รู้จักกันก่อนและสมุดเยี่ยม Guestbook เฟซบุ๊ค ชะเอมหวาน รวมเวปหาทุนและแหล่งทุน Scholarship เรียนโทสองประเทศในปีเดียว
หาตัวเองให้เจอ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
6 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
จะเห็นช้างตัวเท่ามดให้ได้...ข้อคิดดีๆเมื่อเจอปัญหานะ

เป็นบทความของคุณ วินทร์ เลียววาริณนะคะ เราเอามาจากฟอร์เวิดเมลล์

"นิตยสารการ์ตูน MAD ของอเมริกาถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ไม่ใช่การ์ตูนประเภทอ่านเอาขำแล้วจบแค่นั้น หลายเรื่องขำลึกและต้องนำไปคิดต่ออีกหลายวัน เสียดสีสังคมแสบๆ คันๆ ด้วยการ์ตูนแนวล้อเลียน เสียดสีแบบขันขื่น

การ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ผมอ่านนานปีมาแล้วเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่เดินไป ตามทางเท้าริมอพาร์ตเมนท์หลังหนึ่ง ยามหัวค่ำ แสงสว่างจากภายในห้องพักห้องหนึ่งส่องให้เห็นเงาร่างของชายในห้อง มือหนึ่งถือปืนจ่อหัวตัวเอง อีกมือหนึ่งถือซองจดหมายลาตาย

ด้วยความตกใจเขารีบตามตำรวจมาทันที ตำรวจมาถึงก็รีบพังประตูเข้าไปเพื่อห้ามชายคนนั้นฆ่าตัวตาย ปรากฏว่าเบื้องหน้าเป็นภาพชายเจ้าของห้องกำลังถือไดร์เป่าผม อีกมือหนึ่งถือแผ่นกระจกสี่เหลี่ยม!

หากเรื่องนี้เป็นเพียงขำขันก็คงไม่เป็นไร แต่ทว่าในชีวิตจริงมนุษย์จำนวนมากชอบมองอะไรเป็นเรื่องร้ายไว้ก่อนอย่างนี้เสมอ

เห็นกิ่งไม้เป็นงูเขียว เห็นงูเขียวเป็นงูเหลือม
เวลาปวดท้อง ก็คิดว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
ปวดหัวก็สงสัยว่าตัวเองอาจเป็นมะเร็งสมองขั้นสุดท้าย
เห็นฟ้าแลบก็กลัวว่าจะถูกฟ้าผ่าตาย
ทำข้อสอบเสร็จ ก็บอกว่าตัวเองต้องสอบตกแน่ๆ
ฯลฯ



อันที่จริงการมองโลกในด้านร้ายไว้บ้างทำให้ระมัดระวังตัว เช่นเดินในที่เปลี่ยว ก็ระวังคนร้าย หรือเดินที่พงรกก็ระวังงูกัด เป็นสัญชาตญาณการรักษาชีวิตของตน

ทำแต่พอดีก็ไม่เป็นไร แต่หากใช้ชีวิตแบบ 'เห็นมดเท่าช้าง' ตลอดเวลา ย่อมทำให้ไม่มีความสุข หากเป็นการทำธุรกิจก็อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด

การเห็นปัญหาใหญ่เกินจริง หรืออาการ 'เห็นมดเท่าช้าง' เกิดขึ้นบ่อยๆ และทำให้แก้ปัญหาผิดทาง

ในตำนานเรื่อง สามก๊ก มักมีฉากการรบที่กองทัพฝ่ายหนึ่งส่งเสียงโห่ลั่นสนั่นทุ่งเพื่อลวงให้ฝ่าย ศัตรูตกใจ และหลงเชื่อว่าฝ่ายตนมีกำลังมากกว่าหลายเท่า เมื่อตกใจก็มักสูญเสียความฮึกเหิมในการรบ อาจตามมาด้วยความปราชัย

ทั้งนี้เพราะมนุษย์มักมีนิสัยแย่อย่างหนึ่งที่ชอบมองเรื่องเล็กให้เป็น เรื่องใหญ่ การบอกต่อข่าวสารใดๆ จึงมักเป็นการขยายเรื่องเกินจริง



พุทธปรัชญาสอนให้มองทุกข์ที่ต้นเหตุ มองทุกอย่างที่ความเป็นจริง มองด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง เมื่อมีข้อมูลที่ถูกต้อง ก็สามารถตัดสินแก้ปัญหาได้ตรงจุด

หากยืมหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค) มาประยุกต์ใช้ เราก็สามารถถอดชิ้นส่วนของปัญหาออกเป็นสี่ขั้น คือ ปัญหา ต้นเหตุของปัญหา การสิ้นสุดของปัญหา และทางไปสู่การสิ้นสุดของปัญหา

หลักการแก้ปัญหานี้ง่ายนิดเดียว : มองปัญหาที่สาเหตุ มองสาเหตุให้ชัดเจน แล้วแก้ตรงจุดนั้น

แต่การตามล้างตามเช็ดปัญหามิสู้การป้องกันไว้ก่อน นั่นคือ มองว่าปัญหาอาจไม่ใช่ปัญหา เพราะชีวิตของคนเรานั้นอาจหนีไม่พ้นปัญหาก็จริง แต่ปัญหาที่แย่ที่สุด คือ ปัญหาที่เราคิดว่ามันเป็นปัญหา เป็น ‘สัตว์ร้าย’ ที่เราสร้างขึ้นมาเอง มันทำให้เราเสียเวลา พลังงาน และทรัพยากรโดยไม่จำเป็นเพื่อจะจัดการมัน

เงาในน้ำมักมีขนาดใหญ่กว่าของจริงเสมอ


(พิมพ์ครั้งแรก : เปรียว 2551)

วินทร์ เลียววาริณ "

เป็นข้อคิดที่ดีสำหรับชีวิตเลย..ตอนนี้เราสอบตกไปตัวนึง เครียดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ(กินได้นะ แต่นอนไม่ค่อยหลับ).กังวลว่าจะไม่จบ เรียนเปลืองเงินพ่อแม่ไปเปล่าๆ

แต่พอเรามองแบบเค้า..ตอนนี้ก็ยังไม่สบายใจขึ้นเท่าไหร่หรอกนะ แต่ว่าคิดว่ามันก็ทำให้เรามองอะไรอย่าง..อนิจจัง..มากขึ้นแหละ..

เพราะว่าที่สุดแล้ว..เราก็ไม่ได้ดีใจทุกวัน หรือเสียใจทุกวันที่ไหน..

มีคนเคยพูดว่า" ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว..ย่อมดีเสมอ.."จริงมะ

มองอีกแง่นึง การที่เราสอบตก ได้ทำรายงานใหม่..เราก็ได้เตรียมตัวสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ เทอมสุดท้ายซึ่งมีเปอร์เซนต์มากกว่าสอบทั้งสองเทอม
รวมกันเสียอีก.คิดซะว่า ไปซ้อมๆก่อนก็ดีเหมือนกัน

ถ้าเรามองวิกฤตินี้เป็นโอกาส..
สอบใหม่
เราอาจจะได้คะแนนมากขึ้นและอาจจะได้เกียรตินิยมเทอมสุดท้ายก็ได้..ใครจะไปรู้..เพราะคะแนนสอบตัวอื่นเราก็ไม่ได้แย่เลย..ดีเสียด้วยซ้ำ

ตอนเราจะมาอังกฤษ มันเป็นการเดินทางระหว่างเทอม เรากังวลก่อนมา กลัวไม่มีเพื่อน กลัวว่าเค้าจะสนิทกันหมดแล้ว..เราจะเหงา เพราะได้ยินคนที่ไปอังกฤษโทรกลับบ้านร้องห่มร้องไห้กันหลายคน..ไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น

แต่พอถึงเวลา..พี่ๆ เพื่อนๆที่นี่น่ารักมากๆ ไม่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น..แต่เราก็ต้องยอมรับว่าคนที่รู้จักกันมานานกว่า ย่อมสนิทกันมากกว่าเป็นธรรมดา..

แต่เราก็ไม่ได้หมดโอกาสที่จะได้สนิทกับใครสักกะหน่อย ดีซะอีก .มีเพื่อนคนจีนที่มาด้วยกัน..ให้ได้ใช้ภาษาอังกฤษกะเหรี่ยงๆของเราคุยกับเค้า ไม่ลืมทิ้งไว้ที่ไหน

อยู่นี่ก็ได้โทรกลับบ้านร้องไห้มาเหมือนกัน..แต่ว่าก็บอกพ่อแม่ว่า..มันเป็นทางที่เราเลือกเอง..เราต้องรับผิดชอบ..และจะผ่านมันไปให้ได้...ไม่ต้องห่วง

เฮ้อ...อากาศที่อังกฤษตอนนี้ยิ่งแปรปรวน เป็นใจกับอารมณ์สีเทาๆจริงๆ..แต่เราจะต้องฝึกมองช้างเป็นมดบ้างแล้วละมั้งเนี่ย




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 12 มีนาคม 2554 23:24:22 น. 3 comments
Counter : 2313 Pageviews.

 
รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: ถั่วงอกน้อยค่ะ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:08:52 น.  

 

สวัสดีคะ แวะมาทักทายวันศุกร์ที่อากาศดีจัง มีความสุขมากๆ นะคะ



โดย: หน่อยอิง วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:37:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ..มาทักทายค่ะ
เห็นด้วยค่ะ..คงไม่มีปัญหาอะไรที่เราแก้ไม่ได้ ถ้าหากเราอยากจะแก้จริงๆ..
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: ข้าวกับดิน วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:33:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชะเอมหวาน
Location :
Dalian(China),Guildford(UK),กทม.,สกลนคร United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Edutainment
International Business
Bossa Nova& Easy Listening

ถ้าถามอะไรในนี้ไม่ได้ตอบ
กรุณาส่งไปทางเฟซบุ๊คเลยนะคะ
ไม่ค่อยได้เช็คบล็อกค่ะ
ขอบคุณค่ะ


 ยินดีต้อนรับ
ณ บ้านชะเอมหวานค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนกันเสมอนะคะ
จขบ.เป็นอาจารย์เล็กๆค่ะ
ฟรีแลนซ์ พิธีกรงานแต่งงาน
สะสมโปสการ์ดค่ะ
ฟังเพลงสบายๆ
ชอบแต่งหน้าแต่งตัว
แต่งกลอน ขีดๆเขียนๆ
ท่องเที่ยว
ก็เป็นกำลังใจให้กันด้วยค่ะ จุ๊บๆ 





บ้านนี้จขบ.ต้องการสร้างสรรค์ให้เบา สบายๆค่ะ
เอนทรี่เก่าๆเกี่ยวกับอาหารและการท่องเที่ยวจะย้ายบ้านไปที่

Amiley lala(ท่องเที่ยวและอาหาร)



POSTCARD & International Business


ถ้าจะโหวตขอหมวดการศึกษา

และหมวดดนตรีค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
credit::::
photo by พี่เป็ดสวรรค์)
Head blog กับของตกแต่งจาก

pk12th
และ

คุณกุ้ง Kungguenter


Follow amiley on Twitter



New Comments
Friends' blogs
[Add ชะเอมหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.