Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ปาย..วันฝนพรำ การตามรอยความ่ทรงจำ และความฝันที่ยังต้องค้นหาต่อไป

ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของปาย ทำให้หลายๆคนอาจเกิดอาการเบื่อหน่ายเมืองๆนี้ ยิ่งกว่านั้นบางท่านที่ผมเคยเห็นโพสให้ความเห็นในพันทิปถึงกับต่อต้านปายอย่างรุนแรง แม้แต่ตัวผมเองเวลามีเพื่อนๆ มาขอความเห็นเรื่องไปเที่ยวปาย ผมมักบอกว่าไปช้าไป 7 ปีแล้วหล่ะ ตอนนี้ปายเปลี่ยนไปแล้ว แต่จริงๆลึกๆแล้วผมไม่เคยลืมเมืองนี้ได้เลย วันนึงผมตัดสินใจเดินทางย้อนรอยความทรงจำไปปายอีกครั้ง หลังจากที่ได้ไปครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน ผมคิดว่านี่คงเป็นการไปปายเป็นครั้งสุดท้ายของผมแล้วครับ

ผมเดินทางโดยเครื่องบิน ถึงสนามบิน เชียงใหม่ ตอนเช้า ประมาณ 9.00 น ปรากฏว่าเมื่อคีนก่อนไปมีฝนตกหนัก ทำให้เกิดมีหมอกอย่างในรูปครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเชียงใหม่ร้อนมากๆ




บรรยากาศบริเวณลานบินตอนเช้า






ผมเช่ารถขับจากสนามบิน ไปทางแม่ริม เมื่อถึงทางแยกแม่มาลัยก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปปายครับ นี่คือเส้นทางที่ผมเจอ ทางทอดยาวไปจนถึงภูเขาข้างหน้า ผมเริ่มรู้สึกถึงการเริ่มต้นเดินทางแล้วในตอนนี้






รูปนี้ขอลงเอาไว้ เพราะเป็นร้านกาแฟร้านแรกที่เจอ และหลังจากได้แวะกินกาแฟมาหลายร้านตั้งแต่ริมทาง จนไปถึงที่ปาย ร้านเล็กๆที่ตกแต่งไม่สวยนี้หล่ะครับเป็นร้านที่ทำกาแฟได้อร่อยที่สุด นอกจากนั้นเค้กhomemade และกะหรี่ปั๊ปก็อร่อยมาก





ด้านตรงข้ามของร้านเป็นทุ่งนาที่เริ่มออกรวงแล้ว





ระหว่างทางไปปายผมต้องแปลกใจที่พบว่ามีหมอกอยู่มากทั้งๆที่สายแล้ว อากาศเย็นเหมือนหน้าหนาวครับ คงเป็นเพราะช่วงที่ไปมีมรสุมเข้าแถวภาคเหนือทำให้อากาศเย็นลง




บางบริเวณหมอกหนาจนต้องขับช้ามากๆเลยครับ





ต้นสนท่ามกลางหมอกขาวระหว่างทาง





ใครที่เคยขับรถไปปายคงจะคุ้นกับเจ้าพวกนี้ดีนะครับ





หลังจากขับผ่านโค้งต่างๆมาเกือบพันโค้งมั๊ง สัญญาณแรกของปายที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอนมาปายครั้งแรกคือ เมื่อลงจากโค้งบนเขามาแล้วก็จะพบกับภาพทุ่งนากับเขาด้านหลัง



เวลา 7 ปี เป็นเวลานานพอที่อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป นานพอที่จะทำให้ความรักที่เคยสดใสจางหายจนหมดไป นานพอที่จะเปลี่ยนคนๆนึงไปได้อย่างสิ้นเชิง ผมสงสัยว่าผมจะเจอความเปลี่ยนแปลงอะไรรออยู่ที่ปายบ้าง





เมื่อขับมาอีกสักพัก ก็มาถึงสะพานประวัติศาสตร์ปายครับ เมื่อก่อนแถวนี้มีสะพานตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่ตอนนี้มีสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างทั้งร้านกาแฟ บังกาโล และรีสอร์ทครับ รวมถึงบรรดาร้านที่นำของที่ระลึกเช่นเสื้อมาขาย หลายร้าน หรือว่านี่คือความเปลี่ยนแปลงแรกที่ผมได้เจอนะ




ภาษาอังกฤษที่สะพานนี้เขียนว่า memorial bridge ครับ สะพานแห่งความทรงจำ
สำหรับผมชื่อนี้อาจจะตรงกับความรู้สึกมากกว่า ผมยังเหลือความทรงจำเกี่ยวกับสะพานนี้อยู่พอควร





ร้านกาแฟนี้ครับ ที่อยู่บริเวณสะพาน ก็ดูน่ารักดี





ด้านหลังของที่นี่เป็นรีสอร์ท บุระลำปาย ครับ ห่างจากเมืองปาย 9 กิโล..





ถ่ายจากบริเวณในร้าน





ต่อจากนี้ไปไม่ไกล เราก็มาถึงที่นี่ครับ coffee in love ที่นี่เหมือนเป็น landmark ของปายไปซะแล้ว








จุดเด่นคือตำแหน่งของร้านที่มองเห็นวิวได้กว้าง และการตกแต่งที่สวยดี











สำหรับผมขออนุญาติบอกตามตรง ว่าผมไม่ได้ประทับใจอะไรกับที่นี่เท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะไม่ตรงกับความชอบของตัวเอง





หรือว่าที่นี่จะขาดสเน่ห์ของปายกันนะ




แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว สิ่งที่ที่นี่ขาดคงเป็น ความทรงจำของผมล่ะมั๊งครับ


ผมจึงต้องมาที่นี่ ในเมืองปาย สำหรับผมแล้วร้านกาแฟของปายต้องเป็นที่นี่เท่านั้นครับ







ผมว่าที่นี่ยังดูเหมือนเดิมอยู่นะ









ภายในร้านครับ





รูปภาพที่เด็กๆวาด เค้าเอามาโชว์อ่ะครับ วาดสวยกว่าเราอีกแฮะ





ด้านบนครับ




ออกไปเก็บภาพรอบๆกันบ้างครับ











ผมมาสะดุดกับที่นี่ครับ




ตอนแรกนึกว่าเป็นร้านกาแฟอีกร้านนึง แต่พอเดินไปถึงก็เป็นธนาคารครับ







อาจเป็นธนาคารที่สวยที่สุดในประเทศก็ได้








ตอนบ่ายผมไปต่อที่วัดน้ำฮูครับ








ที่วัดนี้ เป็นที่กล่าวถึงเพราะมีน้ำที่ออกมาเองจากเศียรของพระพุทธรูป ครับ








ตอนเย็นผมไปที่ปายแคนยอนครับ ที่นี่ผมไม่เคยไปมาก่อนเพราะผมคิดว่าคงไม่ได้สวยอะไร 1 คือ เคยเห็นรูปมาบ้างแล้ว ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากดิน 2 คือชื่อภาษาไทย กองแลน ไม่ค่อยน่าเชิญชวนให้ขึ้นไปดูเท่าไหร่ แต่นี่เป็นอีกบทเรียนสำหรับผม อย่าตัดสินอะไรหรือใครก่อนจะได้รู้จักจริงๆซะก่อน






แสงสุดท้ายหลังจากพระอาทิตย์ตก (ผมไปไม่ทันเนื่องจากไม่ได้คิดว่าจะไปถ่ายรูปครับ พลาดไป0)





อีกอารมณ์นึงหลังจากสิ้นแสงอาทิตย์
ผมคิดผิดไปอีกแล้วที่นี่สวยมากๆ ผมชอบมากครับ





ภาพที่พักบ้างครับ จริงๆ ผมไปพักที่ the quaeter มี voucher 2 คืน แต่ผมอยู่ได้แค่คืนเดียวก็ตัดสินใจเปลี่ยนที่พัก โดยยอมทิ้งไป 1 คืนครับ กับความไม่ประทับใจหลายอย่างกับที่นี่ ทำให้ผมเปลี่ยนมาพักที่บุระลำปาย ในคืนต่อมาครับ
บุระลำปายครับ








ในห้องน้ำ












บริเวณระเบียงครับ ติดกับสระน้ำ





เมื่อถึงกลางคืนก็ถึงเวลาไปถนนคนเดินกันแล้วครับ



เริ่มต้นที่แยกปายหนาว อากาศหนาวนิดๆในวันนี้ แต่ทำไมบางครั้งรู้สึกว่าความหนาวมันแทรกซึมเข้าไปในใจได้แฮะ




ร้านขายของที่ระลึกหลายร้านตั้งเรียงรายกัน เป็นอีกภาพที่คุ้นในความทรงจำของผม








ร้านนี้ขายกระเป๋า กับหมวกครับ








เก็บรูปตามร้านต่างๆต่อไปนะครับ








รถแบบนี้จอดหลายคันครับ ส่วนใหญ่ขายของเล่นเด็กสมัยก่อน








เดินไปเดินมา มาถึงธนาคารเดิมครับ ขออีกรูปละกัน





ร้าน black canyon ในสไตน์เมืองปาย




ชาที่ผมซื้อกลับมาด้วย เค้าบอกปลูกที่แม่ฮ่องสอนนะครับ





ที่ขาดไม่ได้ของปายก็คือร้านขายโปสการ์ดกับเสื้อปาย








แล้วผมก็มาถึงร้านนี้ครับ ร้าน ปาย บ่ เปลี่ยน
ถ้าคิดถึงเก็บเงินครั้งละ 5 บาทจริง เมื่อเงินหมดก็คงหยุดคิดถึงได้เนอะ แต่หลายๆคนคงรู้ว่าบางครั้ง ความคิดถึงมันหยุดไม่ได้




ความรู้สึกแรกของผมคือแอบไม่เห็นด้วยกับชื่อร้าน แน่นอนว่าปายเปลี่ยนไปแล้ว ปายมี 7-11 ถึง 3 ร้าน (ตอนที่ผมมายังไม่มีซักร้าน) ในหน้าหนาวมีวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง มีรีสอร์ทแข็งๆเกิดขึ้นจนนับไม่ไหว ร้านกาแฟแปลกๆใหม่ๆหลายร้าน แต่สิ่งที่สะกดใจผมมากที่สุดในทริปนี้คือ โปสการ์ด เล็กๆแผ่นนี้ครับ





ผมกลับที่พักไปนอน ช่วยไม่ได้เลยที่ในคืนนั้นคำๆนี้วนเวียนอยุ่ในหัวผมซ้ำไปซ้ำมา ปายไม่เปลี่ยน แต่คนสิเปลี่ยน ให้ตายเถอะ ประโยคนี้มันเหมือนเจาะเข้ามาที่ผมตรงๆ ผมที่คอยบอกว่าปายเปลี่ยนไปหมดแล้ว น่าเสียดายที่จะไปเที่ยวในตอนนี้ จริงๆแล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวผมเอง ผมเปลี่ยนไปจาก 7 ปีที่แล้วอย่างมากมาย ผมทิ้งความฝันหลายอย่างเพื่อเดินหน้าในความเป็นจริงต่อไป ถ้าคนไม่เปลี่ยนไปผมคงกลับมาที่นี่ด้วยความรู้สึกเดิมๆได้ และทุกอย่างคงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
คืนนั้นผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้


ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาเพื่อไปห้วยน้ำดัง ทางยังคงมีหมอกเหมือนเดิมครับ



เช้านี้ผมมีความคิดใหม่เกิดขึ้น ผมเปลี่ยนความคิดเรื่องปายแล้ว ผมเชื่อว่าจิตวิญญาณของปายยังคงอยู่ แม้ว่าคนจะขนเอาความเปลี่ยนแปลงมากมาย จะสร้างรีสอร์ทอีกกี่หลัง ปายก็ยังคงเป็นปาย คนอย่างผมที่ถือว่าเป็นคนนึงที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับปาย ไม่ควรมีสิทธ์โทษเรื่องนี้ ผมมองย้อนไปถึงคำพูดที่เคยบอกคนอื่นๆรวมทั้งเพื่อนๆหลายคน บางครั้งผมถึงกับบอกว่าปายไม่ใช่ที่น่าไปอีกต่อไปแล้ว ถึงตอนนี้ถ้าใครถามผม คงต้องขอเอาคำนี้ไปบอกต่อ ปายไม่เปลี่ยน....คนสิเปลี่ยนไป

เนื่องจากผมตื่นสายไปหน่อย ก่อนไปถึงห้วยน้ำดังแสงอาทิตย์ยามเช้าก็ไปถึงก่อนผมซะแล้ว




ภาพห้วยน้ำดัง ในเช้าวันที่ผมตื่นสายครับ









ภาพมุมกว้างของทะเลหมอกที่คงจะมีตอนหน้าหนาวครับ ตอนนี้พอเห็นได้บ้าง



ที่พักของทางอุทยาน ผมชอบครับ ดูอบอุ่นดี





เมื่อเก็บภาพสุดท้ายเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ผมต้องเดินทางกลับจากปายแล้วหล่ะครับ




เวลา 7 ปี เป็นเวลานานพอที่อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป นานพอที่จะทำให้ความรักที่เคยสดใสจางหายจนหมดไป แล้วก็นานพอที่จะทำให้เกิดความรักงอกงามขึ้นอีกครั้งได้

ณ วันนี้ 7 ปี ผ่านไป ...... ผมหลงรักปายอีกครั้งนึง




ลาก่อนครับ เมืองปาย จนกว่าจะพบกันใหม่ ( อ้าว ก็ไหนว่าจะมาเป็นครั้งสุดท้ายนี่??? )


Create Date : 03 ตุลาคม 2552
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 16:42:51 น. 13 comments
Counter : 2842 Pageviews.

 
บรรยากาศระหว่างทางสุดยอดเลยครับ ไปตอนนี้แหละครับ สุด ๆ
ภาพสวย เล่าเรื่องได้เพลินเลยครับ แหล่ม ๆ


โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:17:53:31 น.  

 
ตามมาเที่ยวปายในบล็อคอีกรอบนึง


แล้วจะรอดูปายครั้งหน้าค่ะ


โดย: ฉินเมิ่งเหยา วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:17:57:54 น.  

 
จริงๆเราเองก้ไปปายครั้งตอนที่มันเจริญมากแล้วละ
เมื่อประมานปี 2551 ตอนนั้นไปกับเพื่อนสองคน
ไปแบบว่าไม่รู้อะไรเลย แบบโบกรถกันไป ไปเจอใครก็ไปกะเค้าเลย
ตอนนั้นสนุกดีไม่คิดว่าจะเจอคนดีๆที่คอยช่วยเราด้วย
ไปปางอุ๋ง ก็สนุกอีกแบบ


บางทีปายไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกนะคะ แต่ว่าคนต่างหากที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงปายมากกว่า

ถามว่าบรรยากาศบางอย่างมันเปลี่ยนไปแต่บางทีการเปลี่ยนไปก็นำจะพาอะไรดีๆกลับมาบ้าง

แหละถ้าอยากกลับไปอีกครั้งเพื่อบอกว่าเราเองก็ยังรักปายเหมือนเดิมต่อให้บรรยากาศรอบปายเปลี่ยนไปแต่เชื่อว่าปายสำหรับเราไม่เคยเปลี่ยนไปเลย


แอบแซวนิดนึงแสดงว่ามีความหลังเกี่ยวกับใครที่ปายหรือเปล่าค่ะ


โดย: MaZZO วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:21:09:54 น.  

 
อู้หู สวยยยยยยยย มากกกกก


โดย: PrettyNatty วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:21:39:27 น.  

 
รูปสวยมากเลยค่ะ

ตอนเราไปปาย เราก็ไม่ประทับใจกับรีสอร์ทนี่แหละ

แต่ชาวบ้านที่นั่นน่ารักมาก


เห็นบรรยากาศที่แคนยอนแล้วก็เสียดาย เพราะเวลากระชั้นชิด เราเลยไม่ได้ไป สวยมากๆเลย


โดย: คุณหนูแพนด้าตัวน้อย วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:22:47:55 น.  

 
มีโอกาสจะต้องไปปายให้ได้ค่ะ....


โดย: ลูกกีวี่ วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:23:28:01 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ
ภาพสวยจังเลยย


โดย: กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:19:13:33 น.  

 
รูปสวยมากๆ เลยคะ ใช้กล้องอะไรเอ่ย

จะบอกว่าปีที่แล้วก็มีโอกาสไปปาย ช่วงนี้เหมือนกัน เป็นช่วง green season ที่สวยมากทีเดียว อากาศดี ผู้คนไม่เยอะเหมือนตอนหน้าหนาว อยากไปอีกซักครั้งนึง


โดย: MademoiselleTancy วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:22:27:02 น.  

 
สวยจังเลยอ่ะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:7:42:04 น.  

 
best travel pictorial and text i have seen in a long time.

pai is like a woman sullied, the beauty remains, but the soul is absent, with sadness taking its place.


โดย: empid วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:9:25:52 น.  

 
สวยค่ะ ปีนี้ไปปายมาสองครั้ง
เมื่อต้นปี ปลายปีนี้จะปายอีกครั้ง
จะเป็นไรไปเนอะ...
ปายสวยเสมอ...ขึ้นอยู่กับมุมมอง
ความเจริญเป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ
อย่ามองข้ามตัวตน....ปาย


โดย: oonrak_baby วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:12:56:11 น.  

 


ของฝากจากอัมพวา ขอเลียนแบบปายนิสนุง คริ คริ



โดย: LoveError วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:16:30:58 น.  

 
ภาพสวยเหมือนเคยค่ะ
คำบรรยายก็เยี่ยม
อ่านเพลินดีค่ะ
แวะมาทักทายนะคะ
ส่วนตัวยังไม่เคยไปปายเลย ตอนแรกมีแพลนจะไปกับที่บ้านตอนต้นปี แต่ไม่อยากไปแออัดค่ะ เลยปล่อยให้ที่บ้านเค้าไป ส่วนเราก็อยู่เฝ้าบ้าน รอของฝาก


โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:35:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

chiny@832
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add chiny@832's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.