|
30 วันกับการลดน้ำหนัก 3 กก. (วันที่ 1-2 มี.ค. 52)
| 30 วันกับการลดน้ำหนัก 3 กก. (วันที่ 1 มี.ค. 52) วันที่ 14 แล้วค่ะ ขึ้นเดือนใหม่พอดี ยังไม่ได้ชั่ง น้ำหนักเลย ทานทุกมื้อ เหมือนไม่ได้ลดความอ้วนเลย เฮ้ออออ กินมันต่อไป อิอิ
มื้อเช้า โยเกิร์ต 1 ถ้วย (80 kcl)
มื้อกลางวัน ส้มตำปลาร้า 1 จาน (50 kcl) ข้าวเหนียว 1/2 ทัพพี (80 kcl) ลูกชิ้นปลา 15 ลูก (525 kcl) ชามะนาวเย็น 1 ถุง (100 kcl)
มื้อเย็น ลาบเห็ดฟาง 1 จาน (100 kcl) ข้าวขาว 1 ทัพพี (80 kcl) นมโฟร์โมส์ 1 ขวด (80 kcl)
รวม 1095 kcl ออกกำลัง ทำงานบ้าน ปล. เห็ดฟางมีสาร vovatoxins ช่วยป้องกันการเติบโตของไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับไขมันในเส้นเลือดหรือโรคหัวใจได้
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.vegetableinthailand.com/
|
|
| 30 วันกับการลดน้ำหนัก 3 กก. (วันที่ 2 มี.ค. 52)
มื้อเช้า ข้าวเหนียว (80 kcl) หมูปิ้ง 2 ไม้ (150 kcl)
มื้อกลางวัน วุ้นเส้นต้มยำเห็ด 1 ชาม (50 kcl) กูลิโกะรสลาบ 1 กล่อง (180 kcl)
มื้อเย็น นมโฟร์โมส์ รสจืด 1 กล่อง (70 kcl) โยเกิร์ต 1 ถ้วย (80 kcl) ขนมปัง (200 kcl)
รวม 810 kcl
ออกกำลังกายโยคะ ครึ่งชั่วโมง
ปล. คุณประโยชน์จากโยเกิร์ต 1. โยเกิร์ตย่อยง่าย เพราะน้ำตาลแลคโตสเป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดการแพ้นมหรือท้องเสียถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติกที่ย่อยง่าย นอกจากนนี้แบคทีเรียในโยเกิร์ตยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนนม เคซีน ซี่งเป็นโปรตีนย่อยยาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ต่อน้ำตาลแลคโตสและ โปรตีนเคซีน 2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยยับยั้งจุลชีพที่ไม่เป็นมิตรในลำไส้ กรดแลคติคจะช่วยต่อต้านจุลชีพที่อาจให้โทษต่อร่างกายเช่น เชื้อซัลโมเนลา (Salmonella typhidie) อี โคไล ( E. Coli) โคลินแบคทีเรีย( Corynebacteria diphtheriae) ทำให้เชื้อเหล่านี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ เราควรจะรับประทานโยเกิร์ตอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีกลุ่มแบคทีเรียที่ดีอาศัยอยู่ภายในลำไส้ 3. เป็นแหล่งวิตามิน บี โดยเฉพาะวิตามิน บี1(ไรโบฟลาวิน) แบคทีเรียในโยเกิร์ตยังช่วยสังเคราะห์วิตามิน บีและวิตามิน เค ในลำไส้ 4. ช่วยรักษาโรค ท้องเสีย ท้องเดิน และแผลในกระเพาะ จากการวิจัยพบว่าผู้ป่วยเด็กหายจากอาการท้องเสียเร็วขึ้น หลังจากได้รับประทานโยเกิร์ต 5. ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น กรดแลคติคในโยเกิร์ตช่วยทำให้การย่อยแคลเซียมในนมดีขึ้นและทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมง่ายขึ้น 6. เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ในโยเกิร์ตจะมีโปรตีนมากกว่าในนม 20% และยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใด้ด 7. ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ แลคโตบาซิลัสช่วยควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ 8. ช่วยป้องกันมะเร็ง แลคโตบาซิลัสสามารถจับกับสารก่อมะเร็ง สามารถจับกับโลหะหนัก และกรดน้ำดีซึ่งมีพิษ แลคโตบาซิลัสช่วยยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ที่สร้างสารไนเตรทได้ (สารในเตรทเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่ง) และแลคโตบาซิลัสยังช่วยเปลี่ยนสารฟลาโวนอยด์จากพืชให้เป็นสารต้านมะเร็งได้ เรียบเรียงโดย : ทพ. จักรชัย สมพลพงษ์
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.goodhealth.co.th
|
|
Create Date : 03 มีนาคม 2552 |
Last Update : 3 มีนาคม 2552 11:04:15 น. |
|
12 comments
|
Counter : 2410 Pageviews. |
|
|
|
โดย: wHiTe ShOEs วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:13:03:20 น. |
|
|
|
โดย: ladysamui วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:13:33:07 น. |
|
|
|
โดย: twins วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:15:19:11 น. |
|
|
|
โดย: kityypiggybent (KurodaBB ) วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:17:41:13 น. |
|
|
|
โดย: coojung วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:21:21:55 น. |
|
|
|
โดย: ผัดไท (anny_kop ) วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:22:17:46 น. |
|
|
|
โดย: NOKKIE-CM วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:23:57:32 น. |
|
|
|
โดย: tanamura วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:4:53:01 น. |
|
|
|
โดย: ม่อนข้าว (ultra_aih ) วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:10:52:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มีข้อมูลดีๆมาฝากทุกวันเลยดีจังค่ะ
ว่าแต่ทำลาบเองเหรอ??น่ากินจังค่ะ...
สู้ต่อไปนะคะ..เมนูกำลังดีเลยเชียว..