Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
16 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 
ความรักกับการหลอกตัวเอง


ไปอ่านกระทู้แนะนำห้องสวนลุมมา
***ในเรื่องของความรัก ...ทำไมชอบหลอกตัวเองกันจัง**
อ่านแล้วชอบมากเลย ขออนุญาตก็อปมาเก็บไว้ในบล็อกนะคะ

*************************************

สงสัยว่าในเรื่องของความรัก ทำไมหลายๆ คนไม่ยอมรับ "ความจริง" ที่อยู่ตรงหน้า? ทำไมต้องหลอกตัวเอง ทำไมต้องตั้งคำถามอีก ...ในเมื่อคำตอบมีอยู่ตรงหน้า?? ทำไม??

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนเอง และคนรอบข้าง มันทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อความสัมพันธ์ เปลี่ยนไป ความรักไม่เหมือนเดิม คนข้างกายเปลี่ยนไป ไม่ว่าเขา หรือคุณๆ จะอ้าง จะหลอก จะโกหกยังไง แต่สุดท้ายมันก็หนีความจริงไม่พ้นไม่ใช่หรือ??

ตัวอย่างเช่นเพื่อนมีแฟน คบกันมานาน ฝ่ายชายไม่เคยพาไปพบครอบครัว คบมา 3-4 ปี ก็ไม่พาไป อ้างนั่นอ้างนี่ ยิ่งหลังๆ แฟนเปลี่ยนไป โทรหาน้อยลง บางทีก็หายหัวออกจากบ้านโทรไปไม่อยู่ มือถือไม่รับ พอโทรกลับมาก็บอกพอดีไปธุระข้างนอก??? บางทีบอกว่าวันนี้เหนื่อยอยากอยู่บ้านขอไม่ไปเที่ยวด้วย แต่วันต่อมาหลุดปากมาว่าวันก่อน (วันที่บอกว่าจะอยู่บ้าน) บังเอิญเจอเพื่อนคนนั้นๆๆ ที่สยาม???

ไอ้ฝ่ายเพื่อนเราก็หลอกตัวเองไปสิ ว่าเขาไม่ว่าง เราเข้าใจเขา เขาไม่มีอะไร...แต่..... เข้าใจแล้วทำไมโทรมาร้องไห้กับเรา ไม่คิดมากทำไมร้องไห้ทุกวัน ทำไมเฝ้าเพียรโทรจิก

อยากบอกเพื่อนว่า "รับความจริงเถอะเพื่อน คำตอบอยู่ตรงหน้า" เท่านั้นเอง คุณๆ ที่อ่าน เข้าใจคำตอบไหมคะ? เข้าใจไหมคะว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่คนคบๆ กันอยู่ๆ จะมาโกหก มาหลบๆ ซ่อนๆ มาไม่รับสายบ่อยๆ??

จะหลอกตัวเองไปอีกนานแค่ไหน เพราะสุดท้ายผ่ายชายก็จากเธอไปอยู่ดี??

เพื่อนอีกคนหนึ่ง แฟนหล่อนไปมีคนใหม่ แต่ก็ยังโทรมาคุยกับหล่อนบ้าง แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น นานๆ โทรที แค่โทรมาถามว่าเป็นไง สบายดีไหม ทำอะไรอยู่ วันหลังไปกินข้าวกัน (แต่ก็ไม่เห็น "วันหลัง" ที่ว่าจะมาถึงเสียที)....

เจ้าหล่อนเพียรตั้งคำถามในใจ เขาอยากง้อเราใช่ไหม? เขาคิดถึงเลยโทรมาใช่ไหม? เอ..หรือเขาอยากง้อแต่ไม่กล้า...

เพื่อนเอ๋ย.. คำตอบอยู่ตรงหน้า ถ้าเขาอยากกลับมาจริงๆ เขามานานแล้ว นี่เห็นเดือนนึงโทรมา 2-3 ครั้ง ไม่เคยมาหา ไม่เคยมากกว่านั้น เพื่อนทำไมต้องถามอีก???

ในเมื่อสุดท้าย คำตอบก็เหมือนเดิม เมื่อเธอเอ่ยปากถามฝ่ายชาย (ด้วยใคร่ครวญคิดสรุปเอาเองแล้วว่า สงสัยเขาอยากง้อ แต่ไม่กล้า งั้นฉันลองเสนอเอง) ว่าอยากดีกันไหม ...คำตอบก็คือฝ่ายชายหายหัวไปเลย และเธอ.... นั่งร้องไห้เหมือนเดิม

ต่อมาเรื่องของผู้ชายบ้าง อยู่ๆ แฟนสาวมาขอเลิก ชายหนุ่มก็ร้องไห้ฟูมฟาย ผ่านไป 2 สัปดาห์ สาวเจ้าโทรมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มาบอกให้มารับไปเที่ยว กินข้าว ฯลฯ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น นึกอยากโทรหล่อนก็โทร อยากหายไปไม่รับสาย หล่อนก็หายไปเลย พอไปหลายๆ ครั้งเข้า ไอ้เพื่อนเราเกิดได้ใจ นึกว่าจะกลับมา เลยโทรหาเหมือนเดิม สาวเจ้าจะไปไหนก็คอยเฝ้าถาม ใจก็คิดไปว่าเธอคงอยากเหมือนเดิมแต่คงไม่กล้า งั้นลองง้อดู ที่ไหนได้ ผู้หญิงบอก "เป็นเพื่อนกันนะ" สรุปหนุ่มน้อยต้องร้องไห้รอบต่อไป....

อยากบอกทุกคนที่กำลังมีปัญหาว่า................

1. ยิ่งคุณรับความจริงได้เร็วแค่ไหน คุณจะเจ็บน้อยลงและหายเร็วขึ้นแค่นั้น อย่าหลอกตัวเองเลย
2. เมื่อมีเหตุการณ์ที่ "ไม่ปกติ" เช่นโทรไปก็ไม่รับ หายไปโดยไม่บอกบ่อยๆ อ้างนั่นอ้างนี่ ไม่ค่อยมาหา โกหกบ่อยครั้ง หยุดอ้างกับตัวเองเถิดว่า "ไม่มีอะไรหรอก" ยอมรับเถอะ ความรักของคุณจบแล้ว และเดินออกมา อยู่ต่อไปคุณก็ต้องเจ็บอยู่ดี เจ็บกว่าการที่คุณยอมรับแต่แรกเสียอีก ถ้าเขารักคุณ เขาย่อมไม่ยอมให้คุณจากไปแน่นอน แต่นี่...คุณไม่เห็นจริงๆ หรือ???
3. อย่าตั้งคำถาม ทำเป็นไม่เห็นคำตอบไปเลย คุณเห็นคำตอบชัดเจนดีอยู่แล้ว เพียงแต่คุณจะรับมันหรือไม่เท่านั้นเอง


การหลอกตัวเอง ทำได้แค่ "ยืดระยะเวลา" เท่านั้น ซึ่งเวลาที่ยืดออกไปทุกวันๆ ก็คือเวลาของความเจ็บปวด ทำไมวันนี้ไม่โทรมา? ทำไมไม่รับ? ออกไปกับใคร? ติดสายอีกแล้วหรือ? โกหกหรือเปล่านี่? เหล่านี้คือคำถามที่ทิ่มแทงใจคุณเอง

โดนคนอื่นหลอกก็เจ็บพออยู่แล้ว มันเจ็บมากกว่าถ้าคุณช่วยคนอื่นที่ว่าโกหกตัวเองซ้ำลงไปอีก เพียงเพราะความอ่อนแอ ไม่รับความจริงของตัวเอง


คุณยังมีชีวิตอีกนาน ออกมาจากหลุมแห่งการโกหกนั้นเถอะ เดินออกมาพบแสงสว่างเสียที เข้าใจว่าการปีนขึ้นจากหลุมมันเหนื่อย ทรมาน เหน็บหนาว และเจ็บเพียงไร แต่การโกหกตัวเองก็ไม่ต่างกับการช่วยถีบตัวเองให้ลงหลุมลึกนั้นหรอก

หยุดเถอะ
ทำร้ายตัวเองทำไม??
****************

เฉลยเหตุการณ์ทั้ง 3 ตัวอย่างที่ยกมา

- เรื่องแรก สรุปว่าฝ่ายชายไม่คิดจริงจังด้วยแต่แรก คบเพราะตอนนั้นเหงาเนื่องจากอยู่ห่างบ้านห่างเมือง แต่ฐานะต่างกันเกินไป ฝ่ายชายใคร่ครวญแล้ว จนมาวันหนึ่ง เขาพบหญิงสาวที่คู่ควร เลยเปลี่ยนไป (กว่าเพื่อนเราจะรู้ กว่าเธอจะยอมรับ เธอเจ็บนานมาก)
-เรื่องที่ 2 ฝ่ายชายมีคนอื่น แต่ด้วยความผูกพันธ์เลยยังโทรมาคุยกับเพื่อนเราอยู่ แค่ผูกพันธ์และห่วงใยในแบบเพื่อนเท่านั้น เขามีแฟนใหม่และชีวิตใหม่แล้ว จึงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเมื่อเพื่อนเราขอคืนดี และหายไปเมื่อเพื่อนเรารุกหนัก เนื่องด้วยกลัวจะเกิดปัญหาเรื้อรัง...เพื่อนเราเจ็บ เพราะไม่รับความจริงแต่แรก แทนที่จะได้เริ่มชีวิตใหม่ตั้งแต่เลิกกันไปทีแรก กลับต้องมาเจ็บซ้ำซาก จากการหลอกตัวเอง

เรื่องที่ 3 ฝ่ายหญิงไปมีใหม่จริง แต่ความสัมพันธ์กับคนใหม่ลุ่มๆ ดอนๆ เมื่อเหงา จึงโทรหาคนเคยหวังดี สรุปเพื่อนเราเป็นแค่เครื่องแก้แหงาเท่านั้น แต่ใจของสาวเจ้า ใหคนใหม่ไปหมดแล้ว ............เพื่อนเราเจ็บอีกครั้ง เพราะคิดไปเอง
.
.
.
.
ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บแบบนี้ค่ะ

ดีใจที่มีคนเข้าใจในกระทู้

นึกว่าจะมีคนด่าว่าคนเขียนไม่มีหัวใจ หรือเลิกอ่านกลางคัน เพราะมันยาวซะอีก

ที่เขียนนี่ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย มีอย่างเดียวตรงๆ คือ "อยากให้ทุกคนไม่เจ็บปวด หรือเจ็บปวดน้อยที่สุด"

รู้.... ว่าในทางปฏิบัตินั้นยากแค่ไหน ผู้เขียนก็เป็นคนที่เคยมีรัก เคยเจ็บ ...และเคยหลอกตัวเองเช่นกัน

แต่ผลสุดท้าย กับครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผ่านมา จุดจบมันก็คือความจริงที่หนีไม่พ้นคือ"เขาหมดรัก" หรือ "รักคนอื่นแล้ว" อยู่ดี กี่คน กี่คู่ที่คุณเห็นๆ กันในชีวิต ที่เมื่อเกิดปัญหา ฝ่ายที่เป็นทุกข์พยายามหลอกตัวเองว่า "ไม่มีอะไร" และสุดท้าย ผลที่ออกมามันเป็นยังไง เคยไม่มีอะไรจริงๆ ด้วยหรือ??

โลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีหรอกที่ผลลัพธ์จะเหมือนอย่างในละคร ที่พระเอกนางเอกเข้าใจผิดกันด้วยเหตุจำเป็น เช่น พระเอกเป็นโรคร้าย กำลังจะตาย เลยต้องทำเลวให้นางเอกตัดใจ หรือนางเอกเข้าใจผิดเพราะตัวร้ายมาแกล้ง

มันไม่มีหรอก ไม่มีจริงๆ รับความจริงเถอะ

- เขาแสดงออกเหมือนชอบเรา แต่ไม่ยอมรับเราเป็นแฟน ถามก็บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน บางทีก็หายไปเฉยๆ ตกลงเขารักเราหรือเปล่า?
- แฟนสนิทกับเพื่อนที่ทำงานคนนึงมาก โทรคุยกันทุกวัน อยู่กับเราปิดมือถือ แต่มีข้อความเข้าบ่อยๆ เราคิดมากไปหรือเปล่า?
- เธอเป็นแฟนผม แต่ยังแอบคุยกับแฟนเก่า บางทีหายไปโดยไม่บอก เกิดอะไรขึ้น?
- แฟนบอกว่าห่างกันเถอะ เพราะเขาอยากขอเวลาอยู่คนเดียวมากกว่า เขายังรักเราไหม?

กับคำถามข้างบน คนถามคงอยากได้ยินว่า "ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก" ใช่ไหม? และในความเป็นจริง สุดท้ายแล้วมันเคย "ไม่มีอะไร" จริงๆ สักครั้งไหม?

แค่อ่าน ก็รู้คำตอบได้ทันทีใช่ไหม เพราะคำตอบ มันอยู่ในคำถามเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ผู้ถาม "จงใจมองไม่เห็น" เท่านั้นเอง

"ถูกคนอื่นหลอกก็เจ็บพออยู่แล้ว ตัวเองหลอกตัวเองอีก เจ็บกว่า และเจ็บนาน"


*************************************

เราเองก็เคยเจอทั้งคนที่หลอกตัวเอง และก็เคยเป็นคนที่หลอกตัวเองด้วยเหมือนกัน ...ในอารมณ์ของคนที่หลอกตัวเอง ก็เข้าใจนะ บางทีมันไม่ใช่ไม่รู้ แต่พอเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มันก็อาจจะคิดเผื่อว่า ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิดล่ะ ถ้าเราคิดมากไปเอง..ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ซัก 10% แต่มันก็มีค่าเกินกว่าที่จะปักใจเชื่อใน 90% นั้นไปก่อน และทำให้มัน ‘เป็นเรื่อง’ ขึ้นมา

ในเรื่องความรัก เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยยืนอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง คือเป็นคนเจ็บ และเป็นคนทำให้เค้าเจ็บ ..ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำให้ใครเจ็บ ขอให้นึกถึงความเจ็บปวดของตัวเอง บอกเค้าอย่างตรงไปตรงมา

และอย่าให้ใครต้องหลอกตัวเองอีกเลย..




Create Date : 16 มิถุนายน 2548
Last Update : 16 มิถุนายน 2548 9:45:53 น. 7 comments
Counter : 1211 Pageviews.

 
คุณโชคดีจัง.. ที่สามารถลืมตาเห็น และสมารถรับ"ความจริง" ได้ สักวันหนึ่ง ฉันคงทำได้อย่างนั้นบ้าง


โดย: ฟ้า IP: 58.11.5.95 วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:10:36:43 น.  

 
"ถูกคนอื่นหลอกก็เจ็บพออยู่แล้ว ตัวเองหลอกตัวเองอีก เจ็บกว่า และเจ็บนาน"...เจ็บแปลบๆ เลยค่ะ พี่แก้ว ไม่รู้เมื่อไหร่ตัวเองจะยอมรับความจริงซะที ....เคยแต่คิดเอาเองว่าถ้าบอกไปแล้วเราก็เจ็บ เค้าก็เจ็บ...สู้เราเจ็บคนเดียวดีกว่ามั้ย


โดย: man u girl วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:12:38:05 น.  

 
^^อ่านแร้วดีจังเรยยค่ะพี่แก้ว...ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่านกันอ่ะค่ะ..เห็นด้วยกะอุ๊ค่ะ...เจ็บคนเดียวคงดีกว่ามั้ง...

หวัดดีตอนบ่ายค่ะพี่แก้ว...


โดย: Mu_in_love วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:13:32:05 น.  

 
โดนคนอื่นหลอกก็เจ็บพออยู่แล้ว มันเจ็บมากกว่าถ้าคุณช่วยคนอื่นที่ว่าโกหกตัวเองซ้ำลงไปอีก เพียงเพราะความอ่อนแอ ไม่รับความจริงของตัวเอง
ู^
^
เห็นด้วยเลยเนี่ย..

แต่คนเราก็แปลก ยอมเจ็บ...ทั้งๆที่รู้



โดย: fan_man_u IP: 202.176.183.153 วันที่: 17 มิถุนายน 2548 เวลา:19:14:02 น.  

 
รู้สึกว่า ช่วยให้เราคิดอะไรได้เยอะและกว้างขึ้น เพราะชีวิตเราก็กำลังหลอกตัวเองมาโดยตลอด


โดย: นานา IP: 203.144.133.2 วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:13:11:47 น.  

 
เราก็กำลังหลอกตัวเอง ที้งๆที่รู้ว่าเค้าเปลี่ยนไปมากมาย แต่ก็ยังหลอกตัวเอง เพียงเพราะคำว่ารักที่เค้ายังพูดตลอดเวลา แต่การกระทำนั้นแตกต่างสิ้นเชิง


โดย: แนน IP: 124.120.77.197 วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:11:57:18 น.  

 
บางทีพ่อแม่ก็หลอกตัวเองว่าลูกตัวเองเรียนจบแล้วสบายใจ ทั้งๆรู้ว่าลูกของตนเองไม่ชอบเรียนคณะนี้เลย


โดย: nod IP: 202.12.73.1 วันที่: 1 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:25:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cirE
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]











Always Forgive but Never Forget

Friends' blogs
[Add cirE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.