Group Blog All Blog
|
ลังกาวี 24 ชั่วโมง ทริปล้างตา มาหลีเป๊ะครั้งที่แล้ว ไม่ได้ข้ามไปลังกาวี ครั้งนี้ ทริป 2 วัน 1 คืน จัดเลย กรุงเทพ-หาดใหญ่-สตูล-ลังกาวี เดินทาง 27-28 พฤศจิกายน 53 เริ่มจากจองโปรกับแอร์เอเชีย กรุงเทพ-หาดใหญ่ไว้ล่วงหน้า ค่าเครื่องคนละ 698 บาท 3 คน เรา แม่ และน้าสาว ปรากฎว่าวันจริง แม่และน้า ยกเลิกไม่บิน ก็เหลือเราคนเดียว แต่ยังดีที่ Airasia คืนภาษีสนามบินให้ (ค่อยยังชั่วหน่อย) ไป...หรือ....ไม่ไป...? ไหนๆก็มีตั๋วแล้ว...ไปก็ไป พอดีมีน้องสาวที่รู้จักกัน มาขอไปด้วย เลยทำให้ลังกาวีครั้งนี้ไม่โดดเดี่ยว มีผู้ร่วมทริป 3 ชีวิต เดินทางกันเลยค่ะ เริ่มจากลางาน 1 วัน คือวันเสาร์ เดินทางวันเสาร์ ที่ 27 พย. FD3131 เวลา 6.30 น. เมื่อถึงสนามบินหาดใหญ่ เดินไปขึ้นสองแถวหน้าสนามบิน คนละ 20 บาท ไปลงตลาดกิมหยง เดินเล่นเอาบรรยากาศตลาดเช้า พร้อมรับประทานมื้อเช้าที่กิมหยงค่ะ จากนั้นนั่งรถสองแถวไปลงตลาดเกษตร บขส.2 คนละ 10 บาท ถึงบขส. ก็ซื้อตั๋วรถตู้ 100 บาท/คน เพื่อนั่งรถตู้ต่อไป สตูล-ลังกาวี (รถจอดช่องที่8) เมื่อถึง จ.สตูล รถพาเรามาส่งที่ท่าเรือตำมะลัง ซื้อตั๋วเรือไปกลับ คนละ 510 บาท พร้อมแลกเงินริงกิต ไปใช้ที่โน้น วันนี้อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้คือ 9.70 บาทต่อ 1 ริงกิต พวกเราเดินทางด้วยเรือเที่ยว 13.30 น. นั่งเรือแอร์เย็นๆประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึง jetty Point ที่ลังกาวี เห็นนกอินทรีย์มาแต่ไกล อิอิ เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้นกะเวลากันดีๆ เวลาตอนนี้ที่ลังกาวี เกือบบ่าย 4 โมงแล้ว เมื่อลงเรือ เดินไปหลัง KFC เพื่อหารถเช่า พวกเราคุยต่อราคารถกันเมื่อยมือไปหมด 555+ เลือกรถเช่า Cherry QQ สีส้มแปร๊ด มา 1 คัน ซึ่งไม่เหมาะกับหุ่นพวกเราเท่าไหร่ ราคาอยู่ที่ 700 บาท/24 ชั่วโมง เติมน้ำมัน 200 บาท วิ่งกระจาย ไปทั่วเกาะ (น้ำมันถูกจริงๆค่ะ ลิตรละ 19 บาท) เรื่องฮาๆ ระหว่างเติมน้ำมัน ก็คือขับผิดข้าง ไปจอดแล้วสายน้ำมันลากไปไม่ถึง ที่ลังกาวี เราต้องเติมน้ำมันกันเอง จ่ายเงินที่เคาเตอร์แล้วเติมได้เลยค่ะ เล่นเอาชาวลังกาวี ชี้ๆมาที่รถเราแล้วก็ขำๆกันใหญ่เลย สนุกมิใช่น้อย กว่าจะเติมน้ำมันเสร็จ ^ ^ ออกจากปั๊มไม่วายมีปัญหากับรถเช่าที่เช่ามาอีก ว่าทำไมมันถอยไม่ได้ เกียร์เป็นไรหว่า??? จอดรถถามร้านดอกไม้ ไปเรียกคนมาช่วยดู แต่พอเค้ามา ก็ไม่รู้จะบอกเค้าว่าไงดี ใบ้รับประทาน....งูๆปลาๆกันไป...จนรู้เรื่อง... เค้าบอกไม่เป็นไร พร้อมสอนให้ทำแบบนี้ๆๆๆ ราวกับว่าสอนขับรถกันเลย คนที่ลังกาวี เป็นมิตรกับคนไทยจังแหะ มีน้ำใจจัง เสร็จจากเรื่องรถก็รีบบึ่งๆ ตามแผนที่ เพื่อจะไปขึ้นกระเช้าให้ทันก่อนปิด ที่ Oriental Village กันก่อน แต่ระหว่างทางก็แวะกันไปเรื่อยๆ ไปเจอจุดมหาชน ท่าเรือยอร์ท แถวๆปั๊มปิโตรนัส วิวสวยดี ก็จัดไป จากนั้นบึ่งๆๆๆ เพราะฝนฟ้าไล่หลังมาติดๆแล้ว ไปถึง Oriental Village ก็รีบเดินๆไปซื้อตั๋ว Cable Car ทันที Cable Car ราคา 30 ริงกิต เย้ๆๆได้ขึ้นแล้ว ตื่นเต้นๆ ความดีใจเริ่มหายไป เมื่อกระเช้า ไต่ระดับขึ้นไปสูงขึ้นๆ ความเงียบ และความกลัวเริ่มมาแทนที บางคนไม่หันกลับไปมองที่จุดเริ่มแรก เพราะกลัวความสูง เมื่อกระเช้าไปถึงจุดแรก เมฆฝนครึ้มมาก และตามมาด้วยฝนตกหนัก แง้ๆ ยังไม่ได้ขึ้นไปเดินตรงช่วงสะพานแขวนเลย ฝนตกซะแล้ว เอาไงดี ไม่อยากไปต่อ เพราะฝนตกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ บอกว่าเราต้องนั่งไปต่อที่จุดที่สอง กระเช้าไปตามสายพาน และพาเราไปจุดที่2 ที่ทั้งสูงและเสียวหนักกว่าเดิม จุดที่2 มีนักท่องเที่ยว ติดอยู่จำนวนมาก เนื่องจากไม่มีกระเช้ากลับลงไป กระเช้าที่เรานั่งมาเปิดออก และรับนักท่องเที่ยว ขึ้นมาอีก 3 คนเป็นชาวอินเดีย กลายเป็น 6 คนแล้ว ไหวเหรอเนี่ย..อิอิ ฝนเริ่มตกหนักขึ้น มองไปข้างล่างก็นะ หวิวๆ สักพักกระเช้าหยุด อันเนื่องจากลมแรง และค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น พวกเราเลยได้ใช้เวลาอยู่บนกระเช้านานกว่าปกติ คุ้มจริงๆค่ะ (แง่มๆ) ใจก็กลัวแหละค่ะ เพราะเป็นคนกลัวความสูงอยู่แล้ว แต่ดีที่ได้นักท่องเที่ยวครอบครัวชาวอินเดีย ชวนพวกเราคุยให้ลืมๆความกลัวไปบ้าง ชาวอินเดียบอกเราว่า เค้าเคยมาเมืองไทยนานแล้ว ตั้งแต่สมัยไทยไดมารู ประตูน้ำ... โหนานอยู่เน๊าะ กว่ากระเช้าจะมาถึงข้างล่าง ก็เกือบๆ 18.30 น.แล้วค่ะ ออกจากโน้นก็ยังมีเลี้ยวผิดเลี้ยวถูก ถามทางเค้าตลอดค่ะ คนลังกาวี ภาษาอังกฤษ เป๊ะมากค่ะ..แต่เราสิ แป๊ก สุดๆ...55+ พอเริ่มๆเข้าเมืองแล้ว ก็หาที่พักกันก่อน จองมาล่วงหน้าค่ะ เพราะไม่อยากมาเสียเวลาหาค่ะ จองที่พักผ่าน Agoda พักที่ Langkawi Budget Inn หน้าเว็บสวย และใหม่ค่ะ แต่ของจริงแบบว่านะ พัก 3 คนต่อห้องค่ะ ราคาก็ 1,275 บาท (ไม่มี BF อีกต่างหาก แพงจัง) Langkawi Budget Inn อยู่ไม่ไกลจากห้างเท่าไหร่ค่ะ เช็คอินแล้ว เก็บของ และก็ขับรถเข้าตัวเมืองกั๊ว เพื่อหาของรับประทานกัน มื้อเย็นนี้ทานไรดีกว่า ขับไปในเมืองกั๊วะ ไปเจอตลาดประมาณตลาดนัดเมืองไทยค่ะ อาหารพื้นบ้านก็คล้ายๆบ้านเราทุกอย่าง ราคาก็พอได้ค่ะ แม่ค้าเค้าน่ารักค่ะ บางคนก็เป็น ต่างคนต่างซื้อ แล้วไปนั่งทานที่ห้องพักกัน รสชาติอาหารที่นี่ออกเลี่ยนๆ แต่จะให้อินกับบรรยากาศก็ต้องทานของท้องถิ่นเน๊าะ ลังกาวีประมาณ 2 ทุ่มก็เงียบมากแล้วค่ะ บรรยากาศดีสำหรับพักผ่อน นอนดีกว่า เช้าแล้วตื่นมา 6 โมงเช้า ที่พักของพวกเราใกล้ๆกับโรงแรมเบลล่าวิสต้า เหมือนปราสาทหลังใหญ่ค่ะ มองเห็นแต่ไกล เสร็จภารกิจนางงาม รีบเช็คเอ้าท์จากที่พัก ไปขับรถเล่นแถวๆ Awana วิวสวย มีเขา มีทะเล ขับไปเรื่อยๆค่ะ ยังไม่มีจุดหมาย แต่แอบรีบเล็กน้อย เพราะว่าเราต้องคืนรถตอนเที่ยง เมื่อรู้สึกหิวข้าวเช้า ก็ขับรถเข้าเมืองอีกรอบ ไป Jetty point หา KFC ทาน คาดหวังว่า ไก่ที่นี่จะอร่อย แต่ที่ไหนได้ ผิดคาด ไก่รสชาติประหลาด กาแฟก็ให้เยอะมากๆ น้ำท่วมแก้ว เสร็จจากมื้อเช้า ก็เลยไป Standby ตั๋วเรือกลับกันก่อนคะ พร้อมกลับไปถาม เจ้าของรถเช่า ว่ารถเป็นไรเปล่าค่ะ ไฟแดงโชว์ที่หน้าปัดตลอดเลย คล้ายๆเบรคมือ พนักงานรับรถบอกว่า Dont worry ,Its ok.... มันโอเคแล้วทำไมไฟแดงโชว์ฟ่ะ... เอิ๊กๆ โอเคเหรอ...งั้นขับต่อไปดูหาดทรายดำ และ พิพิธภัณฑ์ ของท่านมหาเธร์ มีของแปลกๆเยอะเลย พวกเราลงความเห็นว่าจะไม่แวะหลุมศพ พระนางมัสสุหรี แต่ขับรถเข้าตัวเมืองกั๊วะ แวะชอปปิ้งกัน ที่นี่เป็นดินแดนของปลอดภาษีอยู่แล้ว กระหน่ำๆ ส่วนตัวเรา ไม่ซื้อไรเลย นอกจากของที่ระลึก ฝากเพื่อนๆเล็กน้อย และแวะไปเดินเล่นๆแถวสวนสาธารณะ แถวๆนั้น ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ลังกาวี คือนกอินทรีย์ หรือ ดาตารันลัง แดดค่อนข้างจะร้อน เพราะเวลาประมาณใกล้ๆเที่ยงแล้ว คืนรถที่เช่า และตรวจหนังสือเดินทางขากลับ ลงเรือเพื่อกลับฝั่งไทย ระหว่างทางเจอมิตรภาพดีๆของคนไทยด้วยกันบนเรือ ซึ่งเป็นคนสตูล และไปลังกาวีครั้งแรก คุยกันถูกคอ ทำให้พวกเราได้รับความอนุเคราะห์ให้นั่งรถไปลงที่ตัวเมืองสตูล โดยไม่ต้องนั่งรถสองแถวเข้าเมือง พร้อมเลี้ยงข้าวพวกเราหนึ่งมื้อ อร่อยมากมาย คนสตูลใจดีมากๆเลยค่ะ ประทับใจจัง เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทำให้รถตู้ที่จะเดินทางไปหาดใหญ่ คนรอเยอะมาก พวกเราเปลี่ยนแผน เป็นนั่งรถ ปอ.2 ไปหาดใหญ่แทน รถบัสที่โดยสารมา ค่อนข้างจะแน่นมาก แต่กลับเต็มไปด้วยน้ำอกน้ำใจจริงๆ ผู้โดยสารแต่ละคน แบ่งเบาะ 2 ให้นั่ง 3 คนโดยสมัครใจ และช่วยถือของให้กัน ดูแล้วมีความสุขที่สุด แม้จะร้อน แถมน้ำแอร์หยดใส่อีก เมื่อกลับมาถึงหาดใหญ่ ลงรถบัสแล้วก็นั่งรถสองแถวต่อไป สวนสาธารณะหาดใหญ่ วันนี้มีงานแสดงโคมไฟเฉลิมพระเกียรติ พวกเราลั๊นลาเพื่อฆ่าเวลา รอเครื่องกลับ เนื่องจากจองไฟล์ดึก เสร็จจากงานโคมไฟ ก็นั่งสองแถวต่อไป ตลาดกิมหยง พวกเราซื้อของ..ต่อแบบไม่แคร์แม่ค้า และแม่ค้าก็ไม่แคร์คนซื้อ สรุปคือจะซื้อก็ซื้อ....ไม่ซื้อก็ไม่ขาย 5555+ ซื้อก็ซื้อค่ะ เพราะรับออร์เดอร์มาเต็มเลย ....T_T ออกจากตลาดกิมหยง ทุ่มกว่า ต่อสองแถวไป 20 บาท ไป Stand by รอเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ เนื่องจากน้องที่มาด้วยกัน ทั้ง 2 คน ต้องกลับคนละสายการบิน คือ Orient Thai เรากลับแอร์เอเชีย FD3142 ซึงออกเวลา 21.10 น. เป็นทริปที่ลุยๆ แต่สนุกมากมาย พร้อมได้มิตรภาพดีๆ มาจากสตูลด้วยค่ะ ^ ^ ขอขอบคุณข้อมูล จาก รีวิวของคุณ Wut3616 ////www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9343688/E9343688.html ขอบคุณมา ณ ที่นี่คะ รีวิวละเอียดดีค่ะ ชอบจัง ตามมาเที่ยวและแอบเ็ก็บข้อมูลค่ะ
โดย: mookmukค่ะ วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:26:36 น.
ขอบคุณ
@คุณ Mookmukค่ะ และ คุณ Kavanich96 ที่ตามมาให้กำลังใจทุกรีวิว @interbrand ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะคะ ^ ^ โดย: ชบาหน้าบาน วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:22:47 น.
|
ชบาหน้าบาน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog |