล่าสุดตัวเครื่องแบบโลหะ Selfie ได้
เคาะราคาในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 4 ที่ 25,900 บาท ที่เรียกได้ว่า เป็นราคาที่หลายๆ ท่าน คงจะคาดเดากันไว้อยู่แล้วอย่างแน่นอน โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog ได้มีโอกาสสัมผัส Samsung Galaxy Note 4 ตัวจริงกันแล้ว เลยขอนำมารีวิว และบอกเล่าประสบการณ์ใช้งานให้ได้รับทราบกัน
สำหรับจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 4 นั้น คงจะเป็น ดีไซน์ของตัวเครื่อง ที่ถูกออกแบบให้ดูหรูหราขึ้น เนื่องจากกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ (Metal Frame) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Alpha นั่นเองครับ ซึ่งใครที่เริ่มเบื่อๆ กับวัสดุเดิมๆ ของ มือถือซัมซุง แล้ว ลองมาสัมผัสกับ Samsung Galaxy Note 4 กันดู แล้วจะพบกับความแปลกใหม่กว่าที่เคยแน่นอน
สเปค Samsung Galaxy Note 4
- จอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (QHD) (515 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 5 Octa 5433 chipset) ความเร็ว 1.9 GHz (ประกอบด้วย 1.9 GHz Quad Core + 1.3 GHz Quad-Core)
- หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
- RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS
- รัน Android 4.4.4 (KitKat)
- แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : ดีไซน์ และ การออกแบบ
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen ซึ่งขนาดหน้าจอเท่ากับ Samsung Galaxy Note 3 แต่ปรับความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 2560 x 1440 พิกเซล หรือความละเอียดแบบ QHD นั่นเอง
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ส่วนด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งเป็นปุ่มแบบสัมผัส ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home ซึ่งเป็นตำแหน่งของ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Fingerprint Scanner นั่นเอง และเนื่องจาก เครื่องที่นำมารีวิวนั้น ไม่ใช่ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง จึงมีลวดลายปรากฏทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่เครื่องที่วางจำหน่ายจริง จะไม่มีครับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง ซึ่งจากรูป จะเห็นว่า ขอบตัวเครื่องเป็นโลหะที่เคลือบสีไว้อีกที คล้ายกับ Samsung Galaxy Alpha นั่นเอง
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงขณะบันทึกวีดีโอ และใช้สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนรูกลมๆ เล็กนั้น เป็น พอร์ตอินฟราเรด ทำให้ Samsung Galaxy Note 4 กลายเป็นรีโมตคอนโทรลได้
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปากกา S Pen, ไมโครโฟนตัวที่ 1 และ 2 ที่ทางซัมซุงเผยว่า จะช่วยทำให้การบันทึกเสียง คมชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนตรงกลาง เป็นพอร์ต microUSB 2.0
กล้องด้านหลัง มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS และข้างๆ ไฟแฟลช มีเซ็นเซอร์เพิ่มมา 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ กับ UV Sensor วัดความเข้มของแสง ซึ่งเซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัวนี้ จะใช้คู่กับแอปพลิเคชัน S Health นั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น ตำแหน่งของเซ็นเซอร์ ยังสามารถใช้เป็น ชัตเตอร์ ได้ เมื่อถ่ายรูปด้วยกล้องด้านหน้าครับ

Samsung Galaxy Note 4 สามารถถอดแกะฝาหลังได้ ประกอบด้วย แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh, รองรับซิมการ์ดแบบ microSIM ส่วน microSD Card รองรับสูงสุด 64 GB


รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งลูกเล่น และอินเทอร์เฟสต่างๆ ยังคงเป็นมาตรฐานเดิมๆ ของซัมซุง เช่น ปัดเพื่อปลดล็อค แต่บน Samsung Galaxy Note 4 ได้เพิ่มการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือเข้ามา แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S5 ที่สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุด 3 นิ้ว
ในส่วนของหน้าแอปพลิเคชันรวม ถือว่า ยังคงจัดหนัก จัดเต็ม เหมือนเช่นเคย โดยทางซัมซุง ได้ใส่แอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้ในตัวเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติม แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้ที่ Play Store หรือ Samsung Apps
การแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง เป็นการเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง ผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งานมาแล้วก่อนหน้านั้น หรือลบออกเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่องด้วย
Notification Center แหล่งแจ้งเตือนการใช้งานต่างๆ ทั้งข้อความ, อีเมล หรือการอัพเดทแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังมีเมนูลัด สำหรับตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เช่น Wi-Fi, GPS, เสียง หรือ Bluetooth เป็นต้น
ข้อมูลมือถือยังระบุอีกว่า การกดปุ่ม Home 2 ครั้ง จะเข้าสู่ Google Now ค้นหาข้อมูลต่างๆ ตามที่ต้องการ เช่น สภาพอากาศ, สภาพการจราจร หรือสถานะเที่ยวบิน ซึ่ง Google Now จะพยายามคาดเดาว่า ผู้ใช้ต้องการทราบข้อมูลอะไรบ้าง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องบอกให้ทราบก่อน
ส่วนการกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเข้าสู่ฟังก์ชัน S Voice ระบบการสั่งการด้วยเสียง แบบเดียวกับ Siri บน iOS นั่นเอง
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นครับว่า Samsung Galaxy Note 4 มีพอร์ตอินฟราเรด สำหรับใช้งานเป็นรีโมตคอนโทรล โดยจะใช้คู่กับแอปพลิเคชัน Smart Remote นั่นเอง
Samsung Galaxy Note 4 ได้มีการปรับปรุงความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึงระดับ 50% ในเวลาแค่ 30 นาที จากเวลาปกติที่ประมาณ 55 นาที นอกจากนี้ ยังมีโหมด Ultra Power Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10% ครับ
Multi Windows ฟีเจอร์การเปิดใช้งาน 2 แอปฯ บนหน้าจอเดียว ก็มีให้ใช้บน Samsung Galaxy Note 4 โดยผู้ใช้สามารถเลื่อนแอปฯ ไปมาได้ หรือย่อขยายก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถลากแอปฯ นึง ซ้อนทับอีกแอปฯ นึงได้อีกด้วย ไม่จำเป็นต้องแบ่งหน้าจอเหมือนแต่ก่อนก็ได้
สำหรับเบราว์เซอร์บน Samsung Galaxy Note 4 จะมีให้เลือกใช้ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ Android Browser และ Google Chrome แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด เบราว์เซอร์ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store
แอปพลิเคชัน นาฬิกา จะมีเมนูย่อยๆ ให้ใช้งาน 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ การแจ้งเตือน, เวลาโลก, การจับเวลา และการตั้งเวลา
S Planner นอกจากจะเป็นปฏิทินได้แล้ว ยังสามารถสร้างตารางนัดหมายได้ พร้อมกับแจ้งเตือนล่วงหน้าได้อีกด้วย
แอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง เครื่องคิดเลข และ เครื่องบันทึกเสียง ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy Note 4 เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
S Health แอปพลิเคชันจัดการด้านสุขภาพ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก โดยจะใช้คู่กับ Heart Rate Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่องนั่นเอง
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกับระบบ GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันประเภทการนำทางได้ทันที รวมถึงแอปพลิเคชัน ในเครื่องอย่าง Google Maps ด้วยเช่นเดียวกัน
Play Store แหล่งรวมแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ Android แต่สำหรับ มือถือซัมซุง จะมี Samsung Apps เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะคัดเลือกแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ ให้ผู้ใช้ได้เลือกดาวน์โหลดกันอีกด้วย
ทดสอบการเล่นเกมกันเสียหน่อย โดย Samsung Galaxy Note 4 รุ่นที่นำมาทดสอบนี้ มาพร้อมกับระบบประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 5 Octa 5433 chipset) ความเร็ว 1.9 GHz (ประกอบด้วย 1.9 GHz Quad Core + 1.3 GHz Quad-Core) พร้อม RAM 3 GB ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็ว เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่กระตุก
มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 24108 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 48480 คะแนน
ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 10 จุดครับ
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ บนปากกา S Pen
ปากกา S Pen ถือว่า เป็นจุดขายของ Samsung Galaxy Note 4 เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้รองรับน้ำหนักในการกดเพิ่มขึ้นถึง 2048 ระดับ จากเดิม 1024 ระดับ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังใช้ปากกาจริงๆ จดลงบนกระดาษโน้ตมากขึ้น อีกทั้ง ยังสามารถใช้ลากข้อความหรือรูปภาพได้ เหมือนกับการใช้เมาส์บนคอมพิวเตอร์พีซี มาดูฟีเจอร์ของปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Note 4 กันครับ
เริ่มกันที่ Action Memo (บันทึกการดำเนินการ) เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนคำสั่งต่างๆ ด้วยลายมือของตัวเอง เช่น ถ้าหากเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงไป ตัวเครื่องจะทราบว่า นั่นคือหมายเลขโทรศัพท์ ก็สามารถสั่งงานเพื่อโทรออกในเบอร์ดังกล่าว หรือบันทึกได้ในทันที
ตัวอย่างครับ เขียนเบอร์โทรศัพท์ลงไป จะมีเมนูเล็กๆ ปรากฏขึ้นมา จะเลือกโทรออกก็ได้ บันทึกเบอร์โทรศัพท์ก็ได้ สะดวกมากเลยทีเดียว
Smart Select (การเลือกอัจฉริยะ) เป็นการ crop หน้าจอแล้วเก็บภาพไว้ โดยสามารถเลือกเก็บกี่ภาพก็ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ มีประโยชน์ตรงที่เวลาเจอข้อมูลสำคัญๆ บนหน้าเว็บไซต์ ก็สามารถ crop เพื่อเก็บไว้ จะได้ไม่ต้องสลับหน้าไปมานั่นเอง
คลิปรูปภาพ คือการวาดรูปลงบนคอนเทนต์ที่น่าสนใจ แล้วบันทึกเก็บไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถร่างเป็นรูปอะไรก็ได้ หรือใช้เทมเพลตที่มีในตัวเครื่อง
สุดท้าย Screen Write (เขียนบนหน้าจอ) จะเป็นเหมือนกับการ capture หน้าจอครับ แล้วสามารถเขียนข้อความ วาดรูป หรืออะไรก็ได้ ลงไปบนภาพๆ นั้น
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ซึ่ง Samsung Galaxy Note 4 นี้ ทางซัมซุง เน้นการถ่ายภาพแนว Selfie มากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Wide Selfie นั่นเอง
สำหรับฟีเจอร์ Wide Selfie นั้น จริงๆ แล้วก็คือ การถ่ายภาพแบบพาโนรามา จึงทำให้ได้ภาพมุมกว้าง ถ่ายภาพกลุ่ม กับเพื่อนฝูงได้สบายๆ นั่นเอง แต่มีข้อแม้ว่า ขณะที่เลื่อนกล้องไปมาซ้ายและขวา ผู้ถูกถ่ายหรือวัตถุ ห้ามขยับเขยื้อนเด็ดขาด
ส่วนโหมดการถ่ายภาพ ก็มีให้เลือกใช้มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, เซลฟี่กล้องหลัง, โฟกัสที่เลือก, พาโนรามา และสามารถดาวน์โหลดโหมดถ่ายภาพอื่นๆ มาใช้งานได้ ส่วนกล้องด้านหน้า จะมี 2 โหมดให้ใช้งาน ได้แก่ ถ่ายภาพตนเอง และถ่ายภาพตนเองแบบกว้าง (Wide Selfie) หรือจะดาวนโหลดโหมดการถ่ายภาพเพิ่มเติมก็ได้ตามใจ
ตัวอย่างโหมดการถ่ายภาพแบบ "โฟกัสที่เลือก" จะเป็นลักษณะนี้ครับ โฟกัสใกล้ จะเป็นการโฟกัสวัตถุที่ใกล้ที่สุด และเบลอฉากหลัง ส่วนโฟกัสไกล จะเป็นการโฟกัสวัตถุไกลแทน และถ้าหากตอนถ่าย มีการเคลื่อนที่ของวัตถุด้วย จะมีโหมด โฟกัสเคลื่อนที่ให้เลือก
ลองมาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Note 4 กันครับ
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 : บทสรุปการใช้งาน Note 4 Pantip รีวิว
สำหรับ Samsung Galaxy Note 4 นั้น ต้องบอกว่า เป็นรุ่นที่พัฒนาจาก Samsung Galaxy Note 3 มากพอสมควร ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และสเปคโดยรวม โดย Samsung Galaxy Note 4 นั้น มาพร้อมกับกรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) ที่ทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียมขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล หรือแบบ QHD นั่นเอง อีกทั้งยังได้ปรับปรุงกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 3.7 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/1.9 ที่ให้ภาพสว่างกว่าเดิม และเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา ถ่ายภาพ Selfie แบบกลุ่มได้อย่างสบาย ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว Smart OIS
นอกจากนี้ ความน่าสนใจของ Samsung Galaxy Note 4 ยังอยู่ที่เซ็นเซอร์ต่างๆ โดยปุ่ม Home มาพร้อมกับ Fingerprint Sensor หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ปลอดภัยมากขึ้นยามปลดล็อคหน้าจอ ส่วนด้านหลัง มี Heart Rate Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ใช้คู่กับแอปพลิเคชัน S Health เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเป็นหลัก ส่วนเซ็นเซอร์อีกตัวก็คือ UV Sensor หรือวัดความเข้มของแสงนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy Note 4 ได้มีการปรับปรุงความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ กับฟีเจอร์ Fast Charging โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึงระดับ 50% ในเวลาแค่ 30 นาที จากเวลาปกติที่ประมาณ 55 นาที นอกจากนี้ ยังมีโหมดUltra Power Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องอีก 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10% ครับ
สำหรับราคาของ Samsung Galaxy Note 4 อยู่ที่ 25,900 บาท เรียกได้ว่า เปิดตัวมาค่อนข้างแรงกว่า Samsung Galaxy Note 3 พอสมควร แต่ถ้าหากมองถึงเรื่องฟีเจอร์ และลูกเล่นใหม่ๆ ของปากกา S Pen คนที่ชอบการขีดๆ เขียนๆ พร้อมกับการออกกำลังกาย น่าจะคุ้มครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 4
• กรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Alpha ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรา มีสไตล์ และแข็งแรงมากกว่าเดิม
• ฝาด้านหลัง เป็นพลาสติก บุด้วยหนังเทียม ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน
• จอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (QHD) (515 ppi)
• หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 5 Octa 5433 chipset) ความเร็ว 1.9 GHz (ประกอบด้วย 1.9 GHz Quad Core + 1.3 GHz Quad-Core)
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
• RAM 3 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างสูงสุด 120 องศา และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS
• รัน Android 4.4.4 (KitKat) เวอร์ชันล่าสุด ตั้งแต่แกะกล่อง
• แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh รองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน
• โหมด Ultra Power Saving Mode ประหยัดพลังงานขั้นพิเศษ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวดำ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10%
• Fast Charging ปรับปรุงระบบในการชาร์จแบตเตอรี่ สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลาแค่ 30 นาที
• ปากกา S Pen ปรับปรุงใหม่ รองรับน้ำหนักในการกดเพิ่มขึ้นถึง 2048 ระดับ จากเดิม 1024 ระดับ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังใช้ปากกาจริงๆ นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นการใช้งานอีกมากมาย
• มี Heart Rate Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ โดยใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชัน S Health
• ระบบสแกนลายนิ้วมือในตัว (Fingerprint Scanner)
• UV Sensor วัดความเข้มของแสง
• ไมโครโฟน 3 ตัวในเครื่องเดียว ทำให้บันทึกเสียงได้คมชัดมากกว่าเดิม
• รองรับเทคโนโลยี NFC
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
• ราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ มือถือที่มีสเปคใกล้เคียงกัน
• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว

Cr.//www.techmoblog.com/samsung-galaxy-note-4/

**เอาไว้อ่านก่อนตัดสินใจซื้อจริง อ่านรีวิว Note 4 Pantip



Create Date : 06 ตุลาคม 2557
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 10:08:52 น.
Counter : 1230 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 713615
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นคนง่ายๆ ใช้ชีวิตไม่มีแบบแผนอะไรมาก คิดอะไรได้ก็เขียนก็ระบาย ขอบคุณที่แวะมา และขอบคุณที่เข้ามารับฟัง