|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เขนน้อยข้างสีส้ม
นกเขนน้อยข้างสีส้ม Tarsiger cyanurus (Orange-flanked Bush-robin) มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ 13-15 เซ็นติเมตร ความกว้างจากปลายปีกจรดปลายปีก 22-23 เซ็นติเมตร น้ำหนักประมาณ 11 กรัม นกตัวผู้มีขนคลุมลำตัวด้านบนสีน้ำเงิน ขนคลุมลำตัวด้านล่างตั้งแต่คอถึงก้นเป็นสีขาว ขนที่สีข้างทั้งสองข้างเป็นสีส้ม
นกตัวเมียมีขนคลุมลำตัวด้านบนสีน้ำตาลแทนที่สีน้ำเงินของตัวผู้ มีขนหางสีฟ้า ขนคลุมลำตัวด้านล่างสีอ่อน บริเวณคอมีแถบเล็กๆเป็นแนวตั้งสีขาวมีสีข้างสีส้มเช่นเดียวกับนกตัวผู้
นกเขนน้อยข้างสีส้ม ( Orange-flanked Bush-Robin ) ถูกแบ่งออกเป็น2ชนิดย่อยคือ ชนิดย่อย cyanurus และชนิดย่อย rufilatus นกทั้งสองชนิดย่อยมีข้อแตกต่างกันในเรื่องของชุดขน ขนาดและเสียงร้องจนอาจถูกแยกออกเป็นสองชนิด ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเช่น
1.ชนิดย่อย rufilatus มีขนคลุมตัวด้านบนสีสดใสกว่า มีคิ้วสีฟ้าอ่อนโดยไม่มีสีขาวเลย และมีแถบคอสีขาวที่แคบกว่า
2.ชนิดย่อย rufilatus มีหางและฝ่าเท้ายาวกว่า และมีปลายปีกกลมกว่า
3.ตัวเมียและตัวผู้วัยอ่อนของชนิดย่อย rufilatus โดยเฉลี่ยมีคอและท้องสีขาวกว่า
จึงได้มีการเสนอให้แบ่งนกชนิดนี้ออกเป็นสองชนิด กล่าวคือ ชนิดย่อย cyanurusให้ชื่อว่า Red-flanked Bluetail และชนิดย่อย rufilatus ให้ชื่อว่า Himalayan Bluetail
อาหารของนกเขนน้อยข้างสีส้มคือแมลงต่างๆ และผลไม้ป่า โดยหากินบนพื้นและบนต้นไม้
นกชนิดนี้ทำรังวางไข่ในป่าสนผสมซึ่งมีไม้พุ่มในยูเรเชีย เอเชียเหนือจนถึงเทือกเขาหิมาลัยและตะวันตกของประเทศจีน โดยจะทำรังจากหญ้า รากไม้และมอส รองพื้นด้วยหญ้านุ่มๆ ใบสน ขนสัตว์ บนตอไม้หรือขอนไม้หรือบนพื้น วางไข่ครอกละ 3-5ฟอง ใช้เวลากกไข่ประมาณ 12-15 วันโดยนกตัวเมียรับหน้าที่นี้
ในฤดูหนาวนกชนิดนี้จะอพยพลงมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นกเขนน้อยข้างสีส้มจากไซบีเรียค่อยๆเปิดเส้นทางบินสู่ตะวันตกไปยุโรปจนถึงประเทศอังกฤษซึ่งมีรายงานการพบแทบทุกปี โดยนกที่พบเป็นชนิดย่อย cyanurus นอกจากนี้ยังมีรายงานการพบอีกเล็กน้อยทางตะวันตกสุดของทวีปอเมริกาเหนือ
สำหรับประเทศไทย นกเขนน้อยข้างสีส้มเป็นนกอพยพในฤดูหนาวที่พบทางตอนเหนือของประเทศตามป่าดิบรกทึบที่มีความสูง 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลขึ้นไป โดยพบได้ทั้งสองชนิดที่กล่าวมา
ภาพนกในบล็อกถ่ายมาจากจุดสกัดดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ เดือนมกราคม 2553
ข้อมูลจาก :
หนังสือคู่มือดูนกหมอบุญส่ง เลขะกุล โดยคณะบุคคลนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล กรุงเทพ 2550
//en.wikipedia.org/wiki
//identify.whatbird.com
//www.rarebirdbooks.co.uk
Create Date : 23 มกราคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 26 มกราคม 2553 9:06:09 น. |
Counter : 7747 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Dingtech 1 กุมภาพันธ์ 2553 15:22:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: suetrong 12 พฤษภาคม 2554 20:45:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|