| ห้องฝากข้อความ | Youtube.com | เติมใจให้กัน | MY Photos | |www.facebook.com|

มะดัน...แก้เบาหวาน แก้ไข้หวัด + เมนู " มะดัน " เพื่อสุขภาพ





นานาสาระน่ารู้เพื่อสุขภาพ


มะดัน...แก้เบาหวาน แก้ไข้หวัด แก้ไข้ทับระดู แก้กระษัย
ขับฟอกโลหิต แก้โลหิตพิการ แก้ประจำเดือนพิการ ฯ





ชื่อสมุนไพร : มะดัน

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Garcinia schomburgkiana Pierre.

ชื่อสามัญ : Garcinia

วงศ์ : Clusiaceae (Guttiferae)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะดัน
มะดัน เป็นไม้ต้น สูง 7-10 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลอมดำ

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 2.5 ซม. ยาว 9 ซม.
ปลายใบและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบลื่น สีเขียวเข้ม
ก้านใบยาว 0.5-1 ซม.

ดอก ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก 3-6 ดอก ตามซอกใบ มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศ
และดอกเพศผู้ ดอกสีเหลืองอมส้ม กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ ค่อนข้างกลม กลีบดอก
มี 4 กลีบ รูปรีแกมรูปไข่ ปลายกลีบดอกมน ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ 10-12 อัน

ผล รูปรีปลายแหลม ผิวเรียบสีเขียว เป็นมันลื่น มีรสเปรี้ยว เมล็ดมี 3-4 เมล็ด ติดกัน

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ ราก ผล

การใช้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการ
ใบอ่อน มีรสเปรี้ยวนำมาใช้เป็นผัก หรือประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ต้มส้ม
แกง หรือยำใบมะดันอ่อน

ผล มีรสเปรี้ยวมากนิยมรับประทานสด โดยจิ้มเกลือ กะปิ หรือน้ำปลาหวาน
ใช้แต่งรสอาหารให้เปรี้ยวแทนมะนาว ได้ดี นำมาทำน้ำพริกกะปิ อาหารประเภทยำต่างๆ
หล่นต่างๆ กินแก้มข้างคลุกกะปิ นอกจากนี้ยังมีการนำมา แปรรูปได้หลายแบบ เช่น
แช่อิ่ม ดองเค็ม เชื่อม เป็นต้น






การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
ราก มีรสเปรี้ยว แก้เบาหวาน แก้ไข้หวัด แก้ไข้ทับระดู
ขับฟอกโลหิต กัดเสมหะในลำคอ แก้กระษัย แก้ระดูเสีย
เป็นยาระบายอ่อนๆ

เปลือกต้น แก้ไข้ทับระดู แก้โลหิตระดู

ใบ มีรสเปรี้ยว แก้หวัด แก้ไอ แก้กระษัย แก้เสมหะพิการ
แก้น้ำลายเหนียว กัดเสมหะ แก้ประจำเดือนพิการ แก้ระดูเสีย ขับฟอกโลหิต
เป็นยาระบายอ่อน แก้โลหิตพิการ ขับปัสสาวะ

ผล มีรสเปรี้ยว ล้างเสมหะ กัดเสมหะ ฟอกโลหิต แก้ไอ
แก้ประจำเดือนพิการ

การนำไปปรุงเป็นยารับประทานส่วนมากนิยมใช้วิธีการต้ม
ถ้าต้มตามหลักการแพทย์แผนไทยคือต้ม 3 เอา 1 โดยใช้น้ำ 3 ส่วน
ต้มเคี่ยวจนเหลือ 1 ส่วน แล้วเอายานั้นมาผสมกับน้ำอุ่นรับประทานใช้แก้เสมหะ
แก้กระษัย ขับฟอกโลหิตประจำเดือนได้ เป็นยาระบายอ่อนๆ แต่ข้อควรระวังคือ
ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางไม่ควรรับประทานพวกยาและอาหารที่มีรสเปรี้ยวเพราะจะยิ่ง
ไปกัดฟอกโลหิตมากขึ้น จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

นอกจากนี้ยังสามารถนำกาฝากจากต้นมะดันมาตากแดดสัก 2-3 วันและใส่หม้อต้ม
ให้เดือดพล่านใช้สำหรับกินแก้ปวดข้อ
หรือเข่า ได้อย่างดี ถ้าได้กินเป็นประจำดีมาก

ข้อมูลการวิจัยที่สำคัญ สารเคมีคือ

Garcinia schomburkiana diphenyL compound
;garcinone B, 3-O-methyl: ;xanthone,
1,3,7-trihyroxy-2,5,8-tris
(-methylbut-2-enyl)-6: methoxy

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ยับยั้งการเจริญของเนื้องอก







คุณค่าทางโภชนาการ
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข รายงานเมื่อ
ปี พ.ศ. 2530 และ 2535 ว่า มะดันมีคุณค่าสารอาหารของผลไม้
และใบอ่อนมะดัน ในส่วนที่กินได้ 100 กรัม และสารอาหารที่มี
ประโยชน์ต่อร่างกาย จากผลและใบอ่อน ประกอบด้วย

ผลมะดัน มี คาร์โบไฮเดรท 6.5 กรัม โปรตีน 0.3 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม
ใยอาหาร 0.4 กรัม แคลเซียม 17 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 7.0 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 431 I.U. วิตามินบี 1 มีเล็กน้อย วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม
วิตามินซี 5.0 มิลลิกรัม

ใบอ่อนมะดัน มี คาร์โบไฮเดรท 7.3 กรัม โปรตีน 0.3 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม
แคลเซียม 103 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก มีเล็กน้อย
วิตามินเอ 225 I.U. วิตามินบี 1 0.01 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม
วิตามินซี 16 มิลลิกรัม และไนอะซิน 0.02 มิลลิกรัม

ข้อเสนอแนะ มะดันเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทั้งด้านการเป็นอาหารที่มีคุณค่า
ด้านโภชนาการมีวิตามินซีสูง และเป็นพืชสมุนไพร
ที่คนนิยมบริโภคกันมาก แต่เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีจำนวนลดลง
มีการปลูกน้อยมาก พบเห็นได้ยากจึงหามาใช้ ประกอบอาหารลำบาก
เราจึงไม่ค่อยพบอาหารที่ปรุงจากมะดันเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นน่าจะ
ควรส่งเสริมและ ช่วยกันอนุรักษ์มะดันเอาไว้

อ้างอิงจาก : โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

//www.thammasatu.net/forum/index.php?topic=12003.0
//www.thaipost.net/node/48015
//www.ข้อมูลสมุนไพร.com/
//www.chaynichsart.com/?p=1972



+++++++++++++++++++++


แนะนำเมนูเพื่อสุขภาพ

"น้ำพริกมะดัน"





มะดันมีรสเปรี้ยวสะใจไม่แพ้มะนาว ดังนั้นโบราณจึงนำมาทำ
ทั้งน้ำพริกและทำต้มแบบแซ่บๆ อย่างปลาทูต้มมะดัน


สูตรน้ำพริกมะดัน

สำหรับ 1-2 ท่าน
เวลาในการทำ: 10 นาที

วัตถุดิบน้ำพริกมะดัน

1. เนื้อมะดันซอยบาง 5 ช้อนโต๊ะ
2. กะปิย่าง 3 ช้อนต๊ะ
3. กระเทียม 10 กลีบ
4. กุ้งแห้งตำป่น 3 ช้อนโต๊ะ
5. พริกชี้ฟ้าเขียวเหลืองแดง อย่างละ 1 เม็ด
6. พริกขี้หนูสวน 7 เม็ด
7. มะอึก 2 ลูก
8. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ
10. กากหมู 1 ช้อนโต๊ะ ไม่ใส่ก็ได้





วิธีทำน้ำพริกมะดัน

1. นำส่วนผสมในข้อ 1-7 และ 10 ตำให้เข้ากันดี
2. ตั้งกระทะไฟกลางค่อนข้างอ่อน หยอดน้ำมันพืช หรือน้ำมันหมู ซัก 3 ช้อนโต๊ะ
แล้วจึงนำน้ำพริกในครกมาผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ให้รสเค็มหวานกลมกล่อม
เด่นด้วยความเปรี้ยวของมะดัน หอมมันหมู เป็นอันใช้ได้ นิยมคลุกกับข้าวสวยร้อนๆนุ่มๆ
หรือจิ้มกับผักสดก็ได้



//www.foodtravel.tv/recfoodShow_Detail.aspx?viewId=2085




มะดันแช่อิ่มสามรส



วิธีทำ

ไปซื้อหรือหามะดันสด ตามจำนวนที่ต้องการ
เอามะดันขยำแช่น้ำเกลือ (มะดัน 3 กิโล เกลือ 3กำมือ)
แล้วผึ่งแดด 2 วัน เช้าตากแดดเย็นเก็บ 2วัน พอ

หลังจากนั้น เอามะดันตัดหัวตัดท้าย แกะเอาเม็ดออก
เสร็จแล้วเอามาแช่ น้ำปูนใสเข้มข้น แช่ไว้ 8 ชั่วโมง
ขาดเกินนิดหน่อยไม่เป็นไร

แล้วเอามาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ล้างสัก 3 เที่ยว พึ่งให้หมาดๆ

จัดการเคี่ยวน้ำเชื่อม น้ำตาลทราย+น้ำ
(มะดัน 3 กิโล น้ำตาลทราย 1กิโลหรือ 1กิโลครึ่ง ก็พอ)
เคี่ยวเสร็จปล่อยน้ำตาลทรายเป็นน้ำเชื่อม เหมือนยางมะตูม
รอให้เย็น ย้ำต้องให้น้ำเชื่อมเย็นสะก่อน

เอามะดันที่ล้างน้ำเปล่า แล้วมาแช่ในน้ำเชื่อม 4 ชั่วโมง

เสร็จเรียบร้อย ตักมารับประทานได้เลย อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


Credit : คุณยาย จ.ปทุมฯ บอกสูตรมา






เครื่องดื่มสมุนไพร "น้ำมะดัน"

มะดัน เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ชอบขึ้นตามริมน้ำ ผลมีสีเขียว
ขนาดเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าบ้างเล็กน้อย มีรสเปรี้ยวจัด
รับประทานได้ทั้งมะดันแก่ และมะดันอ่อน

ส่วนผสม

มะดัน 6-7 ผล
น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา


วิธีทำ

นำมะดันล้างน้ำให้สะอาด ผ่าครึ่งแล้วเอาเมล็ดออก จากนั้นเติมน้ำใส่หม้อตั้งไฟ
ใส่เนื้อมะดัน พอน้ำเดือด เติมน้ำเชื่อมให้ออก
รสหวาน แล้วต้มต่อจนเนื้อมะดันเปื่อยนิ่ม กรองเอากากออก
เติมเกลือป่นเล็กน้อย จะทำให้น้ำมะดันมีรสเปรี้ยวหวานมากขึ้น
เวลาดื่มควรเติมน้ำแข็งลงไป เพื่อช่วยแก้กระหายน้ำ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร

ราก มีรสเปรี้ยว แก้เบาหวาน แก้ไข้หวัด แก้ไข้ทับระดู
ขับฟอกโลหิต กัดเสมหะในลำคอ แก้กระษัย แก้ระดูเสีย
เป็นยาระบายอ่อนๆ

เปลือกต้น แก้ไข้ทับระดู แก้โลหิตระดู

ใบ มีรสเปรี้ยว แก้หวัด แก้ไอ แก้กระษัย แก้เสมหะพิการ
แก้น้ำลายเหนียว กัดเสมหะ แก้ประจำเดือนพิการ แก้ระดูเสีย
ขับฟอกโลหิต เป็นยาระบายอ่อน แก้โลหิตพิการ ขับปัสสาวะ

ผล มีรสเปรี้ยว ล้างเสมหะ กัดเสมหะ ฟอกโลหิต แก้ไอ
แก้ประจำเดือนพิการ


ขอขบคุณข้อมูลจาก
//www.thaigoodview.com/node/91107


******* ******* *******




++Bloggang :: jamaica++



Create Date : 07 กรกฎาคม 2556
Last Update : 7 กรกฎาคม 2556 7:08:28 น. 0 comments
Counter : 7993 Pageviews.

jamaica
Location :
1 Albania

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ฝากข้อความที่นี่ค่ะ^_^


++ Harmony of Life ++
ช่วงเวลาดีๆ และ....
ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ
เมื่อเรามีหัวใจจะสรรค์สร้าง
รู้สึกดีกับตัวเราเองรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆ
กับใครๆรายรอบตัว......และ
แบ่งปันความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
ทุก ๆวัน ก็จะเต็มไปด้วยความสุข
และความรู้สึกดีๆ ค่ะ ^_^



"เปิดBlog 5 กรกฎาคม 2553"

ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มอบให้
jamaica's Blog นะคะ


BlogGang Popular Award # 6

BlogGang Popular Award # 7

BlogGang Popular Award # 7

BlogGang Popular Award # 8

BlogGang Popular Award # 8

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award #10
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
7 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jamaica's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.