1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
BIG - Oct 2007 หวังสุดท้ายปลายปีของผู้ส่งออกไทย
Event: BIG+BIH October 2007 Trade: 16-19 October 2007, 10.00-18.00 Public: 20-21 October 2007, 10.00-21.00 At Challenger Hall, IMPACT, Muangthong Thani วันนี้จะพาไปเมืองทองธานี ครับ หากคุณเป็นหนึ่งในบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจผลิตสินค้า เพื่อขายไปยังต่างประเทศ แน่นอน เมื่อคุณมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองทางความคิด จนผลิตสำเร็จ เห็นเป็นชิ้นผลงาน บันไดขั้นต่อๆไปซึ่งนอกเหนือจากนั้น คือคุณต้องมีคือความรู้พื้นฐาน หรือ ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้าขายระหว่างประเทศ
ลำดับขั้นต่อไป คือช่องทางในการนำเสนอสินค้าที่คุณมี(ดี)และอยากจะเปิดตลาดส่งออก หนึ่งในหนทางที่จะทำให้คุณเป็นที่รู้จัก ... นั่นคือการเข้าร่วมกิจกรรมแสดงสินค้า หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า ออกบูธ การออกบูธแสดงสินค้า มีทั้งในต่างประเทศ และ ภายในประเทศ หากคุณคือผู้ประกอบการใหม่ จึงจำเป็นที่จะต้องติดสอยห้อยตาม กรมส่งเสริมการส่งออก เพื่อสมัครไปร่วมงานกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในนาม Department of Export Promotion แต่ถ้าหากคุณรู้ช่องทางดี รู้ตลาด และสามารถติดต่อกับผู้จัดงาน (Organizer) ได้โดยตรง ก็ไม่จำเป็นต้องไปร่วมงานที่มีกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นพี่เลี้ยงอยู่ งานแสดงสินค้าตกแต่งบ้านในประเทศ ที่เป็นงานระดับนานาชาติ(International) มีอยู่งานเดียว คือ งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok Gift and Bangkok International Houseware Fair) งานนี้ผู้จัดคือกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก การจัดงานถูกกำหนดให้มี ปีละ 2 ครั้ง คือ 1.ช่วงกลางเดือนเมษายน(หลังสงกรานต์) 2.ช่วงกลางเดือนตุลาคม งานแสดงสินค้าดังกล่าวถูกเรียกกันจนติดปากว่า งาน B-I-G (บิ๊ก) ซึ่งเมื่อก่อน งานนี้เป็นงานแสดงสินค้าของขวัญและของชำร่วย แต่ตอนหลังมีการรวมงานของตกแต่งบ้านมาไว้ด้วยกัน คำย่อของงานจึงกลายเป็น BIG+BIH งาน BIG มีความสำคัญกับผู้ประกอบการไทยร่วม 1000 บริษัทที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก ด้านหนึ่งบุคลากรของบริษัท ในบริษัทหนึ่งๆจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนร่วมกันโดยทั่วถึง ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์(R&D) เตรียมสินค้าตัวใหม่ จากไอเดีย จากแนวคิด จากนวตกรรม เพื่อรออวดโฉมในงานนี้ ฝ่ายดีไซน์ กราฟฟิก รวมถึงงานช่าง เตรียมแผ่นพับ แคตตาล็อก ภาพนำเสนอสินค้า ออกแบบรูปแบบบูธ วัสดุ อุปกรณ์ ความเหมาะสม ตำแหน่งการจัดวางผลิตภัณฑ์ บัญชีการเงิน เบิกเพื่อจ่ายสารพันใบแจ้งหนี้ ฝ่ายมาร์เก็ตติ้ง ฝ่ายขายต่างประเทศ จัดเตรียมเอกสารและข้อมูลสินค้า การเจรจา และข้อตกลง โลจิสติกส์ ชิปปิ้ง เตรียมพร้อม ข้อมูลการขนส่งและค่าระวาง ถือว่าเป็นงานใหญ่ สำหรับบริษัทเล็กๆ หรือบริษัท ระดับทั่วๆไปเลยทีเดียว ณ ที่งานนี้งานเดียว คุณยังอาจได้พบเจอเพื่อนเก่าที่เคยร่ำเรียนร่วมคณะ นั่งทาสีบูธ ลากไม้ ขนของ และคุณยังอาจได้เจอเพื่อนเก่าที่เคยร่วมงานมา แต่จากลาไปด้วยเหตุผลที่แตกต่างกลับมาที่งาน BIG October 2007 งาน BIG ครั้งนี้ จัดขึ้นที่ อิมแพ็ค เหมือนปีผ่านๆมา งานมีวันที่ 16 19 ตุลาคม 2550 วันเจรจาธุรกิจ (Trade) และ 20-21 ตุลาคม 2550 เป็นวันขายปลีก (Public) จะขออธิบายความวันเจรจาธุรกิจสำหรับผู้ที่สงสัย ไว้สักนิดเพื่อความกระจ่างวันเจรจาธุรกิจ คือไม่มีการซื้อขายสินค้า ด้วยเงินสด หรือด้วยบัตรเครดิตก็ตามที วันเทรด(Trade) เป็นวันแรกๆที่จะมีชาวต่างประเทศ ญี่ปุ่น อเมริกัน ยุโรป มาเดินดูสินค้าดีไซน์ใหม่ๆเพื่อนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศของตน ถ้าหากพบแล้วโดนตาต้องใจ อาจมีการเซ็นต์เอกสารสัญญาการค้าเบื้องต้น อาทิ Proforma Invoice, Purchase Order, Sale Agreement กันเลยในวันนั้นเลย เงื่อนไขเบื้องต้นต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันบนโต๊ะเจรจา คร่าวๆคือ - ราคาต่อชิ้น/ส่วนลด ที่ตกลงจะซื้อขาย(ส่วนใหญ่ตั้งราคาเป็น US Dollars) - เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า (Terms of Delivery) โดยปกติจะเสนอแบบราคา FOB Bangkok คือ ส่งมอบสินค้าถึงท่าส่งออก(กาบเรือ) - เงื่อนไขการชำระค่าสินค้า (Terms of Payment) โอนเงิน (T/T) ระหว่างประเทศ หรือ L/C - ปริมาณขั้นต่ำที่ต้องสั่ง (MOQ- Minimum Order Quantity) - ระยะเวลาในการผลิต (Lead Time) ดังนั้นในวันเจรจาธุรกิจ 4 วันแรกของงาน คนทั่วไปไม่ควรไปเพ่นพ่าน เพราะคงไม่มี บูธใด หรือ Exhibitor คนไหน ต้อนรับคุณแน่ๆ ถ้าหากคุณนั้นไม่ใช่คนไทยที่เป็นพ่อค้าคนกลาง(Trading) ที่สนใจซื้อเพื่อนำไปขายต่อต่างประเทศเอง
วันขายปลีก(Public) วันขายปลีก เรียกว่า เป็นวัน(เอื้อ)อาทร ก็ว่าไม่ผิดนัก เมื่อผู้ขายมาออกบูธแล้ว จะให้ขนของกลับไปเฉยๆ เหมือนขนไป-ขนกลับ ก็ใช่ที ทางผู้จัดงานเอง ก็เห็นใจอยากให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากส่วนนี้มาแบ่งเบาภาระค่าบูธได้บ้าง ประชาชนทั่วไป อย่างเราๆ ก็อยากได้สินค้าดูดี มีสไตล์ ระดับสินค้าส่งออก และหาซื้อได้ยากในประเทศ จึงอยากไปหาซื้อของเหล่านั้นมาไว้ตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมื่อ 3 ปาร์ตี้ คิดทางเดียวกัน วันขายปลีก(ขายทิ้ง) จึงมีคนทั่วไปแห่แหนไปจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น และมากขึ้นทุกๆปี จากการโปรโมทผ่านสื่อโทรทัศน์(บางช่อง) แต่ข้อพึงระวัง คุณจงพึงดูให้แน่ว่า สินค้านั้นคือของใหม่ที่เขาเอามาโชว์ หรือมันคือของมีตำหนิ พรางตัวเอามาวางขาย โดยใช้ชื่องานเป็นตัวการันตีกันแน่ ผู้ประกอบการหน้าใหม่-หน้าเก่า ที่ออกผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อเปิดตัวในงาน BIG ต่างหวังให้มี Visitor มากขึ้น และคาดหวังว่า จะขายสินค้าได้มากขึ้นตาม แต่ความเป็นจริง มันไม่เป็นเช่นนั้น มันเป็นในทางกลับกัน? ประเทศไทยเรามีคู่แข่งขัน เราจัดงานชนกันกับงานอื่นในต่างประเทศ เช่นจีน ฮ่องกง และที่สำคัญพฤติกรรมของคนเดินแฟร์หาสินค้าใหม่ไปขายก็ลดลง อาจเพราะช่องทางนำเสนอสินค้าผ่านทางสื่อ Internet และ E-Commerce นั้นมีมากขึ้นและกำลังเข้ามาแทนที่ทุกวัน และมากขึ้น ทุกวัน น่าเหนื่อยแทนผู้ประกอบการไทยจริงๆ
Create Date : 17 ตุลาคม 2550
22 comments
Last Update : 17 ตุลาคม 2550 22:01:14 น.
Counter : 1787 Pageviews.
โดย: tawan_kdt IP: 203.113.17.175 17 ตุลาคม 2550 12:42:48 น.
โดย: มาดามเด๊ปป์ (ฟ้าคงสั่งมา ) 17 ตุลาคม 2550 15:40:00 น.
โดย: อุ้มสี 17 ตุลาคม 2550 16:49:50 น.
โดย: สายลมอิสระ IP: 222.123.117.133 17 ตุลาคม 2550 18:07:58 น.
โดย: ชลสิทธิ์ 17 ตุลาคม 2550 23:25:43 น.
โดย: นัทธ์ 18 ตุลาคม 2550 10:46:10 น.
โดย: ชมพู่.. IP: 58.9.235.209 20 ตุลาคม 2550 5:58:02 น.
โดย: ตองเจ็ด 20 ตุลาคม 2550 20:05:23 น.
โดย: nattabe 22 ตุลาคม 2550 19:38:31 น.
โดย: นังน้องอร IP: 125.27.214.37 22 ตุลาคม 2550 22:23:45 น.
โดย: จขบ IP: 58.8.236.93 22 ตุลาคม 2550 22:52:00 น.
โดย: ม้าห้อ.....มอห้า (cm-2500 ) 23 ตุลาคม 2550 0:38:37 น.
โดย: มาดามเด๊ปป์ (ฟ้าคงสั่งมา ) 24 ตุลาคม 2550 10:06:46 น.
โดย: กระจ้อน 25 ตุลาคม 2550 12:07:19 น.
โดย: พุกไม้ 28 ตุลาคม 2550 16:16:06 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
"ชลสิทธิ์" และ "ชลสิทธิ์ วรสินธุ์" เป็นนามปากกาในการเขียนของ"อนิรุจน์ มั่งคั่ง" งานเขียนงานประพันธ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นทุกประเภท ที่ปรากฏในเวบไซด์นี้ได้รับความคุ้มครองสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537(มาตรา15)