เมษายน 2548

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
7 เมษายน 2548
Back to Berlin - The Beginning
ไปเยอรมันครั้งแรก เมื่อนานมาแล้ว ไป back-pack europe กับเพื่อนเมื่อตอนเด็ก แต่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เพราะตอนแรกกะว่าไปกัน 3 คน แต่มีคนนึง ติดสอบ เลยไม่ได้ไป ไปกันสองคน เด็กผู้หญิง คุณแม่ไม่ให้ไป
สรุป คุณแม่เลยเก็บกระเป๋าข้าวของลงเป้ ไปด้วย
ไปสามคน แถมเป็นคนกลาง ไม่สนุกเลย ร้องไห้ตั้งกะหน้า louvre ทั่วฝรั่งเศส โมนาโค สวิส เยอรมัน จนกลับมาที่อังกฤษ พร้อมคำตัดพ้อของคุณแม่ว่า โกโก้รักเพื่อนมากกว่าแม่ เฮ่อ ต้องบอกว่า quite an experience จริงๆ แต่จริงแล้ว เรารักกันเนอะคุณแม่เนอะ แถมเพื่อนคนนั้นก็เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดอีกต่างหาก ตอนนี้คุณแม่ก็ดีๆ กับเพื่อนแล้วด้วย ดีใจ ดีใจ

เข้าเรื่องดีกว่า ไปคราวนี้ ไปกับเพื่อนๆ ใน class ไม่มีใครพกผู้ปกครองมา ย่อมสนุกกว่าเป็นธรรมดา อาจารย์ที่คุมมาก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก ไร้ซึ่ง power อย่างร้ายแรง อิอิ มา trip นี้ เป็น trip ก่อน falls break คือ ปิดกันที่นี่เลย จะไปไหนก็ไป เราวางแผนไว้ว่าก่อนจะกลับไป firenze จะแวะไปหาเพื่อนที่ milano ก็ไม่มีใครอยู่เลยนี่ จะรีบกลับไปไย เพื่อนเตือนว่า แวะไปหาอาจหมดตัวได้ ว่าจะไปลองของเค้าซักตั้งนึง ว่าของเค้าแรงจริงหรือเปล่า 5 5 5 ส่วนคนอื่นๆ ก็มีแบ่งไป prague ไปอังกฤษ แล้วก็กลับไปเที่ยวใน italy ก็มี



มาถึง คุณอาจารย์ก็ตามสไตล์เดิม ไปไหนรักสบายอยู่คนเดียวเลยนะ มีการแยกโรงแรมไปนอนที่อื่นคนเดียวด้วย เพราะว่า "นอนที่นี่ประจำ" แล้วมีมาอวดอาหารเช้าด้วย เห็นเราชอบ salmon เจอกันหน้าโรงแรมตอนเช้า (ซึ่งก็ late เป็นปกติ) มีการมาบอกว่ารู้มั้ย เมื่อเช้าไอทานอะไรเป็นอาหารเช้า "salmon" แล้วก็หัวเราะ พูดอย่างนี้ มาต่อยกันเลยดีกว่า เชอะ แถมไปถอยรถเจ้าถิ่นมาเป็นรถประจำตัวตอนที่อยู่ที่โน่นอีกต่างหาก แต่แหม ไปกันทั้ง class 12 คน รวมอาจารย์ 13 คน (เลขไม่ค่อยดีเลยแฮะ) เอารถใหญ่ๆ หน่อยก็ไม่ได้ เอา A-Class Saloon มาทำไมไม่รู้ ยังดี ที่อย่างน้อยมี 4 ประตู กะสบายคนเดียวเลยนี่หว่าคะ 'จารย์ อัดเต็มที่ได้ 5 คนเอง แล้วเพื่อนๆ เนี่ย ตัวเล็กกันจังเลยนะ เอาเป็นว่า ทั้ง trip ไม่เคยได้เหยียบเข้าไปนั่งเลย ขี้เกียจแย่งกับชาวบ้าน จ่ายค่ารถไฟ รถเมล์มาก็พอแล้ว อิอิ

ตอนจะไป ใครๆ ก็บอกว่าไม่ค่อยหนาวหรอก ยังไม่หนาวหรอก แล้วที่ italy มันก็ยังไม่หนาวจริงๆ แหละ แต่เยอรมันเนี่ย มันอยู่เหนือไปเยอะ นั่งรถไฟตั้งแบบ 18 ชั่วโมง บินกลับเมืองไทยได้เลยนะนั่น พอไปถึง หนาวจับจิต เสื้อที่เอาไปเอาไม่อยู่ซักตัว ไม่รู้จะโทษใครดี วันแรกไม่รู้จะทำยังงัย เพื่อนชวนออกมาเดินก็อ่ะมาแล้วไปก็ไป แต่ไม่ค่อยอยากออกเลย มันหนาว ลมมันบาดจริงๆ

โรงเรียนเลือกทำเลโรงแรมดีมาก อยู่กลางๆ เมืองเลย เดินไปถึง Kaiser-Wilhelm Church ได้สบายๆ
Kaiser-Wilhelm Church เนี่ย รู้จักกันในชื่อไทย (บัญญัติโดยคุณแม่) ว่าโบสถ์หัก เพราะยอดโบสถ์มันโดนระเบิดหักไป เหลือเท่าที่เห็น แถมข้างๆ เค้าสร้าง memorial tower ขึ้นมา ดูแล้วแปลกๆ ยังงัยไม่รู้


รูปของเราไม่มี ส่งกลับบ้านหมดแล้ว ขอยืมรูปมาหน่อยละกันนะคะ


ย่านนี้เป็นย่านการค้าเก่าของเยอรมันตะวันตก เจริญมาก ร้านเพียบ นึกถึงตอนไปคราวที่แล้ว ยังมีกำแพงเหลืออยู่เลย ตอนนี้ที่ไปก็ยังมี เหลือเป็นเศษๆ อยู่ในถุงพลาสติกขายนักท่องเที่ยว พร้อมรูปว่า สีนี้ เอามาจากรูปนี้บนกำแพงนะ -_-" เคยคิดเสียดายเหมือนกัน ตอนที่เค้าทุบทิ้ง แต่ว่ามันคงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเห็นอ่ะนะ ก็พอเข้าใจ
กลับมาเรื่องเดิมก่อน เมืองมันต้องเจริญแล้วแน่ๆ เพราะตรงข้าม โบสถ์ มันมากันแล้ว ร้านที่ไปทุกที่ ที่เจริญ Starbucks กับ the Gap กลายเป็นหน่วยวัดความเจริญไปแล้ว คนเพียบ แต่ก็ดี ได้เสื้อหนาวที่ช่วยให้รอดตายตลอด trip นี้แล้ว ^_^ ซื้อเป็นอย่างแรกที่นี่เลย

พยายามจะนึกอยู่ว่า ตอนไปใน trip เค้าสอนอะไรบ้าง พูดอะไรบ้าง จำไม่ค่อยได้เลยแฮะ จำได้แต่ที่คุยๆ กันกับเพื่อน กับเรื่องเที่ยวๆ สนุกๆ แย่จัง หรือว่าจริงๆ แล้ว เค้าไม่ได้สอนอะไรเลย 5 5 5 โทษการศึกษาอีกแล้วเรา ที่ประทับใจอีกอย่างคือ เดี๋ยวนี้เยอรมันเค้าเปลี่ยนไป บ้านเมืองเจริญหรูหรากว่าเดิม
แต่มันก็เจริญเป็นหย่อมๆ อ่ะนะ ค่อยๆ พัฒนาที่ละส่วน แต่เรียกได้ว่าสวยกว่าแต่ก่อนเยอะ แถมน่าเดิน ดูไม่อันตราย หรือเปลี่ยวๆ อีกต่างหาก แต่เพราะคราวนี้มีเพื่อนผู้ชายไปด้วยมั้ง คราวที่แล้ว ไปกันแต่ผู้หญิง (แต่ก็มีคุณลุงท่านฑูตพาเที่ยวเป็นพักๆ ขอบคุณอีกทีนะคะ ที่เอื้อเฟื้อที่พัก ให้ได้ซักผ้าที่แบกกันในเป้มานาน อิอิ บ้านพักสวยมาก แถมพาไปทานขาหมูสุดอร่อย และไปเที่ยวงานแฟร์ด้วย กลับไปคราวนี้ยังแวะไปที่บ้านเลยค่ะ แค่คุณลุงย้ายไปแล้ว น่าเสียดาย ไม่มีโอกาสไปทักทาย และขอบคุณนะคะ)



ที่จำได้ นอกเหนือไปจากทานอะไร ซื้ออะไรไปมั่ง ก็มีเรื่องแปลกๆ ของอาจารย์ ด้วยความที่ไปเดินดูเมือง ดูอาคาร บ้านเมืองต่างๆ บางที มีอะไรสวยๆ ก็จะชวนกันดู แต่บางที อาจารย์ก็ดุ่ยเข้าไปเลย คือ ไม่สนว่า มันเป็นที่ private หรือเปล่า ภาษาเยอรมันก็ไม่มีใครแตกฉานกันเลยนะ บางที เดินๆ เข้าไปกลายเป็นสวนหลังบ้านใครไม่รู้ หรือไม่ก็เดินเข้าไปในออฟฟิส ยืนอยู่กลาง lobby พูดๆ อยู่ซักพักก็เดินออก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นอีกต่างหาก เป็นมาตั้งกะที่อังกฤษแล้ว ตอนนั้นอายมาก เพราะเค้าเดินมาเชิญออก ยังดี ที่เค้ามีมรรยาทพอที่จะเชิญออก ไม่ได้เอาไม้กวาดมาไล่ๆ 555 -_-" อาจารย์ตูนี่ จริงๆ เลย 'จารย์ไม่อาย พวกหนูอายนะคะ นึกว่าฝรั่งเค้าจะไม่ทำอะไรอย่างนี้ซะอีก เพื่อนๆ ยังงงเลย



เดินๆ อยู่ในตัวเมืองวันสองวัน ก็ไปดูสภาของเค้ากัน หรือที่คุ้นๆ กันว่าโดมของ berlin นั่นแหละ (ใครจะคุ้นด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่พอบอกว่าโดมที่ berlin เหมือนจะอ๋อกันหมด) มันชื่อ reichstag (อ่านไม่ออก มิสามารถ) เป็นรัฐสภาบ้านของเยอรมัน พอรวมประเทศ เลิกเป็น communist แล้ว ก็เลยมีไอเดียว่า จะทำให้การปกครองโปร่งใส สะท้อนมาเป็นโดมใสๆ อันนี้ ที่สร้างครอบห้องประชุมเดิม ให้มองเห็นได้จากภายนอก ว่าไป คล้ายๆ ห้องที่ให้นักศึกษาแพทย์ดูการผ่าตัดเหมือนกันนะ วันไหนไปตรงกับวันประชุม ก็จะเห็นคนอยู่ข้างล่าง นั่งประชุมกัน ทำอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ คิดว่าคนทั่วไปคนไม่สนใจว่าใครประชุมข้างล่างหรอก แต่มันสวยมาก คนมาดูกันเยอะมากๆ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเลย ต้องเข้าคิวรอตั้งเกือบสองชั่วโมงแหน่ะ ไม่ใช่อะไร 'จารย์มา late ตามปกตินั่นเอง พวกเราก็เล่น hakisak รอตามปกติ เลยไม่มีใครกล้าไปเข้าคิวก่อน เพราะกลัวว่าพอถึงแล้วก็ต้องรอต่ออยู่ดี แถมอาจจะต้องไปเข้าคิวใหม่ -_-"

(hakisak เป็นเกมส์คล้ายๆ ตะกร้อในความคิดของเรา แต่เปลี่ยนลูกตะกร้อเป็นถุง bean bag เล็กๆ ขนาดประมาณกำปั้น เวลาเล่นใช้ได้ทุกส่วน ยกเว้นตั้งแต่ข้อศอกลงไปถึงปลายนิ้ว ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ใช้หัว เพราะเจ็บ แต่ถ้าเป็นคนหัวแข็งก็ตามสบายค่ะ 555 ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจริงๆ มันแข่งกันยังงัย แบ่งข้างแบบตะกร้อหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่เล่นกันคือเล่นเป็นวง ไม่ให้มันตก แล้วนับว่าได้กี่ที แล้วพยายามทำลายสถิติเดิม ^_^)



พอมองเห็นเก้าอี้ข้างล่างมั้ยเนี่ย แอบมองๆ ลงไปเห็นแต่คนทำความสะอาด อิอิ

คนคิดเก่งมากๆ เลย เป็นใครไปไม่ได้ ท่าน Sir Norman Foster นั่นเอง
นอกจาก idea จะดีแล้ว details ของตัวโดมเองเนี่ย เรียกว่าสุดยอด
คิดออกมาได้ยังงัยไม่เข้าใจ เอาชิ้นโน้น แปะชิ้นนี้ โค้งตรงนั้น หุบตรงนี้
ที่ไม่ดีอย่างเดียวคือมันเป็นโดม มันก็ต้องอยู่บนหลังคาบนสุด
เวลาไปดูก็ต้องเดินบนทางเดินที่เขาทำไว้ให้ เดินอยู่บนดาดฟ้า
แล้วความสูงกับเราเนี่ย ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เดินๆ ก็เหวอๆ เล็กน้อย
อยู่ในโดมไม่เท่าไหร่ แต่ออกมาเดินข้างนอกเจอลมนี่ สยองนิดๆ เหมือนกัน



อยู่ที่นั่นกันนานมาก เพราะหากันไม่เจอ เดี๋ยวคนนั้นหาย เดี๋ยวคนนี้หาย มันก็มีแค่นั้นอ่ะนะ ยังจะหายอีก แถม security เค้าก็โหดพอสมควร เวลาจะเข้าก็ต้องไม่เกินที่เค้ากำหนด เวลาออกก็เหมือนกัน จะไปเบียดๆ กันในลิฟท์เนี่ย ไม่มีหรอก แต่มันสนุกจริงๆ นะ ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้าคิวนานมาก คงอยากมาอีก




Create Date : 07 เมษายน 2548
Last Update : 11 กันยายน 2548 4:09:14 น.
Counter : 1000 Pageviews.

7 comments
  
วู้ว..สวยจิง

ไปกะโรงเรียนนี่ต้องขอวีซ่าที่ไหนอ่ะจ้ะ โกโก้
โดย: เกือกซ่าสีชมพู วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:13:23:47 น.
  
ขอบคุณค่ะ มาเร็วประจำเลยนะคะ ^_^

เรื่อง visa ตอนโกโก้ไปเรียนที่อิตาลีเป็น student visa อยู่ได้ 6 เดือน
พอได้ visa ของ italy ก็ไปขอ schengen visa ที่สถานฑูตฝรั่งเศส
เพราะเป็นประเทศแรกที่จะเข้าไปของเครือ schengen
ขอเป็น mutiple entries อ่ะค่ะ
ตอนที่โกโก้ขอ ขอไปจากเมืองไทยเลย ถ้าที่นี่ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ลองเช็คตามเวปสถานฑูตของประเทศที่อยากไปดูนะคะ
โดย: cocoa butter วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:14:02:47 น.
  
ขอบคุณมากจ้ะโกโก้ ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย ว่าจะไปตอนปิดเทอม ฟอลหน้า ไปอิตาลี่ อ่ะ อยากไปจัง ... สงสัยต้องขอคำแนะนำจากโก้ แล้วว่าต้องเดินทางยังไงมั่ง จะแบ๊กแพกไปอ่ะจ้ะ
โดย: เกือกซ่าสีชมพู IP: 67.119.241.142 วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:15:26:27 น.
  
รูปสวย มุมมองเยี่ยมค่ะ

ชอบมาก
โดย: ~nawo~ วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:16:38:17 น.
  
ชอบรูปที่โกโก้ถ่ายมาก ๆ
ไม่งั้นไม่หลงมาบล๊อกนี้และมาบ่อย ๆ
เสมอ ๆ แน่

แต่....เนื้อหาแยะ....ขอมาอ่านวันหน้านะคะ
วันนี้เหมือนคนจะจมน้ำค่ะ
รีบไงไม่รู้.....กัวเครื่อง....มะเป็นใจ เฮ้อ
โดย: มีอมยิ้ม วันที่: 21 เมษายน 2548 เวลา:18:22:55 น.
  
มาเป็นเพื่อนคุณข้างบนค่ะ เพราะว่าหลงเข้าบล็อคมาบ่อยๆ เพราะติดใจเรื่องราวดีๆ และรูปสวยๆ ค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 14 มิถุนายน 2548 เวลา:14:15:47 น.
  
เฮ้อ เห็นแล้วก็อยากไปบ้างเจงๆ
โดย: tabebuia วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:16:39:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cocoa butter
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]