มะเร็งตับ ภัยร้าย ใกล้ตัว
โรคมะเร็งตับ!!! กลุ่มเสี่ยง ผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ผู้เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี เรื้อรัง ผู้ได้รับสาร Aflatoxin จากอาหารจำพวก ถั่ว แป้งสาลี ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าว ผู้ได้รับสารเคมีจากพลาสติกบรรจุอาหาร เสี่ยงพอๆ กับผู้ดื่มสุรา!!!
โรคมะเร็งตับเป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ของตับกลายเป็นเซลล์มะเร็งมีการแบ่งตัว และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
มะเร็งตับ (Liver cancer) คืออะไร ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีน้ำหนักโดยประมาณ 2 %ของน้ำหนักตัว ตำแหน่งของตับอยู่ชายโครงขวา แบ่งเป็น 2 กลีบคือกลีบขวา และซ้ายโดยมีเส้นเลือดมาเลี้ยง 2 เส้นคือ hepatic artery และ portal vein ตับมีหน้าที่สะสมสารอาหาร เช่น น้ำตาล โปรตีน ไขมัน และวิตามินไว้ให้ร่างกายใช้ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ทำลายของเสีย ตับยังทำหน้าที่สร้างไข่ขาว Albumin ซึ่งทำทำหน้าที่รักษาความสมดุลของน้ำในเซลล์และเนื้อเยื่อ และยังนำฮอร์โมนไปเนื้อเยื่อ
ชนิดของเนื้องอกตับ มีทั้งที่เป็นเนื้องอกธรรมดา และเป็นเนื้องอกร้ายท่านผู้อ่านคงต้องจำชื่อโรคไว้เพราะการรักษาต่างกัน 1. Hemangioma เป็นเนื้องอกที่เกิดจากหลอดเลือด ไม่มีอาการ บางรายมีเลือดออก การรักษาใช้ผ่าตัด 2. Hepatic adenomas เกิดจากเซลล์ตับรวมกันเป็นก้อน ผู้ป่วยมาด้วยแน่นท้อง หรือคลำได้ก้อนที่ท้อง มักพบในผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน การรักษาใช้ผ่าตัดเอาออก 3. Focal nodular hyperplasia (FNH) เกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์ตับหลายชนิด เช่น เซลล์ของเนื้อตับ เซลล์ของท่อน้ำดี การรักษาผ่าตัดเอาเนื้องอกออก
สำหรับเนื้องอกที่เป็นมะเร็งมีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิดคือ 1. Angiosarcomas or hemangiosarcomas เกิดจากเซลล์หลอดเลือดในตับพบมากในผู้ป่วยที่สัมผัส vinyl chloride or to thorium dioxide (Thorotrast) สาร vinyl chloride เป็นสารเคมีที่ใช้ในงานพลาสติก มะเร็งชนิดนี้พบน้อย แพร่กระจายเร็วส่วนมากผ่าตัดไม่ได้ การรักษาให้เคมีบำบัด 2. Cholangiocarcinoma เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ของท่อน้ำดี พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ภาคอิสาน ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อมะเร็งชนิดนี้ได้แก่ ผู้ที่มีพยาธิใบไม้ในตับ นิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งนี้พบได้ 13% ของมะเร็งตับ ผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง ตับโต และปวดท้อง เนื่องจากก้อนมีขนาดใหญ่ทำให้ผ่าตัดได้ไม่หมดมักต้องให้เคมีบำบัด และฉายแสง มักจะมีอายุ 6 เดือนหลังการวินิจฉัย 3. Hepatoblastoma เป็นมะเร็งพบในเด็ก ถ้าพบในระยะเริ่มต้นการผ่าตัดจะได้ผลดี 4. Hepatocellular carcinoma เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากเซลล์ของตับ ในบทความนี้จะกล่าวเฉพาะมะเร็งชนิดนี้
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับมีอะไรบ้าง 1. ไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี พบว่าหากเป็นเรื้อรังจะพบว่ามีอัตราการเกิดมะเร็งตับสูง 2. การได้รับสาร Aflatoxin ซึ่งเป็นสารเคมีที่ผลิตจากเชื้อราที่อยู่ในอาหารพวก ถั่ว แป้งสาลี ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าว 3. ตับแข็งจากจาก สุรา ตับอักเสบ เป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับ 4. การได้รับสาร vinyl chloride สะสม (ข้อมูลเพิ่มเติมใต้ข้อ 5. ยาคุมกำเนิด ดังได้กล่าวข้างต้น 6. ยาฮอร์โมนเพศชาย ที่ใช้รักษาโรคโลหิตจาง หรือการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พบว่ามีการเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ 7. สารหนู หากได้รับติดต่อกันก็เพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งตับ 8. สูบบุหรี่ บางรายงานกล่าวว่าการสูบบุหรี่ทำให้มะเร็งตับเพิ่ม
มะเร็งตับป้องกันได้หรือไม่ มะเร็งตับสามารถป้องกันได้โดยการสาธารณะสุข 1. แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี แก่เด็กทุกราย รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนถึงวิธีการติดต่อของไวรัสตับอักเสบ บี และซี 2. ลดสาร aflatoxin โดยการเน้นการเก็บอาหารให้แห้งเพื่อลดปริมาณ aflatoxin 3. โรคตับแข็ง โดยการลดการดื่มสุรา 4. พยาธิใบไม้ในตับ ให้ประชาชนลดการบริโภคอาหารดิบๆ 5. สารเคมีต่าง ควรมีมาตรการป้องกันทั้งผู้บริโภค และคนงานมิให้ได้รับสารเคมีเหล่านี้
อาการของโรคมะเร็งตับ ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับที่มีอาการโดยมากจะเป็นมาก อาการของโรคมะเร็งตับมีอาการเหมือนกับมะเร็งที่ระบบอื่น อาการต่างๆที่พบได้คือ 1. น้ำหนักลด 2. เบื่ออาหาร 3. จุกเสียดแน่นท้อง 4. ปวดท้องตลอดเวลา 5. ท้องบวมขึ้น หายใจลำบาก 6. ตัวเหลือง ตาเหลือง 7. คลำได้ก้อนที่บริเวณตับ
การรักษามะเร็งตับ การรักษาขึ้นกับชนิดของมะเร็งตับ ขึ้นกับว่าโรคเป็นมากหรือยังโดยทั่วไปมีการรักษาดังต่อไปนี้คือ 1. การผ่าตัด จะทำได้ก็ต่อเมื่อมะเร็งนั้นอยู่เฉพาะที่ตับ และขนาดไม่ใหญ่มาก และที่สำคัญตับต้องไม่มีโรคอื่น เช่นตับแข็ง 2. embolization คือการฉีดสารบางอย่างให้อุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมะเร็งทำให้มะเร็งขาดเลือดเป็นการรักษาในภาวะที่ผู้ป่วยไม่เหมาะในการผ่าตัด 3. การให้เคมีบำบัด เนื่องจากโรคมะเร็งตับมักจะดื้อต่อยาเคมี จึงไม่ค่อยได้ผล 4. การฉายรังสี ไม่ค่อยได้ผลเนื่องจากตับที่ดีมีผลเสียจากรังสี
Create Date : 28 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2556 18:42:29 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1355 Pageviews. |
|
|
เรื่องจริง หรือ เรื่องหลอกลวง
สนใจเข้าอ่านได้ที่
www.บ้านสุขภาพดี.com
//goodhealthhomes.blogspot.com/