หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เล่ห์รัก...พรางหัวใจ...08(100%)



“ภัทร ผลตรวจเลือดเป็นยังไงบ้างวะ”
คนรับสายนิ่วหน้า เหลือบตาไปมองนาฬิกาที่โต๊ะทำงานตัวเอง

“เฮ้ย! หลง ทำไมนายใจร้อนนักวะ ฉันเพิ่งเจาะเลือดหลานชายหลานสะใภ้แล้วก็เหลนแกเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมานะเว้ย ยังไม่ทันได้ส่งกล้องดูอะไรเลย”
คุณหมอหนุ่มหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี
“ว่าแต่เหลนนายนี่หล่อเป็นบ้า หลานสะใภ้ก็น่ารักดีออก นายตี้หาเมียได้ดีนี่หว่า”

“เขาไม่ใช่หลานสะใภ้ฉัน!”
ราเมศเสียงเข้มโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะกลบเกลื่อน
“ยังไงก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อน”

ภัทรนันต์ส่ายศีรษะอย่างระอาในความหัวรั้นไม่ยอมรับสร้อยฟ้าลดาวัลย์เป็นสะใภ้ของเพื่อน
“เออ แล้วแต่นายก็แล้วกัน ฉันเป็นหมอมีหน้าที่แค่ตรวจ จะไปบังคับจิตใจให้นายยอมรับเขาก็ไม่ได้”
คนโทร.มาเงียบไปครู่ ก่อนจะเอ่ย
“ภัทร แกกับฉันเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ววะ”

หมอหนุ่มเลิกคิ้วแปลกใจกับคำถามนี้
“ก็หลายปีแล้วนั่นแหละ ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยเมืองไทย ไปเรียนต่อเมืองนอกก็ยังโคจรมาเจอกันอีก สงสัยชีวิตนี้ฉันคงหนีนายไม่พ้นแน่”
ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมากว่าสิบปี เรียน เล่น หัวเราะ ร้องไห้ มาด้วยกัน รู้จักนิสัยใจคอกันอย่างลึกซึ้ง

“ถ้างั้นฉันจะขออะไรแกได้ไหมวะ มีเรื่องขอให้แกเก็บเป็นความลับ”
เสียงราเมศแปร่งแปลกๆ

“เออ ได้สิ ทำไม แกไปทำสาวที่ไหนท้องล่ะ”
นานๆ ทีเขาจะมีโอกาสได้ล้อเลียนราเมศนายธนาคารใหญ่ผู้สุขุมเสียที
“แกช่วยตรวจดีเอ็นเอฉันให้หน่อย!”


กฤตินมีท่าทีแปลกไป จนสร้อยฟ้าลดาวัลย์สังเกตได้ ชายหนุ่มเงียบขรึมไม่พูดไม่จาตั้งแต่ตอนที่นั่งรถไปโรงพยาบาล เมื่อกลับมาบ้านก็ไปนอนเงียบอยู่บนเตียง

“ตี้เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเครียดๆ”
หล่อนอดจะถามไม่ได้
“เปล่าหรอกฟ้า ผมแค่เหนื่อย” เขายิ้มบางๆ ให้ “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ”

“เรื่องที่ปู่เล็กส่งคนเข้ามาบริหารผับเหรอ”
หล่อนเอ่ยชื่อราเมศแล้วเสมองไปยังแทนไทที่นั่งเล่นรองเท้าอยู่

“ฮื่อ...ประมาณนั้นแหละ”
กฤตินไม่แก้ความเข้าใจผิดของหล่อน ให้สร้อยฟ้าลดาวัลย์คิดว่าเขากลุ้มด้วยเรื่องของญาตินั่นแหละดีแล้ว ชายหนุ่มไม่อยากเอ่ยชื่อพีรยาให้หล่อนได้ยิน

“ก็คิดเสียว่ามีคนมาช่วยทำงาน ตี้จะได้มีเวลาเที่ยวตามใจชอบสิ คิดอย่างนี้แล้วเดี๋ยวอารมณ์ดีขึ้นแหละ”
หญิงสาวปลอบไปพลางเอื้อมมือไปจับลูกชายมากอด แทนไทหัวเราะคิกคักเมื่อโดนแม่ขโมยหอมแก้ม
ผู้เป็นพ่อเห็นภาพนี้แล้วถอนหายใจยาว

“เป็นเด็กแบบตาแทนก็ดีเหมือนกันนะ ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อน วันๆ กินกับนอน ว่างๆ ก็อ้อนแม่เล่น”
“บ้าน่าตี้ มาอิจฉาอะไรกับเด็ก ถ้าตี้อยากอ้อนใครก็ไปอ้อนแม่ตี้สิ”
แทนไทเปลี่ยนมาหอมหล่อนตอบ พร้อมกับทิ้งรอยน้ำลายไว้เป็นที่ระลึก

“แทนพ่ออิจฉาแกจริงๆ ว่ะ ที่ฟ้ารักแกขนาดนี้”
กฤตินรำพึงในใจ ลูกชายเขาโชคดีที่สุดแล้วที่ได้สร้อยฟ้าลดาวัลย์มาเป็นแม่


นายแพทย์ภัทรนันต์กำลังรู้สึกลำบากใจที่สุดในชีวิต เมื่อได้รับรู้ความลับของเพื่อน
“หลง หมายความว่าตาแทนอาจจะเป็นลูกของนาย คุณฟ้ากับนาย...”

“ใช่! แกคิดว่าหน้าฝรั่งอย่างนั้นจะมาจากใครถ้าไม่ได้มาจากฉัน แกก็เห็นหน้าทั้งนายตี้ทั้ง...แพรแล้วนี่”
ราเมศเรียกชื่อหญิงสาวเหมือนเคย ใครจะเรียกชื่อเล่นของสร้อยฟ้าลดาวัลย์ยังไงเขาไม่สน เพราะยังไงหล่อนก็คือแพรของเขา

“วันเดือนปีเกิดของตาแทนก็ตรงกันกับช่วงที่เขาและฉันอยู่เกาะช้างด้วยกัน ถึงจะใส่ถุงยางแต่มันก็ใช่ว่าจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เหรอ”

เวรจริงๆ...ภัทรนันต์คิด ผู้หญิงแค่คืนเดียวของเพื่อนหลับมาเป็นหลานสะใภ้ แถมต่อด้วยมีทายาทที่หน้าฝรั่งเหมือนคนเป็นปู่เด๊ะ
“แต่ผลตรวจที่นายเคยให้ฉันดูมันบอกว่าเป็นพ่อลูกกันชัดๆ”

“ก็นั่นแหละฉันถึงต้องให้นายตรวจใหม่ คราวนี้ตรวจกันให้ครบทั้งสี่คนเลย”
เพื่อนเล่าความจริงแต่หนหลัง อดีตรักเกาะช้างและความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหลานสะใภ้
“ฉันถามแกจริงๆ เถอะว่ะหลง ถ้าผลตรวจมันบอกว่าแทนเป็นลูกแกจริงๆ แกจะทำยังไง”

“ฉันก็จะเอาลูกฉันคืนน่ะสิ นั่นน่ะลูกฉันทั้งคนนะ แม่เขาใจดำไม่ยอมบอกฉันสักคำว่าท้อง”
หล่อนจงใจปกปิด ไม่ยอมติดต่อมาหาเลย หากจะบอกว่าไม่รู้จักเขานั่นก็เป็นการโกหก เพราะชื่อเขาก็เป็นที่รู้จักกันในวงสังคม ให้สัมภาษณ์ลงทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารออกบ่อยๆ

“ถ้าได้ลูก แล้วแม่เขาล่ะแกจะทำยังไง”
ภัทรนันต์นึกถึงภาพครอบครัวของกฤตินเมื่อเช้า ดูเป็นสามีภรรยาหนุ่มสาวที่รักกันดี แถมยังจูงมือกันไว้ตลอดเวลา

“นั่นน่ะเมียหลานนะเว้ย ถึงเขาจะเคยมีลูกกับนายแต่ตอนนี้เขาเป็นเมียหลาน”
รสนิยมของผู้ชายตระกูลนี้แปลกเสียจริง ปู่กับหลานชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แถมไม่ได้สวยเลิศเลอ หน้าตาจัดว่าน่ารักแต่ติดออกแนวนิ่งๆ เดาความคิดไม่ถูก

“ฉัน...”
ราเมศไม่ทันนึกถึงข้อนี้ เขาคิดแต่ว่าแทนไทเป็นลูกของตนที่ต้องเอากลับคืนมา ไม่ทันนึกถึงว่าจะทำเช่นไรดีต่อจากนี้ในเรื่องของสร้อยฟ้าลดาวัลย์

“มันก็เหมือนกับเรื่องเมียเก่าขอหย่า แล้วก็ไปแต่งงานใหม่นั่นละวะ ใจเขาอาจจะไม่อยู่กับเราแล้ว นายจะทนอยู่บ้านเดียวกับเขาไปได้นานเท่าไร”
คำพูดของเพื่อนบาดลึกจนนายธนาคารหนุ่มเจ็บแปลบ ความจริงที่เขารู้อยู่แล้ว ...หล่อนไม่ได้เลือกเขา แต่กลับเลือกกฤติน

ภัทรนันต์เห็นเพื่อนนั่งนิ่งแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ เอาละสิ ...กลายเป็นเรื่องชู้สาวรักสามเศร้าเสียแล้ว กฤตินก็ดูจะรักภรรยาดี ผู้หญิงก็นิ่ง ส่วนฝ่ายราเมศก็ดูเหมือนจะตัดใจไม่ขาด อยากได้ทั้งแม่ทั้งลูก นี่มันศึกชิงนางชัดๆ

“เอาเหอะอย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เที่ยงแล้ว ฉันหิวว่ะ วันนี้ไม่มีคนไข้นัดไว้เดี๋ยวฉันว่าจะโดดงานไปกินข้าที่โรงแรมไอ้วิสูตรมัน”
ชายหนุ่มชวนเพื่อนเพื่อคลายสถานการณ์
“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดว่ะ ตอนนี้อย่างเดียวที่เราต้องทำคือรอผลการตรวดีเอ็นเอ อีกสามวันรู้ผลแน่”


“อืม...กัดไม่ปล่อยเลยนะปู่เล็กของนายตี้เนี่ย”
พงษ์ประภาเคาะนิ้วเบาๆ กับโต๊ะทำงาน

“เออ น่ะสิ ฉันเลยต้องโทร.ไปหาบัวมันแต่เช้า ให้หาคนไปจัดการเรื่องการตรวจดีเอ็นเอให้”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ออกมาหาเพื่อนที่สำนักงานทนายความ โดยฝากแทนไทไว้กับเลขาฯ ของเพื่อน เสียงลูกชายตัวน้อยหัวเราะร่าสลับกับเสียงวี๊ดว๊ายของสาวๆ ในสำนักงาน

“งั้นก็ไม่ต้องห่วง เรื่องชั่วๆ นี่ไอ้บัวมันถนัด”
ทนายสาวหัวเราะหึๆ

“แล้วนี่แกมาหาฉันเพราะมีธุระ แค่นี้เหรอสร้อย”
เพื่อนสังหรณ์ใจว่าสร้อยฟ้าลดาวัลย์จะต้องมีเรื่องสำคัญกว่าการตรวจดีเอ็นเอ

“ก็เรื่องสัญญาระหว่างฉันกับตี้น่ะ ฉันอยากจะถามแกว่า ถ้าบ้านตี้เขารู้ความจริงแล้วฟ้องศาล ฉันมีสิทธิ์จะชนะคดี ได้ตัวแทนมาไหม”
สีหน้าของหญิงสาวเป็นกังวล

“ทีแรกฉันคิดว่าฉันกับตี้จะอยู่กันไปแบบนี้เรื่อยๆ แต่พอญาติเขาเข้ามายุ่งทุกอย่างเลยตาลปัตร”
ตั้งแต่ราเมศให้หล่อนและลูกชายมาอยู่ในบ้าน ความหวาดหวั่นเริ่มเข้ามาเยือนทุกวัน ราเมศคุกคามหล่อนทั้งทางใจและทางกาย ชีวิตของหญิงสาวไม่สงบสุขเหมือนเคย

“พูดตรงๆ นะ สร้อย สัญญามันมีผลทางด้านกฎหมายแต่มันเป็นไปในทำนองเกี่ยวกับทรัพสิน แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การเลี้ยงดูตาแทนนี่ละก็...”
พงษ์ประภาหยุดคิดนิดหนึ่ง จนสร้อยฟ้าลดาวัลย์ต้องถามด้วยอาการเร่งร้อน
“ก็อะไรฮึ! พงษ์”

“กรณีนี้ฉันว่าแกมีสิทธ์ชนะเพราะแกดูแลลูกมาตั้งแต่แรก นายตี้นั่นเสียอีกที่ไม่ค่อยมาหาลูก อีกอย่างแกกับนายตี้ก็ยังสามัคคีปรองดองปกปิดเรื่องกันได้ดีอยู่นี่ จะไปกังวลอะไร”
เพื่อนสาวยักไหล่

“ทำใจให้สบายเถอะแก ถ้ามันถึงที่สุดจริงๆ ก็พาลูกหนีไปก็ได้ บัวมันหาเรือพาแกออกไปนอกประเทศได้อยู่แล้วล่ะน่า”
พงษ์ประภาปล่อยมุกหน้าตาย พลอยทำเอาหล่อนยิ้มไปด้วย
“ไปกินข้าวกันไหมสร้อย วันนี้สวีทมันโทร.มาบอกว่ามันไปเล่นดนตรีในโรงแรมมีกรุ๊ปฝรั่งวีไอพีอะไรนี่แหละมา เขาเลยจ้างมัน”

“ไปก็ได้ วันนี้ไหนๆ ก็ว่างอยู่แล้ว นานๆ ทีจะได้เห็นสวีทมันเล่นดนตรีสักที”
สองสาวจึงออกจากห้องทำงานเดินไปรับตัวแทนไทมาอุ้ม ท่ามกลางเสียงเสียดายจากใครๆ หลายคนที่ยังเล่นกับเด็กน้อยไม่จุใจเลย


เสียงตีขิมเพลงนางครวญดังแว่วหวานไปทั่วบริเวณห้องอาหารไทยในโรงแรมหรู ร่างสะคราญที่นั่งอยู่บนตั่งซึ่งซ้อนอยู่กับเวทีอีกชั้นหนึ่งเรียกความสนใจได้จากคนไทยและต่างชาติ

ผมดำยาวเคลียหลังของหล่อนพันด้วยดอกจำปี ตัดกับผิวที่ขาวลออ หญิงสาวนุ่งโจงกระเบนสีแสด ห่มสไบเขียวอ่อน ยามตีขิมจะปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้า บางครั้งก็แลมองแขกที่มาทานอาหาร แล้วทิ้งสายตาแกล้งยั่วให้ผู้ชายหลายคนมองตาปรอย

“ใครวะคนที่ตีขิมอยู่”
ภัทรนันต์ถามเพื่อนทันทีเมื่อเห็นหล่อนเริ่มบรรเลง
“อ๋อ ก็นักดนตรีไทยตามปรกตินั่นแหละ ทางฝ่ายจัดเลี้ยงเขาจ้างมา”
วิสูตรตอบผ่านๆ ราเมศนั่งมองเมนูนิ่ง ส่วนพิทยาคุยโทรศัพท์อยู่

“ฉันอยากรู้จักว่ะ จะติดต่อเขาได้ที่ไหน”
เป็นหล่อนแน่ๆ ผู้หญิงที่ชื่อบัวที่เขาเจอในคาราโอเกะ แม้ผมจะดำขึ้น ผิวจะขาว กริยาเรียบร้อย...และสวยขึ้นแต่อย่างไรเขาก็จำหล่อนได้เสมอ

“อยากรู้จักเหรอ” วิสูตรยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำไม เด็กนายเหรอ”
พิทยาที่คุยโทรศัพท์จบแล้วแซว

“เปล่า ฉันเคยลองจีบแล้ว แต่ก็แห้ว เขาลือกันว่าหล่อนเป็นเด็กป๋าคนหนึ่ง”
ภัทรนันต์ได้ฟังรู้สึกเหมือนหัวใจสลาย
“เขาชื่อคุณหวาน ชื่อจริง คำหวาน”

“โอ้โห แค่ชื่อก็น่ากิน แล้วเป็นยังไงวะ หวานสมชื่อหรือเปล่า”
พิทยามองคนที่นั่งตีขิมอย่างกะลิ่มกะเลี่ย

“ก็บอกแล้วไงว่าแห้ว รู้หรือเปล่าว่าค่าตัวเขาแพงบรรลัยนะแก ถ้าไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์วีไอพีที่เน้นให้เห็นของสวยๆ งามๆ ฉันก็ไม่เอาเขามาเล่นดนตรีหรอก”
วิสูตรยักไหล่ ขณะที่นายแพทย์หนุ่มมองหล่อนอย่างเสียดาย

เพิ่งจะบอกให้ราเมศตัดใจจากหลานสะใภ้อยู่หยกๆ
ตอนนี้ภัทรนันต์ก็กลับต้องมาบอกตัวเองให้ตัดใจจากผู้หญิงอีกคนด้วย
แถมหล่อนก็ไม่ใช่คนดิบดีอะไร แม้แต่ชื่อก็ยังหลอกเขา

...บางทีความเสน่หาก็เล่นตลกร้ายแบบเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่การถูกใจใครสักคนนั้นเป็นเรื่องยาก
แต่กลับกลายเป็น พบ...เมื่อสาย หลง...เมื่อหล่อนเป็นของคนอื่น และคำว่าตัดใจก็ทำได้เพียงแค่ปากเอ่ย
ทว่าใจภัทรนันต์นั้นยังลอยวนเวียนอยู่รอบกายคนตีขิมนั่นเอง


“สวีท ฝีมือมันยังไม่ตกเลยแฮะ” พงษ์ประภาพึมพำพลางยกกาแฟขึ้นมาดื่ม “ทั้งฝีมือขิม ทั้งฝีมือในการโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชาย”
“แกอย่าไปนินทาเพื่อนสิ มันรักดนตรีไทยจะตาย”

ใครเลยจะคิดว่าอาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่งของคำหวานคือครูสอนดนตรีไทย เพื่อนหล่อนเล่นดนตรีไทยได้ทุกประเภทเพราะมีป๋าเป็นผู้สอนให้ บ่อยครั้งก็มีคนมาจ้างให้ไปเล่นตามงานต่างๆ บ้าง ตามโรงแรมบ้าง

“ไม่ได้นินทา แต่ชมจากใจจริงนะเนี่ย หาเงินได้เดือนละหลายหมื่น ทำงานกับบรรดาเสี่ยๆ แต่ก็ยังรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ มันคุมผู้ชายเก่งจริงๆ”
ทนายสาวหยิบช้อนตักวุ้นกะทิใส่ปากลูกชายหล่อน

“ที่มันต้องหาเงินตัวเป็นเกลียวขนาดนั้นก็เพราะป๋าป่วย แล้วก็ต้องเอาเงินมาตัดดอกเบี้ยธนาคารนี่นา”
คำหวานต้องแบกรับภาระหลายอย่างในชีวิต เพื่อนไม่ได้มีชีวิตสุขสบายยิ้มร่าเริงเหมือนเวลาที่เป็นพริตตี้สินค้า
“เฮ้อ บางทีชีวิตคนเรามันก็เน่ายิ่งกว่านิยายนะพงษ์ แกว่าไหม”

“เออ อย่างกรณีแกใช่ไหมละสร้อย”
แทนไทยื่นมือป้อมๆ มาดึงช้อนจากมือพงษ์ประภา แต่ทนายสาวแกล้งยื้อไว้ ปล่อยให้เด็กชายออกแรงดึง

“ถึงชีวิตมันเน่ายังไงตอนนี้ฉันก็ได้สิ่งที่ต้องการมาแล้วล่ะน่า”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ตัดการประลองข้อ ดึงช้อนออกจากมือเพื่อนแล้วก็ยื่นให้ลูกชายเสีย

“ตา...ตัก”
แทนไทยื่นช้อนจะตักขนมมาเข้าปาก แต่มือเด็กแรงยังน้อย จึงตักขนมแล้วช้อนเอียงกะเท่เร่จนผู้เป็นแม่ต้องช่วยจับ

พงษ์ประภาส่ายศีรษะอย่างปลงๆ คิดในใจว่า เมื่อไรที่สร้อยฟ้าลดาวัลย์จะยอมรับความจริงเสียที ว่าครอบครัวที่เห็นอยู่ตอนนี้คือภาพลวงตา เพื่อนพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ขาด โดยร่วมมือกับกฤตินโกหกคนอื่น

แล้วสักวันหากความจริงเปิดเผยเพื่อนจะทนต่อการสูญเสียหลักยึดเหนี่ยวจิตใจได้อย่างไรหนอ


“แทน...”
คำหวานลงจากเวทีแสดงแล้วมาหอมแก้มนุ่มนิ่มของคนตัวเล็ก แทนไทจะหอมตอบแต่หญิงสาวกดจมูกเขาไว้อย่างมันเขี้ยว

“ไม่ได้ๆ วันนี้สวีทต้องสวยเนี๊ยบ ขืนให้แทนหอมล่ะเดี๋ยวน้ำลายติดแก้ม”
พอไม่ได้หอมแก้มเด็กชายก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ดอกจำปีที่พันเส้นผมอยู่ สร้อยฟ้าลดาวัลย์ต้องรีบจับมือซุกซนไว้โดยเร็ว

“หิวจัง พงษ์แกสั่งอะไรมากินเนี่ย”
สาวสวยในชุดจูงกระเบนห่มสไบนั่งลงแล้วมองดูอาหารบนโต๊ะ

“ก็เท่าที่เห็นนี่แหละ ว่าแต่แกมานั่งโต๊ะกินข้าวกับพวกฉันได้ด้วยเหรอสวีท ตอนนี้แกทำงานอยู่นะ”
พงษ์ประภาถามพลางยื่นเมนูให้

“ได้สิแก ฉันไม่ใช่พนักงานประจำนี่ เป็นแค่ฟรีแลนซ์ อีกอย่าง นี่ก็เป็นเวลาพักของฉัน ตอนนี้วงใหญ่เขากำลังบรรเลง”
คำหวานหมายถึงวงดนตรีไทยวงใหญ่ที่กำลังแสดงอยู่บนเวที โดยมีนักร้องเพลงไทยเดิมไปนั่งบนตั่งแทนที่หล่อน


เพื่อนทั้งสามนั่งทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
“แพร...แพร ใช่ไหม”
ความสุขดูเหมือนจะจางไปเมื่อหญิงสาวทั้งหมดเห็นหน้าผู้มาเยือน คนที่จะเรียกชื่อเล่นนี้ของสร้อยฟ้าลดาวัลย์มีเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคืออดีตคนรัก...ภุชงค์

“แพร สบายดีไหม ไม่เจอกันตั้งนานนะ”
ชายหนุ่มยิ้มละไมให้

“ฉันสบายดีค่ะ แล้วคุณล่ะ”
หล่อนตอบเสียงเรียบ มองเขาด้วยสายตาเย็นชา เพื่อนทั้งสองสบตากันอย่างอึดอัดใจ

“ผมสบายดี เอ่อ...บังเอิญวันนี้นัดทานข้าวกับลูกค้าที่นี่น่ะ”
ภุชงค์ยังหล่อและดูดีเหมือนเคย เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อเมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของหล่อน
“แพรมากับเพื่อนเหรอ”

“มะมา”
แทนไทตอบคำถามของอดีตคนรักหล่อนเสียเอง โดยการเรียกแม่แล้วทำหน้าบึ้งใส่เขา

“มะมาๆ”
เด็กน้อยรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดจึงส่งเสียงร้องถามตามประสาซื่อว่าเกิดอะไรขึ้น ภุชงค์มองแทนไทที่อยู่ในอ้อมกอดสลับกับมองหน้าสร้อยฟ้าลดาวัลย์

“เอ่อ...เด็กนี่ ลูกแพรเหรอ”

“ใช่ ลูกของฉัน”
หญิงสาวตอบเสียงหนักแน่น ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าเจื่อน เพราะเขาแทบไม่ได้ข่าวคราวของหล่อนเลยในช่วงสองปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่หล่อนเล่นงานบริษัทไวท์แคทของเขาจนต้องเลิกกิจการ

ภุชงค์ทั้งโมโหทั้งแค้นอดีตสาวคนรัก แต่พอเห็นว่าหล่อนมีลูกกับคนอื่นก็อดที่จะใจโหวงๆ ไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียครั้งหนึ่งทั้งเขาและหล่อนก็เคยเป็นคนรักกัน

“พี่ภุชงค์”
สาวสวยในชุดแซกสั้นสีเขียวมะนาวเดินเข้ามาทัก แถมต่อด้วยควงแขนเขาหมับ

“เมื่อกี้เจนตามหาแทบแย่เลยค่ะ ลูกค้าเขาถามอยู่ว่าพี่ไปไหน”
แต่พอสาวคนนั้นเห็นพวกหล่อน ใบหน้างามก็นิ่วลงทันที และยิ่งแสดงอาการเกรี้ยวกราดเมื่อเห็นสร้อยฟ้าลดาวัลย์
“พี่ฟ้า!”

พงษ์ประภาและคำหวานรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง คิดตรงกันว่าวันนี้เป็นวันโลกาวินาศหรืออย่างไร คนเหล่านี้ถึงโคจรมาพบกัน
“สบายดีเหรอจ้ะ เจน”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์มองผู้หญิงคนนั้นอย่างเยาะๆ เจนสุดา...หล่อนคือสาเหตุที่ทำให้ภุชงค์นอกใจ

“เราเจอกันโดยบังเอิญน่ะจ้ะ”
ภุชงค์รีบอธิบายเพราะรู้ดีว่าสองสาวเกลียดกันขนาดไหน

“มะมา”
แทนไทส่งเสียงถามอีกรอบ เพราะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนเป็นร้อนจนชักระอุ จนเด็กชายอยากกลับบ้านแล้ว

“พี่ฟ้ามีลูกเหรอคะ กับใคร!”
ปากถามหล่อน แต่ดวงตาคมวาวของสาวรุ่นน้องกลับไปคาดคั้นเอากับภุชงค์

“ตาแทนสองขวบแล้ว ก็คิดเอาเองสิว่าลูกใคร”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ยั่ว

“ว่าแต่เธอเถอะเจน ได้ข่าวว่าแท้งลูกไม่ใช่เหรอ”
อดีตเพื่อนร่วมงานในบริษัทเคยส่งข่าวมาว่าเจนสุดาแท้งลูก หลังสร้อยฟ้าลดาวัลย์ออกจากไวท์แคทได้ไม่นาน บางคนยังนินทาว่าเป็นการกุเรื่องท้องเพื่อจับภุชงค์

“นี่แหละนะ คนที่ลักกินขโมยกินของคนอื่นสวรรค์ เอ๊ย! นรกเลยลงโทษ”
“ที่เจนเสียลูกก็เพราะพี่ฟ้านั่นแหละ เพราะพี่ฟ้าทำลายไวท์แคท เจนเลยเครียดจนแท้งลูก”
เจนสุดากรีดร้อง กำมือแน่นถลึงตามองหล่อน

“เจน! พอได้แล้ว อายเขาน่า”
ภุชงค์รีบจับแขนปรามคนรัก

“ไม่! พี่ภุชงค์อย่ามาห้ามเจนนะ เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เหรอคะที่ทำให้เราต้องลำบาก บริษัทที่สร้างมือกับมือต้องล่ม ชื่อเสียงในวงการก็ป่นปี้”
“แล้วก็เพราะใครล่ะที่แทงข้างหลัง เป็นหมาลอบกัดฉันก่อน ป้ายความผิดที่ฉันไม่ได้ทำ”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ขี้นเสียงบ้าง

“พี่ฟ้าทำผิดยังไม่ยอมรับผิดอีก พี่ฟ้าก๊อปงานของบริษัทเราไปให้คู่แข่ง พอโดนจับได้ก็มาโวยวาย”
“เจน! พี่บอกให้พอยังไงล่ะ”
ภุชงค์พยายามดึงเจนสุดาออกไป แต่สาวสวยกลับสะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดี
“ไม่ค่ะ เจนไม่หยุด ผู้หญิงคนนี้มันปีศาจร้ายดีๆ นี่เอง ชอบทำลายคนอื่น ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองโดนพี่ภุชงค์ทิ้ง!”


“เพี๊ยะ”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์เอาตัวแทนไทไปยัดใส่มือพงษ์ประภาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หล่อนจะสมนาคุณอดีตรุ่นน้องที่ทำงานไปหนึ่งฉาด หญิงสาวโมโหจนคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
“แพร!” เจนสุดาเซแซ่ดๆไปเข้าอกของภุชงค์

“ฉันชื่อสร้อยฟ้าลดาวัลย์ กรุณาเรียกให้ถูกด้วยนะคุณภุชงค์”
ดวงตาหล่อนวาววับยามมองคู่รักทั้งสอง

เจนสุดาตั้งสติได้ก็โถมจะมาตบตอบ แต่สร้อยฟ้าลดาวัลย์ไวกว่าจึงเอียวตัวหลบ ทำให้สาวสวยปะทะโต๊ะเข้าเต็มรัก
แต่กระนั้นเจนสุดาก็ไม่ยอมแพ้หยิบจนอาหารและแก้วน้ำขว้างหวังทำร้ายหล่อน

ลูกค้าในห้องอาหารของโรงแรมหลบกันไปคนละทิศคนละทางเพราะกลัวลูกหลง พงษ์ประภาอุ้มแทนไทวิ่งไปหลบข้างเวทีโดยที่มีคำหวานวิ่งตามไปติดๆ แต่พอทนายสาวหันมาดูอีกทีเพื่อนในชุดไทยกลับหายตัวไปเสียฉิบ

“เจนหยุดนะ ผมบอกให้หยุด”
ภุชงค์พยายามร้องห้าม

“เจนอย่าใช้อาวุธสิ แน่จริงมาตบกันตัวต่อตัวเลย”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ร้องท้า ใจคิดว่าตายเป็นตาย วันนี้ขอตบรุ่นน้องตัวแสบล้างน้ำซักทีเถอะ ...ไม่ใช่การตบเพราะโดนแย่งภุชงค์ แต่เป็นการตบเพื่อเอาคืนเรื่องที่หล่อนโดนป้ายความผิด วันที่สร้อยฟ้าลดาวัลย์ลาออกจากบริษัทไปนั้นเจนสุดาก็ไม่ยอมโผล่หน้ามาให้เห็น หล่อนจึงไม่ได้แก้แค้นเจ้าตัวโดยตรง

“พอได้แล้วทั้งแพรทั้งเจนนั่นแหละ หยุดเลยนะ!”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์อารมณ์ร้อน ส่วนเจนสุดาก็ขี้หึงและโมโหร้าย ภุชงค์รู้ดีถึงนิสัยของสาวทั้งสอง แต่ไม่รู้จะห้ามยังไง
เพราะตัวเขาก็ยังโดนลูกหลงเป็นขนมเปียกปูนมาโปะหัว สถานการณ์ขณะนี้เหมือนกับอยู่ในสงครามก็ไม่ปาน

“แพร!” ราเมศเรียกชื่อหล่อนจากมุมห้องอาหาร ส่วนภัทรนันต์อาศัยจังหวะชุลมุนรวบเอวของคำหวานไว้ และพาหญิงสาวไปหลบในที่ปลอดภัย

“พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” นายธนาคารหนุ่มตะโกนห้ามลั่น โต๊ะอาหารเขาแตกฮือตั้งแต่ได้ยินเสียงโครมคราม พอชายหนุ่มกับเพื่อนลุกขึ้นมาดูสาเหตุก็ต้องหลบ จาน ชาม ช้อน ที่บินกันจ้าละหวั่น

“เฮ้ย! ไอ้วิสูตร โรงแรมนายมีโชว์เมียน้อยกับเมียหลวงทะเลาะกันด้วยเหรอวะ”
พิทยาแกล้งถามพลางกระโดดเหยงๆ หลบ เศษแก้วกาแฟที่แตกกระเด็นมา


ทันใดนั้นแจกันดอกไม้ทั้งใบก็ลอยมาเสยกกหูภุชงค์อย่างจัง
“ภุชงค์เป็นยังไงบ้างน่ะ”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ร้องถามเพราะได้ยินเขาเขาร้องโอยและทรุดลงไปกองกับพื้น

“ไม่เป็นไรหรอกแพร ผมไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มบอกเสียงอ่อย มือยังกุมหูตัวเองอยู่

“พี่ฟ้าอย่ามายุ่งกับพี่ภุชงค์ของเจนนะ พี่ภุชงค์เป็นของเจนคนเดียว”
เจนสุดาหึงหวงจนหน้ามืด คราวนี้ของที่ขว้างมาชักอันตราย เพราะมีแต่ประเภทมีดกับส้อมแหลมๆ

“เจนหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์ตะโกนห้าม หล่อนหยิบถาดเสริ์ฟอาหารได้จากแถวๆ นั้น จึงเอามาเป็นโล่บัง
...ก็รู้อยู่หรอกว่าเจนสุดาขี้หึง แต่ไม่คิดว่าจะหึงโหดไม่อายคนขนาดนี้ จากที่คิดว่าจะได้ตบล้างแค้น
มีหวังได้ตายก่อนได้ตบต่อแน่
...แต่ไหนๆ ถ้าหล่อนจะตายจริง ก็ขอตบซ้ำแม่คนนี้ซักฉาดเถอะ

“แพร...คุณเป็นไงบ้างเกิดอะไรขึ้น!”
ราเมศรีบเข้ามาประคองร่างหล่อน

“เฮ้ย! วิสูตร เรียกรปภ.สิวะ มัวยืนเฉยอยู่ได้”
ชายหนุ่มตะโกนสั่งเพื่อนที่ยืนหลบอาวุธอยู่ ร่างบางที่เขาปกป้องอยู่ยังออกอาการฮึดฮัดไม่ยอมสงบง่ายๆ

“แจนยัยขี้โกง นังเด็กสารพัดพิษ!”
หญิงสาวพอมีคนมาบังกายให้ก็ได้จังหวะพุ่งจะเข้าไปจัดการกับคู่อริ เล่นเอาราเมศต้องรีบทั้งกอดทั้งดึงเอาไว้

“เจนเกลียดพี่ฟ้า พี่ภุชงค์ถึงเลิกกับพี่ฟ้าไปก็ยังพูดถึงแต่พี่ฟ้าอยู่นั่นนั่นแหละ พี่ฟ้าดีอย่างโน้น พี่ฟ้าเก่งอย่างนี้ เจนน่ะเมียพี่ภุชงค์นะ แต่พี่ฟ้าแค่อดีตแฟน”
คนขว้างของปากก็พร่ำความในใจสลับกับน้ำตาไหลพราก ราเมศนึกออกแล้วว่าผู้ชายกับผู้หญิงคู่นี้เป็นใคร แฟนเก่ากับรุ่นน้องทรยศของสร้อยฟ้าลดาวัลย์นั่นเอง

“ก็สมแล้วกับรางวัลที่เธอแย่งเขาไป” หล่อนคอบโต้ “ว่าแต่...นายทำอย่างนั้นจริงเหรอภุชงค์ ถ้าอย่างนั้นมันเลวนะวะ” คนที่มือกุมกกหูอยู่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เจนสุดากลับกรีดร้องหนักขึ้น
“ห้ามพูดกัน ห้ามพี่ฟ้าพูดกับพี่ภุชงค์นะ”

“อ้าว เรื่องของแฟนเก่ากับแฟนใหม่ทะเลาะกันหรอกเหรอเนี่ย”
พิทยาส่ายศีรษะกับเพื่อน มือปัดขนมสามชั้นชิ้นหนึ่งที่ลอยมาติดเสื้อสูท
รปภ.รีบเข้ามาล็อกตัวเจนสุดาโดยพลัน สาวสวยร้องโวยวายลั่นไม่ยอมจะออกจากห้องอาหารไปท่าเดียว


“แพร...”
เสียงทุ้มนุ่มของชายสองคนประสานกันเรียกชื่อหล่อน
“คุณเป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนไหม”
ราเมศถามพลางกวาดสายตาดูความเรียบร้อยในตัวหล่อน ...ที่ตอนนี้หัวยุ่ง เสื้อเลอะ กางเกงติดคราบกาแฟ

“ยังไม่ตายหรอกน่า”
หญิงสาวตอบเสียงห้วน ใจนึกบ่นว่าทำไมต้องเจอกับเขาตอนนี้ด้วย

“พงษ์! แทนล่ะอยู่ไหน”
เมื่อเหตุการณ์สงบวิญญาณของคุณแม่ผู้รักลูกมากก็เข้าสิง สร้อยฟ้าลดาวัลย์ปัดมือราเมศหันซ้ายหันขวามองหาลูกและเพื่อน
“เออ ปลอดภัย ตาแทนเรียกมะม๊าๆ อยู่นั่นแหละ เสียงยังกับเชียร์มวย”
พงษ์ประภาอุ้มลูกชายมาคืนให้ เด็กชายยิ้มร่ามเมื่อเห็นหน้าแม่

“แพรผมขอโทษแทนเจนด้วยนะ”
ภุชงค์เดินหน้าเศร้าเข้ามาหา

“ไม่เป็นไรหรอก แต่ดูแลกันให้ดีๆ หน่อยสิภุชงค์หัดเอาตะกร้อครอบปากแฟนนายซะมั่ง”
หล่อนพูดเสียงเย็นชา

“พี่ฟ้านั่นแหละ เริ่มก่อน พี่ฟ้าตบเจน”
คู่กรณียังแว้ดไม่หยุด

“แต่หล่อนปากเสียก่อนทำไมล่ะ”
หล่อนฮึมฮัม แถมต่อด้วยทำท่าจะเดินเข้าไปหา ราเมศต้องรีบมาดึงแล้วก็กอดตัวหล่อน แทนไทนนึกว่ากำลังเล่นสนุกกันจึงตบมือแปะๆ

“เอ่อ...ยังไงก็ขอเชิญทั้งคุณผู้หญิงคุณผู้ชายไปคุยกันที่ห้องฝ่ายรักษาความปลอดภัยหน่อยนะครับ”
ผู้จัดการโรงแรมบอกเสียงกล้าๆ กลัวๆ เพราะเกรงว่าสาวทั้งสองจะก่อสงครามกันอีกรอบ


“หลงๆ”
พิทยาที่ยื่นอยู่ข้างวิสูตรกวักมือเรียกและบุ้ยปากไปทางสร้อยฟ้าลดาวัลย์ เป็นทำนองถามว่าผู้หญิงคนนี้ใคร
“เดี๋ยวผมขอตัวสักครู่นะ ไป! สร้อยฟ้าลดาวัลย์ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เขาคงต้องอบรมมารยาทผู้ดีหล่อนเสียหน่อยแล้ว มีอย่างที่ไหนระงับอารมณ์ไม่อยู่จนอาละวาดทำข้าวของพังหมด

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ ฉันไม่ไป! อย่ามายุ่ง”
ตอนนี้หล่อนอารมณ์เสียหนัก จนใครก็เข้าหน้าไม่ติดแล้ว

“อย่าทำตัวเป็นเด็กนะ วันนี้คุณก่อเรื่องงามหน้า ทำให้ชื่อเสียงตระกูลผมป่นปี้หมด ผมอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแล้ว”
“ก็เอาไว้บนคอเหมือนเดิมนั่นแหละคุณราเมศ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็หันไปทางเพื่อน

“พงษ์ฝากจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะโทร.หา เซ็งว่ะ ถ้าอยู่นี่นานฉันอาจจะเผลอฆ่าคนตาย”
ทนายสาวหน้าเหวอเมื่อจู่ๆ เพื่อนก็ผลักภาระมาให้ดื้อๆ
“เรื่องค่าเสียหายพูดกับคุณพงษ์ประภาได้เลยค่ะ เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉัน”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์อุ้มลูกชายเดินฉับๆ ออกไปทันที

“งั้นเดี๋ยวขอเชิญคุณทนายไปคุยกันที่ห้องฝ่ายรักษาความปลอดภัยนะครับ”
ผู้จัดการโรงแรมกล่าวกับพงษ์ประภา

“คะ...ค่ะ”
โอ๊ย...เล่นโยนงานเผือกร้อนแถมต้องแก้ปัญหาเยอะอย่างนี้ สร้อยฟ้าลดาวัลย์ต้องเสียค่าทนายส่วนตัวหนักหน่อยล่ะ พงษ์ประภาเข่นเขี้ยวเพื่อนอยู่ในใจ


สร้อยฟ้าลดาวัลย์เร่งฝีเท้าออกมานอกโรงแรม โบกเรียกรถแท็กซี่โดยมีแทนไทโบกตามอย่างสนุกสนาน
“แพร! คุณจะไปไหน”
ราเมศยังกัดไม่ปล่อยตามหล่อนมาอีก

“ฉันจะไปไหน มันก็เรื่องของฉัน ขอร้องละค่ะคุณราเมศอย่ามายุ่ง”
หล่อนแค่อยากจะหาสถานที่สงบๆ ระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเท่านั้น แม้จะเลิกกันไปแล้วก็ตามแต่พอเห็นภุชงค์กับเจนสุดาภาพเหตุการณ์เก่าๆ ก็มักจะลอยมาทำให้เกิดอาการแปลบในอกทุกที

“งั้นคุณก็บอกผมมาก่อนสิว่าคุณจะไปไหน”
“ก็บอกแล้วยังไงล่ะว่ามันเป็นเรื่องของฉัน”
สร้อยฟ้าลดาวัลย์เริ่มเกรี้ยวกราดอีกรอบ

วันนี้เป็นวันซวยของหล่อนหรือไร โดนจับเจาะเลือดแต่เช้า เจอกับอริเก่า คนรักเก่า แถมยังมาเจอเขาตามตอแยไม่เลิก

“ฉันจะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง ปล่อยฉันไปซะ”
แทนไทเริ่มแบะปากหน้าเศร้าเมื่อแม่ส่งเสียงดัง

“ก็ได้ คุณจะไปไหนก็ไปแต่เอาลูกมา”
เขาชิงลูกชายออกจากอกหล่อนแล้วเดินลิ่วๆ กลับเข้ามาในโรงแรม
“คุณราเมศเอาลูกฉันคืนมานะ เอาคืนมา!”
คราวนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่วิ่งตามเขาไป

++++++++++++++++++




 

Create Date : 21 มกราคม 2553
6 comments
Last Update : 22 มกราคม 2553 22:19:59 น.
Counter : 353 Pageviews.

 

จะรอนะจ๊ะ

ว่าแต่คิดถึงระเด่นจัง

 

โดย: zoraya 21 มกราคม 2553 21:04:54 น.  

 

ติดตามอยู่นะคะ
แล้วก็คิดถึงไหมกะหมอโรคจิต
อุ้ย ไม่ใช่ หมอเอิงต่างหาก 555

 

โดย: maybe IP: 202.28.180.202 21 มกราคม 2553 21:36:14 น.  

 

ตามอ่านอยู่ค่าา

 

โดย: ลุงจอร์เจีย IP: 61.177.202.234 21 มกราคม 2553 22:52:01 น.  

 

เฮอะๆ สงครามนอกโลก (จาน...บิน) หุหุ

 

โดย: zoraya 23 มกราคม 2553 8:36:21 น.  

 

คุณแม่โหดจัง

 

โดย: ree IP: 114.128.179.175 26 มกราคม 2553 0:02:31 น.  

 

whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

 

โดย: da IP: 203.144.144.165 8 กุมภาพันธ์ 2553 23:54:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.