กรกฏาคม 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
17 เหตุผลที่ทำธุรกิจครั้งแรกแล้วเจ๊ง...!!!
1. ไม่มีที่ปรึกษาที่ดี

การหาที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่การปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือมนุษย์เงินเดือนด้วยกัน ลูกค้าของผมส่วนใหญ่ที่เจ๊ง เพราะเลือกที่จะปรึกษาคนระดับเดียวกันที่ยังไม่เคยทำธุรกิจ เลยทำให้นอกจากจะขาดแนวทางที่ดี ยังขาดการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องอีกด้วย (ในกรณีนี้ ส่วนใหญ่คนที่เป็นแฟรนไชส์ของผม และทั้งๆที่ๆมีผมเป็นที่ปรึกษา (แบบฟรีๆ 555) ก็ไม่มาพูดคุยกัน เลยเลิกขายกันไปซะงั้น........)

2. เลือกคนผิด

หลายคนตัดสินใจทำธุรกิจครั้งแรกด้วยความไม่มั่นใจ เลยดึงเอาคนอื่นมาร่วมกันทำธุรกิจเพื่อเป็นหุ้นส่วน ประเด็นคือการหาหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่ทำให้เจ๊งจริง ๆ ตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ บางคนหุ้นส่วนทิ้งงาน ทะเลาะกับลูกค้า มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเอง เป็นต้น

3. ใช้เงินคนอื่นลงทุน

ตรงนี้ขัดแย้งกับความเชื่ออันเดิมของผมเป็นอย่างมาก หนังสือการเงินส่วนใหญ่สอนให้ใช้เงินคนอื่น แต่นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เจ๊ง เพราะการเอาเงินคนอื่นมาลงจะทำให้มองไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอามาลงนั้นมีมูลค่าขนาดไหน คล้ายกับพ่อแม่ซื้อ iphone ให้กับเก็บตังค์ซื้อ iphone เอง ความรัก ความภูมิใจ การถนอมธุรกิจมันแตกต่างกัน (อันนี้เห็นด้วยมากๆ เพราะเวลายืมเงินจากคนอื่นมามันจะใช้เพลิน)

4. อายที่จะเป็นนักขาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ คนที่เริ่มทำธุรกิจครั้งแรกหลายคนไม่กล้าที่จะเป็นนักขาย บริษัทใหญ่จะเจริญเติบโตและมีรายได้ได้อย่างไรถ้าไม่มีระบบการขายที่ดี ธุรกิจเล็ก ๆ จะรอดได้อย่างไรถ้าการขายเป็นสิ่งที่ถูกละเลย (เคยเจอมาเยอะครับ ไปนั่งขายของแต่ไม่เรียกลูกค้าเล้ยยย 555)

5. ซ้ำจนเกร่อ

รู้ไหมครับ ลูกค้าของผมส่วนเจ๊งจากธุรกิจอะไร ให้ทายสักครู่ 5… 4… 3… 2… 1… ลูกค้าส่วนใหญ่ของผมเจ๊งจากธุรกิจขายกาแฟครับ โชคดีในยุคนี้คือกาแฟกลายเป็นของทานเล่นที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนใช้กินกัน ร้านกาแฟไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าหาจุดที่ไม่ซ้ำคนอื่นไม่ได้โอกาสรอดก็ยาก ลูกค้าผมท่านหนึ่งเปิดร้านกาแฟแล้วรวย เพราะเป็นคนสวยมาก (ยังไงๆ สินค้าตัวหนึ่งจะอยู่รอดได้หรือไม่นั้น ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงเพราะแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ แต่ผมจะแนะนำไม่ให้ลูกค้าไปขายเค้กในที่ๆมีเค้กขายกันหลายๆเจ้า เพราะต้องไปแชร์ยอดกันเอง)

6. คิดว่าเงินธุรกิจคือเงินตัวเอง

ข้อนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมาก ๆ เพราะลูกค้าผมที่ประสบความล้มเหลวบอกกับผมว่าทำแล้วไม่มีกำไร พอผมถามเรื่องต้นทุนกับการขายปรากฏว่ามีกำไรแน่ ๆ ถามไปถามมา กำไรของธุรกิจถูกเอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวหมด เลยทำให้กำไรเป็นขาดทุนทันที (ส่วนตัวอยากให้หัวข้อนี้เป็นสาเหตุ “หลัก” เลยนะครับ ส่วนใหญ่เอาเค้กไปขายแล้วใช้เงินที่ขายได้กันเพลินครับ ไม่แยก “ทุน” กับ “กำไร” ออกจากกันตั้งแต่ตอน “ขายเสร็จ” สุดท้าย....ไม่มีเงินมาซื้อเค้กรอบถัดไป ไปๆมาๆ จะเริ่มขอ “เครดิต” (แรกๆเราก็ใจดีเนอะ 555) ขอไปขอมา จาก 1 งวด เป็น 2 งวด คราวนี้ “ชักดาบ” ไปหาผู้ผลิตเค้กรายใหม่ (ที่จะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป 555) สุดท้ายคนเหล่านี้ก็มักจะโทษ สิ่งที่เรียกว่า “โชคชะตา” เฮ้อออออออออออออออออออ ไม่ต้อง งง นะครับ ว่าทำไม ชีวิตไม่ดีขึ้นสักที ..........อิอิ

7. หาลูกน้องดี ๆ ไม่ได้

สำคัญใครก็ตามที่เปิดร้านแล้วต้องมีคนเฝ้า น่าประหลาดที่การหาลูกน้องเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ในยุคนี้ หลาย ๆ เจ้าของต้องลงไปทำเอง ซึ่งกำไรที่ได้ไม่คุ้มค่าตัวตัวเองแน่ ๆ เลยทำให้ต้องตัดสินใจ เจ๊ง ไปโดยปริยาย บางคนได้ลูกน้อง แต่เอาลูกน้องมาดูปุ๊บยอดตก เพราะได้ลูกน้องค่าแรงถูก แต่บุคลิกหรือการพูดกับลูกค้าไม่ได้เลย บางคนหนักหน่อย โดนขโมย (อันนี้มีเคล็บลับการหาลูกน้องดีๆมาบอก แต่ต้องหลังไมค์นะเอิ้ก เอิ้ก)

8. อีโก้แรง

การเป็นมนุษย์เงินเดือนคุณจะง้อหรือไม่ง้อลูกค้าก็ได้ บริษัทคือส่วนเสียหาย ไม่ใช่พนักงาน แต่การทำธุรกิจครั้งแรกจำเป็นที่ต้องง้อลูกค้าอย่างมหาศาล ตราบใดที่รายได้ยังไม่สะพัด การหยิ่งเลือกไม่ง้อลูกค้าถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง

9. ขาดความมั่นใจดื้อ ๆ

เวลาที่ลงทุนทำอะไรแล้วไม่เป็นไปอย่างที่คิด แรกสุดเราต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าเพราะอะไรทุกอย่างถึงไม่เป็นไปตามความคิด แต่คนส่วนใหญ่ที่เจ๊ง พอเจออุปสรรคที่นอกเหนือจากที่วางแผน ก็ท้อใจ และขาดความมั่นใจเอาดื้อ ๆ ทำให้หลาย ๆ ครั้งปัญหาเล็ก ๆ อย่างเช่น ขาดทุน กลายเป็นสวิตช์ปิดตายความสำเร็จไปเลย (หากคุณอยู่ในกรณีนี้ หุ้นส่วน หรือ ที่ปรึกษาจะมีบทบาทที่สำคัญมากๆ)

10. เจอเรื่องไม่คาดฝัน

ม็อบปิดถนน คู่แข่งมาเปิดแข่ง หุ้นส่วนทะเลาะแล้วขอแยก ลูกน้องทิ้งร้าน ลูกค้าไม่พอใจแล้วโวยวาย เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ล้วนได้ชื่อว่าไม่คาดฝันทั้งนั้น ทำให้จำใจต้องเจ๊งไปโดยปริยาย (จริงๆผมอยากบอกว่านักธุรกิจทุกๆคนที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนแล้วแต่เจอ “สิ่งที่ไม่คาดฝัน” มาแล้วทั้งนั้น นี่คือหมัดน้อคของนักวางแผนจริงๆนะครับ ......... สิ่งที่จะทำให้คุณสำเร็จได้ ผมบอกได้เลยว่า นอกจากคุณต้องเป็นนักวางแผนที่ดีแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเป็น นักแก้ปัญหา ตัวฉกาจ อีกด้วย !!!!)

11. ศรัทธา Passive Income มากจนเกินไป

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าของไม่ลงมาทำเอง หนังสือต่าง ๆ มากมายรวมไปถึงนักพูดส่วนใหญ่เอา Passive Income เอามาใช้อย่างสวยหรู แน่นอน หลักประกันของ Passive Income มีสองอย่าง คือหนึ่งระบบคุณต้องแข็งแรงมาก ๆ และสองลูกน้องหรือผู้ร่วมธุรกิจจะต้องรักคุณมาก ๆ จนไม่กล้าทำให้คุณผิดหวัง ส่วนใหญ่ไม่มีทั้งสองทาง เลยติดกับดักของ Passive Income

12. ไม่มีเวลา

มีลูก พ่อแม่ป่วย ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน การไม่มีเวลาดูแลธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่จะทำธุรกิจเติบโตไปได้ ผมเห็นคนที่ไม่มีเวลาจะทำแล้วธุรกิจค่อย ๆ เจ๊งไปมาเยอะ ลูกค้าผมหลายท่านก็พูดให้ฟังเรื่องการบริหารเวลาที่มีน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับภาระ เลยกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ๊งไปเลย

13. ดูถูกธุรกิจตัวเอง

ทัศนคติเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายสำหรับธุรกิจ หลาย ๆ คนดูถูกสิ่งที่ตัวเองทำ บางคนเรียนสูง เปิดร้านกาแฟแต่ไม่ยอมลงมาทำเอง เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่สมศํกดิ์ศรีการเรียนของเขา ความจริงคืออะไรที่หาเงินได้แล้วถูกกฎหมาย ถูกศีลธรรม มันไม่มีคำว่าเสียศักดิ์ศรีหรอก

14. ลงทุนไม่รู้จักจบจักสิ้น

การเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบเป็นสิ่งดี แต่หลาย ๆ ครั้งเงินทุนและกำไรทั้งหมดเอาไปลงเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทำให้ต้นทุนของธุรกิจสูงจนน่าใจหาย สุดท้ายได้กำไรมาเท่าไหร่ ต้องหมุนเป็นเงินลงทุนหรือไม่ก็ดอกเบี้ยธนาคารทั้งสิ้น

15. คิดว่าการเริ่มต้นคือความสำเร็จ

หากคิดว่าความสำเร็จคือการเริ่มต้น นั่นเป็นความคิดที่น่ากลัวมาก ลูกค้าผมหลายคนเขารู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหลังจากตัดสินใจลงมือทำธุรกิจ แต่ตอนที่ผมออกมาเป็น Freelance เองถึงได้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมโชคดีที่ได้รับโอกาสจาก CEO หลายท่านที่เมตตามอบหมายให้ทำงานให้ ทุกคนสอนผมเหมือนกันหมดว่าการเริ่มต้นยากและเหนื่อยที่สุด ดังนั้นคุณต้องทำใจการเริ่มต้นคือการเริ่มเหนื่อย มันยังไม่ใช่ความสำเร็จ (หลายๆคนมักเข้าใจแบบนี้จริงๆว่า เปิดร้านแล้วคือ “จบ” เอ่อออ ถ้าคิดอย่างนั้น จะได้ “จบ” จริงๆนะเอ่อ 555)

16. ทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่น

การเมือง เศรษฐกิจ เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงมิตรสหาย และเลวร้ายที่สุด คู่แข่ง และที่เลวร้ายที่สุด โทษ “ลูกค้า” การโทษคนอื่นเป็นการง่ายที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยล้วนเป็นคนที่โทษตัวเองเป็นอันดับแรกทั้งสิ้น ข้อดีของการโทษตัวเองคือมันจะได้รู้จุดที่ปรับเปลี่ยนตัวเองทัน แล้วเอาไปใช้เพื่อหาเงินหาทองครับ (อันนี้ผมอยากยกให้เป็นสาเหตุ “อันดับ 2” รองลงมาจากเรื่องบริหารเงินไม่เป็นเลย )

17. หมดแรงก่อนถึงเป้าหมาย

อันนี้เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด ความขี้เกียจ ท้อแท้ หมดแรงเป็นศัตรูตัวร้ายอยู่ทุกวงการอยู่แล้ว หลาย ๆ คนทำธุรกิจด้วยความอยากทำ พอทำแล้วก็เกิดความขี้เกียจแล้วพาลไม่อยากทำ ผมอยากจะบอกว่าถ้าคุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณจะไม่มีวันขี้เกียจ เหตุผลเดียวที่คุณยังคงขี้เกียจ แสดงว่าคุณยังไม่มีเป้าหมายชีวิตที่อยากไปให้ถึงนั่นเอง คนที่มีชีวิตที่ดีคือคนที่สู้แล้วไม่ยอมแพ้ คุณคือนักสู้หรือเปล่า ถ้าใช่ ขอให้จดจำ 17 ข้อนี้ให้ดี แล้วชีวิตคุณจะพบเจอจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม

ปล.อยากเติมข้อ 18+19 เพิ่มเองครับ

18.ไม่อ่านหนังสือ(ประเภท How to Success)

19.ไม่เคยทำบุญ ทำทานเลย (โดยเฉพาะกับ พ่อ แม่)




Create Date : 18 กรกฎาคม 2557
Last Update : 18 กรกฎาคม 2557 11:06:40 น.
Counter : 597 Pageviews.

1 comments
  
จริงครับ
โดย: ผมเอง (สมาชิกหมายเลข 1414444 ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2557 เวลา:15:04:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 713615
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นคนง่ายๆ ใช้ชีวิตไม่มีแบบแผนอะไรมาก คิดอะไรได้ก็เขียนก็ระบาย ขอบคุณที่แวะมา และขอบคุณที่เข้ามารับฟัง