รู้จักกันก่อนและสมุดเยี่ยม Guestbook เฟซบุ๊ค ชะเอมหวาน รวมเวปหาทุนและแหล่งทุน Scholarship เรียนโทสองประเทศในปีเดียว
หาตัวเองให้เจอ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
ความลับเหนือโลก ในมุม ' ดร.เมล กิลล์ '



เรื่องโดย : เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ



เขาเป็นนักพูดสร้างแรงจูงใจ นักจิตบำบัด และนักเขียน มีคนบอกว่าเขารู้ความลับเหนือโลกในช่วงเวลาหลังความตาย 19 นาที อะไรคือความลับที่เขาล่วงรู้..

“ สิ่งที่ผมค้นพบ ก็คือ ความจริงที่มีอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า พระองค์ได้ค้นพบความจริง และกฎ 7 ข้อที่ผมค้นพบ ถ้านำมาใช้กับชีวิต จะทำให้เรามีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ก็ต้องระวัง ” ดร.เมล กิลล์ เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี

หลายคนคงได้ยินข่าวคราวและชื่อเสียงของเขาอยู่บ้าง เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีได้เปิดตัวหนังสือ สุดยอดเดอะซีเคร็ต เขียนโดย ดร.เมล กิลล์ นักจิตบำบัดและนักพัฒนามนุษย์ ที่ได้รับเชิญไปบรรยายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันเขาเป็นที่ปรึกษาของซีอีโอกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง นอกจากเดินทางมาเปิดตัวหนังสือ ยังมี "ดินเนอร์ทอล์ค" ที่นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยให้ความสนใจ ใน "ความลับ" ที่เขาเอามาแบ่งปัน

1. หากตั้งคำถามว่า ทำไมมนุษย์พยายามค้นหาความลับของจักรวาล ในความคิดเห็นของ ดร.เมล กิลล์ มองว่า สิ่งที่เขาค้นพบเป็นเรื่องธรรมดาๆ ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ คุณมีสิทธิที่จะมีความสุข ทั้งหมดอยู่ที่ความคิดและความเชื่อ

สิ่งที่เปลี่ยนวิธีคิดของเขาทั้งชีวิต คือ ความตายในช่วงเวลา 19 นาที เขาโดนตัดแขนซ้าย เนื่องจากตอนอายุ 19 ปีเขาเดินทางไปปีนเขาที่มาเลเซียและประสบอุบัติเหตุตกเขา แขนหัก บอบช้ำมาก ได้เพื่อนๆ ช่วยกันแบกออกมาจากป่า แล้วเดินทางมารักษาตัวที่สิงคโปร์

" ตอนนั้นหัวหมุนไปหมด เจ็บปวดมาก จนไม่รู้จะบอกยังไง ตอนผ่าตัดผมเห็นทุกอย่าง เห็นหมอและพ่อแม่กำลังร้องไห้ พวกเขาตัดแขนซ้ายผมบริเวณเหนือข้อศอก เพื่อสกัดเนื้อตายเน่าที่ลุกลาม ผมตายแล้ว ตับไตไม่ทำงาน รู้สึกเหมือนตัวเองลอยขึ้นไปสู่เพดาน เห็นเหมือนอุโมงค์แสงสว่าง และเห็นคนๆ หนึ่งบอกผมว่า คุณต้องกลับไปนะ ”

19 นาทีที่ตายไปแล้ว และฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ดร.เมลเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิต เพราะได้เรียนรู้บางอย่าง

" มิติหลังความตายในช่วง 19 นาที ทำให้ผมเปลี่ยนไป ผมยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง ตอนผมอายุเจ็ดขวบ มีเพื่อนอายุ 9 ปีเกเรมาก ผมก็เลยผลักเพื่อนคนนั้นตกบันไดเลือดไหล ความทรงจำอีกด้านหนึ่งของผมบอกว่า เลือดของเพื่อนคนนั้นอยู่ในตัวผมด้วย เหมือนผมเป็นคนที่เจ็บปวด สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ การกระทำของเราแม้จะเล็กน้อย แต่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตคนอื่นได้ แทนที่เด็กคนนั้นจะเติบโตเป็นหมอ ปรากฎว่าเปลี่ยนมาเป็นพระ ”

เรื่องที่ดร.เมล เล่าให้ฟัง คงต้องมองในเชิงนามธรรม เพราะเสี้ยววินาทีแห่งความตายในวัยหนุ่ม ทำให้เขาได้ค้นหาความหมายของชีวิตเป็นเวลา 40 ปี เขาเรียนจบปริญญาเอกด้านจิตบำบัด ทำงานให้คำปรึกษาบุคคล และเป็นที่ปรึกษาผู้บริหารระดับสูง รวมถึงจัดรายการวิทยุ เขียนหนังสือด้านจิตวิทยากว่า 60 เล่ม กำกับและสร้างภาพยนตร์ " สุดยอดเดอะซีเคร็ต"

2. ความจริงที่ศาสดาหลายศาสนาค้นพบบนโลกใบนี้ ใช่ว่า...ทุกคนจะเข้าถึงได้ง่ายๆ จึงมีคนพยายามไขความลับของจักรวาล เรื่องนี้ ดร.เมล กิลล์ มองว่า ความจริงเหล่านี้มีอยู่บนโลก แต่คนเข้าไม่ถึงเท่านั้นเอง

“ คนที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย ไม่ใช่ผมคนเดียว ยังมีผู้ป่วยที่ใกล้ตายจำนวนมาก เหมือนเสียชีวิตไปแล้ว แต่แพทย์ดึงกลับมาได้ ผมไม่อาจบอกได้ว่า สิ่งที่ผมค้นพบเป็นแนวคิดพุทธ คริสต์หรือฮินดู แต่เป็นประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น ทำให้ผมได้เรียนรู้ธรรมชาติทั้งคน ต้นไม้ ดอกไม้ ”

ใช่ว่า...ชีวิตหลังความตายไม่กี่นาทีจะเปลี่ยนเขาในทันที เขาต้องค้นหา จึงเป็นทั้งนักเดินทาง นักอ่านตัวยง อ่านแม้กระทั่งปรัชญาเฮอร์เมติกของชาวอียิปต์โบราณ กฎฟิสิกส์ ธุรกิจ ปรัชญาและจิตวิทยา ฯลฯ และมีบางช่วงเขาก็ไม่ต่างจากคนอื่น ท้อแท้ สิ้นหวัง กลายเป็นคนพิการ สูญเสียครอบครัว เพื่อนและธุรกิจ

“ ผมไม่ได้นับถือศาสนาใด ผมมีความเชื่อว่า เราทุกคนเป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์เดียวกัน ผมมั่นใจว่า พระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่พุทธ พระองค์ไม่ได้ให้ใครมานับถือตัวตน แต่ให้นับถือสิ่งที่ตรัสรู้หรือแนวทางปฎิบัติ พระองค์ไม่ได้สนใจว่าเป็นพุทธหรือไม่ “

กว่า 40 ปีที่ดร.เมล เดินทางไปพบครูบาอาจารย์ทุกศาสนา เพื่อเรียนรู้ชีวิตทั้งฮินดู พุทธ อิสลาม และอ่านหนังสือทุกศาสนา จึงไม่แปลกที่บ้านของเขาที่ชิคาโกและสิงคโปร์มีหนังสือมากมาย

" ผมเชื่องช้าในการเรียนรู้จึงใช้เวลานาน ที่ผ่านมาผมเขียนหนังสือจิตวิทยากว่า 64 เล่ม และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาความทรงจำในช่วง 19 นาทีผมชัดเจนมาก จึงนำมาเขียนหนังสือ หากใครพูดถึงบิดาแห่งจิตวิทยา ผมขอยกย่องพระพุทธเจ้าเป็นอันดับหนึ่งของโลก ”

แม้เขาจะหย่าขาดจากภรรยา และมีลูก 2 คน เขาบอกว่า ไม่ได้คิดว่าชีวิตการแต่งงานล้มเหลว เขากลายเป็นที่ปรึกษาให้ภรรยาและสามีใหม่ของเธอ เพราะมีความเชื่อว่า ถ้าทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ชีวิตลูกๆ ก็จะราบรื่นไปด้วย

" ผมมีหน้าที่ทำให้ทุกคนมีความสุข เมื่อภรรยาไม่มีความสุขที่จะอยู่กับผม อยากกลับไปหาคนรักสมัยมัธยม ผมก็ขับรถพาไป สำหรับผมแล้วความรักที่แท้จริง ต้องไม่ใช่การผูกมัดหรือเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน ชีวิตผมที่ผ่านมาธรรมดามาก มีลูกก็ใช่ว่าเขาจะฟังผม ” ดร.เมล ยิ้มระหว่างตอบคำถาม

3. สิ่งที่ ดร.เมล กิลล์ อยากบอกเล่า เป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่มนุษย์มองข้าม เขายกตัวอย่าง กฎ 7 ประการที่เขาค้นพบ อาทิ กฎมโนนิยม กฎแห่งความสั่นสะเทือน กฎแห่งเพศ กฎแห่งขั้วตรงข้าม ฯลฯ อย่างกฎมโนนิยม เป็นเรื่องใจหรือจิต ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากใจเราทั้งนั้น จึงต้องฝึกจิตใจให้สงบเพื่อรับกับสถานการณ์ " จำได้ว่า เมื่อก่อนผมสวดมนต์ จะอธิษฐานขอนั่นนี่ ตอนนี้ผมไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ”

ทำไมไม่อธิษฐานขอพรเหมือนเดิม เขาเล่าเรื่องสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชให้ฟังว่า พระองค์เสด็จไปที่วัดแห่งหนึ่งที่มีคนสวดมนต์อธิษฐานขอพร ระหว่างนั้นพระสงฆ์ในวัดเดินออกมา เมื่อเห็นพระองค์กลับเดินหนี พระเจ้าอโศกฯ ถามพระสงฆ์ว่า “ ทำไมเดินหนีกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ”

พระสงฆ์ตอบว่า “ มีคนปลุกให้พระลุกจากสมาธิ เพราะมีมหาราชผู้ยิ่งใหญ่เดินทางมา แต่เมื่อเดินออกมา แทนที่จะเห็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ กลับเห็นขอทานนั่งขอนั่นขอนี่ ”

เขายกตัวอย่างกฎอีกข้อคือ กฎแห่งการดึงดูด ถ้าเราดึงสิ่งใดเข้ามาสู่ตัวเรา แม้จะง่ายที่ใครสักคนมารักเราหรือแต่งงานด้วย แต่สิ่งยากที่สุดคือ การกำจัดบางอย่างออกไปจากชีวิต ต้องระวังให้ชีวิตเกิดความสมดุล หรือกฎแห่งการสั่นสะเทือน ถ้าเราอยู่ใกล้ใคร เราก็จะเป็นอย่างนั้น

" ถ้าคุณนำผ้าเช็ดหน้าไปวางไว้บนดอกกุหลาบ ก็จะมีกลิ่นดอกกุหลาบ ถ้าวางในกองมูลวัว ก็จะมีกลิ่นอย่างนั้น ถ้าเราเอาความคิดและจิตใจไปไว้ตรงไหน ก็จะกลายสภาพเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่ผมพยายามทำคือ รักษาความสงบของจิตใจ เพราะใจของเราจะส่งพลังงานออกไปข้างนอก ไม่ว่าผมจะอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายขนาดไหน ผมก็สามารถอยู่ตรงนั้นได้อย่างมีความสุข ”

ว่าไปแล้ว ชีวิตของเขาไม่ได้เริมจากการเป็นนักพูดที่มีคนฟังมากมาย แต่เริ่มจากการให้คำปรึกษาคนในครอบครัว เพื่อนและขยายวงไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเขาเป็นนักพูดที่สร้างแรงจูงใจในหลายประเทศ ทั้งอเมริกา สิงคโปร์และญี่ปุ่น ฯลฯ

“ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครูของผม ผมนั่งอยู่ในห้องนี้ เห็นต้นไม้ก็เห็นฤดูของชีวิต เพราะเราเรียนรู้ตลอดเวลา ”

4. ดร.เมล สอนผู้คนในหลายประเทศกว่า 34 ปี กฎของจักรวาลอีกข้อที่เขาได้เรียนรู้ก็คือ “ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นเช่นนั้นเอง ”
" ผมไม่ได้มาสอนอะไร แค่มาเตือนหรือตอกย้ำความจริง เรารู้อยู่แล้ว แต่เราลืมสิ่งที่เป็นความจริง ผมขออ้างคำสอนว่า พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะไม่ได้นำธรรมะที่เป็นคำพูดมาเผยแพร่ แต่จะสอนโดยไม่ใช้คำพูด ปฏิบัติเป็นตัวอย่างให้เห็น เวลาผมไปพูดในประเทศต่างๆ ผมพยายามอิงกับศาสนาประเทศนั้น เพื่อให้คนเข้าใจได้ง่าย อย่างในประเทศบัลแกเรีย คนส่วนใหญ่ไม่นับถือศาสนา แต่ใช้สามัญสำนึก ผมก็ใช้กฎขั้วตรงข้าม แทนที่จะเปรียบเทียบกับคนที่รวยกว่า ก็เปรียบเทียบกับคนที่จนกว่า ”

เขาย้ำอีกว่า ความจริงที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว อยู่ในจิตใต้สำนึก ชีวิตคนเราสั้นมาก เราควรสนุกกับชีวิตในทุกขั้นตอน

“ ผมคิดตลอดเวลาว่า พรุ่งนี้ผมจะตายแล้ว อะไรที่ยังไม่ได้ทำผมพยายามทำในปีนี้ ผมวางแผนว่า จะเขียนหนังสือหรือทำไฟล์เสียง 250 เรื่อง ผมกำลังจะสร้างหนังเรื่องใหม่ ในออฟฟิศผมจะเขียนไว้ว่า “we are one”( เราเป็นหนึ่งเดียวกัน) ถ้าเราสามารถอ่านความคิดหรือเข้าใจคนอื่นได้ ก็จะรู้ว่า เราต่างมีความทุกข์และความเครียดเหมือนกัน ถ้าเราเข้าใจก็จะให้อภัยคนอื่นได้ ”

เรื่องนี้มีคำอธิบายต่อว่า มนุษย์เรามีความต้องการที่อันตราย 7 ข้อ ข้อหนึ่ง คือ ความต้องการเอาคืน ถ้าใครทำให้เราเจ็บใจหรือเสียใจ เรามักจะเอาคืน ยกตัวอย่างเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีคนมาด่าว่าเรา เราฝังใจ คิดอยู่เสมอว่าถ้ามีโอกาสจะเอาคืน

" นั่น...ทำให้เราไม่มีความสุข แต่ถ้าเราเข้าใจว่า เราต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน ในเรามีเขา ในเขามีเรา ก็จะเข้าใจความทุกข์ของคนอื่น"

5. คงไม่บ่อยนักที่จะมีดินเนอร์ทอล์คเพื่อไขปริศนาชีวิต เรื่องที่เขาเล่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ทำไมคนอยากรู้

ดร.เมล เล่าว่า นักจิตบำบัดและนักจิตเวชกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ มีความเชื่อว่า ประชากรในโลกนี้มีความเจ็บปวดด้วยโรคจิตอย่างหนึ่ง บางคนไม่อาจจำแนกได้ว่า อะไรคือจินตนาการ อะไรคือเรื่องจริง

“ คุณเคยพูดกับตัวเองไหม อย่างน้อย 50,000 ประโยคในแต่ละวันที่เราพูดกับตัวเอง 80 เปอร์เซ็นต์ของการพูดกับตัวเองเป็นเรื่องแง่ลบ ถ้าคุณไม่ชอบในสิ่งที่คุณเป็น คุณเปลี่ยนแปลงได้ คุณต้องหัดชมคนอื่น ถ้าวันไหนไม่ได้รับคำชม คุณควรให้คำชมเชยคนอื่น เพราะการชมคนอื่นง่ายกว่าการชมตัวเอง ทำไมคนอเมริกันมาแย่งงานคนเอเชียทำ เวลามีคนถามคนอเมริกันว่า คุณเก่งในงานที่ทำหรือไม่ พวกเขาบอกว่า เยี่ยม เพราะเขาไม่มีปัญหาเรื่องการนับถือตัวเอง " ระหว่างการพูดบนเวที บางครั้งเขาเปิดโอกาสให้คนฟังยกมือแสดงความเห็น และให้ชื่นชมซึ่งกันและกันในโต๊ะดินเนอร์ เขาย้ำกฎบางข้ออีกว่า ความสำเร็จ มาจากความคิด และต้องมีความเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย

ดร.เมล พยายามย้ำเตือนเพื่อให้คนฟังเปลี่ยนแปลงความคิดด้านลบออกจากหัว เพื่อให้มีความรักในชีวิตและร่างกายตัวเองมากขึ้น

“ คนส่วนใหญ่ไม่ชอบร่างกายตัวเอง ชอบให้รูปร่างหน้าตาเหมือนคนอื่น ผู้หญิงพยายามจะดูเหมือนนางแบบ จริงๆ แล้วมีสุดยอดนางแบบ 300 คนทั่วโลก แต่ผู้หญิง 3,000 ล้านคนพยายามจะเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่สุดยอดนางแบบไม่ใช่สิ่งปกติ คุณปกติอยู่แล้ว ”

เหมือนเช่นที่กล่าว สิ่งที่เขาพูดก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่มนุษย์สามารถทำได้ แต่มนุษย์หลงลืมอะไรบางอย่าง ดร.เมล บอกว่า เขาพยายามบอกตัวเองว่า พรุ่งนี้เขาอาจไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว

" ผมขอบคุณจักรวาลที่ผมยังมีชีวิตอยู่ เพื่อมีโอกาสแก้ปัญหาให้คนอื่น คุณรู้ไหม จิตใต้สำนึกไม่เคยหลับ ถ้าคุณมีโอกาสจูบลูกก่อนนอน หัวใจของเขาจะพองโต เพราะใจได้สัมผัสใจ ”

บางทีความลับของจักรวาลที่เขาค้นพบ ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม , ในตัวของเรานั่นเอง


ที่มา

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์




Create Date : 03 พฤษภาคม 2554
Last Update : 3 พฤษภาคม 2554 9:47:56 น. 18 comments
Counter : 1134 Pageviews.

 
เอาไว้อ่านเล่นๆ รอจขบ.กลับมานะคะ


โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:50:29 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเช้าวันอังคาร อ่างทองร้อนมากมาย อากาศร้อนแต่ใจอย่าร้อนนะคะน้องเอม


โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:30:59 น.  

 
" ผมขอบคุณจักรวาลที่ผมยังมีชีวิตอยู่ เพื่อมีโอกาสแก้ปัญหาให้คนอื่น คุณรู้ไหม จิตใต้สำนึกไม่เคยหลับ ถ้าคุณมีโอกาสจูบลูกก่อนนอน หัวใจของเขาจะพองโต เพราะใจได้สัมผัสใจ ” ^ ^



โดย: Nissan_n วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:33:39 น.  

 
ทักทายยามเที่ยงจะน่ะ หาอะไรหม่ำๆๆกัน อิอิ หรือจะมากินกับเราก็ได้ เอิ๊กๆๆ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:08:59 น.  

 
เคยดูสืบพันเรื่อง เขาเอ่ยถึงดร.ท่านนี้เช่นกัน
ชีวิตหลังความตาย น่าสนใจจริงๆนะคะ


โดย: Love At First Click วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:54:46 น.  

 
พี่ได้หนังสือมา(พร้อมลายเซ็นด้วยค่ะ) มีคนให้มาน่ะค่ะ


โดย: ดวงลดา วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:31:32 น.  

 
กำลังอ่านอย่างใจจดใจจ่อ .. แต่ตอนนี้หิวแล้วค่ะ ขอวิ่งไปชงกาแฟกลับมาแกล้มเอนทรีนี้ก่อนนะคะ


โดย: เจเจ (See You Then ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:47:39 น.  

 
^__________________^


โดย: ค๊อปเตอร์ใบไม้ (arlendil ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:40:24 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้กันและกันนะครับ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:48:13 น.  

 
โอ๊ะ น่าสนใจอ่ะพี่เอม มายด์ชอบเรื่องพวกนี้


โดย: windsylph วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:30:52 น.  

 
แวะมาทักทาย..จร้า.. ^O^

ชอบเรื่องแบบนี้จัง พี่ชะเอม


โดย: Ivoryrose IP: 49.49.125.194 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:34:16 น.  

 


จ๊ะเอ๋ อาจารย์เอมขา





ภาพ : พวงทองเถา
โดย : tiensongsang


ดอกเหลืองอร่ามแท้...................ลำเพา
เช่นดั่งพวงทองเถา....................ช่อนี้
งามประดุจนงเยาว์.....................ผิวผ่อง
เกินกว่าใครจักลี้.......................ห่างได้ไฉนฤา




โดย: พธู วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:59:19 น.  

 
คุณเอม ยาวมากเรยแต่เป็นบทความที่ดีจิงๆคะ ขอบคุณที่แบ่งปันกันนะคะ


โดย: แม่ปลวก (ฉันคือฉัน ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:06:34 น.  

 
เอมหวานจ๋าาาาา

นอกจากขยันหาเรื่องดีๆ มาให้อ่าน
พี่ยังแอบชอบเพลงเพราะๆ ที่บล็อกนี้ด้วยน้า
ถึงจะแอบง่วงบางครั้งที่แว่บมาตอนบ่ายๆ
(พี่ถึงต้องฟังเพลงสกาโวยวายๆ ไง 55)



โดย: lazymetal วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:3:53:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องเอม

หลักคำสอนของเขา
มีหลายประโยคที่เป็นธรรมะที่เราก็รู้
แต่ไม่ค่อยถ่องแท้กับสิ่งที่เรารู้

อย่างคำพูดประมาณ

"ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปของมันเช่นนั้นเอง"








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:14:26 น.  

 


'จารย์เอม อิอิ
ม่ายเอาจาน เอาชามได้ป่ะ อิอิ






ภาพ : หวายตะมอย
โดย : tiensongsang


หวายตะมอยช่อช้อย..................ให้ชม
ยลกลีบน่าภิรมย์........................ชื่นเคล้า
เนื้อละเอียดเทียบสม..................กำมะหยี่
ประดุจเนียนเนื้อเจ้า....................นิ่มน้องนงคราญ



โดย: พธู วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:11:47 น.  

 
สวัสดียามดึกจ้าคุณเอม


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:36:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์จ้า







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:11:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชะเอมหวาน
Location :
Dalian(China),Guildford(UK),กทม.,สกลนคร United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Edutainment
International Business
Bossa Nova& Easy Listening

ถ้าถามอะไรในนี้ไม่ได้ตอบ
กรุณาส่งไปทางเฟซบุ๊คเลยนะคะ
ไม่ค่อยได้เช็คบล็อกค่ะ
ขอบคุณค่ะ


 ยินดีต้อนรับ
ณ บ้านชะเอมหวานค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนกันเสมอนะคะ
จขบ.เป็นอาจารย์เล็กๆค่ะ
ฟรีแลนซ์ พิธีกรงานแต่งงาน
สะสมโปสการ์ดค่ะ
ฟังเพลงสบายๆ
ชอบแต่งหน้าแต่งตัว
แต่งกลอน ขีดๆเขียนๆ
ท่องเที่ยว
ก็เป็นกำลังใจให้กันด้วยค่ะ จุ๊บๆ 





บ้านนี้จขบ.ต้องการสร้างสรรค์ให้เบา สบายๆค่ะ
เอนทรี่เก่าๆเกี่ยวกับอาหารและการท่องเที่ยวจะย้ายบ้านไปที่

Amiley lala(ท่องเที่ยวและอาหาร)



POSTCARD & International Business


ถ้าจะโหวตขอหมวดการศึกษา

และหมวดดนตรีค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
credit::::
photo by พี่เป็ดสวรรค์)
Head blog กับของตกแต่งจาก

pk12th
และ

คุณกุ้ง Kungguenter


Follow amiley on Twitter



New Comments
Friends' blogs
[Add ชะเอมหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.