เกียวโต..ราเมน..วันสุดท้ายค่ะ
วันนี้...เป็นการเที่ยววันสุดท้ายแล้วค่ะ..ก่อนนอนทำแผนไว้ว่าจะไปเที่ยว Nara ค่ะ...แล้วก็ Horyuji Temple ซักหน่อย บ่าย ๆ กลับมาเก็บตกแถว Ginkakuji Temple และ Path of Philosophy ..ด้วยค่ะ เพราะวันแรกที่มาถึง..ซากุระยังไม่บานจำได้ใช่มั้ยคะ... เพราะเป็นแผนใหม่คิดสด ๆ เมื่อคืนนี้ จึง เขียนใส่กระดาษไว้แต่หาไม่เจอค่ะ เลยจำรายละเอียดการเดินทางไม่ได้...รู้แต่ว่านั่งรถจาก Shichijo มาต่อ JR ไปเมือง Naraค่ะ... ตามแผนเที่ยวจำได้ว่ามีปราสาทอยู่แห่งหนึ่ง...แต่ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร อาจเป็นปราสาทที่อยู่ในเมืองเกียวโตก็ได้ค่ะ แต่สุดท้ายทั้งทริป...ยังไม่เจอปราสาท...ซักหลังเลยค่ะเจอแต่ประสาท... เอาล่ะ..เป็นอันตกลงใช้แผนเที่ยวอันนี้ก็แล้วกัน....เปิดกระทู้ด้วยคลิปส่วนตัว....ซึ่งลงทุนมาก..ถือว่าเป็นการเปิดตัวก็แล้วกัน.. https://www.youtube.com/watch?v=yw6rsh0Rlf4 วันนี้จะเป็นวันแรกที่ใช้บริการรถไฟค่าย JR เพราะว่าการไป นารา ไม่มี Subway ค่ะถ้ามีก็คงนั่งไป...แล้วค่ะ ระหว่างทางที่นั่ง ..คนบนรถเหลือน้อยมาก ใจคอชักไม่ค่อยดี ไม่ค่ะ...ไม่ได้กลัวอะไรเลยซักกะติ๊ด...นอกจากกลัวจะหลงค่ะ.. บังเอิญสาวน้อย..ที่นั่งตรงข้ามกัน เค้ายิ้มให้..ก็เลยถามเค้าว่ารถไฟขบวนนี้จะไปถึงนาราใช่มั้ยจ๊ะ...สาวน้อย...ตอบว่าใช่จ๊ะ หลังจากนั้นก็คุยกันอย่างออกอรรถรส... คนหนึ่งภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่น...กะอีกคนภาษาอังกฤษปนภาษาไทย (แถมหูตึงอีกตะหาก...) สุดท้ายสาวเจ้าใจดีมาก...พามาส่งที่ป้าย Bus หน้าสถานีนั่นแหละค่ะ...แต่จริง ๆ แล้วหาไม่ยากนะคะ อยู่ด้านหน้าสถานีนั่นเอง อีตอนขึ้นรถเมล์นี่ได้ปล่อยไก่ไปฟาร์มหนึ่ง...ไม่เหลือแม้ซักตัวเดียว คือว่า กล่องเก็บเงินที่อยู่ข้าง ๆ คนขับ จะมีอยู่สามช่อง...ช่องแรกน่ะ ใช้บัตรแตะโดยดูจากลักษณะค่ะ (บัตรอะไรก็ไม่รู้นะคะ ใครรู้กรุณาบอกหน่อย) ส่วนช่อง 2 และ ช่อง 3 ที่เหลือ...เป็นช่องสำหรับหยอดเหรียญค่ะ ป้าก็ไม่รู้ว่าจะหยอดหลุมไหนดี...ราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ค่ะ ที่จริงหน้าจอที่อยู่ด้านหน้ารถนั้น มีบอกค่ะ แต่ว่ามันขึ้นราคาเป็นพรืดดดดดด...เลยค่ะ ไม่ได้ใส่แว่น...เลยอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ทันค่ะ.... สุดท้าย ตัดสินใจหยอดหลุมใกล้ตัวค่ะโดยใช้เหรียญ 500 yen...ผลปรากฏว่าเหรียญย่อยร่วงกราวลงมาเลยค่ะ...พขร. เค้าก็เลยเอื้อมมือมากวาดเหรียญไป นับแล้วคืนมาให้จำนวนหนึ่ง(ไม่ได้จำค่ะว่าทอนมาเท่าไหร่) ที่เหลือแกก็เอาไปหยอดลงช่องกลาง...เฮ้อ..เหนื่อยแต่เช้าเลยวันนี้พอ Bus มาก็ขึ้นไปค่ะ...ทำใจดีสู้เสือ นั่งมองจอไปเรื่อย ๆ จะลงไหนดีว๊า...ลงป้ายนี้ดีกว่า...เลขสวยดี... ที่จริงถามเค้ามาบ้างแล้วค่ะ จากสถานี...ว่าเราจะไปเที่ยว Nara Park จะไปยังไงก็เลยทราบว่าควรลง ป้าย 7 ลงปั้บมองย้อนลงมาก็เห็นทางเข้าวัดค่ะ ก่อนจะเข้าวัด...ยังอดชมซากุระ...ที่มีอยู่น้อยนิดไม่ได้ค่ะ.. สังเกตดูว่า ยังไม่บาน หรือมีน้อยก็ไม่รู้ค่ะ เพราะว่าถ้ามีเยอะ มันก็คงยังตูมอยู่ เราเลยมองไม่เห็นค่ะ เดินเข้าไปจะเห็นทางเข้าใหญ่โตมากค่ะ...ต้องบอกว่าวัดที่นี่ใหญ่มาก ทั้งบริเวณวัด และตัววัด แม้กระทั่งพระพุทธรูปค่ะ อีกภาพค่ะ เดินเล่นซักพักหนึ่งค่ะ ...พักใหญ่เหมือนกัน เพราะเดินไปเรื่อย ๆ ชมนู่น..ชมนี่ภายในวัดมีร้านค้าด้วยค่ะ อยู่ในโบสถ์ น่าจะเป็นร้านค้าของวัด เพราะขายแต่เครื่องราง ของขลัง...พอได้เวลา ก็กลับออกมาค่ะ ภาพนี้ถ่ายก่อนกลับค่ะ...อยู่ด้านในสวยมากค่ะต้นนี้ ตอนแรกคิดว่าข้างในไม่มีอะไรจะไม่เข้ามาอยู่แ้ล้ว แต่ได้เอื้อมมือลอดลูกกรง มาถ่ายซากุระต้นนี้ แต่ไม่ถนัดเลยต้องเข้ามา...ถ้าไม่เข้ามาก็เสียดายแย่เลยค่ะ นักท่องเที่ยวกำลังให้อาหารกวาง... ส่วนภาพนี้ใครทราบเฉลยหน่อย...คือว่าตอนเดินเข้าไปเห็นคนยืนเข้าแถวกันประมาณสิบคน นาฬิกา...เข้าใจว่าเป็นห้องน้ำค่ะ...เรายังไม่จำเป็น ก็เดินเลยไปก่อน แต่พอตอนออกมา...ถาวยาวเฟื้อยยยย....ยาวจริง ๆ นะคะ ไม่ได้พูดเล่น ก็เลยคิดว่าข้างในต้องมีอะไรดีแน่เลย (แอบเสียดายค่ะ) แต่แถวยาวมาก และโปรแกรมแน่นขนัดเลยต้องขอลาค่ะ ออกจากวัดได้ ก็เดินย้อนกลับไปป้าย Bus ที่ 6 ค่ะ เพราะเห็นผู้คนคึกคัก...แล้วก็มีวัดด้วยค่ะ...ไม่ทราบชื่อจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นวัด Daibutsudenmae หรือเปล่าไม่ใกล้...แต่ก็ไม่ไกล ...และไม่เหนื่อยค่ะ.เป็นภาพด้านหน้าวัดค่ะ ที่จริงวันนี้ถ่ายรูปเยอะค่ะ แต่เลือกมาให้ชมแต่เพียงบางส่วนค่ะ มาชมซากุระ ค่ะ...เห็นตั้งแต่นั่งรถผ่านแล้วค่ะ อีกซักพวง...ก็แล้วกันค่ะ.... หลังจากชมวัด ชมคน ...คนเยอะค่ะ...แล้วอีกอย่างบริเวณวัดไม่กว้าง...การจราจรก็เลยติดขัดเป็นธรรมดา...แถมด้านหน้าวัดเองรถก็ติดเหมือนกัน.....กลับบ้านเรา..เอ๊ยกลับเกียวโตดีกว่า...(เหมือนจะเที่ยวไม่คุ้ม..นั่งรถเป็นชั่วโมงค่ะ) เมื่อวานหลังจากที่หม่ำราเมน ที่ตึก Iseton ไปแล้ว...และได้ตั้งใจว่าวันนี้จะกลับมาหม่ำซ้ำอีก...ก็ไม่ให้เสียความตั้งใจค่ะ...พอมาถึง...เปลี่ยนใจค่ะ เดินหาร้านใหม่ก็แล้วกันเดินเยอะมากค่ะ (ที่เปลี่ยนใจเพราะว่า เมื่อคืนก่อนนอนได้เข้ากระทู้ของใครก็ไม่ทราบพูดถึงเรื่องร้านอาหารที่ตึก Iseton ค่ะ) ซึ่ง ก็คือตึกที่กำลังเดินอยู่นี่แหละค่ะ...ชั้น 10 และ ชั้น 11 ค่ะ ..โดยเฉพาะ ชั้น 11ตอนขึ้นลิฟท์มา เค้าเรียกว่าชั้น Eat Paradise เชียวค่ะ (ถ้าจำผิด ใครทราบช่วยแก้ไขด้วยค่ะ) แต่นาฬิกา...ไปแค่ชั้น 10 ค่ะ เค้าว่ามีราเมนอร่อย...ก็มาเจอะร้านนี้ค่ะ ยืนเลือก ๆ ตามตู้ซักพัก หยอดตังค์ลงไป ก็ได้ตั๋วมาใบหนึ่ง เหมือนรีวิวเก่า ๆในห้องนี้บอกไว้เลยค่ะ...ซักครู่ เค้าก็มาเชิญให้เข้าไปในร้านค่ะ รออีกประเดี๋ยว...ชามนี้ก็มาค่ะ .อาหย่อยยยย...แต่พอใกล้จะหมด เหมือนจะเค็มไปหน่อยค่ะ หลังจากอิ่มแล้วก็ออกไปเดินเล่นที่ชั้นบน เค้าเรียกว่า Sky Walk หรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะเดินเล่นอยู่ซักประเดี๋ยว...พอดีกว่า...เพราะระหว่างที่เดินก็คิดไปต่าง ๆ นานา ว่าพื้นมันทะลุอีตอนเราเดินอยู่ แล้วจะทำไงหว่า...(ถ้ามันจริง...ก็คงไม่ต้องทำอะไรหรอกมั้ง คนอื่นคงทำให้หมด...) พอเบื่อที่สูง ๆ ใส ๆ ก็ตัดสินใจย้ายสถานที่เดินค่ะ...ไปเที่ยวGinkakuji Templeและ Path of Philosophy กันดีกว่าค่ะ... ซากุระ...ยังบานไม่มากค่ะ รวมทั้ง มีนักท่องเที่ยวมากกว่าวันแรกที่ไปบรรยากาศ คึกคัก..ค่ะ เดินชมซากุระไปเรื่อย ๆ อากาศดี ถึงจะมีแดด แต่อากาศก็ยังคงเย็นอยู่ค่ะ วันนี้ไม่ได้เข้าไปในวัดแล้วค่ะ คงเดินอยู่แถว ๆ รอบนอกค่ะ ใครที่ตามหลัง นาฬิกา...มาที่นี่ในอีกอาทิตย์หนึ่งข้างหน้านี้ ต้องได้ชมซากุระแสนสวยที่ถนนเส้นนี้แน่ ๆ ค่ะ...เอามาโชว์ซะดี ๆ เดินไปจนสุดถนนของเส้นทาง Path of Philosophy แต่ขากลับย้ายลงมาเดินอีกฝั่งหนึ่งค่ะ คือเดินผ่านแถวร้านค้า และบ้านเรือน...พบดอกไม้สวย ๆ เช่นเคยค่ะ มีร้านทำฟัน...ด้วยค่ะ ร้านน่ารักเชียว... หลังจากเดินจนเต็มอิ่มแล้ว...เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนี่เนอะ...เดินนาน ๆ หน่อย ก็แล้วกัน..นึกขึ้นมาได้มายังเหลือที่เที่ยวอีกแห่งค่ะ น่าจะเป็นปราสาท..อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ๆ ค่ะก็นั่ง Bus ไป (วันนี้ใช้ตั๋วเหมา 500 yen ) ค่ะ รถติดพอสมควร...แต่อยู่ในประมาณที่พอรับได้ อาจเป็นช่วงที่คนเลิกงานด้วยมั้ง...รถยังไม่ถึงที่หมายค่ะ แต่แอบเห็นสถานท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่เรายังไม่ได้แวะ...เสียดายจัง...(อันนี้นึกอยู่ในใจตอนนั้น) แต่ก็ต้องทำตามแผนที่วางไว้ให้สำเร็จซักวันหนึ่งก็ยังดี รถเมล์กำลังจะจอดป้ายค่ะ แถวไหนก็ไม่รู้ แต่เดี๋ยวคงได้รู้ค่ะ..ดันมองเห็นต้นซากุระบานอยู่ริมคลอง เยอะพอควรค่ะ...ซัก สามสิบ..-สี่สิบต้นได้ค่ะ...เห็นปั้บ...ลงปุ๊บ...แต่ข้อนี้นาฬิกา...ไม่โทษตัวเองค่ะ..โทษรถที่จอดนาน...ก็นานพอที่จะตัดสินใจลงไปค่ะ เพราะถ้าเป็นรถเมล์บ้านเรา...คงลงไม่ทันค่ะ แต่ รถที่นี่เค้าจอดนานนะคะ คือคนต้องลงหมดเรียบร้อยและคนขึ้นหมดแล้ว เค้าถึงจะออกรถ บางคันที่สังเกตเวลาจอดดับเครื่องด้วยซ้ำค่ะ ดังนั้น จากปราสาท ก็กลายมาเป็น..ซากุระแทน...ชมให้เต็มอิ่มไปเลยก็แล้วกัน ต้องเดินบนฟุตบาทเท่านั้นค่ะ เพราะตรงถนน รถวิ่งขวัก..ไขว่..มาก สังเกตดู แถวนี้ บรรยากาศกลางคืนน่าจะคึกคักค่ะ..พอเดินชมซากุระ จนสุดถนน ก็เดินย้อนกลับมาชมอีกรอบก่อนจะลาเกียวโตไปค่ะอ้อลืมเล่าไปนิดหนึ่งค่ะ ตอนที่ลงจาก Bus แล้วข้ามถนนมาชมซากุระ เห็นถนนเส้นนี้ค่ะ...สำหรับผู้ที่เคยมาคงรู้แล้วล่ะว่า นาฬิกา...มาชมซากุระจุดไหน เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวค่ะ...แวะเข้าไปซิคะ อย่ารอช้า...เสียเวลาที่สองร้านนี้พอควรค่ะ เดินจนมืดเลยนะคะ ประมาณทุ่มกว่า ๆ หิวซิคะ...เลยตัดสินใจนั่ง Bus กลับไปสถานีเกียวโต...กลับไปที่นี่ค่ะ....หมายตาไว้ตั้งแต่อิ่มท้องจากร้านราเมนตาม คห 20 ทำไมถึงต้องกลับมาร้านนี้ใช่มั้ยคะ...เพราะว่าจากหม่ำมื้อกลางวันเสร็จเดินผ่านเห็นคนเข้าแถวรอ...กดตู้...ยาวพอควรค่ะ...พอเลือกได้แล้ว ...ก็เข้าไปในร้านกันค่ะไปรอกันหน่อยนะคะ มาแล้วค่ะ ชามนี้.....ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ ที่ลงทุนตั้งใจย้อนกลับมาที่นี่อร่อยจริง ๆ ค่ะ ...(จริง ๆ แล้วอร่อยทุกร้านเลยค่ะ) การเดินทางสิ้นสุดลงแล้ว..และหลังจากผ่านมาหลายวันแล้วเช่นกัน....เมือนึกย้อนหลังไป.....ยังไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่า.....นาฬิกา..ได้เดินไปเกียวโตมาแล้ว....หลายคนอาจจะคิดว่ามันก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าที่อื่น ๆ ในโลกหรอกมั้ง แต่สำหรับนาฬิกา...แล้ว...คิดว่ามันมีความหมายมากกว่าการเดินทางค่ะขอบคุณทุกท่าน...ที่มีส่วนช่วยให้การเดินทางลุล่วงไปด้วยดี
ยิ่งถ้าได้ดูดอกซากุระล่ะก็ไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในญี่ปุ่นเลยค่ะ