Windows ทีครองตลาดในเมืองไทยในตอนนี้มีอยู่สองรุ่นคือ xp และ 7เมื่อ Windows 8 เข้ามาหลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าควรเปลี่ยนดีหรือไม่?เปลี่ยนไปแล้วจะได้อะไรเพิ่ม? หรือจะใช้ Windows ตัวเก่าดี แล้วข้อดี-ข้อเสียของ Windows 8 มีอะไรบ้าง?
ข้อดี
- การบูต Windows 8 ด้วย HDD แบบ SSD ใช้เวลาบูตเครื่อง 7 วินาทีเร็วกว่า Windows 7 ที่บูต 17 วิ เกือบ 10 วินาที!!
- Live Tile อัพเดทอัตโนมัติในส่วนของ Live Tile ที่เทียบได้กับ Desktop ของ Windows 7ผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้เรื่องที่เราต้องการอัพเดทมาอยู่ในหน้านี้ได้ไม่ว่าจะเป็นกล่องจดหมายจาก Email,ราคาหุ้น,สภาพอากาศข้อความทวีต,Facebook,รูปถ่ายในเครื่อง,สกายไดรฟ์ ฯลฯช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นการอัพเดททุกอย่างได้ในหน้าจอเดียวเข้าถึงโปรแกรมต่างๆง่ายขึ้นด้วย Live Tileปกติการที่ผู้ใช้จะกลับมาหน้า Desktop ใน Windows 7 หรือ XPหากไม่มีไอคอน Desktop ก็ต้องไล่ย่อหน้าจอที่ใช้งานอยู่ให้หมดเพื่อที่จะกลับมาเลือกโปรแกรมที่ต้องการในหน้า Desktopบางคนอาจจะใช้ปุ่ม Home แล้วเลื่อนเม้าส์มาคลิกโปรแกรมที่ต้องการแทนในWindows8 เพียงแค่กดปุ่ม Homeก็สามารถกลับไปที่หน้าจอ Live Tile เพื่อเลือกโปรแกรมต่างๆได้ทันทียิ่งถ้าเป็นหน้าจอสัมผัสด้วยแล้วการเลือกโปรแกรมจะยิ่งง่ายขึ้นไปอีกด้วยการเอานิ้วจิ้มเพื่อเลือกได้อย่างรวดเร็ว
Windows 8.1
ในวันที่ 18 ตุลาคม 2013 ทาง Microsoft ออกชุดอัพเดตระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่ชื่อ Windows 8.1 ซึ่งกว่าจะมาเป็น Windows 8.1 ได้นั้น ทาง Microsoft ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้หลังได้สัมผัส Windows 8 โดยที่ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 จะเปิดตัวเวอร์ชั่นเต็มในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งผู้ที่ใช้ วินโดวส์?8 ทั่วโลก สามารถอัพเดต Windows 8.1 ได้ฟรี ผ่านทาง Windows Store
เงื่อนไขในการอัพเกรด
-Windows 8 ที่เป็นของลิขสิทธิ์แท้ สามารถอัพเกรดเป็น Windows 8.1 ในระดับเดียวกัน จะไม่เสียค่าใช้จ่าย
-กรณีที่ต้องการอัพเกรดจาก วินโดวส์ XP และ Windows Vista ไปเป็น วินโดวส์ 8.1 ต้องติดตั้งใหม่อย่างเดียวในแบบ Clean Install
-กรณีที่ต้องการจะซื้อ Windows 8.1 เพื่อเปลี่ยนมาใช้ วินโดวส์?รุ่นเก่า จะสามารถอัพเกรดได้เฉพาะ วินโดวส์?7 เท่านั้น
-กรณีที่ซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ที่มาพร้อม Windows 8.1 ในแบบมาตรฐาน สามารถอัพเกรดเป็น Windows 8.1 Pro พร้อม Windows Media Center ได้ในราคา 99.99 USD
ข้อกำหนดด้านอุปกรณ์ที่นำมาใช้กับ Windows 8.1
หนึ่งเดือนก่อนหน้าที่ Windows 8.1 จะถูกส่งไปให้กับเหล่า OEM นั้น Microsoft ก็ได้เตรียมการจัดทำรายการความต้องการของฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐานของตัวระบบที่ได้ตั้งมาตรฐานเอาไว้ของ ?วินโดวส์ 8.1?มีตั้งแต่การรองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Bluetooth และ WiFi, มีกล้องด้านหน้าที่ความละเอียดไม่ต่ำกว่า 720p, มีระบบเสียงความละเอียดสูงสำหรับอุปกรณ์ด้านเสียงอย่างลำโพงต่างๆ, รองรับการสั่งงานพิมพ์ผ่าน WiFi Direct print ได้โดยตรง, มีระบบการระบุตัวตนผู้ใช้งานบน ?วินโดวส์ 8.1?ผ่านการตรวจสอบด้วยเอกลักษณ์ทางชีวภาพ อย่างการอ่านลายนิ้วมือ
ขั้นตอนการอัพเกรดเป็น Windows 8.1 จาก Windows 8
ถ้ากำลังอัพเกรดจาก Windows 8, วินโดวส์?8 Pro, Windows RT, Windows 8.1 Preview, Windows 8.1 Pro Preview หรือ วินโดวส์?RT 8.1 Preview จะมีขั้นตอนที่เหมือนกัน ซึ่งทำได้สองวิธีคือ โหลดจาก Windows Store หรือว่าทำโดย ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง ?วินโดวส์ 8.1?แบบออฟไลน์ หลังจากนั้น จะใช้เวลาไม่นานในการ อัพเกรด OS ใหม่
Windows 10
โดยไฮไลท์ของ Windows 10 ก็คือ การออกแบบที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยต่อภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น เช่นปรับปรุงในส่วนของ User experience , เพิ่มเติมในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดการได้ง่ายขึ้นจากตัวผู้ใช้เอง พร้อมกันนั้นยังมีการกลับมาของปุ่ม Start Menu นอกจากนี้แอปที่อยู่ในหน้า Metro , รวมไปถึงแอปต่างๆใน Windows Store ก็จะสามารถเปิดใช้งานเป็นหน้าต่างแบบปกติที่ย่อขยายได้แล้วทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่เต็มหน้าจออีกต่อไป
เช่นกันระบบ Task View ที่เปรียบเสมือนกับการพรีวิวแต่ละโปรแกรมที่เปิดใช้งานด้วย Windows 10 ที่คล้ายๆ กับการกด Alt+Tab ครับ ให้คุณเข้าถึงงานต่างๆที่เปิดค้างไว้อยู่ได้ แต่จะเหนือกว่าด้วย Snap enhancements ที่ให้คุณแบ่งหน้าจอใช้งานMultiple Desktop ได้สูงสุด 4 จอพร้อมกันให้เพื่อนทำงานไปด้วย เล่นเกมไปด้วย เล่นเว็บไปด้วยพร้อมๆกันได้ด้วยโดยไม่เหลือเนื้อที่ส่วนเกิน ส่วนผู้ที่ต้องใช้งานระบบสัมผัสเป็นหลักก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับเพราะ Windows 10 ยังคงได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานด้วยระบบสัมผัสเช่นเดียวกับ Windows 8 ครับ นอกเหนือจากนี้ Windows 10 จะเป็นระบบปฏิบัติที่ออกแบบมาให้รองรับหลายแพลตฟอร์มพร้อมรองรับกับอุปกรณ์ทุกประเภท ตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ ไปจนถึงเครื่อง Xbox One กันเลยละครับ และระบุว่าทั้งหมดจะมี Store ร่วมกัน สำหรับทุกอุปกรณ์ และแอพพลิเคชันทุกตัวที่สร้างบน Windows 10 จะสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วย