ฺบินเดี่ยว สู่ Scandinavia

    และแล้ววันเดินทางของเราก็มาถึงบอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไง  ดีใจ เสียใจตื่นเต้น

       ออกเดินทางถึงสนามบินประมาณตีห้าครึ่ง

นั่งรอสักพัก เค้าน์เตอร์เช็คอินเปิดเราก็มุ่งหน้าไป เช็คอิน

         ยื่นพาสปอต กับ travel document ให้ พร้อมกับเอากระเป๋าขึ้นชั่งน้ำหนัก

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ดูพาสปอต และ วีซ่าก็ถามเราว่า ไปทำอะไรที่นั่น

เราก็บอกว่าไปทำงาน เค้าก็ทำหน้าประหลาดใจ

แต่ในวีซ่าให้แค่ 30 วันนะครับ  ทำไมเอาของไปเยอะจัง  /

ค่ะ  เดี๋ยวไปถึงต้องไปทำเรื่องอยู่ต่ออีกคะ มากมายบอกไม่ถูก 555 เค้าก็เข้าใจ 

   หลังจากผ่านด่านตรวจ  และ ตม. มาแล้วก็มุ่งหน้าสู่ เกท กันเลย เลขที่ออก คือ E3

น                                          ยังไม่ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็ต้องนั่งต่อไปจ้า

          ที่นั่งของเราในวันนี้คือ C3 อยุ่ข้างหน้า งั้นเราไม่รีบ นั่งรอให้เค้าไปกันก่อน

ทิ้งช่วงสักพัก เดินตามเข้าไป เอิ่ม !!การจราจรแออัดมาก เดินถอยออกมาตั้งหลักรอ

รอจนคนเข้าไปเกือบหมด เราก็เดินตามไป แบบ โล่งๆ

แอบลุ้นระทึกว่าคนที่นั่งข้างๆ จะเป็นใคร

อยู่บนเครื่องบิน ไม่มีอะไรทำนอกจาก  ดูหนัง ฟังเพลง เข้าห้องน้ำ นอน กิน

อาหารมื้อแรกบนเครื่องบิน

มีขนมเค้กให้กินด้วย

อาหาร เป็นไก่อบกับมันฝรั่ง   อร่อยดีเหมือนกัน  หรือ เพราะหิวไม่รู้

กินอิ่ม  ก็นอน 555

มื้อที่สองเป็นขนมปังไส้ชิส และ มะเขือเทศ   

ผลไม้  เค้ก และ โยเกิร์ต

ความตื่นเต้นมาเยือนอีกครั้ง เมื่อถึง Stockholm ออกจากเครื่องได้ ก็ เหวอ เลย

เพื่อนบอกให้มองหา ป้าย Transfer

มองไปปุ๊ป เห็น Transferinformation แต่ทำไมคนเดินเข้าไปแล้วก็ออกมา แบบ งงๆ

พอใกล้ถึง ตม . จะมีช่องสำหรับพาสทั่วไป กับ พาส อียู

เราเห็นแล้วแต่ยังไม่ได้เดินไป ยืนดูเชิงก่อน 555

ก็มีคุณพี่ชาวต่างชาติคนนึง มาจับแขน แล้วกระซิบเบาๆว่า ของเธอต้องเดินไปนู้นนะ

และแล้วก็ถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่ ยิงคำถาม มาประโยคแรก คือ พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย

มาครั้งแรกใช่มั้ย  เธอจะไปไหน ไปทำอะไร แต่เจ้าหน้าที่เธอก็น่ารักมาก

พูดช้า ๆ และ บอกว่า เธอต้องลงไปข้างล่างนะ เพื่อที่จะต่อเครื่อง

ลงมาชั้นสามเจอประตูเหมือนห้องอะไรซักอย่างหน้าประตู เขียนว่า Transfer

คิดว่าคงไม่ใช่ เพราะมันเป็นประตูเล็กๆ เหมือนห้องอะไรสักอย่าง

สรุป ลงไปถึงที่รับกระเป๋า พร้อมคิดได้ว่า ไม่ใช่ละ

เลยไปถามทาง ก็เดินย้อนไปชั้นสามอีกรอบ ยืนเก้ๆกังๆ อยู่หน้าห้อง

เห็นเจ้าหน้าที่รูปหล่อเดินมา เราเลย ยื่นตั๋วให้ดู เค้าเลยเปิดประตูให้

เครื่องออก 6 โมงครึ่ง แต่ ได้ขึ้นเครื่องตอน 6 โมงกว่า

มาเร็ว ไปเร็ว มาก

รอผู้โดยสารท่านอื่น ขึ้นเครื่อง

ใช้เวลาประมาณ 1  ชั่วโมง ก็ มาถึงออสโล 

จากนั้นก็นั่งรถต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง

เพื่อ ไปที่ kongsberg 

บรรยากาศ ระหว่างทาง

ถึงบ้านโฮส เก็บของเสร็จ ก็ นอนเลย  เพราะ ค่ำแล้ว แต่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่เล้ย

Create Date : 06 มีนาคม 2558 Last Update : 3 มิถุนายน 2558 13:36:15 น. Counter : 542 Pageviews.		0 comments
Share Tweet