สาระแนประเทศไทย

วันนี้ว่างๆ ผมลองนึกดูทบทวนเรื่องราวต่างๆในที่ผ่านมา (2553-2554) เห็นหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเราแล้ว มันสะท้อนถึงความสามารถในการจัดการประเทศ หรือการทำงานแบบไม่เป็นเอกภาพ

....ใบเหลืองแทนบัตรประชาชน (ID smart card) เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เพื่อนผมบางคนบอกว่าเปลี่ยนใบเหลืองใบแล้วใบเล่า ก็ยังไม่ได้บัตรจริง บางคนบอกกว่าจำนวนใบเหลืองพอกับจำนวนหน้า นสพ บางฉบับบแล้ว
เหตุมันเกิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีสองกระทรวง ยื้อกันไป ฉุดกันมา
ไม่ใช้เพราะบัตรมีคุณสมบัตไม่ดี แต่เพราะผลประโยชน์บางอย่างมันไม่ลงตัว
สรุปแล้วประชาชนทั้งประเทศเสียหาย เบื่อหน่าย กับการรอคอย เบื่อหน่ายกับการไร้ประสิทธิภาพในการจัดการของผู้บรหารบ้านนี้

....อุทุกขภัยถล่มภาคใต้ (Summer Flood) ประชาชนรอคอยความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ แต่ผู้บริหารระดับท้องถิ่นของอำเภอหนึ่งไม่มีอำนาจตัดสินใจให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้ เพราะเป็นเพียงรักษาการ ..จึงทำให้ชมรมกำนันและผู้ใหญ่บ้านในอำเภอหนึ่งต้องติดป้ายประกาศรับสมัครนายอำเภอ
ที่ว่าการอำเภอแห่งนี้ร้างนายอำเภอมานานหลายเดือน เพราะกระทรวงยกเลิกการสอบนายอำเภอเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้ขาดบุคคลากรระดับผู้บริหารของท้องถิ่นมาปกครองดูแลสารทุกข์ของชาวบ้าน
เรื่องนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงการขาดประสิทธิภาพในการบริหาร ตลอดจนถึงการสรรหาบุคคลกรจากกระทรวงหลัก ทั้งนี้ก็เกิดจากการจัดสรรผลประโยชน์บางอย่างยังไม่ได้ตามที่ต้องการอีกเช่นกัน

...อีกเหตุการณ์ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า ระบบการสื่อสารของประเทศไทย ณ วันนี้อยู่ในระดับที่ล้าหลังที่สุดในโลก มีหน่วยงานแห่ง(หน่วยงาน A) หนึ่งพยายามจัดให้มีการสัมปทานเพื่อสร้างเครือข่ายและให้บริการ 3G แต่ก็มีผู้ให้บริการที่เคยเป็นของรัฐรายหนึ่ง (ผู้ให้บิการ B) ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขัดขวางการเปิดให้มีการสัมปทานเพราะว่าหน่วยงานนั้นไม่มีอำนาจในเรื่องดังกล่าว เป็นผลให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้ (A) เปิดการสัมปทานตามที่ผู้ให้บริการรายนั้น (B) ร้องขอ ... เหตุการณ์ผ่านมาได้ไม่กี่เดือนผู้ให้บริการรายเดิม(B) ก็ทำหนังสือขอให้หน่วยงาน (A) พิจารณาอนุญาตให้ผู้บริการ (B) นำเข้าอุปกรณ์เพื่อสร้างโครงข่าย3G เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อตนเองและบริษัทคู่ค้าจะได้ติดตั้งและให้บริการ
>>> ผลของเรื่องก็คือ หน่วยงาน (A) บอกว่าหน่วยงานไม่มีอำนาจอนุมัติตามที่ท่าน(ผู้ให้บริการ B) เคยขอให้ศาลตัดสินไปแล้วนั่แหละ แล้วท่านจะมาขอให้หน่วยงานอนุมัติได้อย่างไร "ในเมื่อท่านไม่เชื่อในพระเจ้า แล้วจะมาขอพรให้พระเจ้าช่วยอีกเหรอ"

ทั้งสามตัวอย่างมันสะท้อนถึงความไม่ชัดเจน ไม่กล้าตัดสินใจ ของผู้บริหารระดับไปเทศ หมายถึงความอ่่อนหัดในวิสัยที่จะแก้ไขปัญหาแก้ไขเหตุการณ์ให้มันทุเลาลงได้ ...หากมองที่ปัญหามันคือปัญหาระดับหน่วยงาน ระดับองค์กร แต่เพราะความไม่ชัดเจนจากผู้บริหารระดับประเทศ ทำให้ผู้บริหารระดับองค์ตัดสินใจแก้ไขเองไม่ได้ สุดท้ายต้องรอพวกท่าน ผลก็คือประเทศเสียหาย ประชาชนเสียความรู้สึก

Create Date : 09 เมษายน 2554		4 comments
Last Update : 9 เมษายน 2554 16:28:34 น.
Counter : 552 Pageviews.
Share Tweet