|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ทะเล้ทะเล 2 and ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่คิดจะดำน้ำ
นิทานเรื่องนี้ เอ๊ย ทริปสิมิลันคราวนี้สอนให้รู้ว่า 1.ดำน้ำแต่ละครั้งกรุณาสวมชูชีพด้วย 2.ไปดำน้ำไม่ควรใส่เสื้อสีที่กลืนกับน้ำทะเล เวลาลงน้ำแล้วมันมองหาตัวยาก 3.ก้อนหินกลางทะเลอันตรายสำหรับคนว่ายน้ำทั้งแข็งและไม่แข็ง ถ้าไม่จำเป็นก็อยากไปอยู่ใกล้ๆนะคะ
หลังจากที่เราได้ไปชมความงามของเกาะแปด หัวใจแห่งหมู่เกาะสิมิลันกันแล้วในยามเช้า คณะเดินทางของเราก็ล่องเรือออกมาเพื่อแวะดำน้ำกันต่อ จุดที่เราดำน้ำกันนั้นมีความลึกประมาณ 5-6 เมตร และมีปลาชุมชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็เจอ และที่สำคัญ น้ำทะเลที่นี่ใสมากๆๆเลยค่ะ แค่ลิงจ้อยมองลงไปจากบนเรือก็ยังเห็นพื้นทรายข้างล่างได้เลย
ปลาตัวโตมากๆ
แล้วโดยไม่มีใครคาดคิด ทริปล่องสิมิลันครานี้ก็มีอันเลือดตกยางออกเกิดขึ้นจนได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลิงจ้อยก็อยากจะขอเตือนเพื่อนๆที่คิดจะดำน้ำ Snokeling ชมปะการังทุกคนนะคะ ว่าให้สวมเสื้อชูลีพติดตัวไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องแบบที่ลิงจ้อยและเพื่อนๆเจอมา เรื่องก็มีอยู่ว่าเพื่อนคู่หูลิงจ้อยเกิดบ้าพลังขึ้นมา ก็เลยโดดลงไปดำน้ำกลางทะเลลึกโดยไม่ใส่ชูชีพ หลังจากที่She ดำผุดดำว่ายอย่างเบิกบานสักพัก อาเจ๊แกก็เกิดหมดแรงขึ้นมาดื้อๆ T-T จะว่ายกลับก็ไม่ไหว ถ้าว่ายต่อไปก็กลัวจะไม่รอด เจ้าหล่อนก็เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน (และก็จะเป็นสิ่งที่ลิงจ้อยขอเตือนทุกคนด้วยความหวังดีว่าอย่าคิดลองทำเป็นอันขาดถ้าไม่อยากเลือดตกยางออกเช่นนี้)
ทายดูสิว่าเพื่อนรักลิงจ้อยคิดจะทำอะไร She ปีนค่ะ ปีนขึ้นไปบนก้อนหินทั้งๆที่ยังใส่ตีนกบคาเท้าอยู่เลย ลิงจ้อยอยากจะบอกว่าก้อนหินในทะเลไม่ได้เป็นก้อนเรียบๆแบบหินธรรมดาๆนะคะ มันเป็นหินแบบที่ทั้งสากแล้วก็มีพวกหอยกับเพรียงเกาะเต็มไปหมด แล้วไอ้ตัวพวกนี้เปลือกมันคมมากค่ะ อาเจ๊ของลิงจ้อยไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรแล้ว (เจ็บไม่กลัว กลัวแต่จม) ก็เลยปีนป่ายขึ้นไมยืนโชว์ตัวแล้วโบกไม้โบกมือมาทางเรือ ก่อนที่จะไปนั่งกอดเข่าท่าทางหมดอาลัยบนก้อนหินที่ห่างจากเรือเกือบ 200 เมตร (ไกลมาก) width='450' height='337' border=0> //www.bloggang.com/data/cha-cha-koi/picture/1201775843.gif>
ณ ยามนั้นลิงจ้อยกำลังเพลิดเพลินกับกล้วยและส้มโอที่ทางพี่ไกด์จัดให้จนไม่ทันได้สังเกตุว่าเพื่อนรักโบกมือให้ทำแป๊ะอะไร ลิงจ้อยก็เลยโบกกลับพอเป็นพิธีเนื่องจากคิดว่ามันกำลังทักทาย แล้วก็คิดไปว่าไม่ยักรู้ว่ามีโปรแกรมปีนเกาะกลางน้ำด้วย ก็เลยถ่ายรูปเก็บไว้ซะ ดูไปดูมาสักพัก พี่ไกด์ก็ร้องซะตกใจว่าเพื่อนลิงจ้อยไปทำอะไรบนนั้น แล้วก็รีบจัดส่งทีมช่วยเหลือไปหาอย่างทันท่วงที พี่ตุ๊กพาเพื่อนรักลิงจ้อยกลับมาพร้อมรอยแผลบนฝ่าเท้าทั้งสองข้างอย่างกับโดนมีดกรีด เลือดไหลแหมะๆ (นี่ขนาดโดนบาดมาสักพักแล้ว เลือดยังไหลไม่หยุดเลยนะเนี่ย) กับรอยถลอกปอกเปิดตามเนื้อตัวแบบโทรมสุดๆ แถมอาเจ๊ยังทำตีนกบตกน้ำหายไปอีกข้างหนึ่ง พี่ตุ๊กบ่นว่าไม่มีใครเขาปีนขึ้นไปบนก้อนหินกัน เพราะมันอันตรายกว่าลอยคออยู่ในน้ำเสียอีก (เพราะแรงคลื่นที่ซัดเข้ากระแทกหินบอกกับหอยจำนวนมหาศาลที่เกาะอยู่ด้วย) และยังกำชับไว้ว่าถ้าหมดแรงจริงๆให้ลอยคอไปก่อนไม่ก็ร้องเรียกคนมาช่วย เพื่อนรักลิงจ้อยก็รับคำอ่อยๆแล้วไปนั่งทำแผลอย่างสงบเสงี่ยมบนเรือโดยสวัสดิภาพ เฮ่ออออ ลุ้นจนเหนื่อยเลยค่ะ (ตอนนี้เวลาผ่านมา 1 อาทิตย์แล้วแต่แผลบนเท้าของเพื่อนลิงจ้อยยังไม่หายเลยนะเนี่ย กำ...) Ps. ปุกปุยอย่าโมโหลิงจ้อยนะจ๊ะ ที่ยกเรื่องของปุกปุยมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจ
Create Date : 31 มกราคม 2551 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 12:28:18 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1338 Pageviews. |
|
|
|
โดย: VIVAYOU วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:27:03 น. |
|
|
|
| |
|
|