Bloggang.com : ชะเอมหวาน : ----รีวิว อาหารมองโกเลีย ----ของแปลกสำหรับคนไทยอย่างเรา

----รีวิว อาหารมองโกเลีย ----ของแปลกสำหรับคนไทยอย่างเรา

เอาหละเจ้าค่ะ
ได้เวลามาขลุก จริงจังสักพัก
เอาล่ะ ก่อนนี่บอร์ดที่เราไปโพสจะโดนลบนะอิอิ

ไปโพสมาครั้งที่แล้วค่ะ

//www.pantip.com/cafe/food/topic/D7061578/D7061578.html

เอามาลงให้ทราบคร่าวๆก็แล้วกันเนอะ

รู้จักมองโกเลียใน
ตอนของประเทศที่ในอดีตเคยรุ่งเรื่องขนาดเป็นราชวงศ์หนึ่งของจีน คือราชวงศ์หยวน
และมีอาณานิคมไปถึงยุโรป ในศ.ที่13 ด้วยความสามารถทางการรบและการทูตของเจงกีสข่าน บุคคลที่ชาวมองโกล เคารพและยกย่อง และเป็นเรื่องที่กล่าวถึงกับลูกหลานจนทุกวันนี้ และความรุ่งเรืองดังกล่าว ทำให้ชาวมองโกล มีภาษา เป็นของตนเองและมีศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ที่เป็นรากฐานของภาษาและวัฒนธรรมของหลายประเทศในโลกนี้

อาหารของมองโกเลีย ก็เช่นกัน เนื่องจากในอดีต ชาวมองโกล เลี้ยงวัว แพะ และขี้ม้าไปเพื่อสู้รบ อาหารหลักของชาวมองโกล จึงเป็นพวกนมและเนื้อวัว เนื้อแพะ ดังกล่าว(ดีนะ ไม่กินม้าไปด้วย มีเพื่อนๆในพันทิพบอกว่าชาวญี่ปุ่นกินม้าค่ะเค้าว่าเนื้อม้าสวยเหมือนดอกซากุระ)

ส่วนที่เราไปเที่ยวเนี่ย เป็นมองโกเลียใน ฝั่งตะวันตก
ชื่อเมือง ถงเหลียว (僮辽)
ซึ่งเค้าจะถือว่า เค้าเป็นคนจีนเช่นเดียวกัน

น่าจะเหมือนคนอีสานบ้านเรากับคนจากประเทศลาว เราต่างรู้ว่าในอดีต เราคือ เชื้อชาติเดียวกัน แต่ตอนนี้ เราคนอีสานก็ถือว่าตนเองคือคนไทยแล้ว เพราะภายหลังจากนั้น วัฒนธรรมของเราก็เริ่มต่างกันในรายละเอียดตามแบบการปกครองของประเทศของเรา

เช่นเดียวกัน วัฒนธรรมของมองโกเลียใน กับประเทศมองโกเลีย และบางส่วนของรัสเซีย (สาธารณรัฐ บูเรียติยา ) จึงต่างกันในรายละเอียด เนื่องจากเขตการปกครองในปัจจุบันและภาษาของประเทศนั้นๆ เอง ชาวมองโกเลียในเองก็ใช้ภาษาจีนกลางสื่อสารและในชีวิตประจำวันได้ สาธารณูปโภคต่างๆก็มีเหมือนที่ชาวจีนจะพึงมีเช่นเดียวกัน

1.ก่อนจะกลายเป็นวิชาประวัติศาสต์ มาดูอาหารจานแรกกันเลยดีกว่า
จริงๆก็ไม่เชิงหรอกนะ เรียกว่า ออเดริฟละกันค่ะ

อันนี้คือ ชานม --จริงๆก็น่าจะเหมือนชานมธรรมดาใช่มะ

แต่ถ้าดูดีๆจะเห็นว่ามีมันๆ เพราะว่านมของเค้าบีบสดๆจากเต้า มาต้มเลยค่ะ
เลยไม่เหมือนนมทั่วไปที่เราเห็นตามห้าง ทั้งหน้าตาและรสชาติ
เวลากิน ต้องใส่เกลือ หรือน้ำตาลนะคะ
ไม่งั้นรสชาติจะจืดๆมันๆ

2.จานต่อมา ก็ถือเป็นอาหารประเภทนมอีกแล้ว

เริ่มจากทางด้านซ้ายนะคะ

โยเกิร์ต --ทางด้านซ้ายนะคะ เพื่อนเค้าบอกว่า นมที่บีบมาจากเต้าแม่วัว จะเก็บได้แค่ 2 วัน เพราะว่ามันไม่ได่ผ่านกระบวนการใดๆ เพื่อยืดอายุ ดังนั้น พอกินไม่หมด และเก็บไว้สักประมาณ เกือบสิบวัน นมนั้นก็จะแปลงเป็นโยเกิร์ตค่ะ

อุรึโมค์(ออกเสียงตามเค้าค่ะ )-- อันทางด้านขวานะคะ ชาวมองโกล ถือว่าเป็นอาหารที่ดีทีสุด เพราะวาเกิดจาก การเก็บโยเกิร์ตไว้ต่อไปอีกค่ะ จุลินทรีย์คงทำงานไปเต็มที่เลย
เราชิมดู รสชาติของเจ้านี่จะข้นๆกว่าโยเกิร์ตค่ะ

อันนี้คือ ข้าวฟ่าง โยเกิร์ตและนม ที่ผสมแล้วค่ะ

3. เอาประเภทนมให้หมดเลยก็แล้วกันนะคะ

--ข้าวฟ่างอบ--- คืออันด้านซ้าย เม็ดๆ ที่อยู่ในรูปข้างบน

---ตรงกลางคนจีนเค้าเรียกว่า "หน่ายผี" หรือว่า"หนังหน้านม"นะคะ เหมือนกันกับเวลาเราไปกินร้านนมสดแล้วจะมีหน้านม
เพื่อนบอกว่า พอตักออกมาได้ก็จะเอาไปตากแดด หรือผ่านกระบวนการของเค้าอะค่ะ จำไม่ได้เหมือนกัน ออกมาก็จะหน้าตาแบบนี้ มือจับแล้วมันจะแห้งๆน่ะค่ะ

--ส่วนด้านล่างสุด คือ ชีส หรือชาวจีนเรียก เต้าหู้นม(หน่าย โต้วฝู่) คือพิมพ์จีนชื่อเมืองเมื่อกี้แล้วมันไม่ขึ้น เลยขอพิมพ์เป็นตัวไทยเลยนะคะ

ชีสที่ว่า เพื่อนบอกว่า เป็นเนื้อ นมจริงๆ ที่เอาส่วนที่เป็นของเหลวออกให้หมด เป็นวิธีถนอมอาหารของเค้าแหละค่ะ

4.มาต่อกันดีกว่านะคะ
จานเนื้อขนาดเรากับเพื่อนบอกว่านับถือเจ้าแม่กวนอิม ไม่กินเนื้อ ยังโดนหลอกจนได้ค่ะ
--อันนี้คือ--เนื้อแดดเดียวค่ะ หน้าตาคล้ายๆบ้านเรา แต่รสชาติ เหนียวๆ เค็มๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ รู้สึกเอะใจคั้งแต่ตอนกินแล้ว แต่เค้าบอกว่าให้กินก่อนแล้วจะเฉลย (เพราะเค้าบอกว่าอาจจะเป็นเนื้อแพะค่ะ--แบบว่า ไม่เคยกินเนื้อแพะ เลยไม่รู้ค่ะว่าหน้าตาเป็นยังไง เลยกินไปสองสามอันเลยค่ะ)

5. คนเรานี่ก็ช่างสรรหาของกินจริงๆเลยค่ะ
เราบอกเพื่อนว่าที่เมืองไทยมีกินแมลงทอดด้วย เค้าก็ทำหน้า หยึยๆ

คงเหมือนเราเห็นอาหารจานข้างล่างเนี่ยค่ะ

ไส้กรอกเลือดแพะ-- เฮ้อ กว่าจะแปลรู้เรื่องว่ามันคืออะไร เห็นหน้าก็ไม่ค่อยอยากทานแล้วค่ะ ไม่น่าไปถามเค้าเลย เค้าเลยจัดการให้เราชิมเลยค่ะ

กัดไปได้คำเดียว ไม่ไหวค่ะ ไม่ได้คาวมากนะคะ แต่ว่ามันเหมือนกินเลือดอะไรสักอย่างที่เราไม่คุ้นเคยน่ะค่ะ

6.เพราะว่าเราบอกเค้าว่าไม่กินเนื้อกับเนื้อแพะ ซึ่งสองอันนี้เป็นอาหารหลักของเค้าน่ะค่ะ

เค้าเลยสั่งอย่างอื่นมาให้
อันนี้เป็น--ซุปปลาต้มกับอะไรสักอย่าง ---ที่เราก็จำชื่อไม่ได้
ไม่กล้าบอกค่ะ เดี๋ยวผิด เสียเครดิตเพื่อนแย่
แต่รสชาติจะมันๆ

ดูรูปไปเลยก็แล้วกันค่ะ

7.มะเขือยาวทอดราดพริกค่ะ แปลก(สำหรับเรา)แต่มีจริงๆค่ะ
ซอสมันก็จะหวานๆ เราว่าอันนี้น่าจะเป็นอาหารจีนนะ ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ แต่กินที่ร้านอาหารมองโกลเลียก็สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นอาหารมองโกลค่ะ

8.จานสุดท้ายสีสันน่ากินมากใช่มั้ยค่ะ
มันคือ...เบคอนพันกุ้งค่ะ แต่ขากุ้งมันฟีบยังไงก็ไม่รู่นะคะ

คือเอมไม่ได้กินอะค่ะ เพราะว่าแพ้อาหารทะเล แต่แอบเล็มๆเบคอน มันออกเค็มๆน่ะค่ะ

ลืมบอกว่าอาหารจีนทางตอนบนจะออกเค็มๆนะคะ
อาหารจีนทางตอนใต้จะออกหวานๆค่ะ

9.อีกอันเอามาฝากเป็นขากลับค่ะ
ไปกินเนื้อห่านตุ๋นหม้อไป ตอนแรก เพื่อนคนไทยไม่อยากไปเพราะว่ามันแปลก แต่เราบอกเค้าว่าอุตส่าห์มาถึงที่แล้ว เลยได้มาลองกันค่ะ

เพื่อนมองโกลบอกว่า คนที่นี่ชอบกินเนื้อห่านด้วยเพราะว่าไขมันน้อยกว่าไก่และเป็ดและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงค่ะ--เค้าบอกมานะ

ใจเรารู้จักแต่ขาห่านท่าดินแดง แต่ว่าอันนี้เป็นเนื้อห่านตุ๋นค่ะ
ถ่ายรูปมาให้ดู คือเค้าตู๋นใส่หม้อมาให้เราเลยค่ะ อันนี้ตอนเดือดค่ะ ตรงกลางเป็นซุปเห็ดค่ะ ก็รสชาติเหมือนยาจีน
ส่วนไอ้ด้านนอก พอเดือดแล้วก็ใส่ผักใส่เต้าหู้ ใส่ไข่ ตามใจชอบค่ะ เหมือนกินสุกี้ค่ะ

ส่วนเนื้อห่าน เท่าที่กินดู รสชาติเหมือนเนื้อไก่ค่ะ ไม่แปลกมาก

แต่มื้อนั้น อิ่มแน่น จนท้องเสียเลยค่ะ

จบแล้วค่ะ อาหารมองโกล ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

Create Date : 18 ตุลาคม 2551

Last Update : 1 มกราคม 2554 23:23:53 น.

8 comments

Counter : 3170 Pageviews.

สุดยอดเลย

โดย: นายแมมมอส

วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:23:32:08 น.

หน้าตาแปลกดีนะคะ

เนื้อห่านน่ากินจังเลยค่ะ

โดย: Batgirl 2001

วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:23:44:31 น.

บางอย่างดูแล้วไม่กล้าทานจริงๆค่ะ

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ

วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:23:59:15 น.

อืมมมมมมมมมม

ก้อ อยาก ชิม ก้าบ

แต่ แอบ กัว

โดย: dogamania

วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:2:30:03 น.

กินได้หมด อยากลองกินบ้างจังของแปลกอย่างนี้เนี่ย อิอิอิ

โดย: บ้านหวานเย็น

วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:9:11:05 น.

สวัสดีค่าทุกคน
เหอๆ มันแปลกมากเลยนะคะ
แปลก..จนเกินไป อิอิ

อาจทำให้ทานท้องเสียได้ค่ะ

โดย: ชะเอมหวาน

วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:16:12:42 น.

หน้าตาแปลกจัง

อยากลองชิม อิอิ

โดย: โกโก้คุง**

วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:10:34:55 น.

เจ้าของบล็อคคะ
ขอนำข้อมูลส่วนนึงในนี้ไปเป็นข้อมูลดิบ
(รวบรวมจากหลายแหล่งข้อมุลน่ะค่ะ)
เพื่อนำไปทำนิทรรศการนะคะ
หากต้องการให้ลงที่มาของข้อมูล
(มาเก็บเรื่องอาหารแท้ ๆ เลยค่ะ แอบมาดูร้านน่ากินในกทม.ด้วย อิๆ)
ขอให้ติดต่อที่ pokeastwest@yahoo.com ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

โดย: biozaaa (Biozaaa

) วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:14:33:42 น.