Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยว - ดี๋ใจ๋ยิ่งแล้ว ... แขกแก้วมาเยือน - วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ลำปาง สถานที่ท่องเที่ยว : วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ลำปาง, ลำปาง Thailand พิกัด GPS : 18° 18' 3.51" N 99° 30' 34.30" E วันก่อนพาไปเที่ยววัดพระธาตุลำปางหลวงที่จังหวัดลำปางแล้วก็กระโดดตุ๊บไปเที่ยววัดพระธาตุหริภุญไชยที่จังหวัดลำพูน วันนี้พามาหย่อนไว้ที่ลำปางที่เดิมครับ ฮ่าๆๆๆๆไปเที่ยวเหนือครั้งนี้มีเวลาให้จังหวัดลำปางจำกัดครับก็เลยได้เที่ยวไม่กี่ที่ ความจริงลำปางก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายคาดว่าจะต้องจัดทริปลำปางเน้นๆซักทริปนึงเร็วๆนี้ครับ
วัดที่จะพามาเที่ยวในวันนี้ก็เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำปางมานานบางเวบก็บอกว่าสร้างมานานกว่าพันปีแล้วครับและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาณีรัตนปฎิมากร หรือ พระแก้วมรกต เป็นระยะเวลา 32 ปี อีกด้วยคราบ
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหาร จังหวัดลำปาง
การเดินทางมาวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหาร จังหวัดลำปาง เจ้าของบล็อกกด Google Map มาครับสะดวกมากๆ ถ้าเป็นสมัยก่อนก่อนที่จะมาวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหารคงจะต้องเตรียมตัวหาแผนที่ให้ชัดเจนเสียก่อน เดี๋ยวนี้สะดวกมากๆ แค่กด Google Map เท่านั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆก็สามารถมาวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหาร ถูกแน่ๆครับ
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหาร เป็นพระอารามชั้นตรีชนิดสามัญ ตั้งอยู่บนถนนสุชาดา ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
จริงๆแล้ววัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามวรวิหาร เคยเป็นวัด 2 วัดที่มีอาณาเขตติดกันมาก่อนครับ คือวัดพระแก้วดอนเต้า กับ วัดสุชาดาราม กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศการรวมวัด รื้อกำแพงวัดออกและยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง
ตำนานของพระแก้วดอนเต้า วัดพระแก้วดอนเต้า และวัดสุชาดารามเกี่ยวเนื่องเป็นเรื่องราวเดียวกัน
ตามตำนานเล่าว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินทางมาจำพรรษาที่วัดพระแก้วดอนเต้า (ชื่อเดิมของวัดพระแก้วดอนเต้าคือ วัดพระธาตุดอนเต้าเพราะบริเวณที่เป็นวัดพระแก้วดอนเต้าแต่เดิมปลูกหมากเต้า หรือ แตงโมเยอะ เมื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาณีรัตนปฎิมากร หรือ พระแก้วมรกต แล้วจึงเรียกชื่อว่า วัดพระแก้วดอนเต้า แต่ตอนที่พะภิกษุมาจำพรรษาเรียกชื่อวัดว่าอะไรตำนานไม่ได้บอกไว้ครับอิอิอิ) นางสุชาดาได้พบหินเนื้อสีเขียวอยู่ในลูกแตงโมจึงนำไปถวายแก่พระภิกษุรูปนั้น พระภิกษุรูปนั้นจึงนำไปแกะเป็นพระพุทธรูป (อ่านมาหลายเวบก็ยังสับสนครับ บางเวบก็ว่าพระภิกษุรูปนั้นแกะพระพุทธรูปเอง บางเวบก็ว่าไปจ้างช่างให้แกะ บางเวบบอกว่ามีเทวดามาช่วยแกะ) เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จก็มีชาวเมืองมาบูชาสักการะกันมากมายเรียกพระพุทธรูปสีเขียวนั้นว่า พระแก้วดอนเต้า เหล่าเสนาอำมาตย์เกิดริษยาพระเถระรูปนั้น (ตามตำนานไม่ได้บอกว่าอิจฉาเรื่องอะไร) จึงใส่ความต่อเจ้าผู้ครองนครว่าพระเถระรูปนั้นว่าเป็นชู้กับนางสุชาดา พระเถระรูปนั้นรู้ข่าวว่าตัวเองถูกใส่ร้ายจึงนำพระแก้วดอนเต้าไปฝากไว้ที่วัดพระธาตลำปางหลวง (และประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงมาจนถึงวันนี้) เจ้าผู้ครองนครก็หลงเชื่อจึงสั่งให้นำพระเถระรูปนั้นและนางสุชาดาไปประหารเสีย นางสุชาดาจึงอธิษฐานว่าถ้าตัวเองไม่ได้กระทำความผิดก็ขออย่าให้เลือดตกลงดิน เมื่อเพชฌฆาตประหารนางสุชาดาเลือดของนางสุชาดาพุ่งขึ้นบนฟ้าแล้วหายวับไป ผู้คนจึงเชื่อว่านางสุชาดาเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งชื่อว่า วัดสุชาดาราม เพื่อระลึกถึงนางสุชาดา
ในส่วนของพระแก้วดอนเต้าก็ยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มากเมื่อนำพระแก้วดอนเต้าออกมาเข้าขบวนแห่ครั้งใดก็จะมีฝนตกทุกครั้งไป
ส่วนในเรื่องวัดพระแก้วดอนเต้าที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรหรือพระแก้วมรกตมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เขียนไว้ว่า (แต่เจ้าของบล็อกย่อความมาจากคลิปรายการ คลายฉงน ตอนพระแก้วมรกต โดยอาจารย์แพน คุณเผ่าทอง ทองเจือ นะครับ) ในรัชสมัยของพระเจ้าสามฝั่งแกนครองเมืองเชียงใหม่ ในขณะนั้นเมืองเชียงรายและลำปางเป็นเมืองขึ้นของเชียงใหม่ พระองค์ทรงได้ทราบข่าวมาว่าพบพระแกะสลักจากหินสีเขียวจึงส่งคนไปอัญเชิญมาเก็บไว้ที่เชียงใหม่ ขบวนอัญเชิญพระแก้วมรกตเดินทางจากเชียงรายมาถึงทางแยกที่จะไปเชียงใหม่และลำปางช้างที่เป็นช้างบรรทุกบุษบกพระแก้วมรกตเกิดตื่นวิ่งมาทางเส้นทางที่จะไปลำปาง ทำอย่างไรก็ไม่ยอมกลับไปทางเชียงใหม่ มีการเปลี่ยนช้างเชือกใหม่ก็ยังไม่ยอมไปอยู่ดี พระเจ้าสามฝั่งแกนจึงทรงให้พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ที่วัดพระแก้วดอนเต้า ลำปางตลอดพระชนมมายุของท่าน
จริงๆแล้วตำนานพระปแก้วมรกตที่เกี่ยวข้องกับวัดพระแก้วดอนเต้าก็จบแค่นั้นครับ แต่ไหนๆก็พูดถึงตำนานพระแก้วมรกตแล้วก็เล่าให้จบดีกว่า เมื่อพระเจ้าติโลกราชได้เป็นกษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ที่เจดีย์ใหญ่ในวัดเจดีย์หลวง ต่อมากษัตริย์ล้านนาได้ว่างลง เหล่าเสนาอำมาตย์จึงเชิญสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชซึ่งตอนนั้นเป็นอุปราชเมืองหลวงพระบางมาเป็นกษัตริย์ปกครองเชียงใหม่ด้วยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชมีพระราชมารดาเป็นราชธิดาของเจ้าเมืองเชียงใหม่ สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงเสด็จมาครองเมืองเชียงใหม่ เมื่อพระราชบิดาของสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเสด็จสวรรคตพร้อมกับสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงทราบข่าวว่าพม่าจะยกทัพใหญ่มาตีกรุงศรีอยุธยาซึ่งเชียงใหม่ก็จะต้องโดนหางเลขไปด้วยจึงทรงย้ายกลับไปอยู่เมืองหลวงพระบางและนำพระแก้วมรกตไปด้วย เมือกลับไปเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (ลาว) ได้ไม่นานก็เกรงว่าพม่าจะยกทัพมาตีหลวงพระบางจึงไปสร้างเมืองใหม่คือนครเวียงจันทร์และทรงนำพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ ณ นครเวียงจันทร์จนกระทั่งสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีนครเวียงจันทร์ได้พระแก้วมรกตกลับมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามตั้งแต่นั้น ก่อนที่จะเข้าเขตพุทธวาสทางขวามือมีศาลนางสุชาดาซึ่งมีรูปปั้นนางสุชาดาและพระเถระตามตำนานพระแก้วดอนเต้า
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามมีผังของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พระวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีพระธาตุดอนเต้าอยู่ท้ายพระวิหาร ทางที่เราเดินเข้ามาจะเป็นทางข้างๆของพระวิหารครับเราจะเห็นพระธาตุดอนเต้ากับพระมณฑปศิลปะแบบพม่าเด่นสง่ามาแต่ไกลเลยครับ พระมณฑปสร้างด้วยไม้อยู่ทางทิศใต้ขององค์เจดีย์ เป็นศิลปะแบบพม่าเชื่อกันว่าจำลองแบบมาจากเมืองมัณฑะเลย์ ประดับตกแต่งด้วยลายไม้แกะสลักประดับกระจกทั้งหลังฝีมือละเอียดมากๆ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองเรียกกันว่า พระบัวเข็ม ศิลปะพม่าอีกเช่นกัน
ด้านหลังพระมณฑปเป็นพระเจดีย์สีขาวยอดเป็นสีทององค์ใหญ่ซึ่งก็คือ พระธาตดอนเต้า บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัยผสมกับล้านนา (แต่เจ้าของบล็อกคิดว่าคล้ายเจดีย์แบบพม่ามากกว่า พม่านิยมสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ๆ ทรวดทรงมั่นคงแบบนี้) ฐานสูงต่อมุมลดชั้นสูงกว่าปกติ ปล้องไฉนมีขนาดใหญ่ทำให้ดูมั่นคง แข็งแรง เจดีย์กว้างด้านละ 13 วา สูง 25 วา ที่ฐานเจดีย์มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 7 องค์ ตั้งแต่องค์ระฆังจนถึงยอดปิดทองจังโก้เป็นสีทองอร่าม
ด้านข้างพระเจดีย์มีวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยยาสน์เก่าแก่ อยู่คู่กับวัดพระแก้วดอนเต้ามานาน
เดินอ้อมพระเจดีย์จะเห็นรูปปั้นช้างที่บรรทุกบุกษกประดิษฐานพระแก้วมรกตมาจากเมืองเชียงราย
พระวิหารหลวง เป็นพระวิหารที่มีโครงสร้างเป็นปูนมมีเครื่องบนเป็นไม้มีขนาดใหญ่ ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันแกะเป็นรูปพระนารายญ์ทรงครุฑภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย
หน้าพระวิหารหลวงมีซุ้มประตูโขง ด้านข้างพระวิหารหลวงมีวิหารไม้สัก สร้างเป็นวิหารโถงโล่ง 3 ด้าน ประดับลายแกะสลักไม้สวยงาม
จริงๆจะต้องเดินไปวัดสุชาดารามด้วยครับ .... แต่เจ้าของบล็อกลืมไปสนิทเรยยยยยย เพราะใจมันจดจ่ออยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดลำปางครับ เรียกว่าเป้นสัญลักษณ์ของจังหวัดได้เลยครับ ติดตามกันต่อนะครับว่าสถานที่นั้นคืออะไรอิอิอิ Chubby Lawyer Tour .................... เที่ยวไป .................... ตามใจฉัน ตามมาเที่ยวด้วยคนค่าาา โหวตๆๆ วัดสวยมากๆเลยค่ะ
โดย: touch the sky วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:19:33:07 น.
ภายในโบสถ์สวยมากเลยค่า ชอบๆ
เห็นลวดลายแบบนั้นแล้วชื่นชมค่ะ ฝีมือสุดๆ คนไทยเราตะก่อนเก่งมากๆ ฝีมือละเอียดดีด้วยน้า มาแปะใจให้คุณบอลค่า คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ทนายอ้วน เรียบร้อยแล้วนะคะ โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:21:14:25 น.
สวัสดีค่ะ พี่บอล ^^
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ทนายอ้วน เรียบร้อยแล้วนะคะ =================== บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog โดย: ปรัซซี่ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:8:04:31 น.
ตามมาเที่ยวมาแปะใจให้พี่บอลค่า
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:8:30:29 น.
Blogman About Weblog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog AppleWi Beauty Blog ดู Blog ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog โหวตท่องเที่ยวให้นะจ๊ะน้องบอล จากที่เม้นท์ ชอบขนมปังชิ้นหนาๆ แน่เลย มันเต็มปากเต็มคำดีเนาะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:8:49:07 น.
โดย: ไกรศรี (ไกรศรี ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:10:39:06 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|