Bloggang.com : belle1 : องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เริ่มอาหารเสริมหลัง 6 เดือน

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เริ่มอาหารเสริมหลัง 6 เดือน

โดยพบว่าข้อมูลที่ผิดหลักๆ คือ

1.ในหนังสือเขียนไว้ว่า "แรกเกิดจนถึง 2 ด. แรก นมแม่เป็นอาหารที่ดีและเหมาะสม" การเขียนแบบนี้ทำให้คนอ่านเข้าใจผิด คิดว่าหลัง 2 ด. ไปแล้วนมแม่ไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไป แถมต่อด้วยข้อความสรรเสริญเยินยอนมผงของบริษัทตัวเองว่า มีดีเอชเอ เออาร์เอใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด ซึ่งความจริง คือ ยังไม่มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้พิสูจน์ว่าเป็นจริง

2.อายุ 3 ด.. ให้เริ่มอาหารเสริม , อายุ 4 ด ให้ถือช้อนฝึกตักกินเอง ซึ่งไม่ถูกต้องตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และ เด็ก 4 ด. ก็ยังไม่สามารถถือช้อนตักกินเองได้ เป็นการเขียนที่เลื่อนลอย ไร้ความถูกต้องอย่างสิ้นเชิง

จากข้อผิดพลาดดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสจากคุณพ่อคุณแม่ทักท้วงไปยังแฟนเพจ Enfa Smart Club ต่อมาบริษัทนมผงจึงยอมแก้ไขข้อความผิดๆ ในหนังสือคู่มือที่แจก โดยการส่งข้อความขอโทษทาง SMS พร้อมกับแก้ไขข้อมูลดังนี้ คำแนะนำขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า "กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 ด. แล้วจึงเริ่มอาหารเสริม" แล้วจบอยู่เพียงแค่นี้

ป้าหมอได้อ่านข้อความใน SMS แล้วพบว่า ยังมีข้อความสำคัญที่ขาดหายไป เพราะถ้าไม่มีข้อความต่อไปนี้ ก็อาจทำให้คนอ่านเข้าใจผิดต่อไปได้ว่า หลังจาก 6 ด. ไม่ต้องกินนมแม่ต่อไปแล้ว เหมือนกับที่เราๆท่านๆเห็นกันในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ และ หมอส่วนใหญ่เข้าใจผิดแแบบนั้นจริงๆ หลังจากที่บริษัทนมผงอกหักเพราะผิดหวังกับความตั้งใจแรกไปแล้ว ที่พิมพ์ในหนังสือที่แจกระบุตัวเลขไว้ว่า นมแม่มีประโยชน์สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ด. ก็คงยังหวังสร้างความกำกวมต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนตัวเลขเป็น 6 ด. แสดงให้เห็นถึง ความไม่ความจริงใจในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้แก่สังคม โดยตั้งใจละเว้นข้อความสำคัญของประโยคต่อไป เพื่อเป็นโอกาสและช่องทางในการขายนมผงหลังจากอาย 6 ด. เป็นต้นไป เนื่องจากอาจมีผู้อ่านจำนวนหนึ่ง อ่านเสร็จแล้ว อาจเข้าใจว่า หลังจาก 6 ด. ก็ไม่ต้องกินนมแม่ต่อแล้ว

ข้อความที่ครบถ้วน คือ องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า "ให้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 ด. แล้วจึงเริ่มอาหารเสริมควบคู่กับนมแม่จนถึง 2 ปี หรือมากกว่า"

ต่อไปนี้ คือ เหตุผลว่า ทำไมจึงไม่ควรให้ทารกกินอาหารเสริมก่อนอายุ 6 เดือน

เมื่อ 10 ปีก่อน แนะนำให้เริ่มอาหารเสริมหลัง 4 เดือน แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น 6 เดือนแล้วค่ะ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนคำแนะนำดังกล่าว แต่บุคลากรทางการแพทย์จำนวนหนึ่งและหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกหลายๆเล่มยังไม่ทราบข้อมูลใหม่เหล่านี้

ต่อไปนี้ คือ หน่วยงานที่แนะนำว่า ทารกควรกินนมแม่อย่างเดียว หรือ กินนมผงบวกน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก

*องค์การอนามัยโลก *ยูนิเซฟ *สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา *คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติออสเตรเลีย *คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติแคนาดา

ทารกส่วนใหญ่จะมีความพร้อมทั้งด้านพัฒนาการและร่างกายในการกินอาหารเสริมที่อายุประมาณ 6-9 เดือน บางงานวิจัยกล่าวว่าเด็กบางคนควรเริ่มกินอาหารเสริมช้ากว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป เช่น คนที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาจเริ่มที่อายุ 12 เดือน

#ข้อดีของการเริ่มอาหารหลังอายุ 6 เดือน

- ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วย เพราะได้รับภูมิต้านทานจากนมแม่เต็มที่ มากกว่า 50 ชนิด และยังมีอีกมากมายที่ยังไม่รูัจัก การศึกษาหนึ่งพบว่าเด็กที่ได้รับนมแม่อย่างเดียวใน 4 เดือนแรกมีปัญหาโรคหูชั้นกลางอักเสบน้อยกว่ากลุ่มที่เริ่มอาหารเสริมเร็ว โดยลดลงถึง 40% และมีปัญหาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจลดลงอย่างชัดเจน

- ไม่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานหนักเกินไป ถ้าเริ่มเร็วเกินไป อาจมีปัญหา ท้องอืด ท้องผูก น้ำย่อยโปรตีนยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ย่อยโปรตีนได้ไม่เต็มที่ น้ำย่อยคาร์โบไฮเดรตยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะอายุ 6-7 เดือน น้ำย่อยไขมันยังไม่สมบูรณ์จนกว่าจะอายุ 6-9 เดือน

- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคแพ้อาหาร งานวิจัยพบว่า ยิ่งให้นมแม่นาน ยิ่งลดความเสี่ยงของโรคแพ้อาหาร เพราะว่าก่อน 6 เดือน เซลเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันแบบหลวมๆ (open) เพื่อให้ ภูมิคุ้มกันจากนมแม่ผ่านเข้าไปตามช่องว่างดังกล่าวเข้าไปอยู่ในเลือดของลูก ช่วยป้องกันการติดเชื้อโรค แต่หากมีการให้อาหารแปลกปลอมอื่นเข้าไป สารแปลกปลอมก็จะเล็ดลอดเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายทารกสร้างสารต่อต้าน จนเกิดปัญหาแพ้อาหารตามมาได้ หลัง 6 เดือนเซลเยื่อบุลำไส้จะอยู่กันชิดๆแล้ว (close) ความเสี่ยงจึงลดลง

- ลดความเสี่ยงปัญหาขาดธาตุเหล็ก การให้อาหารอื่นก่อนอายุ 6 เดือน จะทำให้ลำไส้ดูดซึมธาตุเหล็กจากนมได้น้อยลง งานวิจัยพบว่า เด็กที่ได้รับอาหารเสริมก่อน 6 เดือน จะมีปัญหาซีดจากขาดธาตุเหล็กที่อายุ 1 ขวบมากกว่า และเมื่อเริ่มอาหารเสริมแล้ว อย่าลืมให้กินอาหารที่มีธาตุเหล็กเป็นประจำ จะได้ไม่ซีด อีกปัจจัยหนึ่งที่จะลดความเสี่ยงของโรคซีดหลัง 6 เดือน คือ ตอนคลอดควรรีดเลือดจากสายสะดือเข้ามาทางลูก ถึงแม้จะเพิ่มปัญหาตัวเหลืองขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีความสำคัญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนเมื่อโตขึ้น

- ช่วยให้แม่ผลิตน้ำนมได้เต็มที่ เพราะหากกินอาหารเสริม จะทำให้เด็กกินนมแม่ลดลง แม่จะสร้างน้ำนมลดลง พบว่าเด็กที่เริ่มอาหารเสริมเร็วก่อน 6 เดือน มีแนวโน้มหย่านมแม่เร็วขึ้น

- ลูกมีปัญหาการกินน้อยกว่ากลุ่มที่เริ่มอาหารเสริมก่อน 6 เดือน เพราะลูกมีความพร้อมมากกว่า อย่าเชื่อคำขู่ว่า ถ้าไม่เริ่มเร็วๆ ลูกจะกินข้าวยาก เพราะเริ่มเร็วเริ่มช้ากว่า 6 เดือน ก็มีปัญหากินข้าวยากได้ทั้ง 2 กลุ่ม กินนมแม่หรือนมผง ก็เจอปัญหากินข้าวยากทั้ง 2 กลุ่ม และข้อเท็จจริง คือ กลุ่มที่เริ่มเร็วกว่า 6 เดือน (เพราะน้ำย่อยและการเคลื่อนไหวของลำไส้ยังไม่พร้อม) และ กลุ่มนมผง (เพราะเด็กนมแม่ รสชาตินมแม่จะแปรเปลี่ยนไปตามอาหารที่แม่กิน จึงทำให้เด็กคุ้นเคยกับรสชาติอาหารมากกว่า แต่นมผง รสชาติจะคงเดิมตลอด) จะมีปัญหากินข้าวยากมากกว่าค่ะ

ลูกใครที่กินก่อน 6 เดือน แล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็ถือว่าโชคดีไปค่ะ เช่น ให้กินกล้วยตั้งแต่ 1 เดือน ลูกก็ไม่เห็นเป็นไร กระเพาะก็ไม่เห็นแตกเหมือนกับที่เป็นข่าว ก็เหมือนกับการรัดเข็มขัดนิรภัยที่บางคนไม่รัด ก็ยังอยู่รอดปลอดภัยดีอยู่ แต่ผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวนั้นมีแน่ๆค่ะ เช่น แทนที่ลูกจะได้กินนมแม่มากๆ ซึ่งมีสารบำรุงสมอง สารต้านเชื้อโรค สารต้านมะเร็ง ก็ต้องเสียพื้นที่ไปในการกินกล้วยซึ่งไม่มีสารเหล่านี้ และ งานวิจัยพบว่า การเริ่มกินสิ่งอื่นก่อน 6 เดือน จะเป็นสาเหตุทำให้หย่านมแม่ก่อนเวลาอันควรด้วยค่ะ ถ้าเราอยากให้ลูกกินนมแม่ไปได้นานๆ ก็ไม่ควรเริ่มอาหารอื่นก่อน 6 เดือนนะคะ

Create Date : 20 พฤษภาคม 2557

Last Update : 20 พฤษภาคม 2557 23:24:53 น.

0 comments

Counter : 765 Pageviews.