...Welcome to 'CharVinFongLian' Club...
ขอต้อนรับสู่ Blog ChuengNgee (จูเลี่ยนจาง) Series Fan Fiction ค่ะ

ภาพยนตร์ 'ภพรัก' (Reimburse of Love)...ตอนจบ



MV by Linguniang: ภาพยนตร์ ‘ภพรัก’ (Reimburse of Love)

ภาพยนตร์ ‘ภพรัก’ (Reimburse of Love)
ตอนจบ


ตั้งแต่คบกันมา เจิ้งหยวนชางยังไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง หลายๆ ครั้งลี่เย่าฮัวก็นึกหวาดกลัวเช่นกันเกรงว่าชายหนุ่มจะทอดทิ้งตน

ลี่เย่าฮัวคิดว่าต่อแต่นี้ไปคงต้องเอาใจเจิ้งหยวนชางให้มากขึ้น ทางเดียวที่คิดออกในตอนนี้ก็คือซื้อของใช้ส่วนตัวใหม่ให้เขา เพราะเจิ้งหยวนชางต้องทำงานไม่ค่อยมีเวลามาเลือกซื้อของจุกจิกพวกนี้หรอก

ลี่เย่าฮัวใช้รูปร่างของเสียนเฟยหลงที่ลำตัวหนากว่าเจิ้งหยวนชางเล็กน้อยเป็นแบบในการเลือกซื้อของใช้ให้กับแฟนหนุ่ม ใช้เวลาอยู่สองถึงสามชั่วโมงจึงได้เลือกซื้อของที่ต้องการจนครบ

“ฉันขอเข้าห้องน้ำเดี๋ยว นายรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกันนะ” ลี่เย่าฮัวพูดกับเสียนเฟยหลงด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มจาง ก่อนที่จะเดินหลบเข้าไปในห้องน้ำ

ที่ด้านหลังของเสียนเฟยหลง ก็เห็นเงาของเสียนหยังอี้ที่ยืนอยู่หน้าร้านขายนาฬิกาข้อมือ จังหวะที่เสียนเฟยหลงหันหลังมาก็เป็นจังหวะที่เสียนหยังอี้เงยหน้าขึ้นมาจากห้องกระจกพอดี

ในที่สุดเวลาแห่งการพลัดพรากถึงห้าปีเต็มก็สิ้นสุดลง พี่น้องสกุลเสียนต่างก็เบิกตาโพลงด้วยกันทั้งคู่ นัยน์ตาของเสียนหยังอี้ปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตาก่อนจะวิ่งเข้าไปโผซบอกพี่ชาย เสียนเฟยหลงก็เช่นกัน ชายหนุ่มทิ้งของที่อยู่ในมือกอดรัดน้องสาวแน่น ลูบผม จูบหน้าผากด้วยความคิดถึงอย่างเหลือล้น

เพราะต่างก็ตกอยู่ในอารมณ์เดียวกัน ด้วยไม่คาดคิดว่าจะได้พบกันโดยบังเอิญจึงได้ซาบซึ้งกันอยู่นาน กว่าที่เสียนเฟยหลงจะตั้งสติได้ ลี่เย่าฮัวที่ออกมาจากห้องน้ำก็บังเอิญเห็นเหตุการณ์เข้าแต่ก็รีบหลบไปอยู่หลังกำแพงเสียก่อนเพราะกลัวว่าจะถูกเขาเห็น

“พี่/เธอ..เป็นยังไงบ้าง?” พี่น้องแซ่เสียนต่างก็พูดขึ้นพร้อมกัน แล้วก็จบลงที่เสียงหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุข

“เธอไปอยู่ไหนมาวิเวียน พี่ตามหาเธอมาตลอดรู้มั้ย” เสียนเฟยหลงผละตัวน้องสาวออกก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เสียนหยังอี้ก็ปาดน้ำตาออกก่อนจะเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาเช่นกัน “ช่วงที่ฉันพลัดหลงกับพี่โชคดีที่ได้ผู้หมวดใจดีช่วยเหลือไว้ แล้วเขาก็ช่วยอุปการะฉันมาตลอดตั้งแต่นั้น เขาเป็นคนดีมากเลยนะคะพี่ เขาช่วยฉันตามหาพี่มาตลอดด้วยความเต็มใจ ที่สำคัญเขาไม่ถือสาที่ฉันไม่มีอะไรเลย...แล้วตอนนี้...เอ่อ...”

เสียนหยังอี้มีท่าทีอึกอัก จนเสียนเฟยหลงต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่ในที่สุดเสียนหยังอี้ก็ตัดสินใจเล่าความจริงให้พี่ชายฟัง “...พี่คงไม่ว่าฉัน ฉันรักอยู่กับเรย์มอนด์ แล้วตอนนี้เราก็อยู่กินด้วยกันแล้วด้วย”

เสียนเฟยหลงอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วก็ยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาวใหม่อีกครั้ง “เธอโตแล้ว อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะพี่ไม่ห้ามหรอก”

เสียนหยังอี้ก็ยิ้มขวยเขิน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นถุงหลายใบที่กองอยู่ตรงขาของพี่ชาย จึงได้เหล่สายตาจิกมองพี่ชายอย่างเจ้าเล่ห์

“ว่าแต่พี่มากับใครเหรอ..ใช่แฟนหรือเปล่า แนะนำให้ฉันรู้จักบ้างสิ” ขณะที่พูดอยู่เสียนหยังอี้ก็พยายามเหลือบสายตามองไปข้างหลังพี่ชายแต่ก็ไม่พบเห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนไหน

วินาทีนั้นเสียนเฟยหลงจึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลี่เย่าฮัวหายเข้าไปในห้องน้ำได้พักใหญ่แล้ว ซึ่งก็คงจวนจะได้เวลาที่หญิงสาวออกมาเสียที

เสียนเฟยหลงดึงตัวน้องสาวมาหอมหน้าผากอีกครั้ง “ฟังพี่นะวิเวียน พี่คุยกับเธอนานไม่ได้เดี๋ยววิกกี้จะออกมา อีกสามวันเวลานี้เธอมารอพบพี่ตรงนี้แล้วพี่จะเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง ตอนนี้เธอกลับไปก่อน”

“ใครกันวิกกี้?” เสียนหยังอี้ขมวดคิ้วมุ่น

เสียนเฟยหลงลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสบตากับน้องสาวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น “ถ้าเธอยังจำเรื่องความฝันของพี่ที่พี่เล่าให้เธอฟังได้ คุณเย่าฮัวก็คือผู้หญิงคนนั้น แล้วพี่ก็จะไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีกเด็ดขาด”

“คุณเย่าฮัว !” เสียนหยังอี้ทวนคำพี่ชายเสียงแผ่ว แล้วก็นึกทวนความทรงจำเกี่ยวกับความฝันของพี่ชายที่ชอบเล่าให้เธอฟังบ่อยๆ แล้วอยู่ๆ เสียนหยังอี้ก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

“พี่อยู่กับคุณหนูสกุลลี่เหรอ !” เสียนหยังอี้เขย่าตัวพี่ชายใหญ่ “พี่รู้หรือเปล่าว่าพ่อของเธอทำธุรกิจอะไรอยู่ สกุลลี่อันตรายมากพี่ออกมาซะเถอะนะฉันขอร้อง ความฝันยังไงก็คือความฝันมันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกนะพี่ พี่ออกมาเถอะนะฉันเป็นห่วงพี่น่ะกว่าเราจะพบกันได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

เสียนเฟยหลงดึงตัวน้องสาวมากอดไว้ ก่อนจะแนบริมฝีปากกับหน้าผากของน้องสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม เสียนหยังอี้ก็ผละตัวพี่ชายออก แล้วก็ลูบหน้าผากป้อยๆ ก่อนจะค้อนปะหลักปะเหลือกให้กับพี่ชาย

“ใช้ไม้นี้อีกแล้ว แถมยังเอาหนวดแหลมๆ มาทิ่มหน้าฉันอีก” เสียนหยังอี้บ่นกระปอดกระแปด เวลาที่พี่ชายจะอ้อนเธอทีไรก็มักใช้ไม้นี้ทุกทีสินา

ถึงจะรู้ว่าการที่พี่ชายอยู่สกุลลี่จะไม่ใช่เรื่องดี แต่ความรู้สึกวูบหนึ่งของเสียนหยังอี้ก็คือ หน้าที่ของเธอคือสนับสนุนพี่ชายในทุกๆ เรื่อง

เสียนหยังอี้ลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มพี่ชาย

“เอาเถอะ..พี่อยากจะทำอะไรก็ทำแต่พี่ต้องรักษาตัวให้ดีนะ ฉันรีบไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวคุณเย่าฮัวของพี่มาเห็นเข้าจะเข้าใจผิด แล้วพี่อย่าลืมสัญญานะ อีกสามวันมาหาฉันที่นี่แล้วฉันจะรอ ฉันไปล่ะ” พูดจบเสียนหยังอี้ก็รีบวิ่งออกไปทันที

ด้านลี่เย่าฮัวที่หลบอยู่ข้างเสา ไม่สามารถจับประเด็นได้ในสิ่งที่เสียนเฟยหลงคุยกับผู้หญิงแปลกหน้า แต่ท่าทางรักใคร่สนิทสนมกันระหว่างคนทั้งสองก็ทำให้ลี่เย่าฮัวอดอิจฉาไม่ได้ เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างเธอกับเจิ้งหยวนชาง

ลี่เย่าฮัวลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะก้าวขาออกมาจากข้างเสา วินาทีนั้นหญิงสาวถึงได้เห็น ‘รอยยิ้ม’ ของเสียนเฟยหลงเป็นครั้งแรก ความรู้สึกของเธอในตอนนี้คือเวลาที่เขายิ้มก็ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลดี

...แต่ว่า ไม่ใช่สำหรับเธอ...

เสียนเฟยหลงยกมือขึ้นลูบคางและหนวดของตนถึงพึ่งจะรู้สึกตัวว่าเขาปล่อยตัวเองมากจนเกินไป

ลี่เย่าฮัวเดินมาหยุดลงตรงหน้าของเสียนเฟยหลง แล้วชักสีหน้าเอือมระอาใส่เขา “เพิ่งรู้ตัวหรือไง หนวดเคราบ้าๆ ของนายเห็นแล้วมันน่ารำคาญชะมัดเลย” พอระบายอารมณ์เสร็จลี่เย่าฮัวก็เดินออกไป ปล่อยให้เสียนเฟยหลงยืนอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนจะก้มตัวหิ้วของเดินตามหญิงสาวไปบ้าง



“ผมกลับมาแล้วที่รัก” หลินหล่ามฟ๊งเอ่ยขึ้นตอนที่ปิดประตูบ้าน พอชายหนุ่มเดินมาที่โต๊ะอาหารก็เห็นกับข้าววางเต็มโต๊ะไปหมด “โอ้โห..ไปถูกหวยมาหรือไงถึงได้ทำอาหารซะเต็มโต๊ะแบบนี้”

เสียนหยังอี้เดินยิ้มร่าออกมาจากห้องครัว วางจานอาหารไว้บนโต๊ะ ถอดผ้ากันเปื้อนออก เดินไปหยุดลงตรงข้างหลังแฟนหนุ่มพร้อมกับโอบรอบคอเขาไว้

“เป็นเพราะคุณค่ะเรย์มอนด์ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อของขวัญให้คุณ ฉันคงไม่ได้เจอกับพี่ไซมอน ฉันเจอพี่ชายฉันแล้วค่ะเรย์มอนด์ ฉันดีใจมากเลยก็เลยต้องทำอาหารเลี้ยงฉลองกับคุณให้มากหน่อย” เสียนหยังอี้พูดจบก็จุมพิตที่ข้างแก้มของแฟนหนุ่มไปที

หลินหล่ามฟ๊งเผยยิ้มพร้อมกับแสดงความยินดีกับแฟนสาวถึงจะรู้สึกประหลาดใจที่บทจะเจอก็เล่นเจอกันง่ายๆ แบบนี้ แต่ก็นับว่าเป็นข่าวดีมากกว่าเรื่องอื่นๆ อย่างน้อยเสียนหยังอี้ก็ไม่ต้องทำสีหน้าอมทุกข์อีกต่อไปแล้ว

ต่อจากนั้นหลินหล่ามฟ๊งจึงชวนแฟนสาวนั่งรับประทานอาหารกัน แต่สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก เสียนหยังอี้สังเกตเห็นจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

สรุปก็คือคดีของสกุลลี่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเขามาก ทุกๆ ครั้งเขาไม่เคยหาหลักฐานเอาผิดกับลี่หมิงเจ้าได้สักที แล้วหลินหล่ามฟ๊งก็หยุดเล่าเอาเสียดื้อๆ เพราะไม่อยากหาเรื่องปวดหัวให้กับแฟนสาว ขณะที่เสียนหยังอี้อดนึกเป็นห่วงพี่ชายขึ้นมาไม่ได้ เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายพัวพันอยู่กับลูกสาวของลี่หมิงเจ้าอย่างไม่ยอมที่จะถอยออกมาง่ายๆ เพราะความฝันบ้าๆ ของพี่ชายที่ตามหลอกหลอนเขามาหลายปีแท้ๆ เชียว



“ไปเอาออกซะ !”

เจิ้งหยวนชางขึ้นเสียงอย่างเสียอารมณ์พร้อมกับดึงเสื้อที่ปลายเตียงมาสวมใส่ เขาต้องหงุดหงิดทุกๆ ครั้งในเวลาแบบนี้เมื่อสัมผัสกับแผลเป็นอัปลักษณ์บนเรือนร่างของลี่เย่าฮัว

ส่วนลี่เย่าฮัวที่คิดจะเอาใจแฟนหนุ่มด้วยการมอบความสุขให้ หลังจากได้เห็นภาพบาดตาเมื่อตอนกลางวันระหว่างเสียนเฟยหลงกับแฟนสาวก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก หญิงสาวเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกละอายใจที่ไม่สามารถให้ความสุขกับแฟนหนุ่มได้

“ไปทำที่เมืองนอกนะ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ ที่นี่คนรู้จักคุณเยอะแยะเดี๋ยวจะเป็นข่าวได้” เจิ้งหยวนชางพูดตอนที่ติดกระดุมเสื้อ แล้วก็ลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง “...อ้อ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดีนะ แล้วผมจะรอ” พอพูดจบจึงได้เดินออกไป

หลังจากที่เจิ้งหยวนชางออกไปแล้ว ลี่เย่าฮัวจึงได้สะอื้นฮักใหญ่ เจิ้งหยวนชางเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอรัก หากไม่มีเขาแล้วเธอจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไรกัน



เช้าวันรุ่งขึ้นลี่เย่าฮัวลงมาจากชั้นบนพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง พอออกมาจากบ้านก็เจอกับเสียนเฟยหลงที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว แต่ว่าพอชายหนุ่มหันหน้ามาลี่เย่าฮัวก็อดเผยยิ้มบางๆ ออกมาไม่ได้

“ดูดีขึ้นนะ เอาใจแฟนล่ะสิ” ลี่เย่าฮัวแซวขึ้นเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเสียนเฟยหลงเกลี้ยงเกลาขึ้นมาก

เสียนเฟยหลงไม่ได้พูดอะไร เขาเดาเอาว่าหญิงสาวคงเห็นเขากับน้องสาวเมื่อวานนี้ ชายหนุ่มเพียงแต่ยักไหล่เล็กน้อยแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นที่มือของหญิงสาวถือกระเป๋าเดินทางอยู่จึงได้เลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม

“อ้อ...ฉันจะไม่อยู่บ้านสักสองสามวัน ช่วงนี้นายก็ไม่ต้องมาหรอกนะ ฉันเขียนจดหมายบอกพ่อไว้แล้วพ่อไม่ต่อว่านายหรอกนะ” ลี่เย่าฮัวอธิบาย ซึ่งช่วงนั้นรถแท็กซี่ก็วิ่งผ่านมาพอดีหญิงสาวจึงได้โบกรถไว้ แล้วรถแท็กซี่ก็เคลื่อนออกไปในเวลาต่อมา



ภายในห้องผ่าตัดลี่เย่าฮัวนอนลืมตาโพลง สีหน้าของหญิงสาวซีดเผือด บนใบหน้าผุดเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จังหวะการเต้นของหัวใจถี่เร็วจนน่าหวาดกลัว เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกปิดลงลำตัวลี่เย่าฮัวก็สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

แพทย์ศัลยกรรมหญิงถามย้ำกับลี่เย่าฮัวอีกครั้งถึงการตัดสินใจที่จะผ่ารอยแผลเป็นม่วงคล้ำอัปลักษณ์ออก ลี่เย่าฮัวก็พยักหน้าช้าๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจทั้งๆ ที่เธอไม่เคยมีความรู้สึกเหมือนจะสูญเสียเช่นนี้มาก่อนในชีวิต

ทว่าก่อนที่แพทย์จะลงมีด ลี่เย่าฮัวกลับถกผ้าขึ้นมาปิดไว้ หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วคว้าเอาเสื้อมาสวมใส่เหมือนดังเดิม “ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ ฉันเอามันออกไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา” พูดจบลี่เย่าฮัวก็ผลุนผลันออกไปจากห้องผ่าตัดด้วยความรวดเร็ว

คิดไม่ถึงว่าพอออกมาจากห้องกลับเห็นเสียนเฟยหลงยืนอยู่ตรงหน้า ลี่เย่าฮัวจึงได้ส่งเสียงตวาดใส่เสียนเฟยหลงด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “นายมันบ้าไปแล้ว ฉันมาไกลถึงขนาดนี้นายยังจะตามฉันมาอีก นายทำอย่างนี้เพื่ออะไรฮะไซมอน !”

เสียนเฟยหลงไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรลี่เย่าฮัวต้องมาสถานที่แบบนี้ และต้องมาไกลถึงที่นี่ ทว่ามีสิ่งเดียวที่เขามั่นใจและจะไม่มีสิ่งใดมาเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้ ชายหนุ่มยกมือขึ้นช้าๆ ชี้ไปตรงตำแหน่งของหัวใจ

“ผมทำตามที่หัวใจของผมเรียกร้อง” มีเพียงคำพูดที่มั่นคงและหนักแน่นประโยคเดียวที่ออกมาจากปากของเสียนเฟยหลง แววตาของเขาสบกับสายตาของลี่เย่าฮัวอย่างไม่มีหวั่นไหวเลยสักนิด

ส่วนลี่เย่าฮัว หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เสียนเฟยหลงไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอ แต่คำที่เขาพูดบอกก็สร้างความหวั่นไหวให้เธออยู่ไม่น้อย

“ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมดทุกคนนั่นแหละ...ก็ได้...ถ้านายคิดอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะทำให้นายถอนคำพูดเอง ตามฉันมาสิ” ลี่เย่าฮัวพูดกับเสียนเฟยหลงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาก่อนจะเดินนำชายหนุ่มออกไป



ที่ห้องนอนของลี่หมิงเจ้า ขณะที่ชายวัยกลางคนกำลังหลับสนิท ประตูห้องนอนก็ถูกแง้มเปิดออกอย่างช้าๆ แล้วร่างของเจิ้งหยวนชางก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาในห้อง ในมือของเขามีปืนเก็บเสียงกระบอกหนึ่ง ส่วนแววตาของเขาก็ดูดุร้ายและเหี้ยมโหดจนน่าตกใจกลัว

เจิ้งหยวนชางใช้โอกาสที่ลี่เย่าฮัวไม่อยู่คิดลอบสังหารลี่หมิงเจ้าเพื่อจะได้ไม่ต้องมีเรื่องกวนใจเหมือนเมื่อหลายวันก่อนอีก นับแต่วันพรุ่งนี้เขาจะได้มีอิสระเสียที

เจิ้งหยวนชางเดินเข้าไปหยุดลงตรงหน้าของลี่หมิงเจ้า แล้วเอื้อมมือไปหยิบหมอนหนุนอีกใบที่ข้างกายของชายวัยกลางคน ต่อจากนั้นก็ใช้หมอนหนุนกดทับใบหน้าของลี่หมิงเจ้า จนชายวัยกลางคนอึดอัดหายใจไม่ออก

ลี่หมิงเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่เพียงครู่เดียวในจังหวะที่เจิ้งหยวนชางใช้ปืนจ่อลงไปที่หมอนแล้วเหนี่ยวไกปืนทันที !



ลี่เย่าฮัวเปิดประตูห้องของโรงแรมที่เธอเช่าไว้แล้วเชื้อเชิญให้เสียนเฟยหลงเข้ามาในห้อง ซึ่งเสียนเฟยหลงก็ก้าวเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย

เมื่อประตูห้องถูกปิดลงและเสียนเฟยหลงหันหลังมาก็เห็นลี่เย่าฮัวกำลังยิ้มหวานยั่วให้กับตนอยู่

ลี่เย่าฮัวค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเสียนเฟยหลงอย่างช้าๆ แววตาของหญิงสาวหยาดเยิ้มจนเสียนเฟยหลงได้แต่แอบกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า จนกระทั่งลี่เย่าฮัวผลักเสียนเฟยหลงให้นอนลงบนเตียง ส่วนเธอก็ขึ้นค่อมร่างของเสียนเฟยหลงไว้อีกทีหนึ่ง

ลี่เย่าฮัวไล้นิ้วมือไปตามรูปหน้าของเสียนเฟยหลง “นายนี่ ดูไปดูมาก็หล่อดีเหมือนกันนะ” น้ำเสียงที่ลี่เย่าฮัวใช้พร่าสั่นอย่างยั่วยวนจนความอดทนของเสียนเฟยหลงลดน้อยลงทุกที

ลี่เย่าฮัวยังคงใช้มารยายั่วยวนเสียนเฟยหลงอยู่ไม่เลิก มือที่ไล้ไปตามรูปหน้าของชายหนุ่มเริ่มเลื้อยลงต่ำจนถึงลำคอ แล้วลี่เย่าฮัวก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเสียนเฟยหลงออกทีละเม็ดอย่างยั่วเย้า

ความอดทนของเสียนเฟยหลงขาดผึงลงทันทีเมื่อถึงจุดนี้ ชายหนุ่มพลิกร่างกายขึ้นทาบทับอยู่บนลำตัวของหญิงสาวแทน ซึ่งลี่เย่าฮัวไม่ได้มีอาการตื่นตกใจเลยแม้แต่น้อย แถมยังใช้สองมือโน้มคอของเสียนเฟยหลงไว้ และใช้สายตาท้าทายให้เสียนเฟยหลงลงมือได้อย่างที่ใจปรารถนา

เสียนเฟยหลงประทับริมฝีปากกับลี่เย่าฮัวอย่างนุ่มนวน ชายหนุ่มไล้ริมฝีปากไปตามพวงแก้ม ใบหู และซอกคอของหญิงสาว มือของเขาค่อยๆ ถกเสื้อของหญิงสาวลงขณะที่ริมฝีปากก็ไล้โลมไปตามผิวกายของหญิงสาว

จนกระทั่งถึงตำแหน่งตรงเนินอกที่มีรอยแผลเป็นอัปลักษณ์สีม่วงคล้ำที่เสียนเฟยหลงหยุดชะงักการกระทำลง สายตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะใช้สองมือค้ำยันลำตัวไว้แทน สายตาที่เบิกกว้างจับจ้องรอยแผลเป็นอัปลักษณ์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

...และนั่นก็ตรงกับจุดประสงค์ของลี่เย่าฮัวพอดี...

ลี่เย่าฮัวฉีกยิ้มอย่างสะใจพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา “ไง...เสียงเรียกร้องจากหัวใจของนายมันเงียบไปแล้วหรือไง ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมดทั้งโลก ที่อยากได้ก็แค่ร่างกายของผู้หญิงเท่านั้นแหละ ฉันเข้าใจความต้องการของพวกผู้ชายดี นายไม่ใช่รายแรกหรอกนะที่เจออย่างนี้...ทีนี้ก็เลิกทำอะไรบ้าๆ ได้แล้วสินะ”

ลี่เย่าฮัวพูดจบก็ผลักไหล่ของเสียนเฟยหลงออก ทว่าตอนที่หญิงสาวกำลังจะลุกขึ้นกลับถูกเสียนเฟยหลงทาบทับลำตัวลงมาใหม่อีกครั้ง

“นายจะทำอะไร !...อื้อๆๆๆ” ยังไม่ทันที่ลี่เย่าฮัวจะพูดอะไรต่อก็ถูกฝ่ามือหนาทาบปิดปากเอาไว้

เสียนเฟยหลงจ้องมองรอยแผลเป็นอัปลักษณ์สีม่วงคล้ำเนิ่นนาน ไม่ช้าในแววตาของเขาก็มีหยาดน้ำตาปริ่มไหลออกมา นั่นทำให้น้ำเสียงอู้อี้ในลำคอของลี่เย่าฮัวขาดหายไป หญิงสาวจ้องมองใบหน้าของเสียนเฟยหลงอย่างไม่เข้าใจ

เสียนเฟยหลงไม่คิดว่าบาดแผลของหญิงสาวจะใหญ่โตเหวอะหว่ะขนาดนี้ ถึงใครจะว่าบาดแผลนี้มันน่ากลัว แต่สำหรับเขามันเหมือนกับตราบาปที่ติดอยู่ในใจเขามาเนิ่นนาน ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าลงต่ำจุมพิตรอยแผลเป็นอัปลักษณ์สีม่วงคล้ำอย่างไม่นึกรังเกียจ เขาวนรอยจุมพิตอยู่แต่ตรงบริเวณนั้นอย่างนุ่มนวน แผ่วเบา หอมหวาน และรักใคร่

การกระทำของเสียนเฟยหลงทำให้ปราการในใจของลี่เย่าฮัวพังทลายลง หญิงสาวหลับตาแน่นิ่งซึมซับการกระทำหวานล้ำของเสียนเฟยหลงอย่างเต็มใจ หยาดน้ำตาก็หยดไหลออกมาจากดวงตาของหญิงสาวด้วยความซาบซึ้งใจเช่นกัน

เสียนเฟยหลงลุกขึ้นดึงเสื้อที่ไหลลงต่ำของลี่เย่าฮัวกลับมาสู่ตำแหน่งเดิม แล้วก็หันหลังให้กับลี่เย่าฮัวในจังหวะที่หญิงสาวลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“ผมเดาว่าที่คุณมาที่นี่เพื่อต้องการเอามันออก แต่ที่คุณเปลี่ยนใจผมรู้สึกซาบซึ้งมาก ขอบคุณที่ยังเก็บความทรงจำของเราไว้ ผมอยากให้คุณรู้ไว้ ผู้ชายไม่ได้เหมือนกันทุกคน เรื่องแค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผมและผมจะไม่ถอยเพราะเรื่องแค่นี้แน่” พูดจบเสียนเฟยหลงก็ก้าวออกไปจากห้อง

ส่วนลี่เย่าฮัวก็มองตามแผ่นหลังของเสียนเฟยหลงไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เธอไม่เข้าใจในคำพูดแปลกๆ ของเขา แต่ว่าเวลานี้เธอรู้สึกสับสนและหวั่นไหวเป็นอย่างมากไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรนับแต่ต่อจากนี้



หลังจากที่ส่งลี่เย่าฮัวตรงหน้าบ้านแล้ว เสียนเฟยหลงก็ขอตัวไปทำธุระต่อ วันนี้เขานัดเจอกับน้องสาวจึงมีเรื่องมากมายที่อยากเล่าให้น้องสาวฟัง

แต่พอก้าวเท้าเข้ามาในบ้านลี่เย่าฮัวก็แทบสิ้นสติเมื่อเห็นรูปตั้งศพของพ่อวางอยู่ เจิ้งหยวนชางเดินเข้ามาดึงตัวหญิงสาวไปกอดปลอบพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลี่เย่าฮัวฟัง

“เมื่อคืนนี้พ่อของคุณถูกลอบสังหาร อาจเป็นศัตรูของพ่อคุณที่ชอบดักจับตัวคุณบ่อยๆ ก็ได้ ตั้งสติให้ดีนะครับที่รัก พ่อของคุณท่านไปสบายแล้ว”

เวลานี้แววตาของลี่เย่าฮัวเลื่อนลอย เพราะตกใจจนช็อกจึงเปรียบเสมือนร่างที่ไร้วิญญาณ หญิงสาวอ่อนแรงอยู่ในอ้อมกอดของเจิ้งหยวนชาง น้ำตาไหลพรากๆ แต่ไม่มีเสียงสะอื้นออกมาจากลำคอแม้แต่น้อย



...สองเดือนต่อมา...

ตลอดสองเดือนที่ผ่าน ทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ สกุลลี่มีเจิ้งหยวนชางก้าวเข้ามาดูแลกิจการแทนลี่หมิงเจ้า

ด้านเสียนเฟยหลงยังคงดื้อรั้นติดตามลี่เย่าฮัวทุกวัน โดยที่ลี่เย่าฮัวก็มีทีท่าที่อ่อนโยนต่อเขามากขึ้นเช่นกัน

ครั้งหนึ่งเจิ้งหยวนชางถูกลอบทำร้ายแต่ได้เสียนเฟยหลงช่วยเหลือไว้ เจิ้งหยวนชางจึงได้ชักชวนให้เสียนเฟยหลงเข้ามาทำงานด้วยกันกับเขา

เสียนเฟยหลงสับสนไม่รู้ว่าควรจะทำตามคำชักชวนของเจิ้งหยวนชางดีหรือไม่ หลายเดือนมานี้เขาก็พอรู้อยู่บ้างว่าเจิ้งหยวนชางใช้ภัตตาคารเป็นเครื่องมือทำอะไร ต้องขอบคุณชีวิตในมุมมืดของเขาที่ประสบมานานเป็นแรมปี

ทว่าข้างกายของเจิ้งหยวนชางก็มีลี่เย่าฮัวติดตามอยู่ไม่ห่างเช่นกัน ดังนั้นเสียนเฟยหลงจึงไม่มีเวลาที่จะลังเลอีก ชายหนุ่มตอบตกลงคำชักชวนของเจิ้งหยวนชางอย่างว่าง่าย

แต่โชคดีที่เจิ้งหยวนชางยังไม่ไว้วางใจในตัวเขา จึงไม่ได้มอบหมายเรื่องใหญ่ให้เขาทำ ทุกวันนี้เสียนเฟยหลงเป็นแค่หุ่นตัวหนึ่งที่ช่วยเจิ้งหยวนชางดูแลลี่เย่าฮัว ในช่วงเวลาที่เจิ้งหยวนชางต้องทำงานก็เท่านั้น

ด้านหลินหล่ามฟ๊งยังคงติดตามคดีผิดกฎหมายของเจิ้งหยวนชางต่อไป หลายครั้งที่เขาเกือบจะเอาผิดเจิ้งหยวนชางได้ แต่เจิ้งหยวนชางก็รอดได้ทุกครั้งจากความช่วยเหลือของแจ็กกี้

ส่วนเสียนเฟยหลงที่รอดจากสถานการณ์เสี่ยงถูกจับกุมได้ทุกครั้ง เพราะได้รับการช่วยเหลือจากเสียนหยังอี้ ทำให้เขาไม่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย

สุดท้ายเสียนหยังอี้ตัดสินใจสารภาพความจริงให้หลินหล่ามฟ๊งฟังเกี่ยวกับเรื่องที่พี่ชายทำงานให้กับเจิ้งหยวนชาง แต่หญิงสาวก็ยืนยันว่าเจิ้งหยวนชางไม่เคยให้พี่ชายข้องแวะเกี่ยวกับเรื่องค้ายาหรือฟอกเงินอย่างแน่นอนเพราะเจิ้งหยวนชางไม่เคยวางใจในตัวพี่ชายของเธอ

หลินหล่ามฟ๊งก็รับปากกับเสียนหยังอี้ว่ากฎหมายย่อมยุติธรรมเสมอ วันใดที่เขาสามารถจับกุมเจิ้งหยวนชางได้หากว่าพี่ชายเขาไม่มีความผิดจริงย่อมถูกปล่อยให้เป็นอิสระอย่างแน่นอน

วันหนึ่งแจ็กกี้มาหาเจิ้งหยวนชางที่ภัตตาคาร และได้เห็นเสียนเฟยหลงอยู่ในนั้น ความแค้นเก่าๆ ก็หวนกลับคืนมาอีกครั้ง แจ็กกี้ทวงบุญคุณกับเจิ้งหยวนชางที่เคยช่วยเหลือเขาไว้หลายครั้งด้วยการให้กำจัดเสียนเฟยหลงซะ

เจิ้งหยวนชางก็ตอบตกลงทันที เพราะเขาเองก็ไม่ชอบใจที่เสียนเฟยหลงชอบส่งสายตาให้ลี่เย่าฮัว และลี่เย่าฮัวก็มีทีท่าอ่อนโยนกับเสียนเฟยหลงด้วยเช่นกัน

ต่อจากนั้นแจ็กกี้จึงได้คุยเรื่องอื่นกับเจิ้งหยวนชางต่อ “...จริงสิเควิน ฉันได้ข่าวมาตาแก่เฉินมันให้คนสืบเรื่องที่เจ้านายเก่านายถูกฆ่าตาย ถ้ามันรู้ว่าเป็นฝีมือนาย รับรองนายไม่รอดแน่ พรรคพวกของตาแก่เฉินเยอะจะตาย แล้วนายจะเอายังไง”

“ลูกน้องฝีมือดีๆ ของนายก็เยอะ ถ้างั้นก็ช่วยฉันหน่อยสิ พวกที่แก่แล้วมันก็ไร้น้ำยากันทั้งนั้นก็เหมือนกับตาแก่ลี่ ถือว่าช่วยเหลือกันได้มั้ยล่ะแจ็กกี้” เจิ้งหยวนชางยักไหล่ตอบแจ็กกี้อย่างไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด

ลี่เย่าฮัวที่กำลังจะเข้าห้องของเจิ้งหยวนชางถึงกับเบิกตาโพลง ขบกรามแน่น เมื่อได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองตั้งแต่ต้นจนจบ แววตาของหญิงสาวแปรเปลี่ยนเป็นเคียดแค้น ชิงชัง คิดไม่ถึงว่าเจิ้งหยวนชางจะหลอกลวงเธอมาโดยตลอด



...ช่วงเวลากลางคืน ตรอกซอยเล็กๆ ข้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านานโจว...

เสียนเฟยหลงขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นลี่เย่าฮัวยืนยิ้มให้กับเขาอยู่ตรงหน้าประตู ชายหนุ่มเชิญหญิงสาวให้เข้ามาในบ้าน แม้ไม่รู้ว่าหญิงสาวมีธุระอันใดกับเขาในยามค่ำคืน

ทันทีที่ประตูบ้านถูกปิดลง ลี่เย่าฮัวก็โถมร่างเข้าไปกอดเสียนเฟยหลงไว้ทั้งตัวซึ่งเสียนเฟยหลงได้แต่ตะลึงไป

“บอกฉันสิ เพราะอะไรนายถึงชอบฉัน” ลี่เย่าฮัวตัดสินใจแล้ว ก่อนที่เธอจะแลกชีวิตกับเจิ้งหยวนชาง เธออยากรู้ความจริงในข้อนี้

เสียนเฟยหลงลอบถอนหายใจ สองมือค่อยๆ ยกขึ้นโอบกอดเอวหญิงสาว “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ นานมาแล้วผมเคยติดค้างคุณ ชาตินี้ผมเกิดมาเพื่อชดใช้ให้คุณ”

“เกี่ยวกับแผลเป็นที่หน้าอกของฉันด้วยหรือเปล่า?” ลี่เย่าฮัวถามขึ้นอีก เธออยากจะได้ยินเสียงของเขามากกว่านี้

เสียนเฟยหลงไม่ตอบ เพียงแต่พยักหน้าให้หญิงสาวเท่านั้น

“หมายความว่าถ้าไม่มีแผลเป็นนี่อีก นายก็ไม่ต้องชดเชยให้ฉันแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงของลี่เย่าฮัวพร่าสั่นเพราะกลัวคำตอบที่จะได้ยินจากปากเขา

“....”

“ไม่เป็นไร..ต่อไปนี้มันไม่สำคัญสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว” ลี่เย่าฮัวพูดแค่นั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเสียนเฟยหลงอย่างลึกซึ้ง

ลี่เย่าฮัวเขย่งปลายเท้า แนบริมฝีปากตนกับเสียนเฟยหลงก่อน ส่วนเสียนเฟยหลงก็ปรารถนาเช่นนี้มานาน ชายหนุ่มจุมพิตตอบลี่เย่าฮัวเนิ่นนาน ก่อนที่หญิงสาวจะถอดเสื้อของตัวเองออก โน้มศีรษะของเสียนเฟยหลงไล้ลงต่ำสู่ตำแหน่งของเนินอก และเผยยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อได้รับสัมผัสที่นุ่มนวน อ่อนโยน และรักใคร่จากเสียนเฟยหลงอีกครั้งหนึ่ง



แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าปลุกให้เสียนเฟยหลงตื่นขึ้น แต่ข้างกายของเขาไม่มีเงาของลี่เย่าฮัวอีก

เสียนเฟยหลงเบิกตาโพลงเมื่อมือของเขาสัมผัสกับ ‘แผ่นเนื้อ’ บางๆ สีม่วงคล้ำผืนหนึ่งก่อนจะคว้ากระดาษจดหมายข้างตัวขึ้นมาเปิดอ่าน

‘ไซมอนคะ..ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณพยายามชดเชยให้ฉัน ฉันสารภาพตามตรงว่าฉันไม่เข้าใจความหมายที่คุณพูด แต่ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากที่คุณไม่นึกรังเกียจแผลเป็นอัปลักษณ์ของฉัน ต่อแต่นี้ไปบนร่างกายของฉันไม่มีของสิ่งนี้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องชดเชยให้ฉันอีก และไม่จำเป็นที่จะต้องกลับไปที่สกุลลี่อีกต่อไป...วิกกี้’

เวลานี้เสียนเฟยหลงมึนงงไปหมด เขาไม่เข้าใจความหมายที่ลี่เย่าฮัวบอก แต่ลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับเขาว่าลี่เย่าฮัวกำลังตกอยู่ในอันตราย

เสียนเฟยหลงลุกขึ้น คว้าเสื้อผ้ามาใส่ลวกๆ และกุมแผ่นเนื้อบางๆ สีม่วงคล้ำไว้ในมือจ้องมองมันอย่างรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย

เพราะอะไรลี่เย่าฮัวถึงต้องทำร้ายเขาขนาดนี้ ถึงขนาดตัดสัมพันธ์กับเขาอย่างเด็ดขาด แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้เขาก็จะไม่ยอมแพ้แน่

เสียนเฟยหลงพุ่งตัวออกจากบ้านด้วยความรวดเร็ว สวนกับเสียนหยังอี้ที่มาหาเขาถึงบ้าน ชายหนุ่มจึงขอร้องน้องสาวให้พากำลังตำรวจบุกไปที่ภัตตาคารโดยเร็ว ถึงจะต้องใช้ไม้แข็งเขาก็จะไม่ยอมให้ลี่เย่าฮัวใช้ชีวิตอยู่กับเจิ้งหยวนชางอีกต่อไปแล้ว



จุดประสงค์ที่ลี่เย่าฮัวต้องตัดความสัมพันธ์กับเสียนเฟยหลงอย่างเลือดเย็น เพราะไม่ต้องการให้เสียนเฟยหลงเป็นเหยื่อของเจิ้งหยวนชางอีกคน ตราบใดที่เสียนเฟยหลงยังตอแยกับเธอไม่เลิกสักวันต้องถูกเจิ้งหยวนชางกำจัดแน่นอน ความต้องการของแจ็กกี้เป็นเพียงข้ออ้างข้อหนึ่งของเจิ้งหยวนชางก็เท่านั้น

ลี่เย่าฮัวหยุดอยู่ตรงหน้าห้องทำงานของเจิ้งหยวนชาง จ้องมองประตูห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉยและแววตาที่เย็นชา ก่อนจะค่อยๆ ผลักประตูห้องเข้าไปช้าๆ

เจิ้งหยวนชางเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะ ก็เห็นลี่เย่าฮัวกำลังยิ้มหวานให้กับตน “ว่าไงจ๊ะที่รัก มีอะไรกับผมหรือเปล่า”

ลี่เย่าฮัวเดินมาหยุดลงตรงข้างหลังของเจิ้งหยวนชางและโอบกอดรอบคอเขา “คุณเคยบอกให้ฉันเอาแผลเป็นอัปลักษณ์นั่นออกจำได้หรือเปล่า...ตอนนี้ฉันเอามันออกแล้วนะฉันก็เลยมาบอกข่าวดีกับคุณ”

เจิ้งหยวนชางเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนจะเหลือบสายตาลอดมองเข้าไปที่เนินอกของลี่เย่าฮัวก็เห็นเป็นผ้าพันแผลที่ยังมีคราบเลือดอยู่

เจิ้งหยวนชางหันไปจุมพิตลี่เย่าฮัว ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม “ขอบคุณที่รัก แล้วคุณอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ”

“ไม่มากไม่มายค่ะ พาฉันไปเที่ยวก็พอ ไปกันตอนนี้เลยนะคะ” ลี่เย่าฮัวบอกสั้นๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปปิดแฟ้มเอกสารบนโต๊ะ

เจิ้งหยวนชางหันมายิ้มให้กับลี่เย่าฮัวเล็กน้อย “ก็ได้...เดี๋ยวให้ผมสั่งงานลูกน้องแป๊ปนึงนะ” ต่อจากนั้นจึงได้หันไปยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา

ลี่เย่าฮัวจึงถือโอกาสที่เจิ้งหยวนชางเผลอ หยิบมีดที่ซ่อนไว้ออกมาแล้วเงื้อมมือจะแทงเจิ้งหยวนชางจากทางด้านหลัง

ทว่าความเงาของมีดสะท้อนกับแผ่นกระจกใสบนโต๊ะทำงาน เจิ้งหยวนชางจึงได้รู้ตัว ชายหนุ่มเพียงถูกความคมของมีดเฉือนที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น

เจิ้งหยวนชางถอยออกมาก่อนจะกระชากเสียงใส่ลี่เย่าฮัว “จะบ้าหรือไงวิกกี้ คุณกำลังจะฆ่าผมนะ”

“ฉันได้ยินที่นายพูดกับเพื่อนนายหมดแล้ว นายเป็นคนฆ่าพ่อฉัน !” ลี่เย่าฮัวน้ำตารื้นกระชากเสียงตอบเจิ้งหยวนชางเช่นกัน

เจิ้งหยวนชางชักสีหน้าเหี้ยม ตรงดิ่งเข้าไปบิดข้อมือของลี่เย่าฮัวทำให้มีดหลุดมือ ก่อนที่จะขึงตัวลี่เย่าฮัวไว้บนโต๊ะ

“แล้วยังไง พ่อของเธอมันถึงที่ตายแล้ว ฉันไม่เก็บเอาไว้ขัดลาภของฉันหรอก” น้ำเสียงที่เจิ้งหยวนชางใช้แข็งกร้าวและดุดัน แต่ลี่เย่าฮัวไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด

ต่อจากนั้นเจิ้งหยวนชางก็บดขยี้ปากของลี่เย่าฮัว ก่อนจะเลื่อนใบหน้าไล้ไปตามผิวกายของหญิงสาวโดยที่ลี่เย่าฮัวไม่ได้แข็งกายขัดขืน ฉายเพียงแววตาแข็งกร้าวอย่างเจ็บแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรเจิ้งหยวนชางได้

ประตูห้องทำงานถูกกระถืบเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับหลินหล่ามฟ๊งและลูกน้องก้าวเข้ามาในห้อง

เจิ้งหยวนชางใช้ความไวเปิดลิ้นชักที่โต๊ะทำงานคว้าปืนออกมาและกระชากลี่เย่าฮัวมาล็อกคอไว้พร้อมกับจ่อปืนที่หัวของเธอ “กล้ายิงก็ยิงเลย แต่นังนี่ต้องตายก่อน”

“คุณมอบตัวซะเถอะ คนของคุณถูกเราจับไว้หมดแล้ว ส่วนแจ็กกี้ก็ถูกเรารวบตัวได้ครู่นี้ ครั้งนี้คุณไม่มีทางรอดแล้วคุณเจิ้ง” หลินหล่ามฟ๊งกล่าวขึ้นช้าๆ อย่างใจเย็น และสายตาของเขาก็ลอบมองไปที่ช่องหน้าต่างที่เป็นกระจกใสด้านหลังของเจิ้งหยวนชางชั่ววินาทีหนึ่ง

เสียนเฟยหลงปีนกำแพงขึ้นมาจากชั้นล่างของภัตตาคาร และใช้ความรวดเร็วลอดตัวเข้าตรงช่องหน้าต่าง ตวัดปลายเท้าเตะไปที่หน้าของเจิ้งหยวนชาง ทำให้เจิ้งหยวนชางเสียหลัก ลี่เย่าฮัวจึงหลุดจากการถูกจับกุม

ทว่าเจิ้งหยวนชางก็ลั่นไกไปทางลี่เย่าฮัวทันทีเช่นกัน เสียนเฟยหลงใช้ร่างกายบังตัวลี่เย่าฮัวไว้ทำให้เขาถูกยิงเข้าไปที่กลางหลังถึงสองนัดซ้อน

เจิ้งหยวนชางหันปืนไปทางหลินหล่ามฟ๊งกับลูกน้องและกราดยิงไปหลายนัด หลินหล่ามฟ๊งและลูกน้องเบี่ยงตัวข้างกำแพงเพื่อหลบกระสุน เจิ้งหยวนชางจึงใช้จังหวะนั้นทุบกระจกหน้าต่างและกระโดดหนีออกไปทำให้หลินหล่ามฟ๊งและลูกน้องต้องวิ่งตามไปจับกุม

“ไซมอน...คุณเป็นยังไงบ้าง !” ลี่เย่าฮัวสะอื้นฮักกอดเสียนเฟยหลงไว้แนบอก

เสียนเฟยหลงเผยยิ้ม ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อหยิบแผ่นเนื้อสีม่วงคล้ำออกมา “สัญญากับผม...อย่าทำกับผมแบบนี้อีก...ที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำเพื่อชดใช้...แต่ที่ผมทำมาจากหัวใจของผมจริงๆ...รับปากผม...อยู่กับผมได้มั้ย...วิกกี้”

ลี่เย่าฮัวส่ายหน้าใหญ่ ร่ำไห้อยู่ไม่หยุด กอดเสียนเฟยหลงแน่น “ได้ ฉันจะอยู่กับคุณ คุณต้องเป็นของฉันคนเดียว แต่คุณก็ต้องสัญญาเหมือนกัน ว่าคุณจะไม่เป็นอะไร ได้มั้ย ไซมอน”

เสียนเฟยหลงตาปรือ ไร้เรี่ยวแรงที่จะให้คำมั่นกับลี่เย่าฮัว ไม่ช้าสติของเขาก็ดับวูบไป



...หนึ่งปีผ่านไป...

ชื่อของ ‘สกุลลี่’ ในมุมมืดได้หายสาบสูญไปจากเมืองฮ่องกงหลังจากที่เจิ้งหยวนชางถูกวิสามัญฆาตกรรมและภัตตาคารถูกเปลี่ยนมือ ส่วนพรรคมังกรสูญสลาย เมื่อหัวหน้าพรรคถูกจำคุกตลอดชีวิต

ต้องขอบคุณเสียนเฟยหลง หากไม่ได้เขาเป็นคนให้ข่าว และช่วยเหลือในการบอกหลักฐานทั้งหมด หลินหล่ามฟ๊งก็อาจจะยังไม่สามารถทลายบุคคลอันตรายเหล่านี้ได้

...ชีวิตในมุมมืดของเสียนเฟยหลง อันที่จริงก็มีประโยชน์ดีอยู่ไม่น้อย...

เสียนหยังอี้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีนพร้อมกับหลินหล่ามฟ๊ง หญิงสาวยังคงมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้เล่าเรื่องราวความฝันของพี่ชายให้กับแฟนหนุ่มฟัง “...คุณรู้หรือเปล่า เรื่องของพี่ไซมอนเหมือนตำนานในนิยายเลยนะ จากเดิมที่ฉันไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่มาถึงตอนนี้ไม่เชื่อก็คงไม่ได้”

“ไม่เบื่อหรือไง..เล่าให้ผมฟังตั้งกี่ครั้งแล้ว” หลินหล่ามฟ๊งลอบถอนหายใจ แต่จะว่าไปก็เพราะเสียนหยังอี้เป็นคนจิตใจงดงาม ร่าเริง แจ่มใส เขาถึงได้รักเธอมากมายขนาดนี้

“ก็มันจริงนี่นา ถ้าพี่ไซมอนไม่ตามหาผู้หญิงในฝันจนมาเจอกับพี่วิกกี้ ป่านนี้พวกเขาก็คงไม่มีความสุขมาจนถึงวันนี้หรอกนะ ส่วนฉันก็เหมือนเป็นเทพธิดาเลย ช่วยพวกเขาให้สมหวังในความรัก” เสียนหยังอี้แย้งหลินหล่ามฟ๊งด้วยท่าทางร่าเริง สดใส

หลินหล่ามฟ๊งก็คิดตามอย่างที่เสียนหยังอี้พูด หญิงสาวมีส่วนช่วยสนับสนุนความรักของพี่ชายกับลี่เย่าฮัวมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นเขาจะพลาดจากการจับกุมเสียนเฟยหลงอยู่หลายครั้งได้อย่างไร

“วิเวียน !”

เสียงของเสียนเฟยหลงกับลี่เย่าฮัวดังขึ้นพร้อมกับเมื่อเห็นคนที่รักกำลังเดินตรงมาหา เสียนหยังอี้ก็วิ่งตรงเข้ามากอดพี่ชายกับลี่เย่าฮัว ก่อนที่หลินหล่ามฟ๊งจะเดินมาสมทบด้วยอีกคน

...หนึ่งปีให้หลัง หลังจากเรื่องร้ายๆ ผ่านไป และลี่เย่าฮัวแต่งงานกับเสียนเฟยหลง ทั้งสองคนก็ตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่สงบเงียบยังดินแดนชนบทแห่งนี้...

“ว้าว...ใกล้คลอดหรือยังคะเนี้ย” พอผละจากการกอดกัน เสียนหยังอี้ถึงเพิ่งจะเห็นว่าลี่เย่าฮัวท้องโตขึ้นมากจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ

ลี่เย่าฮัวยิ้มหวาน หัวเราะคิกพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่ม “สัปดาห์หน้าก็คลอดแล้วจ๊ะ พี่ชายเธอเห่อมากเลยนะ ไม่ยอมให้พี่ทำอะไรเลย ดูสิพี่อ้วนจนเป็นหมูแล้วเนี้ย”

หลินหล่ามฟ๊งเอื้อมมือไปจับกับเสียนเฟยหลงพร้อมกับกล่าวแสดงความยินดีด้วย เสียนเฟยหลงก็ยิ้มเขินๆ ให้ก่อนจะหันไปประคองผู้เป็นภรรยาต่อ

เวลาต่อจากนั้นทั้งสี่คนก็เดินต้วมเตี้ยม ท่องชมธรรมชาติอันเงียบสงบอย่างมีความสุข


...................................................จบบริบูรณ์.........................................

สวัสดีวันปีใหม่ 2010 ขอให้แฟนคลับทุกคนมีความสุขมากๆ นะคะ

จากใจ...จางงี้...








 

Create Date : 01 มกราคม 2553
18 comments
Last Update : 1 มกราคม 2553 15:25:15 น.
Counter : 1225 Pageviews.

 

จบแล้วค่ะ...

สวัสดีปีใหม่อีกครั้ง มีความสุขมากๆ นะคะทุ๊กคน

 

โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) 1 มกราคม 2553 15:26:29 น.  

 

จบแฮปปี้เอนดิ้ง . . เย้ เย้ เย้ . . เหมือนได้ดูภาพยนตร์ 1 เรื่องจริงๆ นะเนี่ย ประกอบกับ MV ของหลินกุด้วย เป็นเหมือนเรื่องสั้นจริงๆ ค่ะ ขอขอบคุณทั้งจางงี้และหลินกุ สำหรับของขวัญปีใหม่ร่วมทุนชิ้นนี้

มีข้อสงสัยอีกแล้ว เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นในปี 1986 และจากการคิดเวลา ตอนจบของเรื่องก็อยู่ประมาณปี 1988 ตอนแรกที่เดานะ คิดว่าเริ่มปี 1986 งั้นแสดงว่าตอนจบทั้งลี่เย่าฮัวและเสียนเฟยหลงจะต้องตายแล้วก็เกิดใหม่พบกันอีกชาตินึง ถ้าเกิดปี 1988 พอมาถึง ปัจจุบันปี 2o1o ทั้งสองคนก็จะอายุ 22 ปี กำลังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันพอดี แต่ว่าเดาผิดแฮะ งั้นทำไมถึงเป็นเรื่องที่เกิดในปี 1986 ล่ะคะ ช่วยบอกหน่อยซี่

ในชาตินี้ผีเสื้อน้อยได้แก้ตัว คอยสนับสนุนพี่ชาย น่าดีใจแทนจังเลย แล้วก็มีคู่ที่แสนดีอย่างหล่ามฟ๊ง อ่านแล้วสุขใจค่ะ

พี่เจิ้งหยวนชางเนี่ยซี่ ทำให้ชักอยากดูละครที่เฮียเล่นเป็นตัวร้ายมากๆ ซะแล้วล่ะ

 

โดย: O-yohyo 1 มกราคม 2553 16:30:17 น.  

 

โม้ MV ซะหน่อย เพิ่งไปอ่านเมนต์ตอนที่แล้วมา เลยได้รู้ว่าหลินกุรู้แค่โครงเรื่องแล้วทำ MV โห . . เจ๋งมากค่ะ เพราะว่างทำออกมาได้เนียนดีจังเลย

แล้วตอนที่เปลี่ยนใบหน้าจากยุคอดีตมาสู่ยุคปัจจุบัน ก็หาภาพมาได้มุมดีมากๆ เลย ต้องขอคาราวะความมุมานะในการหาภาพนะ คิดว่ายากกว่าการทำซะอีก การจะหาให้ได้ภาพดีๆ ต้องนั่งดูละคร ดูแล้วก็คัด แล้วครั้งนี้ตัวละครตั้ง 5 ตัวแน่ะ เชื่อว่ากว่าจะได้ภาพมาหลินกุคงต้องนั่งคัดอยู่นานมากแน่ๆ ขอบคุณจริงๆ เลยค่ะ


แล้วก็ขอบคุณจางงี้อีกเช่นกันที่คิดบทดีๆ มาให้ได้เพลิดเพลินอีกแล้ว สมาขิกในครอบครัวเราเขียนฟิคเก่งๆ ทั้งนั้น แต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเองแบบไม่ซ้ำกัน ทำให้คนอ่านไม่เบื่อเลยค่ะ เรียกว่าได้สัมผัสหลากรสหลากอารมณ์

 

โดย: O-yohyo 1 มกราคม 2553 16:38:54 น.  

 

* * แก้คำผิดค่ะ * *


เพราะว่างทำออกมาได้เนียนดีจังเลย แก้เป็น . .


เพราะว่าทำออกมาได้เนียนดีจังเลย

 

โดย: O-yohyo 1 มกราคม 2553 16:40:40 น.  

 

ขอเอา MV ไปเผยแพร่ที่เวปต่างๆ ของอาเส่หน่อยนะคะ ถึงแฟน ตปท จะอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ว่าดู MV ก็น่าจะได้นะ

 

โดย: O-yohyo 1 มกราคม 2553 16:42:00 น.  

 

เข้ามาไขปริศนาเรื่องปี คศ. ค่ะ เพื่อความสมจริงในยุคสมัยที่ยังรุ่งเรืองอยู่ในยุคของมาเฟีย ปี 1986 จึงเป็นยุคที่เหมาะสมที่สุดค่ะ

เพราะตามท้องเรื่องแล้วลี่หมิงเจ้ายังรุ่งเรืองอยู่ และเป็นยุคสมัยที่ตำรวจจัดการได้ยากตามท้องเรื่องค่ะ

ถ้ากระเถิบมาเป็นสมัยใหม่กว่านี้กัวว่าจะไม่สมจริงตามท้องเรื่องค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามผลงานมาตลอดนะคะ

 

โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) 1 มกราคม 2553 17:44:43 น.  

 

เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่ไขความกระจ่างนะคะ

นั่นซี่เนอะ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้พวกมาเฟียยังรุ่งเรื่องอยู่รึเปล่า แต่ก็ไม่ค่อยได้ยินข่าวแล้ว แต่คิดว่าน่าจะมีอยู่นะคะ เพียงแต่ว่าไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องราวมาทำละครกันแล้ว


แต่จะเป็นปีไหนก็ไม่มีปัญหาค่ะ จิ้นได้สบายอยู่แล้ว

 

โดย: O-yohyo IP: 58.9.162.55 1 มกราคม 2553 17:50:48 น.  

 

ตามมาอ่านตอนจบแล้วค่ะ สุดยอดมากเลยๆ จะบอกว่าเฮียเครับบทร้ายคราวนี้ ทับทิมจิ้นได้แจ่มแจ๋วเลยค่ะ เพระมีละครเรื่องนึง กระซิบว่าก็คือเรื่องที่พี่หลินใช้ในเอ็มวี เฮียเคก็จะร้ายประมาณนี้เลย พอได้มาอ่านเรื่องนี้ของพี่งี้ ทำให้ทับทิมจิ้นได้ทะลุปรุโปร่ง

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ถึงบทเฮียเคสุดที่รักจะต้องมอดม้วย แต่ก็สมควรรับโทษค่ะ

 

โดย: ทับทิม IP: 125.26.42.245 1 มกราคม 2553 20:52:12 น.  

 


โอ้ววว ลุ้นมากกกอ่ะ จางงี้ แบบว่าลุ้นว่าบทอาเส่จะแรงขนาดไหน พอมาอยู่กับเจิ้งหยวนชาง อ๊ากกก ตะแรกก็ข้องใจสุดๆ ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้จะถึงขนาดไหน แต่พอมาอ่านเม้นต์ o-yo ตอนแรกที่ว่าแผลเป็นทำให้หยวนชางชงัก หมดอารมณ์ ค่อยโล่งใจค่ะ (แอบกลัวเสียนเฟยไม่ใช่คนแรกของนางเอก แหะๆ) ก็จิ้นว่าแผลเป็นของเย่าฮัวคงน่าเกลียดมากๆแน่ๆ ขนาดทำให้ผู้ชายหมดรมณ์เนี่ย แต่แผลเป็นนี่ก็ทำให้เสียนเฟยหลงจำเย่าฮัวได้ ไม่อยากให้เย่าฮัวเอาออกเลยค่ะ

แล้วฉากที่เย่าฮัวปาดแผลเป็นออก ใจเด็ดมากเลยง่ะ ตกลงเธอเอาออกจริงๆใช่มั้ยคะ

ส่วนบทหมวดหล่ามฝงกับผีเสื้อน้อยเป็นบทน่ารักที่พอจะทำให้คลายตื่นเต้นของเรื่องเลยค่ะ สองคนนี้ออกมาทีไร ทำให้ได้ผล่อนคลาย เพราะเวลาเย่าฮัวออกทำให้พลอยลุ้นตื่นเต้นใจไม่ดีทุกครั้ง ถูกโจรตามล่าบ้างล่ะ เข้าพระเข้านางกับเสียนเฟยหลง และหยวนชางด้วยล่ะ ผู้อ่านหัวใจจะวาย อิอิ

แต่ก็จบอย่างมีความสุข ขอบคุณ ผกก.จางงี้กับผลงานเรื่องนี้ด้วยค่ะ

และก็ mv หลินกุใช้เวลาโหลดละครเฮียเค ละครอาเส่ ละครอาฟง ทาเวียหลายวัน สุ่มในแต่ละเรื่องที่คิดว่าคาราแรกเตอร์เหมาะกับฟิคที่สุด แล้วมานั่นดูละครทีละตอนๆ จนเพลินเลยค่ะ กว่าจะได้คลิปละเล็กละน้อยที่ตัดมาใส่ mv ใช้เวลาร่วมเดือนครึ่งล่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ติชม ทำให้มีกำลังใจมากๆเลยค่ะ

 

โดย: หลินอี้ 1 มกราคม 2553 21:18:45 น.  

 

ขอบคุณสำหรับภาพยนตร์ 'ภพรัก' เรื่องนี้มากค่ะ ผู้กำกับ และ ทีมงาน


-------------------------------------------------------------------------------

สงสารพี่หยวนชาง





เครดิตภาพจาก ทับทิม

 

โดย: ทะเล (ปิงหวิน ) 1 มกราคม 2553 22:42:03 น.  

 

เชื่อค่ะว่าหลินกุต้องใช้เวลาเป็นเดือนแน่ๆ ก็ละครแต่ละเรื่องนี่ยาว 20 ตอนขึ้นทั้งนั้น ขอบคุณทั้งหลินกุและจางงี้เลยค่ะ มีความสุขกับการดูและการอ่านจริงๆ

เมื่อคืนเลยฝันถึงบรรยากาศมาเฟียด้วย 55 อินกับฟิคมากไปหน่อย

 

โดย: O-yohyo 2 มกราคม 2553 17:27:21 น.  

 

แวะมาอ่านไปนิดนึงแล้วค่ะ ขอเบ่งพลังนิดนึงนะ ตัวละครเยอะ จำชื่อยังไม่ได้เลย

 

โดย: realtomtam 2 มกราคม 2553 21:27:15 น.  

 

ก๊ากกกกกกก ขำตัวเองจริงๆ อ่านมาจนจบถึงได้รู้ว่า อ่านผิด ยังไม่ได้อ่านตอนแรกเลย กระโดดมาอ่านตอนที่สองซะแล้ว แต่ก็รู้เรื่องนะ เพียงรู้สึกตะหงิดๆ ว่าทำไมเรื่องเดินเร็วจัง อย่างตอนแรกๆ ก็แอบเคืองๆ ทาเวียร์ อะไรกันเล่นเป็นน้องสาวของชิแลม แต่ว่าฉากแรกก็ทั้งกอดทั้งหอมไปหลายสิบรอบเลย

แต่ก็สนุกมาก จางงี้เขียนได้ตรงและแรงดี อ่านแล้วตื่นเต้นลุ้นระทึก บทของนักแสดงแต่ละคนก็สุดขั้วมากๆ อย่างนางเอกก็ใจเด็ดมากๆ เฮียเคก็ร้ายได้ใจดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ขอตัวไปอ่านตอนแรกก่อน โหะๆๆๆ

 

โดย: realtomtam 2 มกราคม 2553 22:41:03 น.  

 

จบแล้ว ๆ ขอบคุณจางงี้ระคะกับของขวัญปีใหม่ สนุกมากๆ เลยค่ะ

 

โดย: มิโดริ IP: 124.120.199.64 3 มกราคม 2553 9:51:46 น.  

 

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ ลุ้นระทึกตลอดเวลา แถมยังเอาใจช่วย
ไชม่อนอีก หนุกๆๆๆ ขอบคุณนะคะ...

 

โดย: chainny cheung IP: 203.144.144.164 30 มกราคม 2553 14:33:21 น.  

 

ขอบคุณเชนนี่จางนะคะ ที่เข้ามายลผลงาน

 

โดย: จางงี้ (ChuengNgee ) 30 มกราคม 2553 23:24:34 น.  

 

whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

 

โดย: da IP: 203.144.144.165 9 กุมภาพันธ์ 2553 7:45:43 น.  

 

I think other web site proprietors should take this website as an model, very clean and fantastic user genial style and design, let alone the content. You are an expert in this topic!
Replica Mulberry Handbags //www.relaisroches.com/

 

โดย: Replica Mulberry Handbags IP: 94.23.252.21 2 สิงหาคม 2557 12:29:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ChuengNgee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บทประพันธ์ในบ้านหลังนี้เป็นลิขสิทธิ์ของผู้ประพันธ์โดยสมบูรณ์ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก เลียนแบบ หรือตีพิมพ์ ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทประพันธ์ในบ้านหลังนี้เพื่อการอย่างอื่นนอกจากการชมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น หากผู้ใดทำการละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ChuengNgee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.