มกราคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
7
8
9
10
11
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
มาสะท้อนความสุขกันเถอะ


From: (ขอลบชื่อและอีเมล์ออกเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนส่ง นะ)
To: (ขอลบชื่อและอีเมล์ออกเพื่อความเป็นส่วนตัวของ จขบ นะ!)
Sent: Fri, December 31, 2010 6:05:12 PM
Subject: เรื่องที่จะเล่าให้ฟัง


ลองอ่านดูนะ ยาวหน่อยนะ ฮ่าๆๆๆๆ


เรื่องที่บอกว่าจะเล่าให้ฟังน่ะ


Happy New Year จ้า
 
 
------------------------------------
 
 
เรื่องที่จะเล่าให้ฟัง .......เธอ และ เขา รักแท้มีอยู่จริง


เธอ เป็นลูกคนกลางในจำนวนพี่น้อง 3 คน
เธอ น้อยใจเสมอว่าพ่อแม่รักเธอน้อยสุด
เธอ สูญเสียพ่อตอนอยู่ ม.5
เธอ เป็นคนเรียบร้อย ว่าง่าย เป็นเด็กดี สำหรับพ่อแม่ และญาติ
เธอ ชอบระบายความรู้สึก และ sensitive มากกับเรื่องความรัก
ร้องไห้บ่อยมาก
เธอ มีปมในใจ มีอดีต กล่าวโทษตัวเองเสมอว่าเป็นคนไม่ดี
ชีวิตวัยเด็ก และวัยเรียน เรียบง่าย เป็นคนเรียบร้อยในสายตาเพื่อน
แต่ก็เป็นที่รักของทุกคน ชีวิตก็มีความสุขดีตามวัย
ชีวิตเธอช่างเรียบง่ายเสียจริง ไม่มีอะไรโลดโผน แต่ทว่า
สิ่งที่เธอโหยหา คือ "ความรัก"
ความรักของเธอ พบแต่ความผิดหวัง มาตลอด อาจเพราะเธอรักไม่เป็น
เธอเป็นคนอ่อนแอ ขาดความมั่นใจในตัวเอง
และมีปมด้อยเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์
เธอเคยถูกญาติ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง กระทำชำเราตอนเธออยู่ ป.3
เธอคิดมาตลอดว่าเธอไม่บริสุทธิ์ เธอไม่มีค่าพอ สำหรับใครอีกแล้ว
แต่เธอก็อยากเจอรักแท้
เธอตามหารักแท้เรื่อยมา แต่ปมเรื่องเซ็กส์ของเธอ ก็ทำร้ายเธออยู่เสมอ ๆ
เธอรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย เธอกลัวถูกทิ้ง เธอยอมทำสิ่งที่ต้องฝืนใจตัวเอง
ตามใจคนรักทุกคน เธอไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลย
เธอเข้าใจว่า "เซ็กส์จะทำให้รักได้"
เธอมอบกายให้ชายคนแล้วคนเล่า "ใช้เซ็กส์แลกรัก"
เธอจึงพบแต่ความผิดหวัง ช้ำรักมาตลอด
แต่กระนั้นหัวใจก็ยังโหยหาความรัก
จนกระทั่งได้มาเจอเขา


เขา เป็นลูกชายคนเล็กในจำนวนพี่น้อง 2 คน
เขา สูญเสียพ่อตอนอยู่ ป.3 ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อเลย
เขา เป็นคนแปลกในสายตาคนอื่น คิดไม่เหมือนคนอื่น
มีเหตุผลเป็นของตัวเอง
เขา เก็บกด ไม่ชอบพูดแสดงความรู้สึก ไม่ชอบระบาย
เขา ชอบคิด ในหัวมีแต่เรื่องราวมากมาย จนบางครั้งทำให้หลับไม่ลง
ชีวิตวัยเด็ก และวัยเรียนเรียบง่าย เป็นคนแปลกในสายตาเพื่อน
โดนเพื่อนแกล้งบ่อยๆ
เขาไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ชอบเข้าสังคมมากนัก
อยู่คนเดียวก็ได้
ความรักครั้งแรก กับญาติห่าง ๆ ทางพ่อ ที่อายุเท่ากัน
เป็นความรักสมัยเด็กประถม...เธอน่ารักดีจัง
ความรักครั้งต่อมารักมากเจ็บมากตอนอยู่ ม.5 แล้วก็จบลงตอนอยู่ ปี.2
เธอมาจีบเขา และเขาเริ่มรักเธอ เธอคือรักวัยหนุ่มสาวคนแรก
เป็นความรักที่เค้าเป็นฝ่ายให้แต่ไม่เคยเป็นฝ่ายรับ
ประสบการณ์เซ็กส์ เป็นศูนย์ เขาไม่เคยลืมเธอเลยจนถึงวันนี้


เธอ และ เขา ได้พบกันที่มหาวิทยาลัย เธอเป็นรุ่นพี่เขา 1 ปี
ได้รู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทโปรแกรมหนึ่งตอนเขาอยู่ ปี.1 และเธออยู่ ปี.2
เธอกับเขา คบกันแบบเพื่อน
เขาไม่ใช่สเปคของเธอเลย แต่เขาคือเพื่อนชายที่สนิทที่สุด
จนเมื่อวันที่หัวใจ ของเขาและเธอ อ่อนล้า และว่างเปล่า
เขาขอคบเธอเป็นแฟน และเธอตอบ ตกลง
เขาไม่เคยรู้เรื่องราวความรักของเธอเลย เธอบอกเขาแค่เพียงว่า
เธอไม่บริสุทธิ์แล้วนะ เคยมีแฟน 3 คน รับได้ไหม
และเขาก็แมนพอที่จะให้โอกาสเธอ เธอดีใจ
แต่ในใจลึกๆของเธอเสียใจเหลือเกินที่ต้องโกหก
แต่ก็หวาดกลัวว่าความจริงจะทำให้เขาทิ้งเธอไป
แหงสิ ..ใครจะรับได้ ถ้ารู้ว่าแฟนตัวเองเคยผ่านชายมาแล้วสิบกว่าคน!!!!!


เธอรักเขามาก และเขาก็รักเธอมากเช่นกัน
เขาและเธอมีหลายๆอย่างคล้ายกัน
ทุกช่วงเวลาที่มีกันและกัน มันคือ ความสุข
เธอมั่นใจว่าเขาคนนี้แหละใช่เลยคนที่เธอตามหามานาน
เธออยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาไปจนวันตาย . .
เธออยู่กับเขา เขาไม่เคยต้องการให้เธอเปลี่ยนแปลงอะไร
เธอและเขารักในความเป็นตัวตน ของกันและกัน
เข้ากันได้ทุกอย่าง เข้าใจกัน
ผูกพันกันทั้งกายและใจ และไม่มีอะไรปิดบังกันเลย
เขาและเธอ สามารถพูดคุยกันได้ในทุกๆ เรื่องอย่างเปิดเผยและเข้าใจ
เขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของเขาให้เธอฟัง
อย่างที่ไม่เคยบอกใครเขาเปิดใจกับเธอหมด
เธอเองก็เช่นกัน ยกเว้น เรื่องอดีตความรักของเธอ
ที่เป็นปมในใจตลอดมา เธออึดอัดและเป็นทุกข์
เธอใช้ชีวิตร่วมกันกับเขามาเป็นเวลา 5 ปีกว่า ๆ
เธอกลัวว่าวันนึงเขาจะรู้ความลับของเธอ
เธอหวาดกลัวอดีตของตัวเอง เธอรู้สึกผิดต่อเขามาตลอดที่ต้องโกหก
เธอไม่แฟร์กับเขาเลย เธอเสียใจ


จนวันนึงเธอได้รู้จักกับใครคนหนึ่ง
คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอตัดสินใจทำบางอย่าง ....
ใช่แล้ว เธอจะจมอยู่กับความทุกข์ ฝังใจกับอดีตไปทำไมเล่า
เธอจะอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดหรือ
เธอต้องยอมรับความจริง และให้อภัยตัวเอง


ใช่ ความจริงก็คือความจริง ต้องขอบคุณคนๆนั้น


ที่ทำให้ฉันเข้าใจชีวิตมากขึ้น ทำให้ฉันมีความกล้า 
 


29 ธันวาคม 2553
เธอตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของเธอ
ให้กับเขา คนที่เธอรัก ได้รับรู้ทั้งหมด
หวังเพียงเขาจะเข้าใจเธอ และให้อภัยเธอ ที่ไม่บอกความจริงให้เค้าได้รู้
เขาเสียใจมาก เธอคนที่เขารัก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในฉับพลัน
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
เขาคิดไปต่าง ๆ นาๆ คำถามมากมาย อยู่ในหัว
แต่...ณ ขณะนั้นสิ่งที่เขาทำคือ ปลอบโยนเธอ
เขายอมรับว่าเค้าช็อคมาก และเสียใจที่คนรักของเขาหลอกลวงเขามาตลอด
เขารู้สึกเหมือนเป็นไอ้โง่มาตั้งหลายปี
เขายอมรับว่าเขาเป็นคนหัวโบราณ เรื่องนี้ทำใจยากจริงๆ
เขาเชื่อใจเธอมาตลอด ว่าระหว่างเขาและเธอไม่มีความลับต่อกัน
แล้วนี่มันอะไรกัน เขาสับสนเหลือเกิน
เธอเองก็เสียใจมากเช่นกัน เธอได้ทำร้ายคนที่เธอรัก
มันปวดใจยิ่งนัก เจ็บที่สุด
เขาเข้ามาปลอบเธอ เมื่อเห็นเธอร้องไห้เสียใจอย่างหนัก
น้ำตาเธอมันช่างมากมายนัก เธอร้องไห้ตลอดเวลา
ราวกับว่ามันจะไหลออกมาจนหมดตัวเลยก็ว่าได้ จนเขานึกหวั่น
เขาบอกกับเธอว่า เขาจะไม่ทอดทิ้งเธอ เพราะเธอคือคนที่เขารักมาก


..ขอบคุณที่เธอบอกเขา..


ขอเวลาให้เขาหน่อย ตอนนี้เขาสับสน อึ้งจนคิดอะไรไม่ออก
อะไรมากมายวนเวียนอยู่ในหัว
เขาบอกกับเธอว่า เขาเองก็รู้สึกได้
ว่าเธอมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจตั้งนานแล้ว
เมื่อครั้งที่เคยทะเลาะกัน เธอเคยพูดว่าเธอเป็นคนไม่ดี
เขาเคยสงสัย แต่มันก็นานมาแล้วเลยไม่ได้ใส่ใจแล้วคืนนั้นก็ผ่านไป
ฝันร้ายตามหลอกหลอนเขาและเธอทั้งคู่ตลอดคืนนั้น
 


30 ธันวาคม 2553   7.00 น.
เธอและเขาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก
จริงๆวันนี้ เขาและเธอจะต้องไปทำบุญใส่บาตร ตามที่ได้ตกลงกันไว้
แต่ก็เหนื่อยล้าเหลือเกินทั้งกายและใจ เกินพอที่จะทำตามที่ตั้งใจไว้
เขาและเธอลุกขึ้นมาพูดคุยกันอีกครั้ง
เขาฝันร้ายตลอดทั้งคืน จินตนาการเห็นภาพเธอไปต่าง ๆ นาๆ
เรื่องเลวร้ายที่เธอเคยพบ
แต่นั่นมันเป็นความคิดของเขาเอง เขากลัว
เขามีคำถามมากมายที่อยากถามเธอ และเขาก็ตัดสินใจถาม
เพราะหากเก็บมันไว้ มันจะทำร้ายเขาไปตลอด
เขาไม่กลัวความจริงอีกต่อไปแล้ว
เค้าถามกับเธอว่า...1 ในนั้นมีเพื่อนของเขาหรือไม่ ..
เธอโล่งใจกับคำถาม เพราะว่ามันไม่มี
เขาโล่งอก เพราะถ้าหากมีเพื่อนของเขา มันคงทำใจยอมรับลำบาก
เค้ามีอคติมากเพราะเคยมีปมที่ถูกเพื่อนแกล้ง เพื่อนหัวเราะเยาะลับหลัง
เป็นสิ่งที่ฝังใจเขามาก
ฉันสวนถามเขากลับไปในทันที่หลังจากตอบคำถามของเขา ว่า


..แล้วเขาเชื่อสิ่งที่เธอเล่าทั้งหมดหรือไม่??..


เขาอึ้ง..เพราะนั่นก็คืออีก 1 คำถามที่หนักมาก ที่เขาถามตัวเขาเองอยู่ในหัว
เธอบอกกับเขาว่า นี่แหละคือที่เธอกังวลใจ
เธอยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดคือความจริง
เธอเข้าใจเขา
เพราะหากเธอเป็นเขา เธอเองก็คงมีคำถามนี้กับตัวเองเหมือนกัน เธอเข้าใจ


คำถามต่อไปของเขาก็คือ เคยถูกกระทำทีเดียวมากกว่า 1 คนมั้ย
เขาเขินปากตัวเองที่ถามออกไป
รู้สึกเสียใจเหมือนกันกับคำถามของตัวเอง
เขานี่มันงี่เง่า หัวโบราณ และยอมรับว่าเขาไม่แมนเลยจริงๆ
เขาขอโทษเธอ เขาเข้าใจไปว่าเธอเคยทำตัวแรง
มีเซ็กส์ไม่เลือกหน้าเพื่อความสนุก แบบสาวนับแต้มอะไรทำนองนั้น
เธอทำหน้าแปลกใจ โธ่...นี่เขาเข้าใจเธอผิดไปขนาดนั้นเลยหรือ
เธอเริ่มอธิบายในรายละเอียดให้เขาฟัง ว่าที่เธอเคยทำผิดพลาดไป
เป็นเพราะเธอไร้เดียงสาในรัก
เธอโหยหาความรัก และใช้เซ็กส์เป็นตัวผูกมัดให้ผู้ชายรัก ซึ่งเธอคิดผิด
เธอหาแฟนทางอินเตอร์เน็ต เพราะอยากมีความรัก อยากมีแฟน
แทบจะทุกคน หลอกลวงเธอ
พอได้ในสิ่งที่หวังแล้วก็ทิ้งเธอไป
แต่เธอก็ไม่เข็ดเธอยังเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง
แต่เธอยังโชคดีที่คนเหล่านั้น ไม่ได้เลวมาก เธอแค่ถูกหลอกว่ารัก
จนเธอยอมมีเซ็กส์ด้วยแล้วก็เลิก
เธอไม่เคยถูกถ่ายคลิป ไม่เคยถูกรุมโทรม
หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านั้นอย่างที่เขากลัว


ท่าทีของเขาคลายกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาเข้าใจเธอผิดไปเยอะเลย
เขาปวดใจเหลือเกินที่เธอถูกทำร้ายทั้งกายและใจ เขาขอโทษเธอ


สายๆ ของวันนี้ เธอและเขาไปทำบุญถวายสังฆทานด้วยกันที่วัด
ระหว่างเขาและเธอยังทำตัวเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ก็รู้สึกไม่สนิทใจ
เธอไม่รู้ว่าเธอตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ แต่เธอก็ทำไปแล้ว
เธอต้องยอมรับในสิ่งที่จะตามมา


อย่างน้อยสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นก็คือ เธอได้ยกภูเขาออกจากอก
..เธอโล่งใจมากเหลือเกิน..


แต่ก็ทุกข์ ทุกข์ที่เห็นคนรักต้องเสียใจ ละอายใจจนไม่กล้าสบตาเขาตรง ๆ
คืนวันนี้เขาต้องไปทำงาน
หลังจากแยกไปแล้ว เมื่อเธออยู่คนเดียว น้ำตาเธอก็ไหล
เธอนอนหลับไปทั้งน้ำตา
 
 
31 ธันวาคม 2553 
7.20 น. วันนี้เธอออกไปใส่บาตรตอนเช้า การทำบุญทำให้เธอสบายใจขึ้น
8.00 น. กลับมาที่ห้อง เตรียมหุงข้าว กับข้าว ไว้รอเขา
อย่างเช่นที่เคยทำอยู่เป็นประจำ
8.40 น. เธอโทรหาแม่ เพื่อถามสารทุกข์สุขดิบเหมือนทุกครั้งที่โทรไป
แค่ได้ยินเสียงแม่เธอก็สบายใจแล้ว
9.10 น. เขากลับมาแล้ว เธอยังคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่ แต่พอเขาเดินเข้ามา
เธอก็เห็น............
 
เขาถือช่อดอกไม้มาช่อนึง เป็นดอกกุหลาบสีขาว


น้ำตาเธอไหลในทันที แต่ก็ยังต้องสะกัดกั้นไม่ให้น้ำเสียงเปลี่ยนไป
เธอไม่อยากให้แม่ของเธอได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น


เขามานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพร้อมช่อดอกไม้
รอให้เธอวางสายจากแม่เสียก่อน
หลังจากวางสาย เขาก็ยื่นช่อดอกไม้ส่งให้เธอ เธอน้ำตาไหลอาบหน้า


เขาบอกกับเธอว่า "เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ"
เขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรอีกแล้ว
เรามาเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ลืมอดีตที่ผ่านมาให้หมด เธอคือคนที่เขารักสุดหัวใจ
เมื่อวานเขารู้สึกได้ ว่าเธอกลัว เธอไม่ได้เดินเคียงข้างเขา แต่กลับเดินอยู่ข้างหลัง
เขาขอให้เธอกลับมาเดินเคียงข้างเขา "เราจะเดินเคียงข้างไปด้วยกัน" ตลอดไป


เหมือนได้เกิดใหม่ เธอดีใจเหลือเกิน มีความสุขเหลือเกิน


แค่มีเขา...เธอก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว


ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ และสำคัญ ไปกว่าคำว่า "ให้อภัย" และให้โอกาสเริ่มต้นใหม่ สำหรับชีวิตคู่
 
 
ขอบคุณเธอคนนั้น ............
ใช่ ก็ตะเองนั่นแหละ
ที่เป็นแรงบันดาลใจ
ให้เราเจอแสงสว่าง เข้าใจชีวิตมากขึ้น
และยอมรับความจริง ให้อภัยตัวเอง กล้าเปิดใจกับคนที่รัก
หมดทุกข์เสียที กับสิ่งที่เป็นปมในใจตลอดมา


ตะเองเป็นแสงสว่างให้เรา เป็นกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ เลย
เราอยากเลี้ยงขอบคุณตะเอง เขาเองก็อยากขอบคุณตะเองด้วย
 
สิ่งดีๆ ที่เราได้รับ ขอให้ย้อนกลับไปให้ตะเองได้รับสิ่งที่ดียิ่งกว่า


ขอให้มีแต่ความสุขตลอดไปเลยนะจ๊ะ
สวัสดีปีใหม่นะ มีความสุขตลอดไป สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง
สมหวังกับทุกสิ่งที่หวัง ตลอดไปจ้า


จาก XXXX (ขอลบชื่อออกเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ส่งนะ)
31 ธันวาคม 2553
17.18 น.ห้วยขวาง
---------------------------------------------------------------------


 
แปะ
ปีใหม่ไปนั่งสมาธิกะสวดมนต์ข้ามคืนมา
ช่วงเวลาที่สวดมนต์เสร็จแล้วข้ามจากคืนวันที่ 31 เข้าวันที่ 1
อยู่ดีๆ ก็เหมือนรู้สึกถึงกระแสแห่งความยินดีขึ้นมาเฉยๆ
ไม่เกี่ยวกับมวลชนหรือผู้คนที่อยู่รอบตัว
แต่เป็นความรู้สึกของความดีใจ
เหมือนมีกระแสแห่งความสุขอะไรซักอย่างลอยมาปะทะที่จิตของเรา
ไม่รู้ทำไม แต่ รู้สึกว่า เออ ดีจัง ปีใหม่แล้วเนอะ ดีใจจัง
ทั้งๆที่ปีก่อนหรือปีไหนๆ ก็ไม่ได้รู้สึกถึงกระแสนี้
พอกลับมาบ้านเปิดเมล์ดู ก็ได้เห็นเมล์ข้างต้นที่แนบมานี้
เป็นเมล์ที่เพื่อนที่แชทกันส่งมาเล่าเรื่องราว และ..ขอบคุณ
น่าแปลกนะ กับเพื่อนคนนี้เราเคยนัดเจอก็แค่ครั้งเดียว
(รู้จักกันทางเน็ท ส่วนใหญ่จะแชทกันในเอ็ม)
แต่เรากลับสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของเขาได้มากถึงเพียงนี้
ถึงได้เจอกันแค่ครั้งเดียว แต่เรากับเค้าก็คุยกัน เม้ากันเยอะมากกกกก
 
คนบางคน คุยด้วยก็เหมือนไม่รู้เรื่อง รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ใกล้
คนบางคน พยายามปรับตัวเข้าหากันแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย
แต่กับคนบางคน ไม่ต้องทำอะไร ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้
รู้สึกสบายใจที่ได้เจอหน้า ได้พูดคุย
..เหมือนรู้จักกันมาแสนนาน..


ชีวิตนี้จะมีซักกี่ครั้งกัน ที่คนเราจะเจอคนที่เรารู้สึก connected
คนที่เรารู้สึกว่า จิตเราเปิดรับ และ รู้สึกว่าเข้ากันได้
 
 
ประโยคที่เค้าเขียนมา
"ตะเองเป็นแสงสว่างให้เรา เป็นกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ เลย
สิ่งดีๆ ที่เราได้รับ ขอให้ย้อนกลับไปให้ตะเองได้รับสิ่งที่ดียิ่งกว่า"


อ่านแล้วก็รู้สึกดีจังเลยนะ เหมือนเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีมากๆ
ว่ากันว่า ความรัก คือการที่ตัวเราเอง ได้ไปเติบโตในผู้อื่น
และตัวเราก็เติบโตไปพร้อมๆกัน
เราทำให้เขามีความสุข เราก็มีความสุข ที่เห็นเขามีความสุข
ตัวของเรา สะท้อนความสุขออกไป
แล้วความสุขนั้น ก็สะท้อนกลับมาหาเราเอง


กระแสแห่งความสุขที่เรารู้สึกตอนช่วงข้ามเข้าวันใหม่
คงมาจากจิตของเพื่อนคนนี้
ที่ส่งความสุข ความปรารถนาดีมาให้อย่างจริงใจกระมัง
 
 
ว่าแล้วเราก็เลยอยากส่งต่อความสุขนี้ออกไปให้แปะด้วย
อยากบอกว่าขอบคุณ ที่ให้เราเกาะแขนตอนล่องแก่ง
ขอบคุณที่คอยดูแล ดึงเราขึ้น และพาเราลงจากน้ำตก
แล้วก็ดันเราขึ้นช้างด้วย
ขอบคุณที่แกะส้มโอให้กิน
ขอบคุณที่ให้ยืมเสื้อใส่ไปเดินป่า กะล่องแก่ง
ขอบคุณที่จัดเก็บของใส่เป้ ตอนเราต้องรีบไปขึ้นช้าง
ขอบคุณที่กอดให้เราหายหนาวตอนอยู่ในป่า
ขอบคุณกอดให้เราหลับง่ายๆ ตอนอยู่ทุ่งใหญ่ นอนน้อยมากๆ คืนนั้น
(แปะกอดละหลับง่ายทุกที อิอิ)
ขอบคุณที่ไปซื้อซาลาเปาเจ้าอร่อยมาได้ตั้งสองครั้ง
ขอบคุณที่ถือกระเป๋าเป้ตอนไปนอนค้างที่ทุ่งใหญ่
ขอบคุณที่คอยถามไถ่ ว่าหิวไหม หนาวไหม อิ่มไหม กินอะไรอีกไหม
ขอบคุณที่ปิ้งหมูกะทะให้
ขอบคุณที่ปิ้งปลาทูได้ตั้งสองตัว
ขอบคุณที่กางเต๊นได้เริ่ดสะแมนแตนมาก
(เวลาผู้ชายทำอะไรแบบนี้ๆๆๆๆๆ มันเซ็กซี่ อบอุ่นดีนะ อิอิ
เห็นแล้วอยากปล้ำ เอ๊ย อยากโดดกอด ไม่ก็งับแขนอะ หมั่นเขี้ยว 555)
ขอให้มีความสุขมาก ๆๆๆ สมหวังในทุกเรื่อง
Happy new year จ้ะ
^^


2 มค 54
23:33






Free TextEditor



Create Date : 05 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 19:15:13 น.
Counter : 339 Pageviews.

1 comments
  
อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ

ปีนี้การแข่งขันแกะสลักที่อาร์ปิ้น คนไทยได้รางวัลทั้งที่ 1 ที่ 2 เลยนะคะ
โดย: kapeak วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:15:12:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cinta
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีค่า ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
แบบว่ายังใหม่มากๆสำหรับที่นี่
เห็นบล็อกคนอื่นเค้าสวยๆงามๆก็ให้อิจฉาตาร้อนผ่าวๆ
ไม่รู้เค้าทำกันยังไง
ใครมีจิตเมตตาก็มาบอกกันมั่งเน้อ
free counters
New Comments