ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Dosahou Camp at Nakhon Si Thammarat

ภายหลังจากมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมอาสาสมัครล่ามภาษาญี่ปุ่นค่ายโดสะโฮให้กับมูลนิธิเพื่อเด็กพิการเมื่อปลายปีที่แล้ว พี่ราตรีที่เป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯที่สำนักงานในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ติดต่อมาว่าสะดวกไปเป็นล่ามให้กับมูลนิธิฯช่วงปลายเดือนกรกฎาคมได้ไหม? ตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไหม? จนกระทั่งวันที่ยื่นใบลาออกจากธนาคารก็ตอบตกลงไปว่าสามารถมาร่วมกิจกรรมตรงนี้ได้

(昨年末障害児財団法人の動作法キャンプに通訳ボランテイア活動に参加した。タイ南部ナコンシータンマラット県財団のラテイーさんから連絡いただき、今年7月末 また動作法通訳ボランテイア活動に参加して欲しいと誘われた。)


(อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมโดสะโฮปลายปีที่แล้วโดยการคลิกลิงก์ข้างล่างครับ/昨年の動作法活動内容は下記にクリックして読んで下さい。
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cheevaprapha&month=30-12-2008&group=1&gblog=85



 โชคดีที่ลาออกจากงานประจำที่ธนาคารกสิกรไทยและมาประกอบอาชีพอิสระช่วยกิจการในครอบครัว ซึ่งช่วงดังกล่าวพอจะแบ่งเวลามาทำกิจกรรมอาสาสมัครตรงนี้ได้ คงรู้สึกอึดอัดใจถ้าตอนนี้ยังทำงานประจำแล้วไปขอลางานเจ้านายไปช่วยกิจกรรมอาสาสมัครตรงนี้ทั้งๆที่พึ่งกลับจากไปทริปยุโรปมา ๓ อาทิตย์

(丁度カシコン銀行を辞めて両親の商売を手伝っている。だから、時間を作って、この活動に参加する事ができた。もし、今、銀行に勤めていたら、この前3週間ヨーロッパ旅行をしたばかりだし、続いてボランテイア活動のため、また休みをとりたい。。。これに見ると良くない行為だな!)


 มาทราบก่อนการเดินทางว่ามีผมไปเป็นล่ามอาสาสมัครให้ค่ายคราวนี้ได้เพียงคนเดียวเพราะว่าล่ามที่เคยเป็นอาสาสมัครด้วยกันคราวที่แล้วและล่ามอาสาสมัครท่านอื่นไม่สะดวกที่จะไปได้คราวนี้ ค่ายคราวนี้เลยใช้คุณฮีโร่และครูลี่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อเด็กพิการที่พูดภาษาญี่ปุ่น-ไทยได้ไปช่วยเป็นล่ามด้วย เนื่องจากมีครอบครัวของน้องๆที่พิการทางสมองจำนวน ๑๔ ครอบครัวมาเข้าค่ายโดสะโฮคราวนี้ ดังนั้นค่อนข้างจะเอาเรื่องถ้าใช้ล่ามเพียงคนเดียวกับการแปลให้กลุ่มย่อย มาทราบจากครูลี่ก่อนเดินทางไปนครศรีธรรมราชว่าจะมีอาสาสมัครล่ามตามไปช่วยเสริมอีก ๑ คนวันศุกร์


มานัดเจอวิทยากรที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น ๓ ท่านและคุณฮีโร่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปรากฏว่าเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียล่าช้ากว่ากำหนด ๒ ชั่วโมง ช่วยไม่ได้เพราะเที่ยวบินที่จะไปนครศรีธรรมราชเที่ยวเย็นไม่มีแล้ว เราต้องไปลงหาดใหญ่แล้วมีรถตู้มารับพวกเราที่หาดใหญ่ไปนครศรีธรรมราช กว่าจะมาถึงค่ายที่นครศรีธรรมราชตอนตี ๑ กว่าๆ

(待ち合わせ場所はスワンナプム空港で日本から来た先生たち3人そして財団のスタプ博夫さんに会った。飛行機は2時間遅く出発したが、ハットヤイ空港でナコンシータンマラット県のスタプが迎えてくれた。ハットヤイからナコンシータンマラットまで2時間が掛かった。ナコンシータンマラットに着いたのは翌日午前1時であった。


 วันรุ่งขึ้นค่ายโดสะโฮก็เริ่มต้นที่ศูนย์การฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพของประชาชนในเขตภาคใต้...มีครอบครัวที่เข้าร่วมกิจกรรมคราวนี้ ๑๔ ครอบครัว โดยมีพ่อแม่ของเด็กที่สมองพิการและอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆเช่น โรงพยาบาล อบต. มาเรียนรู้วิธีการฝึกแบบโดสะโฮที่จะใช้บำบัดกับเด็กที่สมองพิการ

(翌朝タイ南部健康開発研修センターで動作法キャンプをスタート。今回、14家族が参加した。親とボランテイアは動作法を研修した。)






ภาษาทางการแพทย์เรียกเด็กพิการพวกนี้ว่า เด็ก CP (Cerebral Palsy) สาเหตุมาจากการที่สมองเด็กขาดออกซิเจนขณะหลังคลอด หรือเกิดจากอาการชักแล้วตามมาด้วยการที่สมองขาดออกซิเจน ผลตามมาก็คือสมองถูกทำลาย ทำให้เด็กพวกนี้ไม่เข้าใจว่าการทรงตัวที่ถูกต้องเป็นอย่างไรมาตั้งแต่เกิด เด็กพวกนี้จะเคลื่อนไหวด้วยท่าที่ผิดปกติ


ค่ายโดสะโฮคราวนี้จัดให้กับครอบครัวทางภาคใต้ ครอบครัวส่วนใหญ่มาจากนครศรีธรรมราชและจังหวัดไกลๆทางภาคใต้อย่างนราธิวาส


 


ครูสอนเป็นผู้จัดการค่ายโดสะโฮครั้งนี้ พี่ราตรีดำเนินรายการเป็นเลขานุการและพิธีกรในระหว่างที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆ





 พิธีเปิดเริ่มขึ้น...คราวนี้ผมรับหน้าที่แปลในสิ่งที่ท่านประธานในพิธีกล่าวจากภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น

เรื่องของภาษา..ถ้าแปลตรงๆ...คนญี่ปุ่นมีความแตกต่างกับคนไทยเรื่องของวัฒนธรรมและความเชื่อ คนญี่ปุ่นฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่า...ทำไมคนไทยเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเกี่ยวข้องด้วยตอนอวยพรกัน? บางประโยคก็ไม่เหมาะสมที่จะแปลเนื่องจากคนญี่ปุ่นเขาไม่คิดแบบคนไทยเชื้อสายจีนคิด ดังนั้นหน้าที่ของล่ามนอกจากจะเข้าใจเรื่องของภาษาแล้ว...ยังควรจะต้องเข้าใจถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของคนญี่ปุ่นด้วย เพราะประโยคบางประโยคถ้าเราแปลตรงๆอาจจะกระทบความรู้สึกของคนฟัง


(開会式が始まり、私は通訳の役割になった。通訳については、日・タイの文化やあるいは信じる事には相違点があるので、直接通訳したら日本人は理解できないと思う。何故タイ人はお祈りが神様に関係があるの?通訳は日本語能力を持つだけではなく文化も理解する事が必要であると思う。もし通訳が(その国の文化や習慣を知らないまま)直訳したら、それは聞く人に誤解を与えるか間違った意味に取られることもあるだろう。)


 ภาคการบรรยายเริ่มต้น อาจารย์มัตซุ่ยบรรยายความหมายของคำว่า "โดสะโฮ" คืออะไร

(研修第1課、松井先生は「動作法」どういう意味を説明した。)


 โดสะโฮถือกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่น โดยมีจุดเริ่มต้นจากย่านคิวชู ปกติแล้วมนุษย์เรามีการเคลื่อนไหวของร่างกายในชีวิตประจำวัน แต่ในกรณีของเด็กที่พิการทางสมอง เด็กเหล่านี้ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวร่างกายในท่าที่ปกติเหมือนเด็กคนอื่นได้ เนื่องจากสมองส่วนที่สั่งให้ร่างกายเคลื่อนไหวถูกทำลาย เด็กเหล่านี้ไม่มีประสบการณ์ของสมองในอดีตที่จะสั่งงานให้ร่างกายเคลื่อนไหวในท่าทางที่ถูกต้อง ดังนั้นผู้ฝึกจึงต้องฝึกฝนให้เด็กเคลื่อนไหวในท่าที่ถูกต้องโดยอาศัยความร่วมมือร่วมกันระหว่างผู้ฝึกกับเด็ก โดยกระตุ้นเด็กให้เกิดความตั้งใจที่จะเคลื่อนไหว และเด็กใช้ความพยายามที่จะเคลื่อนไหว ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องเกิดการยืดกล้ามเนื้อไปได้มากขึ้นและทรงตัวในท่าที่สมดุลและถูกต้อง

(動作法の原点は九州です。脳麻痺患者は正しい姿勢の意識が持ってないので、TrainerはTraineeに正しい動かし方を教えている。そしてお互いに協力することが必要である。)


องค์ประกอบสำคัญของโดสะโฮมี ๓ อย่างคือ

(動作法は大切な様相が3つがある)

๑. ต้องมีความตั้งใจ(意志) ถ้าขาดความตั้งใจที่จะเคลื่อนไหว การฝึกการเคลื่อนไหวจะไม่เกิดขึ้น

๒. ความพยายาม (努力) ถ้าขาดความพยายามที่จะฝึกการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จะไม่เกิดการพัฒนาขึ้น

๓. การเคลื่อนไหว (動作)หลังจากที่มีความตั้งใจและใช้ความพยายาม ก็จะทำการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างที่ต้องการ


ขั้นตอนของโดสะโฮมีอยู่ ๔ ขั้นตอนดังนี้คือ
(動作法順番は4つがある)

๑. เริ่มจากผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (筋肉を緩める) กล้ามเนื้อส่วนที่ตึงจะทำให้ไม่สามารถยืดอวัยวะต่างๆออกไปได้ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเสียก่อน

๒. จัดให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง (正しい姿勢) ถ้ารูปร่างไม่อยู่ในท่าที่ถูกต้องไม่ว่าจะฝึกอย่างไรก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นภายหลังจากผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้วจำเป็นต้องจัดเด็กให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง

๓. รักษาสมดุลของการทรงตัว (バランス)วางตำแหน่งของเด็กให้สมดุลในการทรงตัว

๔. การเคลื่อนไหว (動かす)หลังจากรักษาสมดุลในการทรงตัวแล้วก็ทำการเคลื่อนไหวร่างกายเด็ก


มีการแบ่งกลุ่มออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน โดยมีวิทยากรจากญี่ปุ่น ๓ ท่าน ครูลี่เป็นวิทยากรให้อีกกลุ่ม ผมอยู่กลุ่มหนึ่งมีอาจารย์ฟูรุซาว่าเป็นวิทยากร

(14家族は4班に分類され、各班は3-4家族となる、日本人の先生3人、そしてもう1人の先生は、それぞれ班のSupervisor先生となった。私と古沢先生は一緒に1班にいる。)


 กิจกรรมเริ่มจากถ่ายภาพท่าทางของเด็ก ๓ ท่าใหญ่เพื่อดูพัฒนาการว่า ภายหลังจากผ่านการฝึก ๔ วันแล้วเด็กมีการทรงตัวแตกต่างไปจากวันแรกอย่างไร?

(In-take写真を撮って、最初の姿勢を見る。そして、訓練4日間後どんなに進歩したかどうか比べる。)





เอียดในวัย ๑๓ ปี เกิดอาการชักบ่อยในวัย ๒ ขวบ เอียดมักจะทำร้ายตัวเองเวลาโกรธ คุณแม่เขาก็เลยตัดผมสั้นเพื่อป้องกันการดึงผมตัวเอง เอียดทรงตัวเองไม่ได้


มีการล้อมวงเพื่อนั่งฟังอาจารย์ฟูรูซาว่าแนะนำให้แต่ละคนฝึกโดสะโฮ โดยที่อาจารย์ฟูรุซาว่าอธิบายท่าทางต่างๆแล้วผมแปลให้แก่ผู้ฝึกรับทราบ หลังจากนั้นให้ผู้ฝึกแต่ละคนทำการฝึกโดยอาจารย์จะสังเกตดูและแนะนำท่าที่ถูกต้อง

บังเอิญช่วงนี้เป็นช่วงที่โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังระบาด ดังนั้นเพื่ออนามัยในระหว่างฝึกจึงมีการปิดปากด้วยผ้าปิดปากทั้งคนฝึก เด็ก และล่าม





กิจกรรมตอนเช้าช่วงที่อยู่ค่ายเริ่มต้นจากออกกำลังกายตอนเช้าราวๆ ๖ โมงครึ่งจนถึง ๗ โมงเช้า มีการเช็กสภาพร่างกายของเด็กแต่ละคนว่านอนหลับเพียงพอไหม? ทานอาหารมากน้อยแค่ไหน? ถ่ายอุจจาระ-ปัสสาวะไหม? ทานยาอะไรบ้างรึเปล่า? มีไข้ไหม?






ภายหลังจากผู้ใหญ่ตัวแทนแต่ละกลุ่มมานำออกกำลังกายแล้ว ก็เป็นโอกาสของเด็กที่จะนำออกกำลังกายบ้าง






แล้วก็เป็นการนำออกกำลังกายโดยอาจารย์วิทยากรชาวญี่ปุ่น






ฮีโร่(博夫)เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อเด็กพิการที่สนใจภาษาของชาวเขาและประเทศในเขตอาเซียนมานำออกกำลังกายโดยการนับจำนวนครั้งเป็นภาษาเขมร




ทุกครั้งก่อนทานอาหารจะมีการร้องเพลงเตือนสติอย่ากินทิ้งขว้างเพราะมีคนอดอยากมากมาย





วันที่สองมีการบรรยายการฝึกท่านั่ง โดยอาจารย์ฟูรูซาว่า ผมช่วยแปลให้แก่ผู้ฝึกเข้าใจว่าอาจารย์ให้ทำท่าอย่างไรบ้าง หลักในการทรงตัวของแต่ละท่าอยู่ตรงไหน?

(二日目研修第2課は座位です。古沢先生が教えて、私が通訳した。)




แล้วมีการทดลองให้ลองฝึกกันดูรับรู้ว่ามีการถ่ายน้ำหนักไปที่จุดที่สมดุลไหม? ผู้ฝึกควรจะต้องทราบความรู้สึกว่าถ้าถูกจับให้เคลือนไหวแล้วเป็นอย่างไร..ท่าไหนทำแล้วเจ็บ ถ้าทำไม่ถูกท่าเป็นอย่างไร ท่าที่ถูกเป็นอย่างไร? ความรู้สึกตรงนี้สำคัญมาก ตราบเท่าที่คนฝึกไม่ทราบความรู้สึกดังกล่าว เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำแล้วเด็กจะเป็นอย่างไร?

(訓練する時、大切なことは自分の実験です。もし自分の経験がないと、子供の痛みそして正しい姿勢についての知識を全然持ってないでしょう。)





 ภายหลังจากเรียนรู้ท่านั่งแล้ว ก็มีการฝึกโดสะโฮในท่าต่างๆทั้งภาคเช้าและบ่าย





มีการประเมินผลจากการฝึกของแต่ละกลุ่ม โดยวิทยากรแต่ละกลุ่มจะมาประชุมกันและนำเสนอผลของการฝึก การพัฒนา และปัญหาที่ควรจะปรับปรุง

(Supervisor先生のミーテインッグの中で、各班の訓練の結果がうまく行ったかどうか、どんな課題がうまく行かなかったか、いろいろ意見を出し合った。)





มีการประชุมกลุ่มใหญ่ตอนค่ำภายหลังอาหารเย็นเพื่อรายงานประเด็นสำคัญที่พบจากการฝึก หรือเปืดโอกาสให้ผู้ฝึกแต่ละคนซักถามปัญหาที่พบจากการฝึกหรือข้อสงสัยที่อยากจะถามวิทยากร

(夜のミーテインッグでは、その日の訓練の話題を報告したり、質問したりした。)






  วันที่สามเป็นการบรรยายท่ายืนโดยอาจารย์นาไก(中井先生)ผมช่วยแปลให้ผู้ฝึกรับทราบว่าอาจารย์นาไกกำลังอธิบายว่าอะไร มีน้องจากอำนาจเจริญมาเป็นหุ่นเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าทำท่าไหน ท่านี้เป็นท่าที่ฝึกได้ยากท่าหนึ่ง น้องก้อยที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรมาช่วยเสริมทีมล่ามตั้งแต่เมื่อวานทำให้การแปลให้กลุ่มย่อยเบาแรงลง






ภายหลังจากบรรยายเสร็จเป็นการแยกไปฝึกแต่ละกลุ่ม ปรินต์เป็นนักกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลสิชล เขากระตือรือล้นที่จะเรียนรู้วิธีฝึกโดสะโฮเพื่อเอาไปใช้งานกับคนไข้ที่โรงพยาบาล ภายหลังจากปรินต์ฝึกแล้วได้ท่าไม่ถูกต้อง อาจารย์ฟูรูซาว่าเลยให้ลองเป็นคนไข้บ้างเพื่อให้เข้าใจว่าท่าที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ถ่ายน้ำหนักที่จุดไหนจึงจะเกิดสมดุล

(プリンさんはシチオン病院に勤めている。彼女は熱心に訓練した。分からない課題は古沢先生に聞いて、古沢先生は彼女に体験させた。)









คุณกุ้งทำงานที่โรงพยาบาลฉวาง เขาพยายามยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอของน้องไอซ์แต่ว่าทำแล้วไม่ถนัด ไม่ถูกท่าเสียที





อาจารย์ฟูรูซาว่าทำการสาธิตท่าที่ถูกต้องให้ดู ซึ่งท่าที่ถูกต้องเพียงแต่วางตำแหน่งของหน้าแข้งเข้าที่บริเวณแผ่นหลังของผู้ป่วยในตำแหน่งที่ถูกต้อง บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็มีผลต่อการยืดกล้ามเนื้อของผู้ป่วยได้มาก






ในบรรยากาศของการฝึกอย่างตั้งใจ...ผมพบสิ่งสวยงามตามธรรมชาติโดยบังเอิญ มีหรือจะปล่อยให้ผ่านไป เลยเอารูปสวยๆของดอกดาวกระจายมาเป็นของฝาก ในญี่ปุ่นช่วงนี้ดอกดาวกระจายที่คนญี่ปุ่นเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Cosmosの花 ก็บานส่งดอกหลากสีสันให้ผู้คนได้ชื่นชมความงดงามกัน





ตอนประชุมกลุ่มใหญ่...เปิดโอกาสให้น้องก้อยแสดงบทบาทเป็นล่ามของที่ประชุมบ้าง ถือเป็นการฝึกและเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับตัวน้องเขาเอง น้องก้อยเกร็งมากแล้วเข้าใจในความยากในการแปลประโยคไปมาระหว่างภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น พยายามช่วยเหลือน้องก้อยในบางครั้งเพราะตอนผมแปลเอง...หลายๆครั้งที่ก็นึกหาคำที่เหมาะสมของภาษาไทยไม่ได้หรือว่าจะแปลตรงๆบางทีคนฟังก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน






ปรินต์ถามคำถามว่าสามารถเอาโดสะโฮไปใช้กับผู้ป่วยประเภทอื่นนอกเหนือจากเด็กสมองพิการได้ไหม?

คำตอบคือ...สามารถเอาโดสะโฮไปใช้กับคนธรรมดาในชีวิตประจำวันได้ สามารถเอาโดสะโฮไปใช้บำบัดกับเด็กสมาธิสั้น เด็กออทิสติกส์ได้

การเริ่มต้นยืดกล้ามเนื้อเพื่อให้มีการผ่อนคลาย ตามมาด้วยการจัดท่าทางที่ถูกต้อง และทำการเคลื่อนไหว...สุดท้ายคนที่เราใช้โดสะโฮด้วยก็จะรู้สึกผ่อนคลาย...สบาย...รู้สึกเบิกบานใจ


คืนสุดท้ายที่เราอยู่ในค่าย เขาให้คิดการแสดงแต่ละกลุ่ม ปรินต์อยากให้กลุ่ม ๑ มีการแสดงแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น คราวที่แล้วก็โชว์ท่าเต้นบ้งโอโดริ (盆踊りไปแล้ว คราวนี้ไม่อยากซ้ำและควรเป็นท่าง่ายๆ เพราะว่าไม่มีเวลาซ้อมและไม่สะดวกแก่การจำ เลยเอาท่าเต้น อาวาโอโดริ (阿波踊り)ซึ่งเป็นท่าเต้นที่ไม่วุ่นวาย สะดวกแก่การจดจำท่าร่ายรำ อาวาโอโดริเป็นท่ารำประจำท้องที่จังหวัดถกคูชิม่า(徳島県の踊り)


การแสดงเริ่มจากรำชนไก่ของวิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช (ナコンシタンマラット県形術学校の戦闘鶏踊りを出した。)





ตามมาด้วยรำวงไทยของทุกคน





การแสดงท่าเต้นรักข้ามคลองของกลุ่มที่ถูกจับฉลากให้มาแสดงก่อน




กลุ่มหนึ่งแสดงอาวาโอโดริ (阿波踊り)กลัวจังหวะกลองผิดเลยรับบทตีกลองให้จังหวะกับสมาชิกในทีมแทน พอตีกลองแล้วสมาธิมันอยู่ที่จังหวะตีกลองเลยทำให้จังหวะขยับเท้ามันไม่เหมือนท่าเต้นอาวาโอโดริ แต่ไม่เป็นไรเพราะคนที่รู้ว่าเต้นผิดมีไม่กี่คนและไม่ได้สนใจด้วย






กลุ่มนี้แสดงท่าเต้นเมียงู วิทยากรชาวญี่ปุ่นดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำอะไรกันมีความหมายตลกอะไรนักหนา?





กลุ่มนี้ร้องเพลงซึ้งๆเกี่ยวกับพระคุณแม่ ผมฟังแล้วขนลุกเลย




พ่อของน้องฟีฮาลมาแสดงมายากล โดยเปรียบเทียบเชือกที่มีปมเหมือนเด็กพิการแต่ด้วยความรักความปรารถนาดีของทุกคนใส่ลงไปในเชือกทำให้เชือกเส้นนี้กลับมาสภาพเป็นเชือกปกติที่ไม่มีปม พยายามแปลข้อความของพ่อน้องฟีฮาลเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ง่ายต่อความเข้าใจ บางคำในภาษาไทยยอมรับว่าหาคำในภาษาญี่ปุ่นที่เหมาะสมไม่ได้







สุดท้ายการแสดงรอบกองไฟก็เสร็จสิ้นลงมีการถ่ายภาพหมู๋เก็บไว้เป็นที่ระลึก




ผ่านไปแป๊บเดียว...วันสุดท้ายของค่ายก็มาถึง

มีการถ่ายภาพของเด็ก รูปถ่ายบ่งบอกถึงพัฒนาการภายหลังการฝึกโดสะโฮ









พี่แอ๊ดซึ่งเป็นผู้จัดการมูลนิธิฯในเขตนครศรีธรรมราชเป็นประธานในพิธีปิด เขาเปิดโอกาสให้ตัวแทนผู้ปกครอง อาสาสมัครที่เข้าร่วมฝีกค่ายโดสะโฮ วิทยากร และล่ามพูดความรู้สึกของการมาค่ายคราวนี้


ถึงคิวที่ต้องกล่าวอะไร ...คราวนี้พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนจะแปลกลับเป็นภาษาไทย

閉会式の時、参加者は一言ずつ挨拶をしました。私は次のように言いました。この財団ボランテイア活動は今回で2回目です。日本に留学した時、日本の文部科学省の奨学金をもらいました。この奨学金は日本人の税金からもらうことになります。ですから、私の活動が日本とタイの架け橋の役に立って場幸いです。今回、いろいろといい勉強になりました。「障害」という意味は、単に「不便」というだけのことです。障害者は異物ではありません。障害者も普通の人も同じ人間です。諦めなかったら、きっといい結果が出ると信じています。皆さん、諦めないで、これからも頑張って下さい。


 ตอนไปเรียนหนังสือในญี่ปุ่นผมได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นไปเรียน ซึ่งทุนที่ได้มาก็มาจากภาษีของประชาชนญี่ปุ่น ดังนั้นถ้าผมจะทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์และเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนสองประเทศนี้...เงินภาษีของคนญี่ปุ่นก็ถือว่าไม่สูญเปล่า ดังนั้นผมจึงมาร่วมกิจกรรมล่ามอาสาสมัครของมูลนิธิเพื่อเด็กพิการคราวนี้ การมาร่วมค่ายโดสะโฮคราวนี้ผมได้เรียนรู้หลายๆอย่าง

คำว่า "พิการ" แท้จริง...เป็นแค่รูปแบบของ "ความไม่สะดวกสบาย" เท่านั้น ทั้งคนปกติกับคนพิการต่างก็เหมือนกันในแง่ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และความพยายามของมนุษย์ไม่สูญเปล่า มันมีผลลัพธ์ตอบแทนเสมอกับความพยายามที่ลงมือไปไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือว่าคนปกติ อย่ายอมแพ้ พยายามต่อไป ฝึกฝนต่อไป สิ่งที่เรียนรู้จากการมาค่ายคราวนี้คงเป็นประโยชน์และช่วยให้เกิดพัฒนาการแก่น้องๆเขาต่อไป



ก้อยกล่าวความรู้สึกต่อจากผม...เสียงสั่นเครือเลย ผมเข้าใจความรู้สึกของน้องเค้า ตอนมาค่ายคราวที่แล้ว...ผมตื้นตันกับภาพที่เห็น

ความเป็นพ่อแม่คนนี่มันเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร...ความเป็นพ่อแม่คนยังเหมือนเดิม ยังรัก ยังห่วงใย ยังหวังดีต่อลูกตนเองไม่เปลี่ยนแปลง


เราถ่ายภาพที่ระลึกเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก สต๊าฟ, วิทยากร, ล่าม เขาขอให้ช่วยสวมเสื้อทอตำบลคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาร่วมพิธีปิดของค่าย





















ในระหว่างที่อยู่ค่าย ในใจนึกถึงพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช....แล้วกฎแห่งแรงดึงดูดก็ทำงาน พวกพี่ๆมูลนิธิพาพวกเราไปไหว้พระธาตุก่อนจะพาไปส่งสนามบิน

เนื่องจากไม่มีเวลาถ่ายภาพนานนัก ได้ภาพบรรยากาศของพระบรมธาตุเป็นของที่ระลึกกลับมา อาจจะไม่ได้ถ่ายภาพจากมุมที่ดีที่สุดนัก










มีโอกาสถ่ายภาพองค์จตุคามรามเทพทางขึ้นไปนมัสการพระธาตุนครศรีธรรมราช




ตอนที่คุณได้ทำกิจกรรมดีๆ...ผมเชื่อว่าความรู้สึกเบิกบานใจที่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นมันเกิดขึ้นในใจของคุณ แล้วตอนที่คุณถ่ายทอดความรู้สึกออกมา....คุณเต็มไปด้วยความดีใจ เป็นปีติ แล้วความรู้สึกตรงนี้คนที่เขารับฟังเขาสามารถสัมผัสได้

มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไร?

ผมคิดว่ามนุษย์เราเกิดมาเพื่อพัฒนาตนเอง ทำตนเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน(โดยที่เราทำแล้วไม่เดือดร้อน) แล้วถ้าทุกคนคิดแบบนี้...มันทำให้สังคมนี้น่าอยู่ แล้วก็ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

เราคงอยากให้โลกใบนี้มันน่าอยู่ขึ้น...จริงไหมครับ?


Create Date : 06 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 20:07:27 น. 18 comments
Counter : 2397 Pageviews.

 
ดีจังเลยนะคะได้ทำงานเพื่อสังคมแบบนี้
เข้ามาอ่านทีไรไม่ผิดหวังซักที


โดย: tanta-wan IP: 202.28.78.136 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:27:45 น.  

 
ดีค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจ


โดย: yin IP: 117.47.179.196 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:19:19:29 น.  

 
ยินดีด้วย เงี๊ยบ ที่มีโอกาสทำกิจกรรมดีๆเช่นนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: Uan Sasin 93 IP: 124.120.179.68 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:23:25:40 น.  

 
คนดีของสังคมมากๆพี่เงี้ยบ


โดย: น้องนัท IP: 203.148.162.195 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:8:19:49 น.  

 
ประทับใจจ๊ะ เมื่อดูภาพเหล่านี้ก็มาสะท้อนใจตัวเองว่าจะมีมนุษย์สักกี่คนในโลกนี้ที่เสียสละตนเอง ความสดวกสบายไปทำสิ่งดีๆเหล่านี้โดยไม่สนใจว่าใครจะรับรู้หรือไม่(เอาหน้า)
นับถือหัวใจดวงนี้


โดย: พี่เปิ้ล รักลูก IP: 192.168.1.36, 202.57.181.68 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:11:51:23 น.  

 
พี่เงี๊ยบ ทำต่อไปนะคะ สำหรับโปรแกรมดีๆ อย่างนี้ อย่างน้อยก็ทำให้คนเหล่านี้มีกำลังใจจะสู้ต่อไปค่ะ


โดย: เอ๋ IP: 10.1.1.21, 58.137.125.180 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:17:08:55 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง ที่ในความสับสนของบ้านเมือง
มีคนที่ไม่สับสน ทำงานที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ขอชื่นชม และจะติดตามต่อไปค่ะ


โดย: chompu YCL IP: 118.172.185.226 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:18:58:39 น.  

 
ประทับใจในเรื่องราวมากๆ สิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งที่ดี...แล้วสิ่งดีๆก็จะจะกลับเข้ามาในชีวิตคุณ...เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ
(แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้เรือง...ไม่เข้าใจ)


โดย: ปุ้ม IP: 202.71.124.203 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:21:48:31 น.  

 
เมื่อวานไปวิ่งมินิฯมา...แย่จัง รู้สึกว่าเดี๋ยวนีมีนักวิ่งเคนยาล่ารางวัลมาวิ่งหากินในบ้านเราเยอะเลย..เหมือนมีเป็นแก็ง
ดูแลแล้วเก็บค่าหัวคิวยังไม่รู้...หยังงี้มันน่าประนามเน๊อะ


โดย: ปุ้ม IP: 202.71.124.203 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:21:53:25 น.  

 
อนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เงี้ยบและทีมงานทุกท่านค่ะ ดีใจที่ยังมีกลุ่มคนที่มีใจที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่แก่ผู้ด้อยโอกาส

เป็นกิจกรรมที่มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับนะคะ

แมวยักษ์คิดว่ารูปของแมวยักษ์ที่ไปถ่ายที่วัดพระธาตุมานั้นมุมสวยกว่าของพี่เงี้ยบค่ะ หุหุ



โดย: แมวยักษ์ IP: 58.9.178.156 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:22:13:43 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำชื่นชมในกิจกรรมดีๆที่มีโอกาสไปกระทำร่วมกับมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

โลกนี้จะสวยงามขึ้นถ้าเราช่วยกันเติมพื้นที่ดีๆในสังคมด้วยกิจกรรมดีๆเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับคนในสังคม

ปุ้ม...ตอนแรกว่าจะไปแข่งฮาล์ฟมาราธอนที่เมืองกาญจน์แต่พอกลุ่ม BCL ชวนกันไปบริจาคเงินสร้างบ้านพักผู้ป่วยขั้นสุดท้ายที่วัดพระบาทน้ำพุวันเดียวกัน...เราเลือกที่จะไปทำบุญกับเพื่อนๆแทน ตอนนี้มีเวลาซ้อมมาราธอนได้บ่อยกว่าสมัยทำงานธนาคาร คงหาโอกาสไปแข่งมาราธอนอีกตามโอกาสและสภาพร่างกายอำนวยแล้วคงได้วิ่งด้วยกันซักสนามในอนาคต

คุณแมวยักษ์...บังเอิญเขาให้เวลาผมชมและนมัสการพระบรมธาตุไม่นาน เลยไม่สามารถเลือกมุมสวยๆ พยายามเลือกมุมที่โอเคก็กดชัตเตอร์เลยเพราะไม่อยากไปรบกวนคนอื่นให้รอ หรือเราเป็นต้นเหตุให้คนอื่นตกเครื่องบิน
การถ่ายภาพสักแต่ว่าถ่ายๆออกมาหรือถ่ายเพื่อเน้นตัวแบบมากจนเกินไป..รูปที่ถ่ายออกมาย่อมจะแตกต่างจากการถ่ายรูปแบบประณีตพิถีพิถัน การถ่ายภาพคือการสื่อสาร ดังนั้นการสื่อสารในเวลารวบรัดย่อมให้รายละเอียดไม่ดีเท่ากับการสื่อสารแบบช้าๆชัดถ้อยชัดคำ

อย่างที่เขียนเอาไว้ในบล็อกว่า...เป็นของฝากครับ ดังนั้นของฝากจึงเป็นแค่ความรู้สึกที่ได้มาเยือนสถานที่ดังกล่าวครับ


โดย: ชีวประภา วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:23:01:16 น.  

 
อนุโมทนาในกุศลจิตของน้องเงี้ยบและทีมงานทุกท่านค่ะ

"ทุกครั้งก่อนทานอาหารจะมีการร้องเพลงเตือนสติอย่ากินทิ้งขว้างเพราะมีคนอดอยากมากมาย"

สาธุ


โดย: พี่น้อย IP: 71.50.217.160 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:0:11:22 น.  

 
ขออนุโมทนากับโครงการดีๆ ด้วยนะคะ ที่คุณเงี้ยบได้สละเวลาไปช่วยงานอาสาสมัตร ดีจัง ๆ สาธุค่ะ

คุณสามีบอกถ้ารีไทร์แล้วจะไปทำอะไรที่เมืองไทย ปูบอกว่า โห งานอาสาสมัครมีเยอะมาก มีสิ่งดี ๆ ให้ทำเยอะเลยค่ะ

บุญรักษาค่ะ
ปู


โดย: เบญญาภา IP: 69.198.106.6 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:4:22:40 น.  

 
ครั้งนี้ขอแสดงตัวหน่อยนะคะ หลังจากที่เป็น Secret Admirer คอยติดตามอ่านเรื่องราวของพี่เงี้ยบอยู่พักใหญ่ ซึ่งทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมา ก็ทำให้ความรู้สึกที่อยากจะทำสิ่งดี ๆ อย่างนี้บ้างจัง พุ่งสูงขึ้นทุกครั้ง (สมดังเจตนารมย์ของคนเขียนหรือเปล่า?)


โดย: Nok-BCL IP: 118.172.182.178 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:14:48:38 น.  

 
ขอบคุณพี่น้อยและคุณปูที่ทิ้งความเห็นเอาไว้และแสดงอนุโมทนาจิตกับกิจกรรมดีๆของมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

นก...มีกิจกรรมดีๆมากมายที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำ ในเวลาสะดวกที่ได้ทำกิจกรรมแบบนั้น...มันเป็นการเติมสิ่งสวยงามให้กับชีวิตของเรา มองย้อนกลับมาดูสิ่งที่ทำเอาไว้มันเกิดความภูมิใจ แล้วบางทีสิ่งที่ทำมันก็เป็นเรื่องราวให้คนอื่นอยากทำสิ่งดีๆให้กับสังคม สังคมนี้ก็จะน่าอยู่ขึ้น ขอบคุณนะครับที่กลายมาเป็นแฟนคลับบล็อกนี้อีกคน


โดย: ชีวประภา วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:19:57:54 น.  

 
ยินดีด้วยกับการเลือกเส้นทางที่ทำให้ตนเองมีความสุข และแบ่งปันประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ครับ


โดย: นิ้ง IP: 58.8.76.104 วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:22:36:05 น.  

 
I was just seeking this information for some time. After 6 hours of continuous Googleing, finally I got it in your website. I wonder what is the lack of Google strategy that don't rank this kind of informative websites in top of the list. Normally the top web sites are full of garbage.
Mills Oakley //englishbulldoghealth.com/


โดย: Mills Oakley IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:17:42:17 น.  

 
I know this if off topic but I'm looking into starting my own blog and was wondering what all is needed to get setup? I'm assuming having a blog like yours would cost a pretty penny? I'm not very internet smart so I'm not 100% certain. Any suggestions or advice would be greatly appreciated. Thank you
moncler jacken herren online //www.completedoorsystems.net/uploads/files1/it-moncler/SyE7XpQZVx/


โดย: moncler jacken herren online IP: 192.99.14.36 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:23:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.