ถ้าใครที่ติดตามกันมาแบบใกล้ชิดจะเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากของมดก็ว่าได้
มดเริ่มน้ำหนักขึ้นมาเรื่อยๆหลังแต่งงาน และขึ้นถึง 10 กก.โดยที่เราไม่ได้สนใจ มารู้ตัวอีกที ก็เริ่มปวดข้อเท้า ปวดหลัง มึนหัว ไม่สดใส เหนื่อยง่าย
จากที่เคยหนัก 47 -50 กก.มาตลอดจนอายุ 26ปี ในวันที่เราอายุ 34 ปี เรากลับหนักถึง 60 กก.
มันไม่ใช่ละ เพราะเมื่ออายุเรามากขึ้น ระบบต่างๆของร่างกายก็ยิ่งแย่ลง
แล้วน้ำหนักเราเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ กับความสูงแค่ 160 ซม.
ร่างกายเริ่มฟ้องว่ารับไม่ไหวนะ สุขภาพของเรายิ่งแย่ลง ยิ่งงานที่เราทำต้องใช้ความคิดและพลังมากๆ
การนอนพักผ่อนที่ไม่เป็นระบบ นอนเช้าบ้าง อดนอนบ้าง ทานอาหารดึกๆบ้าง
เราอยากทำงานเยอะๆ ได้เงินเยอะๆ แต่เราลืมไปว่า เมื่อวันที่เรามีพร้อมแต่สุขภาพเราแย่
เราก็คงไม่ได้มีความสุขกับสิ่งเหล่านั้นที่หามา
ทุกอย่างที่ทำ เราทำร้ายตัวเราเอง ทั้งนั้นมดตัดสินใจบอกตัวเองว่า ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเอง "เราต้องออกกำลังกายและควบคุมแคลอรี่อาหารที่ทานให้สมดุลละ"
คือ เราต้องมีการเบิร์นประมาณ 300-500 กิโลแคลอรี่ และทานอาหารครบ 5 หมู่แต่ไม่เกิน 1,500 กิโลแคลอรี่
แต่สำหรับผู้เริ่มต้นอาจเริ่มง่ายๆ แบบไม่ต้องเครียดนับแคลอรี่ โดยใช้การลดปริมาณอาหารโดยเฉพาะแป้งและไขมัน
จากที่เคยทานปกติก็ลดลงครึ่งนึง แล้วทดแทนด้วย ผัก ผลไม้ ที่ไม่หวานมากและธัญพืชต่างๆ เพื่อช่วยให้อิ่มนาน
น้ำหนักจะค่อยๆลดลง และสุขภาพเราจะดีขึ้นด้วยค่ะ
มดขอเอาภาพจาก IG มาลำดับเหตุการณ์ให้ดูนะ เห็นชัดดี
เมื่อ 82 วีคหรือ ประมาณ 20 เดือนที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นของความตั้งใจนี้ มดไปหัวหิน ดูงานที่ร้านเป็นปกติ
เจอภาพรวมครอบครัว แล้วรู้สึกว่าสิ่งสำคัญของเราคือครอบครัวเรานี่แหล่ะ
เราอยากจะทำเรื่องดีๆ และอยากจะอยู่ไปด้วยกันนานๆ
แล้วช่วงนั้นสุขภาพมดไม่ค่อยดี คือโทรมๆ ไม่สดใส ปวดตัว ปวดข้อเท้า เหนื่อยง่ายและอึดอัดกับขนาดตัวมาก
แต่ก็ยังไม่คิดลดน้ำหนักจริงจังสักที บอกตัวเองว่าไว้ก่อนๆ และไม่ยอมออกกำลังกาย
เพราะมดเคยลดน้ำหนักด้วยการงดแป้ง น้ำหนักลงเร็วมากแต่ก็เด้งกลับมาที่เดิมเร็วมากเมื่อเรากลับมาทานแป้งเหมือนเดิม
จุดเปลี่ยนสำคัญคือ เมื่อ 74 วีค ที่ผ่านมา หรือประมาณ18 เดือนที่แล้ว สภาพมดเป็นแบบนี้ น้ำหนัก 60 กก.ค่ะ
"มันไม่ไหวแล้วป่ะ...... นี่คือตัวอะไร บาน แน่น เต็มจอ"มดไปสมัครฟิตเนสที่ Sport city แล้วเริ่มเล่นด้วยการเบิร์น เพื่อให้ร่างกายนำไขมันสะสมออกมาใช้
ผ่านไป 10 วีคหรือ 2 เดือนกว่าๆ น้ำหนักลดลงเหลือ 56.9 กก. เป็นผลจากกการออกกำลังกายและคุมแคลอรี่ที่ทานล้วนๆเลย
ทุกช่วงของการลดน้ำหนัก มดจะชั่งน้ำหนัก %ไขมัน %น้ำ มวลกล้ามเนื้อ การเผาผลาญ และระดับไขมันที่เกาะในอวัยวะภายใน ไว้เรื่อยๆ
และยังคงตั้งหน้าตั้งตา เบิร์นไขมัน ออกจากร่างกายสม่ำเสมอ
มดจะออกกำลังกายที่ฟิตเนส ประมาณ 2-3 ครั้ง /สัปดาห์
และเมื่อน้ำหนักลงถึง 55.0 กก.แล้ว มดเริ่มเปลี่ยนมาเล่น พิลาทิสค่ะ เน้นการออกกำลังเพื่อสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็ก
เพราะกล้ามเนื้อจะหนักกว่าไขมัน และกล้ามเนื้อจะเป็นตัวช่วยให้ระบบการเผาผลาญดีมากขึ้นด้วย
มดเล่นพิลาทิส จนน้ำหนักตัวลดเหลือ 54.0 กก.
น้ำหนักหายไป 6 กก.แล้ว แต่รูปร่างเราไม่กระชับ
มดมีโอกาสได้เข้าคอร์สต่างๆ
ที่ช่วยสลายไขมันที่สะสมแบบยากเอาออกผสมกับการนวดกระชับสัดส่วนในส่วนที่หย่อนคล้อยหลังน้ำหนักเราลดมาเยอะ
ซึ่งช่วยในการกระชับรูปร่างให้ดูตัวเฟิร์มขึ้น
แต่มดยังคงคอนเซ็ปท์เดิมคือ ต้องได้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
เพราะถ้าเราไม่ให้เวลาและไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ ผลลัพธ์ก็คงไม่ออกมาดี
ถึงแม้เราจะไม่มีตัวช่วย ตัวเราเองก็ต้องควบคุมตัวเองค่ะ ทั้งการรับประทานและการออกกำลังกาย
จนถึงตอนนี้ น้ำหนักมดลงมาอยู่ที่ 52.7 กก. ซึ่งบอกเลยว่าสุขภาพดีขึ้นมากจริงๆ
น้ำหนักลดลงไม่เยอะ แต่ผลการวัด In Body %ไขมันหายไปเยอะ และมวลกล้ามเนื้อเราเพิ่มขึ้น
ระดับการเผาผลาญก็เพิ่มขึ้นมดปรับเปลี่ยนการนอน มานอนไม่เกิน ตี 1 และตื่นช่วง 9โมงเช้า เพื่อออกกำลังกาย 30 นาที
ทานอาหารแบบจัดหนัก แป้งทานเต็มๆ ก่อนเที่ยง และลดน้อยลงในมื้อเย็น
.
.
เมื่อก่อนเรามองว่าเราสอนแต่งหน้า โชว์แต่หน้า รูปร่างไม่เป็นไร ใส่ชุดพรางๆได้เพราะขาเล็กอยู่แล้ว
แต่ในวันนี้เมื่อรูปร่างเราเข้าที่ ความมั่นใจมันมาแบบเต็มๆนะ ไม่ต้องใส่ชุดพรางอะไรมาก
เราสามารถทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ไม่เคยปวดหลัง ปวดข้อเท้าอีกเลย แม้ว่าจะใส่ส้นสูง 4 นิ้วตลอด
ไม่มีอาการปวดหัวหรือ เหนื่อยง่าย
อยากบอกว่าเมื่อสุขภาพเราดี เราสามารถชนะทุกสิ่งได้จริงๆนะ
พลังเราจะมีเหลือเฟือที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆให้ออกมาได้ดีที่สุดมดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้ของมด จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้หลายๆคน ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองค่ะ
ลองคิดง่ายๆถามตัวเองว่า
"เราอยากสุขภาพดีเพื่อใคร"
"เราดูแลตัวเองเพื่อใคร"
"ความสุขของเราอยู่ตรงไหน"
"เราคิดแล้วลงมือทำรึยัง"
"ถ้าเราสุขภาพดี หุ่นดีสมส่วน ใครจะได้ประโยชน์นั้นที่สุด"
ถ้าคำตอบออกมาว่า
เพื่อตัวเองและครอบครัว เพื่อคนที่เรารัก จะรออะไรคะ ลุกขึ้นมาทำเลย
.
.
สำหรับใครที่คิดจะเริ่มต้นดูแลตัวเองและอยากเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหมือนกับมด
มดขอเป็นกำลังใจให้ โดยเราทำแบบสบายๆนะคะ ไม่ต้องเครียดมาก
แค่ขอให้เริ่มปรับพฤติกรรมการทานอาหารและเริ่มออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆ
เช่น ยืนแกว่งแขน เดินขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟท์
ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองดูเคล็ดลับที่ "2 สัปดาห์ เปลี่ยนชีวิตสู่สุขภาพดี"
ทาง เนสท์เล่ ประเทศไทยฉลองครบรอบ 120 ปี ด้วยแนวคิดที่อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี
เพื่อเติมเต็มความหวังในชีวิต
โดยภายในเวปไซต์จะมี 14 Tips สำหรับ 14 วัน เพื่อเริ่มต้นการมีสุขภาพที่ดี
ที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก
เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ
//www.goodfoodgoodlife.in.th/nestle120years/
ทาง เนสท์เล่ ชวนมดเข้าร่วมแชร์ Tips เพราะเห็นเราดูแลตัวเองอย่างจริงจังและเห็นผลชัดเจน
ในเวบจะมีบทความเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย และกิจกรรมต่างๆ
ทุกคนสามารถเข้าไปแชร์ว่าคุณมีแรงบันดาลใจอะไรในการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ มดจะอัพเดท Tips ทั้ง 14 อย่าง
ที่มดทำเพื่อสุขภาพของตัวเองแล้วอยากจะแชร์ ลงในอัลบั้ม ที่จะตั้งขึ้นมาเฉพาะใน Cinnamongal Fanpageมาติดตามกันนะคะว่า 14 วัน รูปร่างมดจะเปลี่ยนไปอีกไหมและสุขภาพจะดีขึ้นขนาดไหน
และมีคำนึงที่อยากบอกคือ ตอนแรกเราบอกตัวเองว่าเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่ม
แต่วันนี้ มดบอกตัวเองว่า รู้งี้เริ่มตั้งนานละ