อุดร-เวียงจันทร์ 1วัน สบายๆ

อา.30- จ.31 มค.54

ทริปสั้นๆ ตามแบบของเรา ทริปนี้ลางานครึ่งวันเช้า เดินทาง 2 คน
จุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้คือ เวียงจันทร์ 1 วัน
เดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย กรุงเทพ-อุดร ไปกลับราคา 260 บาท
เที่ยวบิน FD3360 เวลา 7.25 น.ถึงอุดรเวลา 8.25 น. นั่งรถตู้จากสนามบินไปลงด่าน ที่จ.หนองคาย. ค่ารถตู้ 200 บาท.

(ตามแผนเดิมที่เตรียมไว้กะว่าจะนั่งรถตู้เข้าเมืองอุดร 80 บาท และนั่งรถบัสไปเวียงจันทร์ (รถบัสออกตามเวลา)

แต่พอดีวันที่เดินทาง เป็นวันที่หลวงตามหาบัวท่านละสังขาร ดังนั้นในช่วงเย็นพวกเราต้องการเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อเคารพสรีระของหลวงตาเป็นครั้งสุดท้าย จึงเลือกใช้รถตู้จากสนามบินเดินทางน่าจะประหยัดเวลาที่สุด

ว่าแล้วก็เปลี่ยนแผนไปนั่งรถตู้แทน รถตู้จากสนามบินขับได้ใจจริงๆค่ะ 25 นาทีผ่านไป เรามายืนอยู่ที่ด่าน ตม.ที่หนองคายแล้ว ^ ^ ชิลมาก



เมื่อถึงด่านฝั่งไทย ใจร้อนแอบหารถตู้เที่ยวเวียงจันทร์จากคนลาวที่ข้ามมาดักหาลูกค้าไว้ก่อน และไปปล่อยให้รถตู้คนลาวฝั่งโน้นอีกที เป็นการกินหัวคิวเป็นทอดๆ คิดแล้วก็น่าสงสารรถตู้ฝั่งโน้นค่ะ แต่ราคารถตู้เที่ยวเวียงจันทร์วันนี้ เราต่อได้ไม่ถูกนัก ได้มาที่ราคา 800 บาท/วัน
แต่แอบบ่นเพราะตัวหารน้อยไปหน่อย พยายามหาเพื่อนร่วมทางจากด่าน เพื่อเป็นตัวหารร่วมมาก แต่ก็ไม่มีเลยค่ะ เลยจำเป็นต้องหาร 2 เหมือนเดิม
เศร้า....!!!!

เมื่อผ่าน ตม.ไทย ก็ซื้อตั๋วรถบัส นั่งข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว คนละ 20 บาท (ราคาวันหยุด) ระหว่างที่นั่งรถบัสเจอสาวลาวบนรถชวนคุย ถามว่าเคยมาเวียงจันทร์หรือยัง เคยเห็นมั๊ยสะพานมิตรภาพ สวยนะ..มาถ่ายรูปฝั่งนี้สิ..อิอิ ...เราก็นะ..."ค่ะๆๆ".. ท่าทางเป็นมิตรจังเลย...




ถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ฝั่งเวียงจันทร์ ก็ตรวจเอกสาร และเดินไปหาพี่รถตู้ ที่ด่านฝั่งเวียงจันทร์ วันนี้เป็นวันหยุด มีโต๊ะนึงไม่ทราบว่าเป็นของ ตม.หรืออย่างไร คิดค่าเสียเวลา คงจะเป็นค่าโอที เก็บนักท่องเที่ยวคนละ 40 บาท พวกเรา 2 คน แอบงงๆ มึนๆ ว่ามันคือค่าอะไร เดินผ่านมาโดยไม่ได้จ่ายเงินเฉยเลย บร้าไปแล้ว แต่ทุกคนตรงนั้นเค้าจ่ายกันหมด เอ๊ะทำไมเราทำแบบนี้เนี่ย...

เราเลยเดินไปขึ้นรถตู้ ทำความรู้จักกับโชเฟอร์ของเราในวันนี้ ทะเบียนรถที่ได้ในวันนี้คือ 4646 เลขเด็ด...555+
ออกจากด่านก็ขับรถไปตามถนนในเวียงจันทร์ ซึ่งความเร็วของรถถูกจำกัดไว้ ทำให้ไม่ปรู๊ดปร๊าดทันใจเหมือนขับรถที่เมืองไทยเท่าไหร่ รถจะขับด้านเลนตรงกันข้ามกับประเทศไทย ซึ่งถ้าอยู่ในทางตรงปกติก็จะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่หากต้องเลี้ยวเมื่อไหร่ ตื่นเต้นทุกครั้ง ...55+ (แบบว่าไม่ชินเหมือนรถวิ่งไปชนกัน)



แวะแลกเงิน ที่ตู้ชานๆเมือง Rate อยู่ที่ 1 บาท= 263 กีบ
และแวะตลาดชาวบ้านๆ ได้ข้าวเหนียวมา 1 ปั้นราคาตั้ง 10 บาท แข็งมาก
แถมด้วยอาหารคล้ายๆไส้กรอกอีสาน แต่รสชาติมันคือกุนเชียงมาอีก 1 ดุ้น 20 บาทเป็นอาหารเช้าในวันนี้ หมดเงินไป 30 บาท นี่ถ้าอยู่เมืองไทย 20 บาทก็หรูแล้ว

สถานที่เที่ยวหลักๆของเราในวันนี้คือ
1.หอพระแก้ว
2.วัดสีสะเกด
3.หอคำ
4.วัดแม่ศรีเมือง
5.ชมตลาดต่างๆ
6.ประตูชัย
7.วัดพระธาตุหลวง
8. อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

จุดที่.1 "หอพระแก้ว" เจองานแต่งงานแบบลาว ซึ่งจะพาคู่บ่าวสาวมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิริมงคลกับชีวิตคู่ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ชุดบ่าวสาวลาว สีสดใส ส้มแปร๊ด ,อ้อมาที่นี่หลีกเลี่ยงที่จะถามเรื่องพระแก้วนะคะ เพราะเป็นทัศนคติที่ไม่ดีของคนลาวที่มีต่อคนไทย



จุดที่.2 วัดสีสะเกด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับหอพระแก้วค่ะ
มาชมสถานที่ของลาวทุกที จะมีการเก็บค่าเข้าทุกที่ ซึ่งดูจุกจิก กวนใจเหมือนกัน เดี๋ยวเก็บ..เดี๋ยวเก็บ และระวังเรื่องเวลาด้วยนะคะ เพราะเกือบจะทุกที่ปิดทำการตอนเที่ยงค่ะ ดูป้ายและเวลาดีก่อนนะคะ







จุดที่.3 หอคำ เป็นทำเนียบประธานประเทศ พวกเราดูได้แต่ด้านนอก(รั้ว).. อิอิ ซึ่งสถานที่จะอยู่กระจุกเดียวกันกับ หอพระแก้ว+วัดสีสะเกด และจะมองเห็นประตูชัยแต่ไกล จากจุดนี้ถ่ายรูปกับประตูชัย มุมมหาชนค่ะ
อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก แต่พวกเราก็เดินแบบว่ากลัวแดดซะที่ไหน SPF เอาไม่อยู่..อิอิ
พี่โชเฟอร์ปล่อยเราลงให้เดินกันและนั่งรอพวกเราแบบสบายใจมาก ดูจากรูป...555+


จุดที่.4 วัดแม่ศรีเมือง ที่วัดนี้คนมาทำบุญกันเยอะมาก เราอยู่ที่วัดนี้ค่อนข้างนาน แวะถวายสังฆทานกันด้วย วัดนี้ถ้ามีเด็กไปอย่าลืมให้ไปยืนดูนกตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ที่เจดีย์ด้วยค่ะ

>



จุดที่5. โชเฟอร์แวะพาเราไปตลาด และแวะชมศูนย์ขายสินค้า ติดแอร์ดูดี แต่ราคายังไม่ถูกใจนัก ก็ผ่านไปก่อน

จากนั้นพักแวะทานอาหารเที่ยงกัน ทานก๋วยเตี๋ยวที่เค้าเรียกว่า" เฝอ" ชามโต เสิร์ฟพร้อมผักชามโต+กระปิ คนขายแนะนำให้เราเอาผักจิ้มกับกะปิก่อน แล้วทานคู่กัน เอ๊ะมันเข้ากันหรือเปล่าน๊อ แอบชำเลืองมองโชเฟอร์ของเราซึ่งเราพาเลี้ยงข้าวเที่ยงด้วยกัน ทานผักจิ้มกระปิ และทานกับเฝออย่างเอร็ดอร่อย ,ส้มตำปู 1 จานที่สั่งมา รสชาติไม่แซ่บหลายเหมือนบ้านเรา แต่ก็พอได้ กลิ่นปล้าร้าแรงไปนิ๊ด...
อิ่มหนำสำราญกับอาหารเที่ยงแล้ว ค่าเสียหายหมดไป 350 บาท ไรเนี่ยแพงจัง เฝอชามละ 80 บาท แม่เจ้า!!!!!!

แอบแสลงใจ..เมื่อหันไปเห็นป้ายร้านโทรศัพท์ที่ลาว 3G ซะด้วยปวดใจเล็กๆ ...



อิ่มแล้วก็ไปต่อที่
จุดที่6 ประตูชัย...เป็นแลนด์มาร์คของเวียงจันทร์ก็ว่าได้
เรามากันตอนบ่ายๆ แบบนี้ เรื่องแดดไม่ต้องพูดถึง เจอกองทัพตากล้องที่มาตื้อให้ถ่ายรูปกับพวกเค้า แต่แอบฮา เมื่อมีอยู่ 1 รายที่บอกว่าขอถ่ายรูปหน่อยได้มั๊ย...ที่ลาวไม่ค่อยมีคนหุ่นแบบนี้
(ชิช้า...นี่เป็นคำชมใช่มั๊ยจ๊ะ ช่วยกันแปลหน่อย)
หุ่นรถถังแบบนี้หาไม่มีที่เวียงจันทร์...ภูมิใจดีมั๊ยน๊อ????
แถมแอบใจดีบอกว่าไม่คิดเงิน เอากล้องมาเดี๋ยวถ่ายให้
..โอ๊ยคนลาวใจดีจริงๆเน๊าะ เจอไมตรีเป็นจุดที่2 แย๊ว




จุดที่7-8 วัดพระธาตุหลวงและอนุสาวรีย์พระไชยเชษฐา
จะอยู่บริเวณเดียวกัน เป็นจุดสุดท้ายที่พวกเราประทับใจมากๆ ทำไมไม่พามาจุดนี้ก่อนนะ ทั้งเย็น วิวสวย อากาศดี โล่งและมีของขายแบบราคาถูกสุดๆ แม่ค้าใจดีอีกต่างหากค่ะ อะไรก็ดีไปหมดสำหรับที่นี่ เราใช้เวลาอยู่ทีนี่ค่อนข้างนาน กว่าจะเดินเวียนองค์พระธาตุ ถ่ายรูปในมุมต่างๆครบ


อ้อสำหรับผู้ที่นิยมของแบรนเนมก๊อบปี้ ให้จับจ่ายซื้อของที่ลานด้านหน้าวัดพระธาตุหลวงได้เลยค่ะ ขอบอกว่าราคาถูกกว่าที่ด่านฝั่งลาวมากๆ แถมต่อรองได้สบายใจเลยค่ะ






ปิดทริปเวียงจันทร์กันที่ด่านฝั่งลาว จ่ายค่าเสียหายพี่โชเฟอร์แล้วก็มาเดินแต๊ดแตร่ดูตลาดและช๊อปปิ้งกันต่อแต่ไม่ได้กระจายรายได้อะไรมากนัก แวะดูไอโฟน4 ราคา 1200-1500 บาท เหมือนเด๊ะ แต่สไลด์ต้องใช้เล็บจิ๊กแทนนิ้วจิ้ม....อิอิ ถ้าหากขาประจำโรงเกลือมาแวะที่นี่อาจจะผิดหวังเล็กๆ นอกจากพวกมือถือ ดูจะเป็นพระเอกของตลาดนี้

เกือบ 18.30 น. ว่าจะนั่งรถตู้กลับอุดรเหมือนเดิม แต่เค้าบอกว่ารถตู้หมดแล้ว เลยข้ามไปฝั่งไทยก่อน และนั่งสกายแล๊ปจากด่านหนองคาย ไปบขส. ค่าเสียหาย 40 บาทต่อคน ได้แวะไปหลายจุดในหนองคาย คุ้มๆ และไปนั่งรถปอ.2 นครพนม-อุดร 35 บาท/คน .. ต่อไปตัวเมืองอุดรอีกที


เมื่อกลับมาถึงอุดร เพื่อนน้องก็มารับไปวัดป่าบ้านตาด เคารพสรีระของหลวงตามหาบัว วันนี้เป็นคืนแรก ทำให้คนไม่มากนัก ได้จอดรถด้านในวัดเลย ค่อนข้างจะโชคดี เสร็จจากวัดหลวงตา ก็มาทานข้าวต้มแถวๆหนองประจักษ์ อุดรเมืองใหญ่ คึกคักดีจังค่ะ

คืนนี้เราพักที่เกสต์เฮ้าท์ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์อุดร ราคาอยู่ที่ 350 บาท/คืน แถมจำชื่อไม่ได้ว่าชื่ออะไร อาศัยนอนไป 1 คืน

รุ่งเช้าจัดการธุระส่วนตัวและออกเดินทางกลับ FD3361 เวลา 8.55 น.
มานั่งทานอาหารเช้าเป็น พันหอม...แสนอร่อย ที่สนามบินอุดร
ของฝากพวกแหนมเนือง หมูยอ ราคาที่สนามบิน เป็นราคาเดียวกับที่ตลาดและร้าน VT แหนมเนืองนะคะ ดังนั้นถ้าไม่อยากหอบเยอะ มาแวะซื้อที่สนามบินก็สะดวกมากค่ะ ทางสายการบินอนุโลมให้ถือขึ้นเครื่องได้คนละ 2 กล่องค่ะ

ถึงสุวรรณภูมิประมาณ 10 นาฬิกาและตีรถกลับต่างจังหวัด เพื่อทำงานต่อช่วงบ่าย ทันเวลาเข้างาน 13.00 น.พอดี เป็นการเที่ยวที่ไม่เสียการเสียงานมากนัก ^ ^

Create Date : 16 กรกฎาคม 2554 Last Update : 15 กันยายน 2554 10:31:15 น. Counter : 6068 Pageviews.		11 comments
Share Tweet