|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
ตะลุยเวียดนามไม่ง้อทัวร์ 2 ฮอยอันชุ่มฉ่ำสุดๆ
เหินฟ้าจากนครโฮจิมินห์ ด้วยสายการบิน Vietnam airline มาลงที่ ดานัง เพื่อต่อรถไป ฮอยอัน เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก
เมืองฮอยอัน อยู่ห่างจากเมืองท่าดานังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร เมืองเก่าโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในบริเวณที่เคยเป็นไดเวียดกลางภายใต้การปกครองของขุนนางเหวียน และปรากฏอยู่ในแวดวงของนักเดินทางตะวันตกในศตวรรษที่ 17 และ 18 แรกเริ่มเมืองฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลในอาณาจักรจามปา เรียกกันในชื่อว่า ได๋เจียน โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ตราเกียว และมีศานสถานอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หมี่เซิน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากฮอยอันมากนัก สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ศตวรรษที่ 19 ชื่อของฮอยอันได้รับการบันทึกลงในการเดินเรือของชาติตะวันตกในชื่อ ไฟโฟ หรือ ไฮโป และมีชาวต่างชาติเดินเรือเข้ามามากมาย จนฮอยอันกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก จนเข้าสู่ราวครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เมืองแห่งนี้ก็โดนเผาราบคาบจากการสู้รบช่วงกบฏไตเซินเหวียนอัน ภายหลังเมื่อเข้าสู่ยุคเริ่มต้นราชวงศ์เหวียน เมืองฮอยอันก็ได้รับการสร้างใหม่ ซึ่งเป็นต้นแบบของอาคารบ้านเรือนอายุสองร้อยกว่าปีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 19 แม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน เนื่องจากตะกอนโคลนเลนสะสมจนไม่อาจนำเรือใหญ่เข้ามาได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นเมืองท่าแห่งใหม่แทนที่ฮอยอัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมืองฮอยอันก็เริ่มลางเลือนไปตามกาลเวลา ทว่ายังคงเป็นเมืองค้าขายเล็กๆ จนถึงปี พ.ศ. 2459 เส้นทางรถไฟระหว่างฮอยอันและดานังได้รับความเสียหายจากพายุและไมได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม เมืองแห่งการค้าที่สำคัญซึ่งเคยต้อนรับชาวต่างชาติจึงยุบลง ปี พ.ศ. 2542 องค์กานยูเนสโกก็ได้ประกาศให้ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะความงดงามและเก่าแก่ของบ้านเมือง รวมทั้งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังเมืองแห่งนี้ ประดุจน้ำในแม่น้ำทูโบนที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ตอนออกจากโฮจิมินห์เวลาประมาณ 17.30 น. อากาศประมาณ 23 องศา แต่พอลงดานังปุ๊ป แม่เจ้า ลมกรรโชก อุณหภูมิลงไปที่ 15 องศา ฝนตกอย่างแรง นี่มันอะไรกันนี่ ชั้นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ไม่เป็นไรมาถึงแล้วเราต้องไปต่อให้ถึงฮอยอันให้ได้
-มดเรียกแท๊กซี่สนามบินเลย เพราะมันค่ำมากแล้ว ต่อราคาได้ที่ 200000 ด่อง = 400 บาท (ดานัง ไป ฮอยอัน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาที ไปถึงโรงแรมที่จองไว้ ปรากฎว่า เค้าให้ห้องคนอื่นไปแล้ว กำ ซ้ำซ้อน นี่มันอะไรกัน
-เวลาขณะนั้น 2 ทุ่มกว่าๆ จะไปหาที่พักที่ไหนได้ คืน วันที่ 31 ธค.แบบนี้ทุกที่ก็น่าจะเต็มหมด จะวีนมากก็ใช่เรื่องแต่มดก็วีนอยู่ดีว่าเราจองแล้วแล้วมดก็โทรมาคอนเฟิร์มแล้วทำไมทำแบบนี้ เค้าก็ยืนยันว่าห้องเต็มไม่มีให้จริงๆ
-มดเลยให้เค้าหาที่พักให้ เอาใกล้ที่สุด เลยได้ที่พักฝั่งตรงข้าม ที่น่ากลัวได้อีก มืด สลัว อับ ชื้น จิ้งจกเพียบ โฮ โฮ อะไรกันคะ อะไรกัน จะมีผีไหมเนี่ย มันทำอะไรไม่ได้แล้วก็ต้องยอม ในราคาคืนละ 30 US กับการต่อรองขอเช็คเอ้าท์ประมาณ บ่าย 4 โมงเพื่อจะได้หาที่พักที่อื่นในคืนต่อไปได้ทัน มดเข้านอนเลยเพราะไม่สามารถไปไหนได้ฝนตกหนักมาก (ขอให้พรุ่งนี้ฝนหยุดด้วยเถิด)
-ตื่นเช้ามา มีอาหารมาเสิร์ฟให้ที่ห้อง นั่งเล่น อิ เบย จนเปื่อยรอฝนหยุด มันก็ไม่หยุด เอาวะ ลุยเที่ยวทั้งๆฝนตกนี่ละกัน ชาวเมืองฮอยอันใส่ชุดกันฝนกันเหมือนเป็นชุดประจำตัวไปแล้ว ถึงฝนตกเค้าก็ออกมาขายของและใช้ชีวิตกันปกติมาก
-แวะหาอะไรใส่ท้องก่อนที่ร้าน Hai Cafe ตกแต่งร้าน น่ารักมากๆ ไม่รู้จะกินไรเลยสั่งเมนูแนะนำมาเป็นเฝอ กับสลัดมะม่วงอะไรซักอย่าง เสริฟพร้อมแผ่นแป้งปิ้งกรอบๆ พอทานคำแรกเท่านั้นแหล่ะ โฮกกกก หร่อยสุดๆๆๆๆๆๆ ซัดเรียบ ในราคา 95000 ด่อง = 190 บาท
-พออิ่มคราวนี้ก็เดิน สำรวจเมืองกันละ สังเกตได้ว่าตึกจะทาสีโทนเดียวกัน คือ เหลือง ส้ม แดง แค่นั้น พออยู่รวมกันเยอะๆก็สวยดีนะ บ้านแต่ละหลังมีอายุเป็น 100 ปี เหมือนหลงกลับมาสมัยโบราณเลยหล่ะ เดินไปเรื่อยจนเจอ
สะพานญึ่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) สัญลักษณ์ของเมืองฮอยอัน ได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง สะพานแห่งนี้
-พอเดินข้ามฝั่งสะพานมาก็เจอบ้านเรือนสไตส์ญี่ปุ่นแท้ๆ เปิดเป็นอาร์ทแกลอรี่และร้านขายของที่ระลึก ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกโคมไฟ งานแกะสลักไม้และหิน ภาพเขียนดูเพลินมาก
-เก็บภาพแม่น้ำทูโทน ในมุมกว้างมาฝาก จะเห็นบ้านสไตล์โคโรเนียลกระจายอยู่ทั่ว ดูมีสเน่ห์จัง
เวลาผ่านไปรวดเร็ว บ่าย 2 กว่าๆแล้ว ยังไม่ได้หาโรงแรมใหม่เลย คิดไปคิดมาไปที่อื่นต่อเลยดีกว่า ไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้ซะด้วย ดานังกับ เว้ อากาศก็เหมือนฮอยอัน คือฝนตกตลอดทั้งวันทั้งคืน ไปก็คงไม่สนุกไม่ได้เที่ยวเต็มที่แน่ๆ มดตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเดินหาแท็กซี่ให้ไปรับที่โรงแรมตอนบ่าย 3 โมงครึ่งเพื่อไปสนามบินดานัง
ไปถึงสนามบิน ดานัง วิ่งจู๊ดดดดเข้าไปดูไฟท์ที่เร็วที่สุด ปรกฎว่าอีก 20 นาที เครื่องจะออก ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ เข้าไปขอเจ้าหน้าที่ว่าขอซื้อตั๋วแล้วขึ้นเครื่องเลยได้ไหมด่วนมากจริงๆ เจ้าหน้าที่ใจดีหรือฟังที่มดพูดแล้วงงก็ไม่รู้เลยยอมอย่างง่ายดาย กลายเป็นผู้โดยสาร VIP มีเจ้าหน้าที่ประกบพาเดินไปส่งถึงเครื่องบินเลย นึกในใจนี่ชั้นกะลังแข่งรายการ Amazing Race อยู่รึเปล่าเนี่ย ทุกอย่างมันช่างเร่งและรีบซะเหลือเกิน
ขึ้นเครื่องได้ 5 นาที เครื่องก็เหินฟ้าอีกรอบ 3 วันนั่งเครื่อง 3 รอบละ ที่แปลกคือมดได้ที่ตรงปีกทั้ง 3 ไฟท์เลย ฝนยังกระหน่ำตกอย่างเมามันส์ ได้แต่คิดว่าขอให้ปลายทางที่มดจะไปฟ้าใสๆๆๆด้วยเถิด
ปล.โปรดติดตามตอนต่อไปว่ามดไปไหนต่อ และเกิดอะไรขึ้น แอบบอกที่ต่อไปนี้สุดยอดมาก ประทับใจสุดๆไปเลย
ปล2.กลับมาคิดอีกที ถือว่าโชคดีที่โรงแรมที่จองไว้แต่แรกเค้าปล่อยห้องให้คนอื่นไปเพราะ มดจองไว้ 2 คืน ไม่งั้นคงอดไปเที่ยวที่สวยๆ และต้องนอนเปื่อย ดูฝนตกแฉะๆอยู่ฮอยอันแน่ๆ เลย
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2552 23:31:10 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2752 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:12:15 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ปุ๋มรักคานยิ่งชีพ (Pum & Knott ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:06:07 น. |
|
|
|
โดย: angelkungking IP: 118.173.255.99 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:12:09:52 น. |
|
|
|
โดย: Cottony วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:8:21:33 น. |
|
|
|
โดย: BBL (BuaHollweg ) วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:15:31:22 น. |
|
|
|
โดย: jeab IP: 118.173.232.29 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:04:35 น. |
|
|
|
โดย: นุ่มนิ่ม IP: 58.8.139.99 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:17:36:02 น. |
|
|
|
โดย: CinnamonGal วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:2:55:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 632 คน [?]
|
Cinnamongal Tirawat
มดเริ่มเขียน Blog เพราะชอบเครื่องสำอางมาก ชอบปาดหน้าตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ พอๆ กะ ปาดหน้าเค้ก จบปริญญาโท Landscape design แต่ชีวิตพลิกผันมาทำร้าน Bakery เล็กๆ อยู่ที่หัวหินชื่อ Euro Bakery Guesthouse มีเขรอะหมู เป็นสมุนที่ภักดี
ฝากไว้ให้คิด:อย่าเชื่อจนหมดใจ ถ้าคุณไม่ได้ลองด้วยตนเอง
การเขียน Blog ทุกอย่างเขียนจากความจริง ถ้าเป็นงานจะมีคำว่า Sponsored by ...... ตอนจบทุกครั้งค่ะ
ได้ Popular Vote Home Decor & Pet Blog จาก Thailand Blog Awards 2012
ได้ Popular Vote และรางวัลที่ 2 Home Decor & Pet Blog จาก Thailand Blog Awards 2011
ได้รางวัลที่ 3 Beauty & Shopping Blog จาก Thailand Blog Awards 2010
พร้อมกับ ที่ 2 Best Beauty Blog 2554 จาก Bloggang Popular Awards 2554
ติดต่องานหรือส่งคำถามที่
cinnamongalblog@gmail.com ..........................................................................
Advertisment
..........................................................................
Update YouTube TheCinnamongal
New Review
New HowTo Tutorial
......................................................................
What's NEW
.................................................................... Update ทุกเรื่องราวความสวยความงามก่อนใคร ที่ FB Cinnamongal.com Fanpage นะคะ
|
|
|
|
|
|
|
สวยดีนะคะ
ดิฉันชินกับคนเวียดนามมากมากเลยค่ะ
เพราะรัฐที่อยู่คนเวียดนามกับคนลาวเยอะมาก