Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

Secret รักเรากัลปาวสาน


ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้ไปดูหนังเลย เพราะว่าเราไม่สบาย ไม่อยากไปทำลายอารมณ์สุนทรีของการดูหนังของคนอื่นๆ ประมาณว่าเราไอมากๆๆ แบบว่า infinitty cough เลยหละ

หลังจากอาการดีขึ้น ก็ควานหาว่าอยากดูเรื่องไร ดูๆ ไป ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีหนังน่าดูเลย แต่ว่าเพื่อนเราแนะนำบอกว่า Secret ที่ เจย์ โชว์ เล่นน่าดู เราก็เลยลากน้องที่ทำงานไปดูกัน เค้าบอกกันว่าเรื่องนี้มีจุดเด่นหลายจุด ได้แก่:

- ภาพยนตร์เรื่องแรก!!! ที่นักร้องซูเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน “เจย์ โจว” รับหน้าที่ กำกับภาพยนตร์, เขียนบทภาพยนตร์, แสดงนำ และร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เอง
- ทุ่มทุนสร้างมากถึง 2.5 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 1,280 ล้านบาท) สูงกว่างบเดิมที่ตั้งเอาไว้ถึง 1.2 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 40 ล้านเหรียญไต้หวัน (ประมาณ 38 ล้านบาท)
- เป็นภาพยนตร์รักสุดโรแมนติก ของนักเรียนหนุ่มที่พึ่งย้ายโรงเรียนมา ตกหลุมรักนักเรียนหญิงที่พบกันเพียงครั้งแรก ซึ่งมีกระแสว่าเนื้อเรื่องภาพยนตร์มีเค้าโครงมาจากความรักครั้งแรกของ “เจย์ โจว” ด้วย







เป็นเรื่องราวของ “หลุน” เด็กหนุ่มที่ต้องย้ายมาเข้าโรงเรียนดนตรีแห่งใหม่ที่พ่อของเขาเป็นครูสอนดนตรีอยู่ และเขาได้พบกับ“ยู” เด็กสาวผู้เล่นเปียโนในห้องเก่าๆ ที่หลุนประทับใจกับเสียงเปียโนที่เธอเล่นมากๆ และเธอก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกับเขาด้วย... ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มสานต่อด้วยความรวดเร็วจนเป็นความรักที่มีความลับเก็บไว้

สิ่งที่หลุนสงสัยและถามยูว่า “ท่วงทำนองเพลงอะไรที่เธอเล่นในวันแรกที่เราเจอกัน?” ยูกระซิบที่ข้างหูเขาว่า “มันเป็นความลับ”!!! ทำให้หลุนยังคงเก็บงำเป็นข้อสงสัยเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าความลับที่ว่านั้นคืออะไร

ไปตามลุ้นความลับกันในเรื่องเองนะ







สำหรับเรา ก็ตามประสา ดูหนัง ฟังเพลงสบายๆ แล้วเพลงเรื่องนี้ก็เพราะดี ได้อารมณ์คลาสสิกอีกหละ

เราชอบฉากที่หลุนเต้นรำกับพ่อของเค้านะ ดูแล้วฮาดี

แล้วก็ฉากที่มีการประชันเปียโนกันระหว่างหลุนกับ Prince of Piano ของโรงเรียน ก็ได้อารมณ์ดี ขนาดเราไม่ค่อยประสีประสาเรื่องดนตรี ยังได้อารมณ์เลย



Credit รูปภาพ จาก website : //forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=47119 คะ




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550
4 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 15:42:32 น.
Counter : 898 Pageviews.

 

เวลาไอ เจ็บคอ แนะนำให้ทานลูกผลับสุกค่ะ หรือมะนาวผสมน้ำผึ้ง ใส่เกลือนิดนึง ขอให้หายไวๆนะค่ะ

 

โดย: curious pig IP: 124.120.152.106 23 พฤศจิกายน 2550 20:08:21 น.  

 

เจย์ โชว ไม่ดูแก่ไปสำหรับการเป็นนักเรียนเหรอครับ

 

โดย: เจ้าชายไร้เงา 24 พฤศจิกายน 2550 13:07:24 น.  

 

ชอบมากครับ นางเอกน่ารักดี ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกะเรื่อง สวาหน้าใสกะนายไบซิเคิ้ล

 

โดย: tenz 6 ธันวาคม 2550 15:10:21 น.  

 

ค้นพบ หนังสืออินตก เทพทำนาย โดยย่อ

หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัด
อัตตะบือ (ประเทศลาว) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศิล
องค์หนึ่งเผยแผ่ให้ เลยเกิดความศัรัทธาเสียสละทรัพย์พิมพ์แจก
จ่ายมายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศล และเพื่อ
พิจารณาญาณด้วยตนเอง ถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุค
โลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ ดังนี้

โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา
พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้ว
จงรีบบอกให้คนอื่นฟังหรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธา จะเกิด
มหากุศลเพื่อจะช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจากมหันตภัยพิบัติทั้งปวง
ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมทั้งหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มี
ไว้ในบ้านเรือนจะมีภูตผีปีศาจเข้ามาอย่างแน่แท้
ในปีจอถึงปีกุน เมื่อเดือนหงายจะมีงูพิษอยู่บนศรีษะ
ฉกกัดให้ถึงตาย และผู้คนทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลาย
ประการ

ทุกข์เพราะ ศึกสงครามก็แล้ว
ทุกข์เพราะ น้ำและไฟ
ทุกข์เพราะ ไม่มีใครสนใคร
ทุกข์เพราะ ไม่ได้กินข้าวปลาอาหาร
ทุกข์เพราะ คนรักไม่ได้เห็นหน้ากัน
ทุกข์เพราะ มีคนตายตามถนนหนทาง
ทุกข์เพราะ ไม่มีคนแก่
ทุกข์เพราะ ไปไหนก็ไม่สดวก
ทุกข์เพราะ นอนไม่หลับ

ในปีจอนี้ ในเมืองเวียงจันทร์จะมีฤๅษีองค์ทองคำ สิกขา
ลาเพศออกมาเป็นพ่อค้าในปีจอ ขึ้น ๘ ค่ำ ห้ามตักน้ำอาบน้ำกิน
ตามห้วยหน้องคลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนค่ำ)
พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์
ในปีจอ เมืองกรุงเทพ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน
พระแก้วมรกตหัวเซียงเมี้ยงข้าวเม็ดโหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์
นี้คือ พระคาถาขององค์อินทร์พรหมยมราช ได้เขียนไว้ในใบลาน
จงเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิด
เหตุการณ์มหันตภัย พระคาถาเขียนไว้ว่า
ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ
จิตะ เมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
พระคาถาบทนี้เขียนลงใบลาน แผ่นทองหรือแผ่นผ้าก็ดี
ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือในรถ หรือโพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์
จะช่วยให้หลุดพ้นจากภัยอันตรายในกาละเวลานี้ เทพเจ้าเหล่า
ผู้รักษาคุ้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่ามนุษย์โลก
ทำกุศล เพียง ๓ ส่วน และทำบาปกรรมถึง ๗ ส่วน เมื่อเป็น
เช่นนี้องค์อินทร์จะสั่งลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาป ถึง ๙ ข้อ นับตั้งแต่
ปีจอ ถึงปีกุน ดังนี้

๑ จะเกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
๒ จะให้เกิดอัคคีภัย
๓ จะเกิดอุทกภัย
๔ จะเกิดฟ้าผ่า
๕ จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป
๖ จะเกิดสารพิษต่างๆ
๗ จะเกิดกาฬโรคต่างๆ
๘ จะเกิดข้าวยากหมากแพง
๙ จะเกิดพยาบาทเบียดเบียนกันเอง
มหันตภัย ๙ อย่างนี้ จะหลุดพ้นได้โดยเฉพาะผู้มีบุญ
คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
รู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รีบทำความดีมากๆ ถ้าเลยปีจอ ปีกุน
ไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลานจะได้รับความสุขกายสบายใจ
ทุกคน ให้ทุกคนเคร่งครัดในศิล ๕
นอกจากหนังสืออินตก ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีพระผุ้ทรง
ศีลอีกองค์หนึ่งได้พบเห็นคำสอนที่จารึกไว้ในแผ่นศิลาที่พึ่งพบ
ในภูเขาแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์วิปัสสนากรรมฐาน
ผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า พี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้ว
แต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าท่าน
เชื่อก้เป็นกุศล รู้เพียงเท่านี้ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตาม
คำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลาได้เขียนไว้โดย
พระมหากัสสะปะว่า ในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน ๗ - ๘ จะเกิด
เหตุการณ์ร้ายตามถนนหนทาง ในเดือน ๙ - ๑๐ คนใจบาปจะ
ถุกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน
มีทางแต่ไม่มีคนเดิน
สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่าวย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือ
อินตกเพิ่มเติมว่า ถ้าท่านผู้เคารพบูชา หรือตั้งจิตอธิษฐาน
ว่า จะบอกแก่ผู้อื่น หรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้
แล้ว ท่านปรารถนาสิ่งใดจะได้สมใจนึก จะปราศจากภัยพิบัติ
ทั้งปวงตลอดไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

พระพุทธเจ้าทรงทำนาย
ออกจากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน ณ สวน
มฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตไทยที่ไปอัญเชิญ
พระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๕ ตามคำแปลเป็นภาษาไทย
ว่าดังนี้

สาธุ อะระหังตา พระสัมมาสัมพุทะเจ้า ทรงพระ
เมตตากรุณาสรรพสัตว์ทั้วโลก ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบากทั่วหน้า
ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติเมื่ออาตมาเข้านิพพานไปแล้ว
ครบห้าพันปีเป้นที่สุด โลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจำนวณที่ตถาคต
ทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสีย
ครั้งหนึง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะเจอจะได้เห็น
ไม่เคยพบ จะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับกลับตื่นขึ้นมา
อาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ. ๒๕๕๐ ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี
มนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดนองเต็มพื้นดิน
พื้นน้ำจะรุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลาย
เหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินจะเป้นเปลวไฟจะตายไป
อย่างละครึ่งหนึ่ง จึงจะเลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกัน
ตามวิสัยยักษ์ร้ายนอกศาสนาซึ่งถือกำเนิดจากป่าอำมหิต ส่วน
พุทธศาสนิกชน ผู้ทำแต่บุญเดินตามทางตถาคตสามารถระงับ
ร้อนไม่รุนแรง บ้านใดได้บูชาพระโพธิสัตว์ ผ้ากาสาวพัตร์ ก็จะ
รับภัยพิบัติเบาบางแต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะลุกลามมา
ทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยาก
ยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ สงคราม
จะเกิดทั่วทิศ พระยานาคจะพ่นพิษเป็นเพลิง ทหารจะเป็นเจ้า
ข้าวสารจะขาดแคลนทุกแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมด
เปลือง สีเหลืองจะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะแพ้
ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุงพระพุทธเจ้าว่า
ดังนี้ ชา ตะ มะ สะ ละ วา พระพุทธชินลิตนี้ทานให้
เขียนใส่กระดาษหรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้านหรือหัวนอน ดังนี้
จะมีอายุยืนยาว จะทันผู้มีบุญชื่อ พระธรรมมิกราช เมื่อแรก
สถิตอยู่เขตอยุธยา บัดนี้ท่านเสด็จอยู่ลานช้าง ภาคอีสาน
ในปัจจุบันพระธรรมมิกราช เข้ามาปีกุนเดือน ๑๑ เป็นเที่ยงแท้
นักหนา ท่านเสด็จมาในปีระกา แรม ๕ ค่ำ มหากษัตริย์มาทาง
ทิศตะวันตก สมณชีพราหมณ์ตามมาประมาณได้ ๗๖,๔๐๐ รูป
ทั่วอาณาจักร สมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่า
จะเดินโก่งโค้ง คลาน ผู้ใดอยากพบผู้มีบุญ ชื่อ พระธรรมมิกราช
ให้ภาวนา ให้หมี่นรักษาศีล สดับรับฟังพระธรรมเทศนา คอยดู
ปีมะเส็งตลิ่งจะพัง มหาสมุทรจะชอกช้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง
ท่านเข้ามาปีกุน เดือน ๘ เป้นเที่ยงแท้ ผู้ใดไม่เชื่อ จะรับอันตราย
คอยดูในปีจอ คนจะพ้นภัย สะโรนะกา โททายะโม พุทธะ
ตะมะ ภาวนาทุกค่ำเช้า ผู้นั้นจะมีอายุยืนนานจะได้เห็น
พระธรรมมิกราช (พระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย) ในปีกุน
ท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใด ผู้นั้นจะได้รับอันตราย
รู้แล้วจงรีบพิมพ์เพื่อเผยแพร่ และช่วยบอกต่อๆกันด้วย

คำเตือน โลกมนุษย์กำลังจะเข้าสู่กลียุค จะทำให้
เกิดภัยธรรมชาติ ดิน น้ำ ไฟ ลม จะเกิดมหาสงครามโลก
ครั้งที่สามตามมา มนุษย์จะตายไปกว่าครึ่ง....

สำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ คาดว่า
จะได้รับภัยทางน้ำและไฟ โดยเฉพาพจังหวัดที่ติดชายทะเล
และกรุงเทพมหานคร แผ่นดินจะยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้ากล่ม
ความสูง ๒๐๐ เมตร มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง นำจะเข้า
ช่องแคบจังหวัดสระบุรี และด้านตอนล่างของโคราชบางส่วน
ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้ายประเทศไทย
จะเหลือประชากรประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ !

ส่วนประเทศอื่นทั่วโลกจะเหลือเพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
บุคคลที่รอดชีวิตส่วนมากก็สูญเสียสติสัมปชัญญะ ไม่ปลอดภัย
เหมือนเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจบำเพ็ญ
ฌานภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สินของตนเองให้มากนัก
เพราะเมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ เงิน ทอง จะไม่มีค่าเลย เพราะ
มนุษย์ยุคนั้นวัดกันที่ความดี ศีลธรรมบุญกุศลเท่านั้น ปีมะโรง
พ.ศ. ๒๕๕๕ ปีมะเส็ง ๒๕๕๖ ปีระกา พ.ส. ๒๕๖๐ พ.ศ ๒๕๖๑
ปีกุน พ.ศ. ๒๕๖๑

คำทำนายของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
รัชกาลที่ ๑ ทายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน พี่น้อง)
รัชกาลที่ ๒ ทายว่า ฌานยักษ์ (ชำนาญเวทมนต์)
รัชกาลที่ ๓ ทายว่า รักมิตร (มีการค้าขายกับต่างชาติมากมาย)
รัชกาลที่ ๔ ทายว่า สนิทคำ (ออกบวช)
รัชกาลที่ ๕ ทายว่า จำแขนขาด (คือต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและเขมร เพื่อป้องกันอธิปไตย)
รัชกาลที่ ๖ ทายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ เกิดกล่มโจรมากมาย มีการตั้งกองเสือป่าครั้งแรกของไทย)
รัชกาลที่ ๗ ทายว่า ชนร้อนทุกข์ (เกิดการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย)
รัชกาลที่ ๘ ทายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินจะถูกลอบปลงพระชนม์)
รัชกาลที่ ๙ ทายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่งมากมาย นำเงินมาซื้อประเทศไทย ทำให้เกิดวิกฤตการเงิน)
รัชกาลที่ ๑๐ ทายว่า ชาวศิวิไลซ์ (จะมีเหลือเฉพาะผู้มีบุญ เท่านั้นที่รอด เป็นยุคของพระศรีอาริเมตไตรย)

ปฏิบัติธรรมอย่าข้ามขั้นตอน อย่าย้อนความหมาย
พระพุทธองค์ ทรงประกาศหลักสำคัญ หรือที่เรียกว่า
หัวใจของพระพุทธศาสนา ดังนี้คือ
ขั้นที่ ๑ ไม่ทำชั่วทั้งปวง
ขั้นที่ ๒ เพียรสร้างความดีให้ถึงพร้อม
ขั้นที่ ๓ ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส
ละชั่วแล้ว อยากเป้นคนปกติต้องละชั่วให้ได้เสียก่อน เมื่อ
ละชั่วแล้ว ก็ต้องเร่งหมั่นเพียรพยายามสร้างสมคุณงามความดี.

โอวาทธรรม คัมภีร์กัปป์สุดท้าย
องค์พระศรีอาริยเมตไตรย และพระมหาโพะสัตว์กวนอิม
ทรงน้อมสดับฟังพระวจนะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถึงเรื่องการประคับประคองช่วยเหลือเหล่าเวไนยสัตว์ที่ต้องผจญ
กับความทุกข์ยากและสิ่งชั่วร้าย ในช่วงวาระกัปป์สุดท้ายว่า
ฟ้าเบื้องบนจะทรงบัญชาให้เทพยดาผู้คุมเกณฑ์กำหนด
ตารางสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อสำรวจดูคำภีร์กัปป์สุดท้ายนี้
หากพบว่ามีเหล่าสาธุชนเผยแพร่ออกไป ด้วยความเคารพศรัทธา
พวกเขาทั้งหลายย่อมสามารถรอดพ้นจากเกณฑ์วาระแห่ง
มหันตภัยได้และทุกชีวิตในครอบครัวจะไร้ทุกข์โศก
ผู้ที่ระเว้นกรรมชั่ว ถือศีลกินเจ ประกอบแต่คุณงามความดี
จะไม่ต้องเศร้าสลดวิตกกังวลที่จะได้รับประสบพบเจอกับภัยพิบัติทั้ง
๑๐ ประการ อันได้แก่
๑ ถูกเพลิงไหม้เผาผลาญ ถูกน้ำไหลบ่าท่วมท้น
๒ ถูกเมฆหมอก ควันพิษ ทำลายล้าง
๓ มึนซึม หลับใหลหมดสติตาย
๔ ถูกสัตว์ร้าย งูพิษ ขบกัด
๕ ถูกประหัดประหาร เข่มฆ่าตายด้วยภัยสงคราม
๖ สามีภรรยาต้องพลัดพรากหย่าร้าง
๗ ต้องเร่ร่อน อพยพหลบหนี ไม่มีที่อยู่อาศัย
๘ ต้องเผชิญกับอากาศที่ผันแปร ทั้งหนาวเหน็บ ทั้งร้อน
๙ ต้องเศร้าโศก ต่อภาพของซากศพที่กองเกลื่อนกลาด
ทั่วแผ่นดิน
๑๐ ไม่ได้พบเห็นความสงบสุขและสันติ
หากมนุษย์โลก จิตใจชั่วร้าย ต่ำทราม ลบหลู่หลักะรรม
คัมภีร์ สิ้นศรัทะในคุณความดี ถึงเกณฑ์ปีวอก ปีระกา ปีจอ
และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้นมีข้าวก็ไร้คนกิน.. มีเสื้อก้ไร้คนใส่...
มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก้ไร้คนอยู่... มีที่นาก้ไร้คนทำ จวบ
จนถึงวาระเดือนห้าเดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว
เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพ
เกลื่อนกลาดเต็มพื้น
บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่ง
หมืนคนตายเก้าพัน พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย
เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนอง เหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว
ถึงกาลเวไนยสัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ผู้เป้นใหญ่
จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์
ลงสู่แดนมนุษย์เหนือบรรยากาศโลก เทพยาดาที่สัญจรอยู่เหนือ
โลกมนุษย์จะบัญชาการส่งหมู่ดาว อ่านชิง ลงเก็บกวาดคนชั่ว
ร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิขภัยข้าวยากหมากแพง

องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะปรากฏ...
สองขุนพลจอมทัพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์
นับจากปีจอ...เริ่มต้นด้วยโรคระบาด...จนถึงปีกุนประชาราษฏร์...
ในเก้าคนรอดตายเพียงหนึ่ง
จะเกิดมหันตภัยใหญ่ ครอบคลุมไปทั่ว อันได้แก่
๑ ภัยจากแรงลมมหาศาล
๒ ภัยจากไฟโหมลุกไหม้
๓ ภัยจากน้ำท่วมใหญ่
๔ ภัยจากการทำศึกสงคราม
๕ ภัยจากโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน
๖ ภัยจากสัตว์ร้ายมีพิษขบกัด
๗ ภัยจากกระแสไฟฟ้า ฟ้าผ่า
๘ ภัยจากอาหารขาดแคลน อดอยาก
๙ ภัยจากการคลอดบุตร ทารกร่างกายผิดปกติ
๑๐ ภัยจากการสูญสิ้นของมวลมนุษย์ชาติ
องค์สมเด็จพระศากยมุนีพระพุทธเจ้า ทรงครองะรรม
กาล ๓,๐๐๐ ปี.. ลุถึงปัจจุบันครบบริบูรณ์ พระศรีอาริยเมตไตรย
ทรงสืบทอดครองธรรมกาลต่อ..
เริ่มเข้าเกณฑ์ ปีวอก... จนถึงปีชวด พืชพันธัญญาหาร
จะไม่สมบูรณ์ ผู้คนจะอดอยากตาย มีภัยสงครามยากจะหลีกหนี
หากมีคนนำคัมภีร์นี้ออกไปเผยแพร่ถึงพัน... ถึงหมื่น..
จะรอดพ้นจากภัยพิบัติเข้าถึงยุคบรรพกษัตริย์ เหยาและชุ่น
อันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งโรจน์ สังคมมีความยุติธรรม ผู้คน
ได้ประสบสุขเกษมสัมต์อยู่ร่วมกันในโลก ดอกบัวแห่งมหาสันติ
เบ่งบาน
คนพาลสันดานหยาบ แม้ล่วงรู้คัมภีร์กลับลบหลู่ปกปิด
มุ่งทำลาย ย่อมประสบเภทภัยทั้งสิบประการ ตายแล้วก็ยาก
จะได้กลับมาเกิดอีก
สาธุชนคนดี... ประกอบด้วยเมตตาจิตตั้งใจเผยแพร่
คัมภีร์ออกไป เขาเหล่านั้นย่อมประสบแต่ความเป็นสิริมงคล ทุก
คนในครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข สามารถรอดพ้นจากมหันตภัยทั้ง
หลายได้
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรได้เข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าเบื้อง
บนสูงสุด เพื่อกราบบังคมทูลรายงานถึงความดี ความชั่ว ที่
มนุษย์ได้กระทำ ครั้นองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบข่าวสภาพ
ความเลวร้ายบนโลกมนุษย์ ก็ทรงพิโรธยิ่งนัก และตรัสบริภาษ
ต่อว่าเหล่าเทพยดาทั้งหลายว่า "เสียแรงเปล่าที่ชาวโลกพากัน
จุดธูปเทียนบูชา กราบไหว้ แต่กลับไม่ยอมอบรมสั่งสอนเวไนย
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มาจนบัดนี้... ในโลกมนุษย์จึงเนืองแน่น
ไปด้วยคนใจบาปหยาบช้า ผู้คนไม่มีมโนธรรมสำนึกหลงเหลือ
อยู่เลย ดังนั้นจึงต้องมีราชโองการโทษทัณฑ์ ให้เกิดภัยพิบัติ
ต่อเนื่องกันมาหลายปี เพื่อกำหราบคนชั่วช้าสามานย์ และให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงจิตใจชาวโลกเสียใหม่ "
ในเวลานั้น... บรรดาเหล่ามวยเทพทั้งหลายได้กราบทูล
วิงวอนแม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แห่งทะเลทักษิณ ถึงกับ
พระวรกายทรุดหมอบลงกับพื้นพระบรมวิมาน ทรงพร่ำทูลขอ
ให้โปรดกรุณาแก่ชาวโลกซ้ำเป็นหลายครั้งว่า
ผู้ชั่วร้ายสมควรดับ... ผู้ดีงามควรคัดอกก.. ๆ... ๆ...
องค์เง็กฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาชี้ขาดว่า
ดีชั่ว สองฝ่ายแยกกัน
ให้สงครามเจาะจงเลือกที่เกิด
ให้โรคระบาดเจาะจงเลือกคนเป็น
คนชั่วถูกล้างจนหมดสิ้นเหลือเพียงคนดีที่อยู่คู่โลกสืบทอดลูก
หลานสืบทอดความดีกันต่อๆๆๆ ไป

ผู้ที่กระทำชั่วบ่อยๆเรื่อยๆหลายๆครั้ง ทางที่ดีไม่ควรทำ
ผู้ที่กระทำชั่วนั้น จะถุกครวจตราบควบคุมเก็บกวาดให้เรียบร้อย
ไม่ให้เหลือไว้ในโลก เมื่อตายลงไปก้ต้องถูกเหวี่ยงเข้าสู่หนทางเปรต
สัตว์นรก อสุรกาย ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป สูญพัน
ธุ์ทั้งตระกูล ให้บ้านแตกสาแหรกขาด ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน ให้กระดูก
ทับถมในพงพี บ้านเรือนของพวกเขาถูกผู้อื่นอาศัย
หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดี
ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน
ครั้นครบกำหนดเวลา ๓ ปี ที่ให้มนุษย์รีบเร่งปฏิบัติแต่สิ่งดี
งาม เมื่อกระแสความคิดจิตใจและการกระทำของเหล่าเวไนยสัตว์
ถูกนำขึ้นกราบทูลรายงานเบื้องบน ทันทีที่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้
ทรงทราบ พระองค์ทรงมีพระราชโองดังนี้
ข้า... จะลงมาตระเวนตรวจตราดุทุกแห่งอย่างละเอียด
ถี่ถ้วน ข้า จะดำเนินการพิพากษาตัดสิน ให้เกิดภัยสงครามอีก
ระลอกหนึ่ง ภายในเวลาไม่กี่เดือนให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกบางส่วน
ทุกหนทุกแห่งจะถูกเก็บกวาดให้หมดสิ้น ต่อให้วิงวอนถึง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์.. สิ่งศักสิทธิ์ก็มิตอบสนอง ต่อให้กินยารักษาโรค
ยาก็ไม่ได้ผล ถึงแม้ตำราเสินหนงยังอยู่ ยาวิเศษแค่ไหน ดีชั่ว
มีผลต่างกัน... คนดีมีคุณธรรม กินยารักษาโรค ก็จะสัมฤทธิ์ผล
คนชั่วช้าสามานย์กินยาแล้วก้ไม่อาจรอด
บัดนี้... ข้าเห็นสภาพการณ์ว่า น่าเวทนา... ไม่มีวิธีการใด
สามารถช่วยเวไนยสัตว์ได้ทัน ต่อให้จุดธูปบูชาข้า ก็เสียแรงเปล่า
ที่เห็นข้าเป้นเทพยดาย่ากราบไหว้สักการะแต่ปัจจุบันมีทุกข์ไม่
ยอมช่วย ใช่ว่าข้า จะบิดเบือนต่อเบื้องบน ต่อเบื้องบนข้า ก้ได้
กราบบังคมทูลวิงวินด้วยความเร่งรีบร้อนรนยิ่ง และต่อชาว
โลกเบื้องล่าง... ข้าก้ให้ป่าวประกาศเผยแพร่สัจธรรม ชี้นำ

ย้ำเตือนให้ผู้คนได้รับรู้
บัดนี้...ถึงวาระเข้าสู่ปลายกัปป์... เกณฑ์มหันตภัยยุค
สุดท้ายปุถุชนธรรมดาให้เก้าคนตายเหลือไว้เพียงหนึ่ง ให้เกิด
สงครามอาวุธหอกดาบมีขึ้นรอบด้าน โรคระบาดจู่โจมบุกรุกทุก
แห่งหน อสุนีบาดสายฟ้าฟาดผ่าดังสนั่นสะเทือนเลื่อนลั่น อุทกภัย
ใหญ่น้ำไหลหลากท่วมท้นบ้านเรือน วาตะภัยลมพายุผกผันกวาด
ไปทุกหนแห่งธรรมชาติแห้งแล้ง ชีวิตทั้งหลายยากจะรอด
พญามารมาเคาะประตูบ้านบ้านในยามค่ำคืน โรคระบาดเข้าประชิด
ตัวในเวลากลางวัน เสือร้ายจากป่าเขาออกอาละวาด จะหลบ
หนีกันอย่างไร อสรพิษเลื้อยเต็มถนนหนทางจนยากที่จะเดิน
มหันตภัยทั้งสิบิอย่างนี้ยากจะหลบหนีพ้น หากสามารถ่านพ้น
ไปได้จึงจะนับว่าเป้นยอดคน นี่แหละคือ สิบมหันตภัยอันใหญ่หลวง
ข้ามีเพียงคำเตือนให้มนุษย์ทั้งหลายปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจิตใจ
ยังพอมีโอกาศ จงรีบแก้ไขสำนึกในความผิดบาป เมื่อได้ยินได้รู้
ข่าวนี้ให้เร่งกลับตัวกลับใจโดยทันที อย่ามัวรีรอจนกระทั่ง
ภัยพิบัติมาประชิดตัว ถึงตอนนั้นจะวิงวินร่ำร้องให้ช่วยเหลือ
อย่างไรก้ไร้ผล จงสร้างบุญทำกุศลสะสมคุณความดีกันเสียแต่
เนินๆ เพื่อหลบหลีกและเป็นเกราะกำบังวิบัติภัย
เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายเอย... จงรีบเร่งตั้งจิตศรัทธา
เคารพกตัญญูต่อฟ้าดิน บิดามารดา จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง
ประชาราษฎร คนยากคนจนให้รู้จักเจียมตน ตั้งมั่นอยู่ในความ
มัธยัสถ์ ผู้มากมีมั่งคั่งจงรับเร่งช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ยากไร้
ผู้ปราดเปรื่องเรืองปัญญา จงพยายามตักเตือนช่วยชี้แนะ
ผู้ต่ำต้อยด้อยความรู้ ให้ได้ผ่านพ้นโลกีย์ไปด้วยกัน บุคคลใด
ไร้บุญบารมีจะตกจมลงสู่ทะเลทุกข์ แต่ผู้มีสัมพันธ์สะสมมาดี
ย่อมจะได้พบกับความสุขและสันติในที่สุด
บัดนี้ข้า แฝงธรรมญาณ ยืมปากกาท่านไหว้วาน
บรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ คัดเขียนถ่ายทอดให้ข้า แม้หนึ่ง
เล่ม จะช่วยปกป้องรักษาให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
ถ่ายทอดให้ข้าสิบเล่ม ทั้งครอบครัวจะพ้นเราะห์ภัย
อันตราย
เผยแพร่ออกไปให้ข้า ร้อยเล่ม จะปกปักษ์รักษาให้อายุยั่งยืน
อีกทั้งโชคลาภ วาสนาเพิ่มพูรทวี รีบแจกจ่ายธรรมทาน
คัมภีร์นี้โดยทันทีทันใด จะปกป้องรักษาให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรจน์มียศฐา
หากพบผูใดไม่รู้หนังสือ จงใช้วาจาเมตตาบอกต่อให้เขา
ได้ฟังได้เข้าใจ ถ้าอม้นมีคนโฉดเขลาชั่วร้าย ไม่ศรัทธาเคราะห์
ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบัติให้ปวดเศียรเวียนหัว หน้ามืด
ตาลาย เจ็บทวารเลือดไหล ถึงที่ต้องไปเมืองผีด้วยสิบเหตุ
เภทภัยร้ายนั้น
ข้าไม่อาจกล่าวให้ละเอียดมากไปกว่านี้ คิดยาก
จะเผยความลับสวรรค์ ก็เกรงด้วยเบื้องบนจะลงฑัณฑ์
หากคนทั้งหลายไม่เชื่อไม่ศรัทธา ดูหมิ่นดูแคลนว่าไม่จริง
ไม่นานมหัตภัยที่กล่าวไว้จักมาถึงตัว
ผู้มีใจศรัทธา น้อมจิตเชื่อฟังตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมความดี
ถือศีลกินเจ เบื้องบนย่อมทรงโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้
แคล้วคลาด มืให้เภทภัยใดๆเข้าใกล้ถึงตัวได้เลย

 

โดย: ....... IP: 113.53.44.27 26 มีนาคม 2553 22:05:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หลังจอ
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผ่านมาเพื่อผ่านไป โลกยังกว้างทางยังไกล ครั้งหนึ่งใช่ไหมที่เรารู้จักกัน
Friends' blogs
[Add หลังจอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.